หลังเกิดกรณี “ทหารอียิปต์” ติดโควิด-19 ป่วนเมืองระยอง จนทำให้ใครต่อใครเกิดความกลัว ตลาดร้านค้าซบเซา นักท่องเที่ยวยกเลิกโรงแรมไม่กล้ามาเที่ยว ส่งผลให้เศรษฐกิจที่เริ่มจะกระเตื้องขึ้นบ้างซบเซาลงอีก จนเกิดกระแส #saverayong โดยคนดังและชาวเน็ตที่ประกาศเชิญชวนให้คนไปเที่ยวระยอง เพื่อช่วยกระตุ้นให้เศรษฐกิจและการท่องเที่ยวของระยองกลับมาคึกคักอีกครั้ง
วันนี้เราขอเป็นส่วนหนึ่งในการ #saverayong ด้วยการนำเอาแหล่งท่องเที่ยวอันหลากหลายน่าเที่ยวของระยองมาชวนให้ทุกๆ คนไปเที่ยวระยองในช่วงวันหยุดยาวที่จะถึงนี้กัน
ทะเลระยองแสนงาม
เมื่อถามถึงทะเลระยอง เชื่อแน่ว่าหลายๆ คนต้องนึกถึง “เกาะเสม็ด” (ต.บ้านเพ อ.เมือง) หนึ่งในเกาะงามใกล้กรุงฯที่ได้รับความนิยมจากนักท่องเที่ยวมาช้านานหลายยุคหลายสมัย โดยเกาะเสม็ดอยู่ในความดูแลของอุทยานแห่งชาติเขาแหลมหญ้า-หมู่เกาะเสม็ด
บนเกาะเสม็ดประกอบไปด้วยหาดทรายขาวสะอาดและหาดหินรวมๆ แล้วเกือบ 20 หาด หาดยอดฮิตที่มีทั้งความสวยงามและความคึกคักของนักท่องเที่ยวก็เช่น หาดทรายแก้ว อ่าววงเดือน ส่วนหาดที่เงียบสงบเหมาะแก่การพักผ่อนก็เช่น อ่าวช่อ อ่าวลุงดำ อ่าวปะการัง ฯลฯ รวมไปถึงอ่าวพร้าวที่ชมพระอาทิตย์ตกยามเย็นได้สวยงามที่สุด
นอกจากเกาะเสม็ดแล้ว ระยองยังมี “หมู่เกาะมัน” (ต.กร่ำ อ.แกลง) ที่ประกอบไปด้วย 3 เกาะ ได้แก่ เกาะมันใน เกาะมันกลาง และเกาะมันนอก โดย “เกาะมันใน” เป็นสถานที่ดำเนินโครงการอนุรักษ์พันธุ์เต่าทะเล ในพระราชดำริของสมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ ที่เปิดให้นักท่องเที่ยวสามารถขึ้นเกาะชมได้ ส่วน “เกาะมันกลาง” และ “เกาะมันนอก” เป็นเกาะเล็กๆ ของเอกชนที่มีรีสอร์ทให้บริการเพียงแห่งเดียวบนเกาะ การจะไปเที่ยวหรือพักค้างคืนจะต้องซื้อแพ็คเกจกับทางรีสอร์ท แต่ก็จะได้พบกับบรรยากาศอันแสนสงบและเป็นส่วนตัวแน่นอน
ส่วนใครที่ไม่ชอบนั่งเรือข้ามเกาะ แต่อยากพักผ่อนสบายๆ ริมชายหาด ระยองก็มีชายหาดมากเสน่ห์อยู่หลายแห่ง โดยใน อ.เมืองระยองเป็นที่ตั้งของ “อุทยานแห่งชาติเขาแหลมหญ้า-หมู่เกาะเสม็ด” จุดชมวิวทะเลที่สวยงามที่สุดแห่งหนึ่งของระยอง
อุทยานฯ เขาแหลมหญ้ามีพื้นที่ครอบคลุมทั้งบนฝั่งด้านตะวันออกของเขาแหลมหญ้า ได้แก่หาดแม่รำพึง บ้านก้นอ่าว รวมไปถึงเกาะในทะเล อาทิ เกาะเสม็ด เกาะจันทร์ เกาะกุฎี เกาะทะลุ เป็นต้น สำหรับพื้นที่บนชายฝั่งนั้น นอกจากจะมีจุดชมวิวทะเลงามๆ ที่พัก ที่กางเต็นท์ และร้านอาหารของอุทยานให้บริการแล้ว ก็ยังมีเส้นทางศึกษาธรรมชาติระยะทาง 1.1 กม. ที่แบ่งเป็นสถานีย่อยๆ จากป่าดิบแล้งในภูเขาไปออกสู่ยอดเขาแหลมหญ้าซึ่งเป็นจุดชมวิวที่สวยงาม และสามารถเดินลัดเลาะลงสู่ทะเลไปตามโขดหินชายฝั่งได้อีกด้วย
นอกจากนั้นก็ยังมีชายหาดชื่อดังอย่าง “หาดแม่รำพึง” (อ.เมือง) ชายหาดสะอาดบรรยากาศสงบ และยังเป็นชายหาดที่ยาวที่สุดของฝั่งทะเลตะวันออก มีความยาว 12 กม. “หาดบ้านเพ” (อ.เมือง) แม้จะไม่เหมาะแก่การเล่นน้ำ แต่ก็ขึ้นชื่อในเรื่องของการเป็นท่าเรือข้ามฟากไปยังเกาะเสม็ด และยังเป็นแหล่งซื้อหาของฝากประเภทอาหารทะเลทั้งสดและแห้ง “หาดสวนสน” หรือสวนรุกขชาติเพ (อ.เมือง) เป็นอีกหาดหนึ่งของทะเลระยองที่ผู้คนนิยมมาพักผ่อนกัน มีจุดเด่นคือต้นสนทะเลที่เรียงรายเต็มสองข้างทางและริมชายหาด และ “หาดแม่พิมพ์” (อ.แกลง) หาดทรายละเอียดและมีความเป็นธรรมชาติของแนวสนสลับกับต้นหูกวางร่มรื่นตลอดริมหาด
เปลี่ยนบรรยากาศมาเดินเล่นไหว้พระในเมืองระยองกันบ้าง โดยชวนมาเดินชิลกันที่ “ถนนยมจินดา” (อ.เมือง) ถนนสายแรกของเมืองระยองซึ่งเป็นย่านชุมชนการค้าอันเก่าแก่ สร้างขนานไปกับแม่น้ำระยองที่อยู่กลางเมือง ถนนสายนี้เคยคึกคักและเต็มไปด้วยผู้คนที่มาทำธุรกิจการค้า เป็นที่ตั้งของธนาคาร โรงหนัง ตลาด แต่เมื่อเมืองโดยรอบขยายตัวขึ้น มีถนนตัดผ่านมากขึ้น ถนนยมจินดาจึงไม่ใช่ถนนสายหลักอีกต่อไป แต่ด้วยความร่วมมือของชาวชุมชนและหน่วยงานต่างๆ ที่มองเห็นคุณค่าของย่านเก่าแห่งนี้ จึงช่วยกันฟื้นฟูให้บรรยากาศแบบเดิมๆ ของถนนยมจินดาฟื้นคืนมาอีกครั้งเพื่อให้เป็นแหล่งท่องเที่ยวที่ยังมีกลิ่นอายของวันคืนเก่าๆ
หากได้มาเดินเล่นที่นี่ เราจะได้ชมบ้านเรือนแบบโบราณอายุนับเกือบร้อยปีริมสองฝั่งถนน บ้างเป็นบ้านไม้ทั้งหลัง บ้างเป็นครึ่งปูนครึ่งไม้ บ้างเป็นตึกโบราณคลาสสิกด้วยประตูบานเฟี้ยม ไม้ระแนง ช่องลมลวดลายอ่อนช้อย ที่แต่ละหลังก็มีเรื่องราวของตนเอง อาทิ ตึกกี่พง หรือตึกพ่อสิงห์-แม่กราย เป็นตึกแรกที่สร้างขึ้นบนถนนยมจินดา “บ้านสัตย์อุดม” ที่ปัจจุบันจัดทำเป็น “พิพิธภัณฑ์เมืองระยอง” บอกเล่าเรื่องราวเมืองระยองผ่านภาพถ่ายเก่าแก่และข้าวของเครื่องใช้ในชีวิตประจำวันในสมัยอดีต บางหลังปรับปรุงเป็นร้านกาแฟบรรยากาศเยี่ยมอย่างร้าน “ราย็อง” มีบริการอาหารและเครื่องดื่มในร้านที่ตกแต่งแบบสมัยเก่า กินขนมพร้อมชมบรรยากาศไปด้วย เพลินยิ่งนัก
ไม่ไกลจากถนนยมจินดาซึ่งอยู่กลางเมือง เป็นที่ตั้งของวัดสำคัญหลายแห่งของเมืองระยอง อาทิ “วัดป่าประดู่” วัดเก่าแก่สมัยกรุงศรีอยุธยา ไปกราบ “พระพุทธไสยาสน์” พระนอนองค์ใหญ่ประทับอยู่ในท่านอนตะแคงซ้าย ที่นับว่าแปลกจากพระนอนทั่วไปที่นอนตะแคงขวา และไปกราบสักการะพระบรมรูปสมเด็จพระเจ้าตากสินมหาราชขนาดเท่าองค์จริงที่ “วัดลุ่มมหาชัยชุมพล” ซึ่งเล่ากันว่าสมเด็จพระเจ้าตากสินได้นำทหารและพลเรือนอพยพมาผูกช้างผูกม้าพักแรมที่โคนต้นสะตือใหญ่บริเวณวัดลุ่มแห่งนี้ ก่อนจะบุกไปเมืองจันทบุรีต่อไป
เที่ยวชุมชน ชมทุ่งโปรงทอง-สวนพฤกษศาสตร์ ที่เมืองแกลง
“ชุมชนปากน้ำประแส” เป็นแหล่งท่องเที่ยวชุมชนในอำเภอแกลง เป็นชุมชนปากแม่น้ำชายฝั่งทะเล ในชุมชนมีบรรยากาศเรือนแถวไม้เก่าแก่สวยๆ หลายหลัง มีวิถีชีวิตของคนในชุมชนที่เรียบง่าย และมีโฮมสเตย์ให้บริการอยู่หลายแห่ง จะได้ใช้เวลาเดินเล่นชมชุมชน ชมตลาดเช้าในตัวตำบล เห็นวิถีชีวิตและอาหารการกินในพื้นถิ่น อีกทั้งยังสามารถนั่งรถมอเตอร์ไซค์พ่วงข้างเที่ยวชมจุดท่องเที่ยวต่างๆ ได้อย่างครบถ้วน ไม่ว่าจะเป็น “ทุ่งโปรงทอง” ต้นไม้ชายเลนที่มีใบสีเขียวอมเหลืองสดใส เมื่อยามต้องแสงแดดก็เปล่งประกายคล้ายสีทองอร่ามไปทั่วบริเวณสวยงามราวกับต้องมนต์ แสดงให้เห็นถึงความอุดมสมบูรณ์ของธรรมชาติป่าชายเลน และความร่วมมือของชุมชนปากน้ำประแสที่ช่วยกันฟื้นฟูและอนุรักษ์ไว้
และยังสามารถไปชม “อนุสรณ์เรือรบหลวงประแส” ที่นักท่องเที่ยวสามารถขึ้นไปชมบรรยากาศของเรือรบกันได้อย่างใกล้ชิด ไปไหว้ “ศาลกรมหลวงชุมพรฯ” และชมต้นตะเคียนเก่าแก่กว่า 500 ปีที่ “วัดตะเคียนงาม” กันได้
ส่วน “สวนพฤกษศาสตร์ระยอง” (ต.ชากพง อ.แกลง) ก็เป็นอีกหนึ่งสถานที่ท่องเที่ยวน่าสนใจในเมืองแกลง เป็นศูนย์ศึกษาวิจัยที่รวบรวมพรรณไม้ในภาคตะวันออก โดยเฉพาะสภาพนิเวศวิทยาของพื้นที่ชุ่มน้ำและป่าเสม็ด เพราะพื้นที่แห่งนี้เป็นพื้นที่ชุ่มน้ำที่มีมาแต่เดิม และเป็นแห่งเดียวที่คงเหลืออยู่สมบูรณ์ที่สุดในภาคตะวันออก ชาวบ้านเรียกว่า “หนองจำรุง” หรือ “บึงสำนักใหญ่”
การเข้าชมเส้นทางศึกษาธรรมชาติบนเกาะกลางบึงด้วยเรือในระหว่างทางจะได้ชมทัศนียภาพของบึงบัวนานาชนิดทั้งบัวผัน บัวเผื่อน บัวสาย ดอกของสาหร่ายข้าวเหนียว แพหญ้าหนังหมา (แพหญ้าที่ทับถมกันเป็นชั้นหนาๆ 50-100 ซม.) รวมถึงกกกระจูด ที่ชาวบ้านได้นำเอามามาสานเป็นข้าวของเครื่องใช้สร้างรายได้ให้ครอบครัวอย่างมากมาย
ส่วนเส้นทางศึกษาธรรมชาติที่อยู่บนเกาะกลางน้ำนั้นเป็นการผสมผสานกันระหว่างบึงน้ำจืดและป่าพรุรวมอยู่ในนิเวศเดียวกัน ซึ่งเป็นลักษณะพิเศษและหายาก โดยไฮไลต์ของพันธุ์ไม้ในเส้นทางนี้ก็คือ “ป่าเสม็ดพันปี” ที่มีทั้งต้นเสม็ดขาวและเสม็ดแดงที่เก่าแก่ขึ้นอยู่เป็นบริเวณกว้างหลายร้อยต้น ต้นเสม็ดที่อายุมากๆ จะแผ่กิ่งก้านออกไปไกล ปลายกิ่งหงิกงอดูแล้วชวนให้นึกถึงป่าดึกดำบรรพ์อันลึกลับและงามแปลกตา
และหากใครมาระยองในช่วงนี้ก็ถือเป็นช่วงปลายของหน้าผลไม้แล้ว แต่ในตลาดก็ยังพอมีนานาผลไม้ให้เลือกซื้อ เช่นที่ “ตลาดผลไม้ตะพง” (ต.ตะพง อ.เมือง) ตลาดผลไม้ที่ใหญ่ที่สุดในระยอง อีกทั้งยังมีบางสวนที่เปิดให้เข้าไปเที่ยวและชิมผลไม้แบบบุฟเฟต์กันได้อย่างเช่นที่ “สวนสุภัทราแลนด์” นอกจากจะมีผลไม้ให้ชิมแล้วยังมีบริการนำชมสวนผลไม้ และมีกิจกรรมหลากหลายให้นักท่องเที่ยวเข้าชมโดยนั่งรถราง แต่ควรโทรไปจองล่วงหน้าก่อนเพื่อทางสวนจะได้เตรียมผลไม้ไว้ให้
ได้เต็มอิ่มกับท้องทะเล ทั้งเกาะงามเหมือนฝันและชายหาดมากเสน่ห์ แหล่งท่องเที่ยวหลากหลายและผลไม้อร่อยๆ แบบนี้ ใครยังไม่อยากไปเที่ยวระยองได้ก็ใจแข็งเกินไปแล้ว
.....................................
สามารถส่งข้อมูลข่าวสารด้านการท่องเที่ยว-อาหารมาได้ที่ อีเมล์ travel_astvmgr@hotmail.com หรือ ชมคลิปต่าง ๆ ได้ที่ Youtube :Travel MGR