xs
xsm
sm
md
lg

เที่ยวเมืองไทยประหยัดกว่าไปญี่ปุ่น-ไปต่างประเทศ 10,000 บาท อาจไม่พอ แต่เที่ยวเมืองไทยได้ทั้งครอบครัว แถมช่วยฟื้นฟูเศรษฐกิจ

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์



ช่วงนี้เข้าสู่ฤดูใบไม้ผลิในต่างประเทศแล้ว หลายคนก็จะเห็นภาพดอกซากุระสวยๆ บานสะพรั่ง ชวนให้อิจฉาคนญี่ปุ่นอยู่ไม่น้อย คิดแล้วก็ได้แต่มองตาละห้อย นี่ถ้าไม่มีไวรัส Covid-19 ป่านนี้เราก็คงได้ไปถ่ายรูปเช็กอินที่โตเกียวแล้ว ตัดภาพมาที่ตอนนี้ที่ผู้คนต่างเก็บตัวอยู่ที่บ้าน ทำให้รู้สึกเบื่อ อัดอั้น อยากไปเที่ยวเต็มทน จนตั้งปณิธานว่า “สถานการณ์ดีขึ้นเมื่อไร ฉันจะเก็บกระเป๋าออกไปเที่ยวทันที

แต่ก็ไม่แน่ว่าพอถึงตอนนั้น ราคาตั๋วเครื่องบินและที่พักในต่างประเทศอาจแพงหูฉีก (ถีบตัวตามอุปสงค์ที่ล้นทะลัก) เงิน 10,000 บาท อาจเที่ยวญี่ปุ่นได้แค่คนเดียว แถมไปได้ไม่กี่แห่ง แต่ถ้าเที่ยวเมืองไทยด้วยงบประมาณเท่านี้ เราจะสามารถไปได้ทั้งครอบครัว และถ้าวางแผนดีๆ ก็จะไปเที่ยวได้หลายจังหวัดเลยนะ ซึ่งนอกจากจะได้ท่องเที่ยวแล้ว ยังได้เป็นส่วนหนึ่งที่ช่วยกระจายรายได้สู่ท้องถิ่น เพื่อฟื้นฟูเศรษฐกิจของประเทศอีกด้วย แต่แน่นอนว่า การเที่ยวเมืองไทย คงไม่สามารถทดแทนการเที่ยวญี่ปุ่นได้ 100% (ก็มันคนละประเทศอะเนอะ) แต่บ้านเราก็มีอะไรหลายๆ อย่างที่บางคนยังไม่รู้ มีสถานที่ท่องเที่ยวใหม่ๆ รอให้ไปค้นพบ ซึ่งเรากำลังจะบอกในบรรทัดถัดไปนี้

เริ่มต้นด้วย “ทริปทดแทน” การไปชมซากุระญี่ปุ่นที่เราเพิ่งกดยกเลิกตั๋วไปทั้งน้ำตา ด้วยการไปดูดอกนางพญาเสือโคร่งสีชมพูบานสะพรั่ง สวยงามจนได้ชื่อว่าเป็นซากุระเมืองไทย ที่ “สวนรุกขชาติแม่ฟ้าหลวง” จ.เชียงราย ซึ่งจะบานสะพรั่งในช่วงต้นปีราวๆ เดือนมกราคม ให้ได้ถ่ายรูปเช็กอินกันสวยๆ นอกจากนี้ ที่นี่ก็ยังมีดอกกุหลาบพันปีหลายสีหลายสายพันธุ์ จากทั้งในเอเชีย ยุโรป ออสเตรเลีย และอเมริกาเหนือ ที่ต้องบอกเลยว่าหาชมได้ยาก และมีกล้วยไม้ป่า ดอกเอื้องตาหิน เอื้องเงิน ม่อนไข่ ชมดอกไม้สวยๆ เสร็จแล้ว อย่าลืมแวะชมพระตำหนักดอยตุง ซึ่งอยู่ใกล้ๆ กัน ที่นี่เคยเป็นที่ประทับของสมเด็จย่า สร้างด้วยสถาปัตยกรรมผสมผสานระหว่างศิลปะล้านนา บ้านปีกไม้ และบ้านแบบพื้นเมืองของสวิตเซอร์แลนด์ สวยงามมาก ต้องมาชมด้วยตาของตัวเอง

นอกจากซากุระสวยๆ แล้ว ประเทศญี่ปุ่นก็ยังมีสถานที่ท่องเที่ยวอื่นๆ ที่เป็นมรดกโลกมากมาย เช่น ภูเขาไฟฟูจิ ปราสาทฮิเมจิ ศาลเจ้าอิตสึคูชิมะ วัดโฮริวจิ ฯลฯ แต่เมืองไทยเองก็มีแหล่งท่องเที่ยวมรดกโลกหลายแห่งเช่นกัน อย่างเช่นที่ “อุทยานประวัติศาสตร์พระนครศรีอยุธยา” ที่มีนักท่องเที่ยวทั้งไทยและต่างชาติแวะไปเที่ยวชมตลอด ในอุทยานฯ นี้มีโบราณสถานหลักๆ เช่น วัดพระศรีสรรเพชญ์ พระราชวังโบราณ วัดราชบูรณะ วัดมหาธาตุ ฯลฯ ใครที่ไปเยือนรับรองว่าจะสัมผัสได้ถึงความยิ่งใหญ่ของอาณาจักรอโยธยา เมืองหลวงของไทยที่เคยรุ่งเรืองถึง 417 ปีแน่นอน

พูดถึงสมัยอยุธยาแล้ว ภาพแรกๆ ที่นึกถึงก็คือการทำการค้ากับต่างประเทศ ดังนั้น ต้องไม่พลาดแวะชม “หมู่บ้านญี่ปุ่น” ซึ่งแต่เดิมเคยเป็นชุมชนชาวญี่ปุ่นในสมัยอยุธยา ที่นี่เราจะได้ความรู้ทางประวัติศาสตร์ ทั้งการเข้ามาของคนญี่ปุ่น เส้นทางการเดินเรือ วิถีชีวิตความเป็นอยู่ และมีการจัดแสดงเรื่องราวกับหุ่นจำลองของท้าวทองกีบม้า ผู้มีส่วนสำคัญในการพัฒนาขนมไทย และยามาดะ นางามาสะ หรือที่เราเคยได้ยินชื่อกันก็คือ ออกญาเสนาภิมุข ก่อนกลับอย่าลืมไปเช็กอินที่ “บ้านฮอลันดา” ซึ่งเคยเป็นหมู่บ้านของชาวดัตช์ หรือเนเธอร์แลนด์ ที่เข้ามาอาศัยและทำการค้าขายในสมัยอยุธยาเช่นกัน ที่นี่มีการจัดแสดงเรือสำเภาจำลอง ตัวอย่างสินค้าที่หาชมได้ยาก เช่น หนังปลากระเบนที่ใช้ทำด้ามจับดาบซามูไร หนังกวางที่ใช้ทำชิ้นส่วนชุดเกราะนักรบ และมีกล้องส่องทางไกล ที่มีกิมมิกคือส่องแล้วจะเห็นอาคารสถานีการค้าจำลองในสมัยอยุธยา ซ้อนทับกันกับภาพวิวจริงๆ ของบ้านฮอลันดา รู้สึกเหมือนได้เดินทางย้อนเวลาเลยทีเดียว

ประเทศไทยมีสถานที่ท่องเที่ยวใหม่ๆ ที่น่าสนใจมากมาย รอให้เราออกไปตะลุยกัน ระหว่างนี้ก็เที่ยวหน้าจอ รอไวรัสหมด แพลนไว้ก่อน แล้วค่อยเที่ยววันหลัง ตอนที่สถานการณ์ดีขึ้นแล้วก็ได้เนอะ แอบกระซิบว่าสถานที่ท่องเที่ยวทั้งหมดที่เราชวนไปเที่ยวกันในโพสต์นี้ สามารถเข้าชมได้ฟรี เพียงแค่มีบัตร “Thailand Museum Pass” พรีเมียมการ์ดใบแรกของเมืองไทย ที่ทำให้เราได้เที่ยวพิพิธภัณฑ์ฟรี 64 แห่งทั่วประเทศ แถมมีสิทธิประโยชน์ต่างๆ เช่น ที่จอดรถฟรี เวลคัมดริงก์ ของที่ระลึก สิทธิพิเศษของมัคคุเทศก์เพื่อนำเที่ยวชมฟรี ฯลฯ พร้อมส่วนลดอาหารและเครื่องดื่มจากร้านค้าชั้นนำ รวมมูลค่ากว่า 4,000 บาท ในราคาบัตรเพียง 299 บาทเท่านั้น ติดตามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ Thailand Museum Pass
เรื่อง : อรวรรณ เหม่นแหลม

กำลังโหลดความคิดเห็น