สถานการณ์ไวรัสโควิด-19 ที่ประเทศญี่ปุ่น ณ วันที่ 20 เม.ย. 63 มีผู้ติดเชื้อทะลุกว่า 10,000 คน และผู้เสียชีวิตในหลักร้อย
โดยสถานการณ์การติดเชื้อโควิด-19 ของญี่ปุ่นนั้น เป็นการติดเชื้อหวนคืนที่กลับมาหนักกว่าเดิม (หลังจากที่ตอนแรกสามารถควบคุมในเบื้องต้นได้) ทำให้ยอดผู้ติดเชื้อแต่ละวันมีตัวเลขเพิ่มสูงอยู่ในระดับหลักร้อย และคาดว่าจะมีความรุนแรงเพิ่มขึ้นเรื่อย ๆ ทำให้รัฐบาลญี่ปุ่นต้องประกาศสถานการณ์ฉุกเฉินครอบคลุมทั่วทั้งประเทศ
อย่างไรก็ดีมีข้อสังเกตว่า ในบรรดาจังหวัดต่าง ๆ 47 จังหวัดของประเทศญี่ปุ่น มีอยู่หนึ่งจังหวัดที่ยังไม่มีรายงานตัวเลขของผู้ติดเชื้อไวรัสโควิด-19 แต่อย่างใด (ข้อมูล ณ วันที่ 21 เม.ย. 63) นั่นก็คือ จังหวัด “อิวาเตะ”
เพราะเหตุใด ทำไมถึงเป็นเช่นนั้น?
เหตุผลที่อิวาเตะยังไม่มีผู้ติดเชื้อ
อิวาเตะ (Iwate) เป็นจังหวัดในภูมิภาคโทโฮคุ (Tohoku) หรือภูมิภาคตะวันออกเฉียงเหนือของญี่ปุ่น อิวาเตะมีขนาดพื้นที่ใหญ่เป็นอันดับ 2 ของญี่ปุ่นรองจากจังหวัดฮอกไกโด ฝั่งตะวันออกติดกับทะเลแปซิฟิก ฝั่งตะวันตกเป็นเทือกเขาโออุ
อิวาเตะ เป็นจังหวัดชนบทอันสงบงาม โดดเด่นไปด้วยวิวทิวทัศน์ของท้องทุ่ง ป่าไม้ ขุนเขา ท้องทุ่ง โดยมี “ภูเขาอิวาเตะ” ตั้งตระหง่านโดดเด่นเป็นดังสัญลักษณ์ของจังหวัดนี้
สำหรับเหตุผลที่ทำให้อิวาเตะเป็นจังหวัดหนึ่งเดียวในญี่ปุ่นที่วันนี้ยังไม่มีรายงานพบผู้ติดเชื้อโควิด-19 นั้น ทางสื่อญี่ปุ่นได้ให้ข้อมูลว่า มาจากเหตุผล 2 ประการ คือ 1. อิวาเตะเป็นจังหวัดที่มีความหนาแน่นของประชากรต่ำ 2. มีการเคลื่อนย้ายของประชากรน้อย
นอกจากนี้การที่อิวาเตะที่มีพื้นที่กว้างขวาง มีการกระจายตัวของบ้านเรือน ชุมชน ก็ทำให้จังหวัดนี้ ยังไม่ถูกเชื้อไวรัสโควิด-19 เจาะไข่แดง
10 ที่เที่ยวเด่นเมืองอิวาเตะ
อิวาเตะแม้ไม่ใช่เมืองท่องเที่ยวดังของญี่ปุ่น อีกทั้งยังไม่เป็นที่รู้จักของคนไทยอย่างกว้างขวาง แต่อิวาเตะถือเป็นหนึ่งในเมืองน่าเที่ยวของญี่ปุ่น ซึ่งเราจะพาไปรู้จักกับ 10 สถานที่ท่องเที่ยวเด่น ๆ ของเมืองอิวาเตะ ได้แก่
1.“ภูเขาอิวาเตะ” (Mt.Iwate) เป็นภูเขาที่สูงที่สุดในจังหวัดอิวาเตะ และสัญลักษณ์สำคัญของจังหวัด มียอดสูงสุด 2,038 เมตร จากระดับน้ำทะเล
ภูเขาอิวาเตะเป็นส่วนหนึ่งของอุทยานแห่งชาติโทวาโดะ-ฮะจิมันไต คนญี่ปุ่นนิยมเรียกขานภูเขาลูกนี้ว่า “อิวาเตะซัง” อีกทั้งยังตั้งฉายาให้อิวาเตะซังว่า “อิวาเตะ-ฟูจิ” หรือ “ภูเขาไฟฟูจิแห่งภาคใต้” เนื่องจากหากในบางมุมภูเขาอิวาเตะจะมีรูปร่างคล้าย “ภูเขาไฟฟูจิ” ภูเขาชื่อก้องโลกของญี่ปุ่น
สำหรับจุดชมภูเขาอิวาเตะอันสวยงามนั้น ได้แก่ มุมมองจากสะพานไคอุนบาชิในโมริโอกะ และบริเวณ “ฟาร์มโคะอิวาอิ” ที่เมื่อมองออกไปจะเห็นเนินท้องทุ่งหญ้า มีต้นซากุระต้นเดียว หรือ “ซากุระเดียวดาย” ยืนต้นเด่นโดด ๆเป็นพระเอกท่ามกลางท้องทุ่งหญ้าเขียวขจี ที่มีฉากหลังเป็นภาพของภูเขาอิวาเตะที่มีหิมะปกคลุมทอดตัวตั้งตระหง่านสวยงาม
2.“วัดจูซงจิ” หรือ “วัดซูซนจิ”, “วัดซูซอนจิ” (Chuson-Ji Temple) ตั้งอยู่ที่โคโรโมะโนะเซกิ เมืองฮิราอิซึมิ(ฮิราอิซุมิ) วัดจูซงจิสร้างขึ้นตั้งแต่ปี ค.ศ. 850 เพื่ออุทิศแก่ดวงวิญญาณของผู้เสียชีวิตในสงคราม ซึ่งทางยูเนสโกได้ยกให้วัดจูซงจิเป็นหนึ่งในมรดกโลกทางวัฒนธรรมของญี่ปุ่น ในปี ค.ศ. 2011
ภายในวัดแห่งนี้มีสิ่งน่าสนใจให้เที่ยวชมกันหลากหลาย นำโดยไฮไลท์ “วิหารสีทอง” กับงานสถาปัตยกรรมที่สร้างขึ้นในปี ค.ศ. 1124 (ปีเท็นจิที่ 1) นับเป็นอาคารดั้งเดิมหนึ่งเดียวที่หลงเหลืออยู่
ภายในวิหารเป็นที่ประดิษฐานพระอมิตาภะพุทธเจ้า พร้อมด้วยพระโพธิสัตว์พระมหาสถามปราบต์โพธิ์สัตว์ประดิษฐานอยู่เคียงข้าง
ตัววิหารปิดทองทั้งหลังเหลืองอร่าม มีการประดับลวดลายอันวิจิตรสวยงามตามจุดต่าง ๆ ลวดลายประดับมุกที่เสาทั้ง 4 ลวดลายประดับนกยูงประติมากรรมนูนสูงที่ฐานของแท่นบูชาเป็นต้น
นอกจากวิหารสีทองแล้ว วัดแห่งนี้ก็ยังมีสิ่งน่าสนใจอื่น ๆ อาทิ พระอุโบสถ, พิพิธภัณฑ์ หรือ หอเก็บสมบัติ และ หอธรรม สถานที่เก็บรักษา “พระสูตรแห่งวัดจูซงจิ” ที่ตั้งอยู่ ท่ามกลางบรรยากาศของแมกไม้อันร่มรื่นสงบเย็น
3.“หุบเขาเกบิเค”(เกบิเก) หรือ “แก่งเกบิเค”(Geibikei) ตั้งอยู่ที่เมืองอิชิโนเซกิ หุบเขาแห่งนี้ติด 1 ใน 100 สถานที่ท่องเที่ยวแนะนำของญี่ปุ่น
เกบิเค หมายถึง “จมูกสิงโต” หรือ “จมูกราชสีห์” เป็นหุบเขายาวประมาณ 2 กิโลเมตร เกิดจากการกัดเซาะหินปูนของแม่น้ำสะเทะซึกาว่า จนนเกิดเป็นช่องแคบหน้าผาหินรูปร่างแปลกตาสูงประมาณ 100 เมตร ตั้งตระหง่านยาวไปตลอด 2 ฟากฝั่งลำธารน้ำใสเย็น ท่ามกลางธรรมชาติของผืนป่าที่ใบไม้จะเปลี่ยนสีไปตามฤดูกาล พร้อมทั้งยังมีดอกไม้ต่าง ๆ นก อีกา เป็ด และปลาหลากหลายที่มาแหวกว่ายอยู่ในลำธารใสแจ๋ว
ที่เกบิเคจะมีกิจกรรมล่องเรือชมความงามของธรรมชาติ ในระยะทางประมาณ 1 กม.กว่า ๆ
ระหว่างทางวิวทิวทัศน์จะเปลี่ยนรูปร่างรูปทรงไปตามมุมมอง ซึ่งคนญี่ปุ่นได้จินตนาการตั้งชื่อหุบเขาผาหินในระหว่างทางออกไปต่าง ๆ กัน ไม่ว่าจะเป็น “โซฟุกัน-โซวฟุกัน”-หิน 2 ก้อนที่ตั้งอยู่ใกล้ๆกันจนได้รับการเรียกขานว่าเป็น “หินสามี-ภรรยา” และ “ซิซิงะฮานะ” - หินขนาดใหญ่ที่มีบางมุมดูคล้ายจมูกสิงโต ที่ถือเป็นอีกหนึ่งดาวเด่นของสถานที่แห่งนี้
4.“หน้าผาคิตะยามาซากิ” ตั้งอยู่บริเวณเหนือสุดของจังหวัดอิวาเตะ บนแนวชายฝั่งซันริคุ
หน้าผาคิตะยามาซาคิ เกิดจากการกระทำของกระแสลมและคลื่นจากมหาสมุทรแปซิฟิก รังสรรค์ให้เป็นหน้าผาหินรูปร่างสวยงามแปลกตา
หน้าผาแห่งนี้มีความสูงชันประมาณ 200 เมตร ทอดตัวยาวริมชายฝั่ง โดยมีหินหลากหลายรูปทรงให้จินตนาการ รวมถึงถ้ำทะเลอันลึกลับ และบันได 738 ขั้น เดินชมธรรมชาติทอดยาวจากจุดชมวิวของชายหาดที่ฐานล่างของหน้าผาสูงนี้
5.“ซาราดะฟาร์ม” หรือ “สลัดฟาร์ม”(Salad Farm) ตั้งอยู่ในเมืองฮะจิมันไต ที่นี่เป็นฟาร์มขนาดใหญ่มีพื้นที่กว้างขวางราว 50,000 ตารางเมตร
ภายในฟาร์มมีระบบการบริหารจัดการที่ดี มีการแบ่งพื้นที่เป็นโซนต่าง ๆ พร้อมด้วยการจัดแต่งภูมิทัศน์อย่างสวยงาม มากไปด้วยต้นไม้และดอกไม้นานาพันธุ์กว่า 1,200 ชนิด ซึ่งนักท่องเที่ยวมาเที่ยวชมดอกไม้ตามฤดูกาลได้อย่างเพลิดเพลิน
นอกจากนี้ที่สลัดฟาร์มยังมีของกินเด่น ๆ อาทิ ไอศกรีมรสเด็ด ไข่ลวกและไข่ต้มปรุงสุก รวมถึง “สตรอว์เบอร์รี” ที่ปลูกแบบปลอดสารพิษ และเปิดให้นักท่องเที่ยวได้เข้าไปเก็บสตรอว์เบอร์รีสด ๆ จากต้นบนรางปลูกกินกันแบบไม่อั้นตามเวลาที่กำหนด
6.“อิปปงซากุระ” หรือ ที่ที่หลายคนเรียกกันว่า “ซากุระเดียวดาย” ตั้งอยู่ริมทางก่อนจะถึงเทือกเขาฮะจิมันไต
อิปปงซากุระ เป็นซากุระต้นเดียวโดด ๆ มีอายุเก่าแก่กว่า 100 ปี ยืนต้นอย่างโดดเด่นโดดเดี่ยวทระนง ท่ามกลางท้องทุ่งหญ้าเขียวขจี โดยมีเทือกเขาฮะจิมันไตตั้งตระหง่านเป็นฉากหลัง ช่วยเสริมส่งองค์ประกอบให้ดูสวยงามยิ่งขึ้นไปอีก
7.”เทือกเขาฮะจิมันไต” ตั้งโดดเด่นทอดตัวตระหง่านเป็นสัญลักษณ์สำคัญคู่เมืองฮะจิมันไต มี“อุทยานแห่งชาติโทวาดะ-ฮะจิมันไต”(Towada- Hachimantai Nation Park)ที่ตั้งอยู่บนพื้นที่คาบเกี่ยวของจังหวัดอิวาเตะและจังหวัดอาคิตะ เป็นแหล่งท่องเที่ยวสำคัญ
เทือกเขาฮะจิมันไต เป็นขุนเขาที่มีวิทิวทัศน์สวยงาม มีไฮไลท์คือ “ยอดเขาฮะจิมันไต” ยอดสูงสุดที่มีความสูง 1,613 เมตร จากระดับน้ำทะเล ซึ่งถือเป็นหนึ่งในแหล่งท่องเที่ยวชื่อดังของจังหวัดอิวาเตะ
ขณะที่บริเวณเชิงเขานั้นก็มีที่พักหลากหลาย อีกทั้งยังมี “มัตสึคาวะ ออนเซ็น” (Matsukawa Onsen) ที่มีบ่อน้ำร้อนให้แช่ทั้งในแบบบ่อส่วนตัว และบ่อรวมท่ามกลางสภาพธรรมชาติอันน่ายล
8.“กำแพงหิมะ” (Snow Wall) หรือ “ฮะจิมันไต แอสไปต์ ไลน์”(Hachimantai Aspite Line) ตั้งอยู่ใน “อุทยานแห่งชาติโทวาดะ-ฮะจิมันไต” บนเทือกเขาฮะจิมันไต
กำแพงหิมะ ตั้งอยู่บนความสูงประมาณ 1,500 เมตร มีระยะทางเกือบ 30 กม. สองข้างทางโดดเด่นสวยงามไปด้วยกำแพงหิมะสีขาวเย็นตา ทอดยาวผ่านยอดเขาเชื่อมระหว่างจังหวัดอิวาเตะ กับจังหวัดอากิตะเข้าด้วยกัน
กำแพงหิมะจะเกิดขึ้นเฉพาะในช่วงฤดูใบไม้ผลิ ที่บริเวณยอดเขาฮะจิมันไตมีหิมะตกหนา จนเกิดเป็นกำแพงหิมะ หรือถนนที่ขนาบข้างด้วยแนวหิมะสูงใน 2 ข้างทาง ซึ่งถือเป็นอีกหนึ่งแหล่งท่องเที่ยวที่มาแรงในประเทศญี่ปุ่นสำหรับคนไทย
9.“ทุ่งหินลาวา” หรือ “ยาเคะฮาชิริโยกังริว”(Yakehashiri) เป็นท้องทุ่งหินลาวาภูเขาไฟอายุกว่า 250 ปี อันกว้างใหญ่มีพื้นที่นับร้อยไร่
บริเวณทุ่งแห่งนี้มีการทำเส้นทางเดินศึกษาธรรมชาติไว้ในนักท่องเที่ยวเดินทัศนาในความงามที่มีฉากหลังเป็นภูเขาอิวาเตะตั้งตระหง่าน
นอกจากนี้ที่ในท้องทุ่งหินลาวาที่มีลักษะพิเศษเป็นหินสีดำก้อนใหญ่-เล็กมีรูพรุนนั้น ในบางจุดยังมีดอกไม้ต้นไม้เจริญเติบโตขึ้นมา ท่ามกลางท้องทุ่งหินสีดำ ดูสวยงามแปลกตาไม่น้อย
10.“เมืองโมริโอกะ” (Morioka) เป็นเมืองเอกหรือเมืองหลวงของจังหวัดอิวาเตะ ตั้งอยู่ทางตอนกลางของจังหวัด ตัวเมืองล้อมรอบด้วยภูเขาทั้ง 3 ด้าน ในวันที่ฟ้าเป็นใจสามารถมองเห็นภูเขาอิวาเตะได้อย่างชัดเจน
ตัวเมืองโมริโอกะ โดดเด่นไปด้วย อาคารบ้านเรือนเก่าแก่ อย่างเช่น ปราสาท(เก่า)โมริโอกะ ที่ยังคงมีแนวกำแพงหินตั้งตระหง่าน และ อาคาร“ธนาคารอิวาเตะ” (Bank of Iwate) เป็นอาคารเก่าสร้างในรูปแบบสถาปัตยกรรมยุโรป โชว์สัจจะวัสดุด้วยลวดลายอิฐสีแดง พร้อมประดับตกแต่งอาคารด้วยโค้ง ลวดลายปูนปั้น และบัวประดับตามประตูหน้าต่างและช่องแสงอย่างสวยงาม
นอกจากนี้ก็ยังมี “อิชิวาริซากุระ” ต้นซากุระประจำเมืองโมริโอกะ(Ishiwarizakura) เป็นต้นซากุระเก่าแก่สายพันธุ์อิชิวาริซากุระ ที่ตั้งตระหง่านเด่นอยู่หน้าอาคารสำนักงานศาลประจำเมืองโมริโอกะ
ซากุระต้นนี้เป็นหนึ่งในสัญลักษณ์ประจำเมืองโมริโอกะ มีอายุมากถึงประมาณ 350-400 ปี มีลำต้นขนาดใหญ่(แต่มีความสูงไม่มาก) แผ่สยายกิ่งก้านด้วยรูปฟอร์มที่สวยงาม ดูน่าอัศจรรย์ เพราะตัวลำต้นอันอวบใหญ่ของมัน งอกเจริญเติบโตขึ้นมาระหว่างก้อนหินแกรนิตขนาดใหญ่ที่ดูปานประหนึ่งเป็นฐานอันแข็งแกร่งของซากุระต้นนี้
และนี่ก็คือ 10 สถานที่ท่องเที่ยวเด่น ๆ ของเมืองอิวาเตะ จังหวัดหนึ่งเดียวในญี่ปุ่นที่ยังไม่ถูกเชื้อไวรัสโควิด-19 เจาไข่แดง ซึ่งในสภาพการณ์ปกตินั้น อิวาเตะเป็นอีกหนึ่งจังหวัดที่น่าเที่ยวไม่น้อย
เพราะเมืองนี้มีเสน่ห์ทั้งบรรยากาศแห่งความเป็นเมืองชนบทอันสงบงาม มีสภาพธรรมชาติอันสวยงาม ร่มรื่นไปด้วยป่าไม้ มีวิวทิวทัศน์ของขุนเขาที่โอบล้อม ท้องทุ่งกว้างไกล อีกทั้งยังมีสถานที่สำคัญทางประวัติศาสตร์ มรดกโลก สถาปัตยกรรม อาหารทะเลสด ๆ อาหารเด่นประจำถิ่นชวนลิ้มลอง
นับได้ว่าจังหวัดอิวาเตะ เป็นดังอันซีนแห่งดินแดนอาทิตย์อุทัยสำหรับคนไทย ที่หากใครได้ไปเยือนแล้วอาจจะเกิดความรู้สึกหลงรักเมืองนี้จนอยากกลับไปเยือนอีกสักครั้ง หรือหลาย ๆ ครั้ง