Youtube :Travel MGR
ในสถานการณ์ที่โควิด-19 กำลังระบาดอย่างหนัก แน่นอนว่าส่งผลกระทบกับทุกๆ คน ทั้งในด้านการใช้ชีวิตประจำวัน อาหารการกิน การงานอาชีพ แต่สำหรับในช่วงแรกๆ ที่ยังไม่ค่อยระบาดในประเทศไทย คนกลุ่มหนึ่งที่ได้รับผลกระทบก่อนก็คือ กลุ่มธุรกิจท่องเที่ยวและโรงแรม เนื่องจากนักท่องเที่ยวต่างชาติเดินทางเข้ามาในประเทศไทยลดลง
มาถึงวันนี้ โรงแรมบางแห่งก็ปรับเปลี่ยนตัวเองไปตามสถานการณ์ เมื่อไม่มีนักท่องเที่ยวและผู้เข้าพักที่โรงแรม จึงมีแนวคิดที่จะเปลี่ยนห้องว่างๆ ให้มีประโยชน์มากขึ้น บางแห่งก็เปิดให้เป็นที่พักของผู้ป่วยอาการไม่รุนแรง บางแห่งก็เปิดให้บุคลากรทางการแพทย์เข้าพักฟรี ถือว่าตอนนี้เป็นช่วงที่ต่างก็ร่วมมือร่วมใจกัน ใครมีความสามารถหรือมีทรัพยากรด้านไหนก็แบ่งปันกันและกัน เพื่อให้ทุกคนผ่านพ้นวิกฤติครั้งนี้ไปได้
เปลี่ยนโรงแรมเป็นที่พักผู้ป่วย
เนื่องจากเตียงในโรงพยาบาลมีจำกัด ไม่เพียงพอต่อการรองรับผู้ป่วยโควิด-19 ทุกคน ต้องสงวนไว้สำหรับผู้ป่วยที่มีอาการรุนแรงจริงๆ ส่วนผู้ป่วยที่มีอาการไม่รุนแรงนัก อาจจะไม่จำเป็นต้องนอนโรงพยาบาล แต่ก็ยังต้องติดตามอาการอย่างใกล้ชิด การมีสถานที่สำหรับรองรับผู้ป่วยในกลุ่มนี้จึงเป็นทางออกที่ดีที่สุด
ขณะนี้มีโรงแรมหลายแห่งที่ได้รับการประสานงานจากกระทรวงสาธารณสุข ให้เป็นสถานที่รองรับผู้ป่วยกลุ่มที่มีอาการไม่รุนแรง รวมถึงมีโรงแรมอีกหลายแห่งที่เสนอตัวพร้อมเปิดพื้นที่รองรับผู้ป่วยกลุ่มนี้ เริ่มจากที่ “โรงแรมปัญจดารา” จ.นครราชสีมา โดย นายสมชัย ฉัตรพัฒนศิริ เจ้าของโรงแรมปัญจดารา ได้แจ้งผ่านเฟสบุคส่วนตัวเมื่อวันที่ 19 มี.ค.63 ว่าพร้อมเปิดโรงแรมให้เป็นโรงพยาบาลสนาม
โดยภายหลังจากนั้น ได้มีการประชุมหารือกับหน่วยงานด้านสาธารณสุขถึงการเตรียมพร้อมเพื่อใช้เป็นโรงพยาบาลสนาม ซึ่งขณะนี้ทางโรงแรมประกาศปิดให้บริการห้องพักสำหรับบุคคลทั่วไปชั่วคราวตั้งแต่บัดนี้เป็นต้นไป เพื่อปรับพื้นที่ให้เป็นโรงพยาบาลสนาม
หลังจากการสำรวจพื้นที่โรงแรม พบว่าโรงแรมแห่งนี้มีการแยกตัวอาคารออกจากชุมชนอย่างชัดเจน มีความเหมาะสมที่จะเป็นสถานที่กักตัวหรือโรงพยาบาลสนามได้ และสามารถดำเนินการได้ตั้งแต่บัดนี้เป็นต้นไป โดยแนวทางการใช้พื้นที่โรงแรม กระทรวงสาธารณสุขจะใช้ประโยชน์ในสามส่วน คือ เป็นที่พักของแพทย์และบุคลากรทางการแพทย์ ที่ดูแลผู้ป่วยติดเชื้อโควิด-19 ซึ่งมีความจำเป็นที่จะต้องแยกตัวออกจากครอบครัว โดยจะกันพื้นที่บริเวณชั้น 3 ทั้งหมดให้เป็นที่พักของแพทย์ พยาบาล และบุคลากรทางการแพทย์ของโรงพยาบาลต่างๆ
ส่วนที่สอง จะใช้พื้นที่ห้องพักโรงแรม เป็นสถานที่กักตัวผู้ที่มีความเสี่ยงสูงในการสัมผัสกับผู้ป่วยติดเชื้อโควิด-19 ซึ่งจะต้องเข้าข่ายในการกักตัว 14 วัน ส่วนที่สาม ใช้เป็นที่พักของผู้ป่วยที่ต้องนอนรอผลการตรวจเชื้อจากห้องปฏิบัติการ ซึ่งหากห้องปฏิบัติการระบุไม่ติดเชื้อ ก็เดินทางกลับบ้านได้ ฉะนั้นโรงพยาบาลสนามแห่งนี้จึงเป็นเฉพาะพื้นที่กักกัน ส่วนผู้ป่วยอาการหนักจะพักรักษาตัวที่ รพ.มหาราชเท่านั้น นอกจากนี้หากสถานการณ์การระบาดรุนแรงขึ้น รพ.รับไม่ไหวหรืออาจจะมีผู้ติดเชื้อมากก็อาจจะใช้เป็นที่พักรักษาตัวผู้ป่วยด้วย
ทั้งนี้ในรายละเอียดต่างๆ เรื่องการบริหารจัดการ เช่น การดูแล การซักผ้าที่ติดเชื้อ การบริการอาหารให้แก่ผู้ที่มากักตัว 14 วัน จะต้องจะพูดคุยในรายละเอียดอีกครั้ง ผู้ที่เป็นกลุ่มเสี่ยงที่ต้องกักตัวสามารถติดต่อเข้ามาได้ทั้งที่โรงแรมและสาธารณสุขจังหวัดนครราชสีมา.โดยนายสมชัย แจ้งว่า ผู้ที่ถูกส่งตัวมาจากทางสาธารณสุขจะมีการพูดคุยกันในรายละเอียดเรื่องของค่าใช้จ่าย เบื้องต้นสำหรับกลุ่มนักธุรกิจหรือผู้ที่ติดต่อผ่านทางโรงแรมเพื่อขอเข้ามากักตัวเองเป็นเวลา 14 วันนั้น จะคิดค่าใช้จ่ายวันละ 900 บาท โดยมีอาหาร 3 มื้อ แต่มีข้อแม้ว่า ผู้ที่กักตัวหรือเป็นกลุ่มเสี่ยง จะต้องอยู่ในห้องพักเท่านั้น และต้องดูแลตัวเอง ไม่ทำตัวให้เป็นผู้แพร่เชื้อต่อบุคคลอื่น และ การบริการอาหารและน้ำดื่มจะมีการแยกให้บริการเป็นรายบุคคลในห้องพัก เพื่อป้องกันการแพร่เชื้อ ส่วนภาชนะที่ใส่อาหารจะนำไปทำลายโดยวิธีทางการแพทย์เพื่อไม่ให้เป็นการแพร่เชื้อได้
นอกจากโรงแรมปัญจดารา ยังมีโรงแรมอีกหลายแห่งที่แจ้งความประสงค์ว่าพร้อมเปิดให้โรงพยาบาลสนามเพื่อแก้ปัญหาการแพร่ระบาดของโควิด-19 อาทิ “โรงแรมศรีพัฒนา” อ.เมือง จ.นครราชสีมา พร้อมเปิดห้องพักทั้ง 183 ห้องเพื่อดูแลผู้ป่วย “โรงแรมเดอะ โบนันซ่า เขาใหญ่” อ.ปากช่อง จ.นครราชสีมา พร้อมเปลี่ยนโรงแรมให้เป็นโรงพยาบาลสนาม “โรงแรมอัศวรรณ” อ.เมือง จ.หนองคาย พร้อมเปิดให้เป็นโรงพยาบาลสนาม โดยขณะนี้เปิดให้แพทย์ พยาบาล และบุคลากรทางการแพทย์เข้าพักได้ โดยมีหนังสือยืนยันจากโรงพยาบาลหนองคาย หรือสาธารณสุขจังหวัดหนองคายมาลงทะเบียนพัก
ส่วนที่ จ.ภูเก็ต มีผู้ประกอบการโรงแรมภูเก็ตจำนวน 4 ราย เสนอตัวให้ใช้โรงแรมเป็นสถานที่กักตัวในกลุ่มผู้เข้าข่ายติดเชื้อ ซึ่งมีห้องพักประมาณ 400-500 ห้อง ส่วนการปรับพื้นที่เป็นโรงพยาบาลสนาม จะใช้อาคารหอประชุมจังหวัดภูเก็ต ปรับปรุงมาเป็นโรงพยาบาลสนาม สำหรับผู้ป่วยที่ติดเชื้อและได้รับการรักษาจนอาการดีขึ้น สามารถดูแลตนเองได้แล้ว จะให้พักรักษาตัวจนกว่าจะหายดี ตรวจไม่พบเชื้อ เพื่อป้องกันการแพร่เชื้อเพิ่มไปยังจุดอื่น
ซึ่งนอกจากจะมีการเตรียมพื้นที่โรงแรมให้เป็นสถานที่รองรับผู้ป่วยแล้ว ยังมีการใช้ “อาคารดีลักซ์ ธรรมศาสตร์” หรือ อาคารหอพักเอเชียนเกมส์ ในพื้นที่ของมหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ รังสิต เพื่อให้เป็นโรงพยาบาลสนาม รองรับผู้ป่วยโควิด-19 มีการปรับปรุงห้องพัก วางระบบกล้องวงจรปิดใหม่ทั้งอาคาร เพื่อใช้ติดตามอาการของผู้ป่วย โดยจะรับผู้ป่วยหลังจากเข้ารับการสังเกตอาการ 48-72 ชั่วโมงในโรงพยาบาล แล้วมีอาการไม่รุ่นแรง นำมาพักรักษาตัวและติดตามอาการต่อจนกว่าจะไม่พบเชื้อแล้ว ทั้งนี้ พร้อมจะเปิดใช้ในวันที่ 25 มีนาคม 2563
เปิดที่พักให้บุคลากรทางการแพทย์พักฟรี
นอกจากโรงแรมขนาดใหญ่ที่พร้อมจะเปิดเป็นโรงพยาบาลสนาม ยังมีที่พักขนาดเล็กๆ ที่ร่วมให้กำลังใจและสนับสนุนการปฏิบัติงานของแพทย์ พยาบาล และบุคลากรทางการแพทย์ โดยเปิดห้องพักเพื่อให้บริการบุคลากรทางการแพทย์โดยไม่คิดค่าใช้จ่าย
สำหรับที่ “The Quarter Residence” ที่ตั้งอยู่ในย่านพญาไท ประกาศผ่านเฟสบุคว่าจะเปิดให้บริการแก่บุคลากรทางการแพทย์เข้าพักฟรี
“พวกเราขอเป็นอีกแรงเล็กๆ ที่เราพอจะช่วยสังคมได้ในเวลานี้ เพื่ออำนวยความสะดวกและความสบายให้บุคลากรทางการแพทย์ที่กำลังเหนื่อยต่อสู้กับวิกฤต COVID-19 เราขอปิดโรงแรม The Quarter Residence ชั่วคราวเพื่อให้บริการที่พักสำหรับหมอ พยาบาล และบุคลากรทางการแพทย์โดยไม่มีค่าใช้จ่าย
The Quarter Residence เป็นที่พักขนาดเล็ก (4 ห้อง 15 เตียง) อยู่ ห่างจาก BTS พญาไท 150 เมตร
ขอเปิดห้องพักให้บุคลากรทางการแพทย์จากโรงพยาบาลใกล้เคียงเพื่อมาอาบน้ำ มานอนพัก จะได้ไม่ต้องเหนื่อยเดินทางไกลกลับบ้าน โรงพยาบาลใกล้เคียงที่มาสะดวกจะเป็น รพ.ราชวิถี รพ.พญาไท รพ.มิชชั่น รพ.พระมงกุฏฯ รพ.ตำรวจ”
โดยต้องจองห้องพักล่วงหน้าอย่างน้อย 24 ชั่วโมง และพักได้สูงสุด 48 ชั่วโมง ใช้เอกสารในการลงทะเบียนเข้าพักคือ บัตรประชาชน และบัตรประจำตัวจากโรงพยาบาลต้นสังกัด
ส่วนที่ “Rabbitat Hostel” ก็เปิดให้บุคลากรทางการแพทย์เข้าพักฟรีเช่นกัน โดยแจ้งผ่านเฟสบุคว่า “จากสถานการณ์การระบาดโรคไวรัสโคโรน่าสายพันธุ์ใหม่ (Covid-19) ทางผู้บริหาร Rabbitat Hostel ขอร่วมเป็นส่วนหนึ่งในการช่วยเหลือ หมอ พยาบาล และเจ้าหน้าที่ทางการแพทย์ในหน่วยงานที่เกี่ยวข้องกับการดูแลกรณีการระบาดของโรค Covid-19 โดยเปิดให้บริการที่พัก โดยไม่เสียค่าใช้จ่ายใดๆ”
ทั้งหมดนี้เป็นเพียงส่วนหนึ่งของผู้ประกอบการโรงแรม-ที่พัก ที่พร้อมให้ความร่วมมือ และเสียสละเพื่อช่วยรับมีกับวิกฤติโรคระบาดครั้งนี้ เชื่อว่าหากคนในสังคมทุกภาคส่วนร่วมมือกัน ก็จะสามารถผ่านพ้นเหตุการณ์นี้ไปได้อย่างตลอดรอดฝั่ง
สามารถส่งข้อมูลข่าวสารด้านการท่องเที่ยว-อาหารมาได้ที่ กอง บก.ข่าวท่องเที่ยว แฟกซ์ 0-2629-4467 อีเมล์ travel_astvmgr@hotmail.com หรือติดตามเพิ่มเติมได้ที่ Facebook :Travel @ Manager
ชมคลิปต่าง ๆ ได้ที่ Travel MGR
ในสถานการณ์ที่โควิด-19 กำลังระบาดอย่างหนัก แน่นอนว่าส่งผลกระทบกับทุกๆ คน ทั้งในด้านการใช้ชีวิตประจำวัน อาหารการกิน การงานอาชีพ แต่สำหรับในช่วงแรกๆ ที่ยังไม่ค่อยระบาดในประเทศไทย คนกลุ่มหนึ่งที่ได้รับผลกระทบก่อนก็คือ กลุ่มธุรกิจท่องเที่ยวและโรงแรม เนื่องจากนักท่องเที่ยวต่างชาติเดินทางเข้ามาในประเทศไทยลดลง
มาถึงวันนี้ โรงแรมบางแห่งก็ปรับเปลี่ยนตัวเองไปตามสถานการณ์ เมื่อไม่มีนักท่องเที่ยวและผู้เข้าพักที่โรงแรม จึงมีแนวคิดที่จะเปลี่ยนห้องว่างๆ ให้มีประโยชน์มากขึ้น บางแห่งก็เปิดให้เป็นที่พักของผู้ป่วยอาการไม่รุนแรง บางแห่งก็เปิดให้บุคลากรทางการแพทย์เข้าพักฟรี ถือว่าตอนนี้เป็นช่วงที่ต่างก็ร่วมมือร่วมใจกัน ใครมีความสามารถหรือมีทรัพยากรด้านไหนก็แบ่งปันกันและกัน เพื่อให้ทุกคนผ่านพ้นวิกฤติครั้งนี้ไปได้
เปลี่ยนโรงแรมเป็นที่พักผู้ป่วย
เนื่องจากเตียงในโรงพยาบาลมีจำกัด ไม่เพียงพอต่อการรองรับผู้ป่วยโควิด-19 ทุกคน ต้องสงวนไว้สำหรับผู้ป่วยที่มีอาการรุนแรงจริงๆ ส่วนผู้ป่วยที่มีอาการไม่รุนแรงนัก อาจจะไม่จำเป็นต้องนอนโรงพยาบาล แต่ก็ยังต้องติดตามอาการอย่างใกล้ชิด การมีสถานที่สำหรับรองรับผู้ป่วยในกลุ่มนี้จึงเป็นทางออกที่ดีที่สุด
ขณะนี้มีโรงแรมหลายแห่งที่ได้รับการประสานงานจากกระทรวงสาธารณสุข ให้เป็นสถานที่รองรับผู้ป่วยกลุ่มที่มีอาการไม่รุนแรง รวมถึงมีโรงแรมอีกหลายแห่งที่เสนอตัวพร้อมเปิดพื้นที่รองรับผู้ป่วยกลุ่มนี้ เริ่มจากที่ “โรงแรมปัญจดารา” จ.นครราชสีมา โดย นายสมชัย ฉัตรพัฒนศิริ เจ้าของโรงแรมปัญจดารา ได้แจ้งผ่านเฟสบุคส่วนตัวเมื่อวันที่ 19 มี.ค.63 ว่าพร้อมเปิดโรงแรมให้เป็นโรงพยาบาลสนาม
โดยภายหลังจากนั้น ได้มีการประชุมหารือกับหน่วยงานด้านสาธารณสุขถึงการเตรียมพร้อมเพื่อใช้เป็นโรงพยาบาลสนาม ซึ่งขณะนี้ทางโรงแรมประกาศปิดให้บริการห้องพักสำหรับบุคคลทั่วไปชั่วคราวตั้งแต่บัดนี้เป็นต้นไป เพื่อปรับพื้นที่ให้เป็นโรงพยาบาลสนาม
หลังจากการสำรวจพื้นที่โรงแรม พบว่าโรงแรมแห่งนี้มีการแยกตัวอาคารออกจากชุมชนอย่างชัดเจน มีความเหมาะสมที่จะเป็นสถานที่กักตัวหรือโรงพยาบาลสนามได้ และสามารถดำเนินการได้ตั้งแต่บัดนี้เป็นต้นไป โดยแนวทางการใช้พื้นที่โรงแรม กระทรวงสาธารณสุขจะใช้ประโยชน์ในสามส่วน คือ เป็นที่พักของแพทย์และบุคลากรทางการแพทย์ ที่ดูแลผู้ป่วยติดเชื้อโควิด-19 ซึ่งมีความจำเป็นที่จะต้องแยกตัวออกจากครอบครัว โดยจะกันพื้นที่บริเวณชั้น 3 ทั้งหมดให้เป็นที่พักของแพทย์ พยาบาล และบุคลากรทางการแพทย์ของโรงพยาบาลต่างๆ
ส่วนที่สอง จะใช้พื้นที่ห้องพักโรงแรม เป็นสถานที่กักตัวผู้ที่มีความเสี่ยงสูงในการสัมผัสกับผู้ป่วยติดเชื้อโควิด-19 ซึ่งจะต้องเข้าข่ายในการกักตัว 14 วัน ส่วนที่สาม ใช้เป็นที่พักของผู้ป่วยที่ต้องนอนรอผลการตรวจเชื้อจากห้องปฏิบัติการ ซึ่งหากห้องปฏิบัติการระบุไม่ติดเชื้อ ก็เดินทางกลับบ้านได้ ฉะนั้นโรงพยาบาลสนามแห่งนี้จึงเป็นเฉพาะพื้นที่กักกัน ส่วนผู้ป่วยอาการหนักจะพักรักษาตัวที่ รพ.มหาราชเท่านั้น นอกจากนี้หากสถานการณ์การระบาดรุนแรงขึ้น รพ.รับไม่ไหวหรืออาจจะมีผู้ติดเชื้อมากก็อาจจะใช้เป็นที่พักรักษาตัวผู้ป่วยด้วย
ทั้งนี้ในรายละเอียดต่างๆ เรื่องการบริหารจัดการ เช่น การดูแล การซักผ้าที่ติดเชื้อ การบริการอาหารให้แก่ผู้ที่มากักตัว 14 วัน จะต้องจะพูดคุยในรายละเอียดอีกครั้ง ผู้ที่เป็นกลุ่มเสี่ยงที่ต้องกักตัวสามารถติดต่อเข้ามาได้ทั้งที่โรงแรมและสาธารณสุขจังหวัดนครราชสีมา.โดยนายสมชัย แจ้งว่า ผู้ที่ถูกส่งตัวมาจากทางสาธารณสุขจะมีการพูดคุยกันในรายละเอียดเรื่องของค่าใช้จ่าย เบื้องต้นสำหรับกลุ่มนักธุรกิจหรือผู้ที่ติดต่อผ่านทางโรงแรมเพื่อขอเข้ามากักตัวเองเป็นเวลา 14 วันนั้น จะคิดค่าใช้จ่ายวันละ 900 บาท โดยมีอาหาร 3 มื้อ แต่มีข้อแม้ว่า ผู้ที่กักตัวหรือเป็นกลุ่มเสี่ยง จะต้องอยู่ในห้องพักเท่านั้น และต้องดูแลตัวเอง ไม่ทำตัวให้เป็นผู้แพร่เชื้อต่อบุคคลอื่น และ การบริการอาหารและน้ำดื่มจะมีการแยกให้บริการเป็นรายบุคคลในห้องพัก เพื่อป้องกันการแพร่เชื้อ ส่วนภาชนะที่ใส่อาหารจะนำไปทำลายโดยวิธีทางการแพทย์เพื่อไม่ให้เป็นการแพร่เชื้อได้
นอกจากโรงแรมปัญจดารา ยังมีโรงแรมอีกหลายแห่งที่แจ้งความประสงค์ว่าพร้อมเปิดให้โรงพยาบาลสนามเพื่อแก้ปัญหาการแพร่ระบาดของโควิด-19 อาทิ “โรงแรมศรีพัฒนา” อ.เมือง จ.นครราชสีมา พร้อมเปิดห้องพักทั้ง 183 ห้องเพื่อดูแลผู้ป่วย “โรงแรมเดอะ โบนันซ่า เขาใหญ่” อ.ปากช่อง จ.นครราชสีมา พร้อมเปลี่ยนโรงแรมให้เป็นโรงพยาบาลสนาม “โรงแรมอัศวรรณ” อ.เมือง จ.หนองคาย พร้อมเปิดให้เป็นโรงพยาบาลสนาม โดยขณะนี้เปิดให้แพทย์ พยาบาล และบุคลากรทางการแพทย์เข้าพักได้ โดยมีหนังสือยืนยันจากโรงพยาบาลหนองคาย หรือสาธารณสุขจังหวัดหนองคายมาลงทะเบียนพัก
ส่วนที่ จ.ภูเก็ต มีผู้ประกอบการโรงแรมภูเก็ตจำนวน 4 ราย เสนอตัวให้ใช้โรงแรมเป็นสถานที่กักตัวในกลุ่มผู้เข้าข่ายติดเชื้อ ซึ่งมีห้องพักประมาณ 400-500 ห้อง ส่วนการปรับพื้นที่เป็นโรงพยาบาลสนาม จะใช้อาคารหอประชุมจังหวัดภูเก็ต ปรับปรุงมาเป็นโรงพยาบาลสนาม สำหรับผู้ป่วยที่ติดเชื้อและได้รับการรักษาจนอาการดีขึ้น สามารถดูแลตนเองได้แล้ว จะให้พักรักษาตัวจนกว่าจะหายดี ตรวจไม่พบเชื้อ เพื่อป้องกันการแพร่เชื้อเพิ่มไปยังจุดอื่น
ซึ่งนอกจากจะมีการเตรียมพื้นที่โรงแรมให้เป็นสถานที่รองรับผู้ป่วยแล้ว ยังมีการใช้ “อาคารดีลักซ์ ธรรมศาสตร์” หรือ อาคารหอพักเอเชียนเกมส์ ในพื้นที่ของมหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ รังสิต เพื่อให้เป็นโรงพยาบาลสนาม รองรับผู้ป่วยโควิด-19 มีการปรับปรุงห้องพัก วางระบบกล้องวงจรปิดใหม่ทั้งอาคาร เพื่อใช้ติดตามอาการของผู้ป่วย โดยจะรับผู้ป่วยหลังจากเข้ารับการสังเกตอาการ 48-72 ชั่วโมงในโรงพยาบาล แล้วมีอาการไม่รุ่นแรง นำมาพักรักษาตัวและติดตามอาการต่อจนกว่าจะไม่พบเชื้อแล้ว ทั้งนี้ พร้อมจะเปิดใช้ในวันที่ 25 มีนาคม 2563
เปิดที่พักให้บุคลากรทางการแพทย์พักฟรี
นอกจากโรงแรมขนาดใหญ่ที่พร้อมจะเปิดเป็นโรงพยาบาลสนาม ยังมีที่พักขนาดเล็กๆ ที่ร่วมให้กำลังใจและสนับสนุนการปฏิบัติงานของแพทย์ พยาบาล และบุคลากรทางการแพทย์ โดยเปิดห้องพักเพื่อให้บริการบุคลากรทางการแพทย์โดยไม่คิดค่าใช้จ่าย
สำหรับที่ “The Quarter Residence” ที่ตั้งอยู่ในย่านพญาไท ประกาศผ่านเฟสบุคว่าจะเปิดให้บริการแก่บุคลากรทางการแพทย์เข้าพักฟรี
“พวกเราขอเป็นอีกแรงเล็กๆ ที่เราพอจะช่วยสังคมได้ในเวลานี้ เพื่ออำนวยความสะดวกและความสบายให้บุคลากรทางการแพทย์ที่กำลังเหนื่อยต่อสู้กับวิกฤต COVID-19 เราขอปิดโรงแรม The Quarter Residence ชั่วคราวเพื่อให้บริการที่พักสำหรับหมอ พยาบาล และบุคลากรทางการแพทย์โดยไม่มีค่าใช้จ่าย
The Quarter Residence เป็นที่พักขนาดเล็ก (4 ห้อง 15 เตียง) อยู่ ห่างจาก BTS พญาไท 150 เมตร
ขอเปิดห้องพักให้บุคลากรทางการแพทย์จากโรงพยาบาลใกล้เคียงเพื่อมาอาบน้ำ มานอนพัก จะได้ไม่ต้องเหนื่อยเดินทางไกลกลับบ้าน โรงพยาบาลใกล้เคียงที่มาสะดวกจะเป็น รพ.ราชวิถี รพ.พญาไท รพ.มิชชั่น รพ.พระมงกุฏฯ รพ.ตำรวจ”
โดยต้องจองห้องพักล่วงหน้าอย่างน้อย 24 ชั่วโมง และพักได้สูงสุด 48 ชั่วโมง ใช้เอกสารในการลงทะเบียนเข้าพักคือ บัตรประชาชน และบัตรประจำตัวจากโรงพยาบาลต้นสังกัด
ส่วนที่ “Rabbitat Hostel” ก็เปิดให้บุคลากรทางการแพทย์เข้าพักฟรีเช่นกัน โดยแจ้งผ่านเฟสบุคว่า “จากสถานการณ์การระบาดโรคไวรัสโคโรน่าสายพันธุ์ใหม่ (Covid-19) ทางผู้บริหาร Rabbitat Hostel ขอร่วมเป็นส่วนหนึ่งในการช่วยเหลือ หมอ พยาบาล และเจ้าหน้าที่ทางการแพทย์ในหน่วยงานที่เกี่ยวข้องกับการดูแลกรณีการระบาดของโรค Covid-19 โดยเปิดให้บริการที่พัก โดยไม่เสียค่าใช้จ่ายใดๆ”
ทั้งหมดนี้เป็นเพียงส่วนหนึ่งของผู้ประกอบการโรงแรม-ที่พัก ที่พร้อมให้ความร่วมมือ และเสียสละเพื่อช่วยรับมีกับวิกฤติโรคระบาดครั้งนี้ เชื่อว่าหากคนในสังคมทุกภาคส่วนร่วมมือกัน ก็จะสามารถผ่านพ้นเหตุการณ์นี้ไปได้อย่างตลอดรอดฝั่ง
สามารถส่งข้อมูลข่าวสารด้านการท่องเที่ยว-อาหารมาได้ที่ กอง บก.ข่าวท่องเที่ยว แฟกซ์ 0-2629-4467 อีเมล์ travel_astvmgr@hotmail.com หรือติดตามเพิ่มเติมได้ที่ Facebook :Travel @ Manager
ชมคลิปต่าง ๆ ได้ที่ Travel MGR
