เปิดเส้นทางว่ายน้ำ 12 เกาะ สุราษฎร์-สมุย หลังหนุ่ม “โตโน่-ภาคิน” ทำดีที่สุดแล้ว พิชิตได้ถึงเกาะที่ 9 ก่อนจำเป็นต้องยกเลิกภารกิจชั่วคราว หลังมีประกาศ พ.ร.ก. ฉุกเฉิน ขอบคุณน้ำใจคนไทยที่ร่วมบริจาคมากกว่า 2.4 ล้าน เชื่อคงได้พบกันใหม่
“โครงการ ONE MAN & THE SEA หนึ่งคนว่าย หลายคนช่วย” ถือเป็นอีกหนึ่งโครงการดี ๆ ที่ต้องการปลุกจิตสำนึกให้คนไทยเห็นถึงความสำคัญของระบบนิเวศทางทะเล ลงมือช่วยกันอนุรักษ์ทรัพยากรธรรมชาติทางทะเล
โครงการนี้นำทีมโดย “โตโน่-ภาคิน คำวิลัยศักดิ์” กัปตันโครงการกับภารกิจว่ายน้ำข้าม 12 เกาะ สุราษฎร์ธานี-สมุย รวมระยะทาง 82 กม. ตั้งแต่วันที่ 19 มี.ค. - 5 เม.ย. 63 โดยระหว่างว่ายน้ำได้เปิดให้ผู้สนใจร่วมบริจาคเพื่อสมทบทุนจัดซื้ออุปกรณ์การแพทย์และเครื่องมือแพทย์ให้แก่สัตว์ทะเลและโรงพยาบาลริมชายฝั่ง
อย่างไรก็ดี เนื่องจากสถานการณ์วิกฤตของไวรัสโควิด-19 ที่เขย่าโลกอยู่ในปัจจุบัน ทำให้รัฐบาลจำเป็นต้องประกาศ พ.ร.ก. การบริหารราชการในสถานการณ์ฉุกเฉิน พ.ศ.2548 หรือ พ.ร.ก. ฉุกเฉิน ทำให้โตโน่กัปตันโครงการออกมาประกาศว่าขอหยุดพัก “โครงการ ONE MAN & THE SEA หนึ่งคนว่าย หลายคนช่วย” ไว้ชั่วคราว เพื่อขอเป็นส่วนหนึ่งในการปฏิบัติตามกฎระเบียบเพื่อช่วยประเทศฝ่าวิกฤตในครั้งนี้
สำหรับเส้นทางว่ายน้ำสุราษฎร์ – สมุย ของโตโน่ เดิมกำหนดไว้ในระหว่างวันที่ 19 มี.ค. - 5 เม.ย. 63 โดยเริ่มต้นจากจ.สุราษฎร์ธานี บริเวณท่าเรือดอนสัก จากนั้นว่ายข้ามพิชิต 12 เกาะ ได้แก่
1.เกาะริกัน, 2.เกาะนกเภา, 3.เกาะเหยี่ยว, 4.เกาะกา, 5.เกาะส้ม, 6.เกาะวัวตัวจิ๋ว, 7.เกาะเชือก, 8.เกาะทะลุ, 9. เกาะพะลวย, 10.เกาะค่างทัก, 11.เกาะมดแดง และ 12.เกาะสมุย จุดหมายของโครงการ ONE MAN & THE SEA หนึ่งคนว่าย หลายคนช่วย ที่บริเวณฐานทัพเรือ เกาะสมุย
อย่างไรก็ดีหลังรัฐบาลประกาศออก พ.ร.ก. ฉุกเฉิน โดยเริ่มบังคับใช้ตั้งแต่วันที่ 26 มี.ค. 63 ทำให้ภารกิจว่ายน้ำของโตโน่ต้องหยุดลง ที่อ่าวเทียน (ทะเลแหวก) เกาะพะลวย (เกาะที่ 9) โดยทำระยะทางได้ทั้งสิ้น 27 กิโลเมตร และมียอดบริจาคจากพี่น้องคนไทยที่เห็นความสำคัญของท้องทะเลและสัตว์ทะเลอยู่ที่ 2,463,077 บาท
เกาะพะลวย ตั้งอยู่ในพื้นที่อำเภอเกาะสมุย เป็นแหล่งท่องเที่ยวที่น่าสนใจแห่งหนึ่งของเมืองหอยใหญ่
บนเกาะพะลวยมีประชากรอาศัยอยู่ประมาณ 200 ครัวเรือน ชาวบ้านส่วนใหญ่มีอาชีพหลักคือประมง นักท่องเที่ยวที่มาเยือนเกาะเล็ก ๆ แห่งนี้จะได้สัมผัสความสวยงามและความอุดมสมบูรณ์ของท้องทะเลผ่านสถานที่ท่องเที่ยวภายในเกาะ เช่น ถ้ำสามบ่อ ถ้ำขนาดใหญ่ที่มีธารน้ำจืดไหลมาจากหุบเขา, หาดสองพี่- น้อง, หาดตาโย, หาดสน และอ่าวเทียน ทะเลแหวกเกาะพะลวย เป็นต้น
นอกจากนี้เกาะพะลวยยังมีความพิเศษแตกต่างจากเกาะอื่น ๆ คือ เกาะแห่งนี้ได้รับการคัดเลือกจากกระทรวงพลังงานให้เป็น “เกาะต้นแบบพลังงานสะอาด” หรือ “Green Island” แห่งแรกของประเทศไทย
บนเกาะพะลวยมีกังหันลมผลิตกระแสไฟฟ้าสำหรับใช้บนเกาะ รวมทั้งมีศูนย์การเรียนรู้สิ่งแวดล้อมและพลังานสะอาด ซึ่งสร้างสรรค์ขึ้นจากอาคารไม้ทรงเดิม เน้นนำแสงธรรมชาติมาใช้ ผ่านช่องทางกระจก โดยพลังงานบางส่วนจะมาจากแผ่นโซล่าเซลล์ ซึ่งระดับแสงสว่างจากภายนอกที่ส่องผ่านเข้ามาภายในตัวนิทรรศการได้รับการคำนวณแล้วว่าเพียงพอต่อการเยี่ยมชมนิทรรศการ จึงไม่จำเป็นต้องสิ้นเปลืองต่อการใช้แสงประดิษฐ์ ทำให้ตัวอาคารมีความเป็นมิตรกับสภาพแวดล้อม
ขณะที่วัสดุที่นำมาใช้ในการสร้างสรรค์นิทรรศการล้วนเป็นวันสดุ Reuse และ Recycle เช่น เศษเหล็กเนื้อดี, เส้นใยเหลือทิ้งจากภาคเกษตรกรรม, ยางรถยนต์ผสมเศษวัสดุจากหาดทราย, เส้นด้าย รวมถึงกล่องบรรจุภัณฑ์ที่เหลือทิ้ง
สำหรับโตโน่หลังว่ายน้ำมาพิชิตเกาะพะลวย เกาะสุดท้ายของภารกิจ เขาก็ได้พบกับน้อง ๆ บนเกาะพะลวย พร้อมพูดคุยและสอนวิธีการคัดแยกขยะให้ถูกวิธี เพื่อปลูกจิตสำนึกให้เยาวชนร่วมกันรักษาทรัพยากรธรรมชาติ และเห็นความสำคัญของท้องทะเล รวมทั้งมอบทุนการศึกษาจำนวนเงิน 50,000 บาท พร้อมอุปกรณ์กีฬา และถังขยะให้แก่น้อง ๆ
“วันนี้เป็นวันที่ 6 ของการว่ายน้ำข้าม 12 เกาะ ในฐานะกัปตันโครงการต้องตัดสินใจหยุดพักโครงการชั่วคราว เพื่อให้ทุกคนได้มีส่วนช่วยประเทศและโลกในการฝ่าวิกฤติสถานการณ์ที่เกิดขึ้นในตอนนี้ พร้อมขอขอบคุณเพื่อนดารา และคนไทยทุกคนที่ร่วมส่งพลังใจและน้ำใจในการบริจาคเงินสมทบทุนซื้ออุปกรณ์การแพทย์และเครื่องมือแพทย์ให้แก่สัตว์ทะเลและโรงพยาบาลริมชายฝั่ง ซึ่งอย่างไรก็ตาม แม้ว่าโครงการONE MAN & THE SEA หนึ่งคนว่าย หลายคนช่วยจะต้องหยุดพักชั่วคราว แต่ทุกคนทำอย่างเต็มที่ และเชื่อว่าเราจะได้เจอกันใหม่ พร้อมดีใจที่ใน 6 วันที่ผ่านมา ทำให้หลาย ๆ คนยิ้มได้ ท่ามกลางสถาการณ์ในปัจจุบัน พร้อมเน้นย้ำฝากให้คนไทยร่วมมือกันรักษาสิ่งแวดล้อม คัดแยกขยะให้ถูกวิธี รวมถึงลดการใช้พลาสติก และเห็นความสำคัญของสัตว์ทะเล”
โตโน่กล่าวทิ้งท้าย หลังจำเป็นต้องหยุดภารกิจว่ายน้ำพิชิต 12 เกาะไว้ชั่วคราว พร้อมขอบคุณคนไทยทุกคนที่ร่วมส่งน้ำใจ และเห็นความสำคัญของสัตว์ทะเลที่รอคอยความหวัง
***************************************************
ผู้สนใจสามารถร่วมเป็นส่วนหนึ่งในการช่วยเหลือสัตว์ทะเลในการซื้ออุปกรณ์และเครื่องมือแพทย์ ผ่านทางบัญชีธนาคารไทยพาณิชย์ สาขาเพชรบุรีตัดใหม่ ชื่อบัญชี: มูลนิธิบูรณะชนบทแห่งประเทศไทยฯ เพื่อโครงการเทใจ (TRRM FOR TAEJAI) เลขบัญชี 043-272833-9 หรือ พิมพ์ T ส่งมาที่ 4545909 (ทุกเครือข่าย) โดยสามารถส่งหลักฐานการบริจาค เพื่อขอลดหน่อยภาษีได้ที่ Line @taejaidotcom และสามารถติดตามและให้กำลังใจโตโน่ พร้อมรับชมการว่ายน้ำตลอดกิจกรรมผ่านการ Live สดทาง Facebook แฟนเพจ เก็บรักษ์ รวมถึงติดตามรายละเอียดของโครงการได้ทาง Facebook แฟนเพจ เก็บรักษ์ และทาง Instagram @kebruksociety
