ศูนย์ข่าวนครราชสีมา- “สมชัย ฉัตรพัฒนศิริ” นักการเมืองดังโคราชเจ้าของ รร.ปัญจดารา เปิดใจ! ทำไมผมจึงเตรียมโรงแรมช่วยเหลือทางการใช้เป็น“โรงพยาบาลสนาม” แก้ปัญหาสู้ภัยโควิด-19 ย้ำตลอดชีวิตไม่รู้จักคำว่า “เอาตัวรอด” รู้แต่คำว่า “เราต้องรอด” เผยทำบันทึกช่วยจำ แนวทางปฏิบัติร่วมกับจังหวัดฯแล้ว
วันนี้ ( 20 มี.ค.) ความคืบหน้ากรณี นายสมชัย ฉัตรพัฒนศิริ นักการเมืองชื่อดังโคราช อดีต ส.ส.นครราชสีมาหลายสมัยและเป็นเจ้าของโรงแรมปัญจดารา จ.นครราชสีมา ได้โพสต์ภาพโรงแรมปัญจดารา พร้อมข้อความเตรียมยกโรงแรมให้ทางราชการเปลี่ยนเป็นโรงพยาบาลสนาม (Cohort Ward) ขนาด 500 เตียง เพื่อใช้ในภารกิจรับมือสถานการณ์การแพร่ระบาดโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่ 2019 หรือ โควิด-19 จนกว่าจะแล้วเสร็จ ซึ่งเป็นที่สนใจของผู้คนต่างเข้าไปแสดงความชื่นชมถึงความเสียสละเพื่อสังคม รวมทั้งแสดงความห่วงใยกันเป็นจำนวนมาก นั้น
ล่าสุดวันนี้ นายสมชัย ชัย ฉัตรพัฒนศิริ ได้โพสต์ภาพโรงแรมปัญจดารา พร้อมข้อความในเฟซบุ๊ก “สมชัย ฉัตรพัฒนศิริ” ถึงเหตุผลในการเตรียมมอบโรงแรมให้ทางราชการใช้เป็นโรงพยาบาลสนาม ในภารกิจรองรับสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโควิด-19 ในครั้งนี้
โดยข้อความระบุว่า ทำไมผมจึงต้องเตรียมโรงแรม เพื่อช่วยเหลือทางราชการ?
1.ผมเชื่อว่าหมอและพยาบาลที่กำลังเหน็ดเหนื่อยอยู่ขณะนี้ เหนื่อยทั้งกายและใจ และต้องการกำลังเสริม โดยเฉพาะกำลังใจ ดังนั้นการแสดงเจตนารมณ์ครั้งนี้จึงเป็นการแสดงถึงความร่วมมือความห่วงใยของภาคเอกชนรวมทั้งประชาชน ทุกคนจะมีกำลังใจเพิ่มขึ้น
2.ผมเชื่อว่าโควิด-19 เป็นไข้หวัดสายพันธุ์ใหม่ที่มีฤทธิ์เดชระดับหนึ่ง มาแล้วก็ผ่านไป หมอพยาบาลที่ปฏิบัติงานอยู่ ต่างรู้ดีว่า “ห้องแยก” ที่จะดูแลผู้ป่วยมีไม่เพียงพอ และปัญหานี้จะทำให้การตอบโต้โควิค-19 ด้อยประสิทธิภาพลง ในที่สุดปัญหาจะเพิ่มขึ้นรุนแรงขึ้น
3.ผมเชื่อว่าถ้าหากทางโรงพยาบาล ส่งบุคคลใดมา ที่โรงแรมเพื่อขอใช้ห้อง จะไม่มีทางส่งคนที่มีอาการหนักมารักษา เพราะที่โรงแรม ไม่มีหมอไม่มีพยาบาลไม่มีอุปกรณ์ทางการแพทย์ใดๆ แต่ผมเชื่อว่าห้องแยกคือห้องที่สำคัญที่สุดสำหรับการส่งบุคคลที่ รอฟังผลการตรวจพิสูจน์ว่าติดโควิด-19 หรือไม่?
4.ผมเชื่อว่าหลังจากที่ใช้ห้องแล้ว ทางโรงพยาบาลสามารถทำความสะอาด ฆ่าเชื้อไวรัสเพื่อเตรียมรับคนใหม่เข้ามาใช้อีก และผมยังมั่นใจระบบสาธารณสุข มั่นใจบุคคลากรทางการแพทย์ว่า ห้องของโรงแรมคือ “ห้องแยกที่มีคุณค่า” สามารถช่วยตอบโต้ยับยั้งไวรัสนี้ได้ และโอกาสต่อไปเมื่อผ่านเหตุการณ์นี้ไปแล้ว ก็นำกลับมาใช้บริการลูกค้าได้
5.ผมตระหนักดีว่า ผมมีสังคมเรียงลำดับเป็นขั้นๆ คือสังคมครอบครัว สังคมเพื่อน สังคมธุรกิจ สังคมเมืองและประเทศชาติ ยามใดที่สังคมที่เราอาศัยอยู่มีปัญหา ผมและคนที่แวดล้อมผม ต้องแสดงออกถึงความรัก ที่ต้องมีต่อทุกสังคมและต้องเสียสละเพื่อสังคมนั้น
ตลอดชีวิตผมไม่รู้จักคำว่า “เอาตัวรอด” รู้จักแต่คำว่า “เราต้องรอด” ผมเชื่ออย่างนี้จริงๆ และจะไม่โกรธใครเลยหากมีใครไม่คิดเช่นเดียวกับผม แต่ผมจะเพียงรู้สึกลึกๆว่า.. คนๆ นั้นเขาไม่ใช่คนแวดล้อมผมและผมไม่ควรเสียเวลาไปสั่งสอนเขาหรือต้องอธิบายเหตุผลให้เขาฟัง ประสบการณ์ข้างหน้าของชีวิตของเขาจะสอนและบอกเขาเอง ขอบคุณทุกท่านนะครับหากอ่านมาถึงบรรทัดนี้
อีกทั้งก่อนหน้านี้ เฟซบุ๊ก “สมชัย ฉัตรพัฒนศิริ” ยังได้โพสต์ข้อความและภาพ เป็น “บันทึกช่วยจำ การร่วมมือต่อต้านภัยโควิด-19 โรงแรมปัญจดาราและจังหวัดนครราชสีมา” ซึ่งได้ตกลงแนวทางปฏิบัติการตอบโต้ภาวะฉุกเฉินการระบาดของโควิด-19 ร่วมกัน เมื่อวันที่ 20 มี.ค. 2563 จำนวน 2 ข้อ ประกอบด้วยข้อ 1. ในภาวะปัจจุบัน หากมีผู้มีอาการเข้าข่ายสงสัยเกินศักยภาพรองรับของภาคราชการ โรงแรมปัญจดาราอนุญาตให้ใช้พื้นที่ชั้น 6 สำรองให้กับผู้สงสัยรอพิสูจน์เป็นฟลอร์แรก หากสถานการณ์รุนแรงขึ้นจะมอบให้เพิ่มตามความต้องการ และ 2.ในภาวะที่ทางราชการประกาศการแพร่ระบาดเป็นระยะที่ 3 มีผู้ป่วยเกินศักยภาพรองรับของทางราชการ จะมอบพื้นที่โรงแรมทั้งหมดให้ทางราชการใช้เป็นโรงพยาบาลสนาม
โดยข้อความในโพสต์ระบุว่า “บันทึกช่วยจำ ระหว่างโรงแรมปัญจดาราและจังหวัดนครราชสีมา พบกันแล้ว ภาคเอกชน ภาคราชการ ประสานงาน ต่อต้าน โรคโควิด ระดมสมอง ไตร่ตรอง มองความคิด เป็นนิมิต ที่ยิ่งใหญ่ ให้เมืองไทย สาระสำคัญ คือเหตุการณ์ เกินศักยภาพ ข้อตกลง เรื่องควรทราบ ครั้งยิ่งใหญ่ ความจำเป็น จะเกิดได้ ใช้เมื่อไร? บันทึกไว้ ให้ได้เห็น เน้นร่วมมือ”
