“ระยอง” จังหวัดนี้ไม่ได้มีดีแค่ทะเลสวย แต่เป็นเมืองที่มีแหล่งท่องเที่ยวหลากหลาย ครั้งนี้จะมาแนะนำอีกหนึ่งท่องเที่ยวที่น่าสนใจ และกำลังเป็นที่นิยมของนักท่องเที่ยว นั่นคือ “สวนพฤกษศาสตร์ระยอง” พื้นที่ชุ่มน้ำขนาดใหญ่ของภาคตะวันออก จ.ระยอง และยังเป็นแหล่งเรียนรู้ด้านพฤกษศาสตร์และท่องเที่ยวธรรมชาติ
“สวนพฤกษศาสตร์ระยอง” ตั้งอยู่ใน อ.แกลง จ.ระยอง จัดตั้งขึ้นเพื่อเป็นศูนย์ศึกษาวิจัย และรวบรวมพรรณไม้ในภาคตะวันออก และเพื่ออนุรักษ์ทรัพยากรพันธุ์พืช โดยเฉพาะสภาพนิเวศวิทยาของพื้นที่ชุ่มน้ำและป่าเสม็ด รวมถึงเพื่อเป็นแหล่งให้ความรู้ของประชาชน แหล่งพักผ่อนหย่อนใจ และเป็นแหล่งท่องเที่ยวเรียนรู้ในเชิงนิเวศแก่ผู้เข้าชม
บริเวณโดยรอบของสวนพฤกษศาสตร์จังหวัดระยองแห่งนี้ มีพื้นที่รวมกว่า 3,800 ไร่ โดยพื้นที่ส่วนใหญ่จะเป็นพื้นที่ชุ่มน้ำ ซึ่งมีคุณประโยชน์หลากหลาย ทั้งลดการพังทลายของชายฝั่ง ช่วยป้องกันน้ำเค็มไม่ให้เข้ามาในแผ่นดินจนเกินไป และเป็นที่อยู่อาศัยของสัตว์และพืชพรรณต่างๆ ซึ่งหลายชนิดเป็นพืชเฉพาะถิ่น พบเจอไม่ได้ง่ายในเมืองไทย
ด้วยความโดดเด่นของพื้นที่ชุ่มน้ำสวนพฤกษ์ฯ ไดมีการจัดกิจกรรมท่องเที่ยวในรูปแบบสะเทินน้ำ สะเทินบก คือเที่ยวได้ทั้งทางบก ทางน้ำ โดยเราจะนั่งเรือท้องแบนล่องไปใน “บึงสำนักใหญ่” หรือ “หนองจำรุง” หนองน้ำตามธรรมชาติขนาดใหญ่ โดยพื้นที่ส่วนหนึ่งจะอยู่ในความดูแลของสวนพฤกษ์ฯ ระยอง
สำหรับไฮไลต์สำคัญของที่นี่ก็คือ แพกอหญ้าที่ชาวบ้านเรียกขานกันว่า “หญ้าหนังหมา” หรือ “แพหนังหมา” โดยเป็นแพกอหญ้าที่ทับถมกันเป็นชั้นๆ มีหนาถึง 50-100 ซม. ลอยเป็นผืนแผ่นเล็กบ้าง ใหญ่บ้าง และบางช่วงก็ใหญ่มากจนคล้ายผืนแผ่นดินอย่างไรอย่างนั้น และบนแพหญ้าหนังหมาผืนนี้ถือว่ามีความแข็งแรงอยู่เหมือนกัน เพราะมันมีรากที่ยาวลึกลงไปใต้น้ำยาวถึงประมาณ 1 เมตรเลยทีเดียว
บนแพกอหญ้าหนังหมานี้เราสามารถขึ้นเดินบนนั้นได้ แต่ต้องเป็นแบบกระจายตัวเฉลี่ยน้ำหนัก ไม่ใช่ไปรวมกันที่จุดเดียว หากใครไปเที่ยวที่นี่สามารถนั่งเรือรับจ้างไปชมกันได้ โดยคนขับเรือจะพามาจอดแวะ เพื่อให้นักท่องเที่ยวลองขึ้นไปเดินบนกอหญ้าผืนนี้ โดยจะมีรองเท้าบูทจัดเตรียมไว้ให้ ซึ่งในช่วงราวๆ เดือน พ.ย. – ก.พ. ของทุกปี บนแพหญ้าหนังหมาจะมีกล้วยไม้ดินหายากใกล้สูญพันธุ์อย่าง เอื้องสีสนิม เอื้องอึ่งอ่าง แห้วชะครู ผักไผ่น้ำ ออกดอกให้ชมกัน
นอกจากกอหญ้าหนังหมาแล้ว ยังมีอีกหนึ่งพืชพันธุ์เด่นที่มีปริมาณมากและพบเห็นได้ทั่วไปในบึงแห่งนี้ก็คือ “กระจูด” ไม้ล้มลุกตระกูลเดียวกับต้นกก ลำต้นมีลักษณะกลม ภายในกลวง ขนาดเท่าก้านธูป สูง 1-3 เมตร ปกติจะพบมากในแถบภาคใต้ ส่วนที่ภาคตะวันออกพบที่เดียวคือที่นี่นั่นเอง
“กระจูด” สามารถนำต้นไปสานทำเป็นผลิตภัณฑ์ต่างๆ ไม่ว่าจะเป็น เสื่อ กระเป๋า หมวก ตะกร้า หรือของใช้อื่นๆ ซึ่งถือเป็นพืชเศรษฐกิจของชาวบ้านในแถบนี้ ซึ่งมีการสืบทอดภูมิปัญญาสานเสื่อกกกระจูดมากว่า 200 ปี
เมื่อนั่งเรือท่องเที่ยวต่อไปเรื่อยๆ จะพบกับป่าเสม็ด ซึ่งที่นี่รับการเรียกขานว่า “ป่าเสม็ดพันปี” ที่ส่วนใหญ่จะเป็นต้นเสม็ดขาว แต่ก็มีเสม็ดแดงขึ้นอยู่บ้าง โดยต้นเสม็ดที่นี่จะขึ้นอยู่บนพื้นทราย มีสภาพพื้นที่เป็นดินและป่าพรุน้ำท่วมขังมาก-น้อย ตามฤดูกาล ส่วนที่เกาะเสม็ดจะเป็นต้นเสม็ดแดง
สำหรับต้นเสม็ดนั้นพบได้ทั้งภาคใต้และภาคตะวันออก โดยมักจะขึ้นในป่าพรุที่มีน้ำท่วมขังในหน้าฝน ส่วนในหน้าแล้งจะมีไฟไหม้ป่าอยู่เป็นประจำซึ่งพืชพันธุ์ไม้ชนิดอื่นๆไม่สามารถปรับตัวอยู่ได้ แต่เสม็ดสามารถอยู่ได้ เพราะต้นเสม็ดสุดอึดทนได้ทั้งน้ำทั้งไฟ เนื่องจากลำต้นมีเปลือกหนานุ่มซ้อนกันเป็นชั้นๆเพื่อปกป้องแก่นของต้นซึ่งเนื้อแข็งมาก
ต้นเสม็ดที่นี่มีอยู่เป็นจำนวนมากหลายร้อยต้น ส่วนใหญ่เป็นต้นเสม็ดเก่าแก่ที่ขึ้นมาช้านาน โดยดูได้จากขนาดลำต้นที่ใหญ่และของต้นขึ้นสูงตระหง่าน โดยมันจะแผ่กิ่งก้านสาขาและลำต้นขยายออกไปไกล อีกทั้งยังมีรูปทรงที่โดดเด่นเป็นเอกลักษณ์กับความโย้เย้ หงิกหงอ ยิ่งเมื่อเดินอยู่ในช่วงเวลาเย็นๆแสงแดดอ่อนๆ มันก็จะยิ่งดูลี้ลับ ลึกลับยิ่งขึ้น
ถ้าใครไม่ได้นั่งเรือนำเที่ยว ก็สามารถเดินตามเส้นทางธรรมชาติมาชมป่าเสม็ดได้ด้วย หากมาชมในช่วงนี้ซึ่งเป็นฤดูที่มีน้ำขังเล็กน้อย ก็จะได้บรรยากาศของป่าเสม็ดที่ดูสวยงามแปลกตาไปอีกแบบ โดยเฉพาะบรรยากาศของป่าเสม็ดสะท้อนเงาน้ำนี่ดูแล้วน่าตื่นตาตื่นใจดีทีเดียว
สวนพฤกษศาสตร์ระยอง ตั้งอยู่ที่ หมู่2 ตำบลชากพง อำเภอแกลง จังหวัดระยอง เปิดให้เข้าชมทุกวัน ตั้งแต่เวลา 08.30-16.30 น. ที่นี่มีบริการเรือนำเที่ยว หากมาเป็นหมู่คณะ สอบถามค่าใช้จ่ายและรายละเอียดข้อมูลเพิ่มเติม โทร. 0-38638-8801
สามารถส่งข้อมูลข่าวสารด้านการท่องเที่ยว-อาหารมาได้ที่ อีเมล์ travel_astvmgr@hotmail.com หรือ ชมคลิปต่าง ๆ ได้ที่ Youtube :Travel MGR