xs
xsm
sm
md
lg

"ลานตะบูน" มหัศจรรย์ดุจเทพนิยายกลางป่าชายเลนเมืองตราด

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์

Youtube :Travel MGR

มหัศจรรย์ลานตะบูนแห่งบ้านท่าระแนะ
ไม่เคยไปเที่ยวป่าชายเลนที่ไหนแล้วตื่นตาตื่นใจเท่ากับเมื่อได้มาที่ “ป่าชายเลนบ้านท่าระแนะ” ต.หนองคันทรง อ.เมือง จ.ตราด

ชุมชนท่าระแนะตั้งอยู่บริเวณปากแม่น้ำตราดที่ไหลออกสู่อ่าวทะเลตราด เป็นพื้นที่ป่าชายเลนกว้างใหญ่นับพันไร่อันแสนอุดมสมบูรณ์จนได้รับรางวัลในฐานะชุมชนต้นแบบที่มีการดูแลทรัพยากรป่าชายเลนดีเป็นอันดับหนึ่งของประเทศเมื่อปี 2556

ในอดีตพื้นที่บริเวณนี้เป็นอ่าวใหญ่ที่มีร่องน้ำลึกที่เรือสำเภาสามารถแล่นเข้ามาจอดเทียบท่าขนส่งสินค้าได้ บ้านท่าระแนะเมื่อก่อนนี้จึงเป็นท่าจอดสำเภาที่พ่อค้าชาวจีนเดินทางผ่านมาซื้อหาสินค้าในท้องถิ่น อาทิ เครื่องเทศและของป่าต่างๆ

นั่งเรือเข้าไปชมยังลานตะบูน

สะพานไม้ทางเดินชมลานตะบูน
ปัจจุบันชาวชุมชนท่าระแนะส่วนใหญ่ประกอบอาชีพประมงพื้นบ้าน และได้เปิดชุมชนเพื่อการท่องเที่ยวมาได้ราว 6 ปี นำโดยนายสายชล สุเนตร ผู้ใหญ่บ้านหมู่ 2 และประธานกลุ่มท่องเที่ยวชุมชนท่าระแนะ ที่พาเราไปรู้จักกับแหล่งท่องเที่ยวในชุมชนที่สวยงามระดับ “อันซีน” ที่ชาวชุมชนเรียกขานกันว่า “มหัศจรรย์ลานตะบูน”

“กิจกรรมไฮไลต์ที่ชุมชนท่าระแนะก็คือการนั่งเรือไปชมป่ามหัศจรรย์ลานตะบูน ซึ่งเป็นต้นไม้ที่อยู่ในป่าชายเลน ต้องนั่งเรือเข้าไปประมาณ 2 กิโลเมตร แล้วจะไปเจอกับลานต้นตะบูนด้านในป่าชายเลนซึ่งเอกลักษณ์ของเขาคือรากที่ลอยอยู่บนดิน ไม่จมอยู่ใต้ดินเหมือนต้นไม้ทั่วไป แต่จะแผ่รากอยู่บนดินโคลนของป่าชายเลนมองเห็นได้อย่างงดงามและมีความร่มรื่น สามารถเดินลงไปชมได้” ผู้ใหญ่สายชล กล่าว

คำว่า “มหัศจรรย์ลานตะบูน” ที่ชาวชุมชนท่าระแนะตั้งฉายาไว้นั้นไม่ได้เกินจากความเป็นจริงเลย เพราะเมื่อลงจากเรือมาพบกับภาพตรงหน้าแล้วก็ต้องบอกว่าน่ามหัศจรรย์จริงๆ ด้วยบรรยากาศร่มครึ้มของป่าชายเลนที่มีต้นตะบูนเก่าแก่ขึ้นอยู่ในระยะที่ห่างกัน แต่รากของแต่ละต้นเลื้อยแผ่กว้างถักทอเป็นคลื่นสานกันอยู่เหนือพื้นดิน กลายเป็น “ลานตะบูน” ที่มองดูแล้วลึกลับราวกับป่าในเทพนิยาย ยิ่งเมื่อแสงแดดส่องทะลุใบไม้หนาลงมาเป็นลำแสงกระทบกับรากตะบูนก็ยิ่งเพิ่มความงดงามมากขึ้นไปอีก

นั่งชิงช้ากลางป่าตะบูน

ใส่ชุดสีสันสดใสไปถ่ายภาพจะเหมาะที่สุด
นอกจากนั้นต้นตะบูนนี้ยังได้รับยกย่องให้เป็น "รุกข มรดกของแผ่นดิน" ที่กรมส่งเสริมวัฒนธรรม กระทรวงวัฒนธรรม ได้คัดสรรต้นไม้ใหญ่ทรงคุณค่าจากสถานที่ต่างๆ จากทุกภูมิภาคของประเทศ เพื่อสร้างจิตสำนึกอนุรักษ์หวงแหนในทรัพยากรธรรมชาติ จึงนับเป็นสถานที่ที่มากคุณค่าและงดงามน่าไปชมเป็นอย่างยิ่ง


ผู้ใหญ่สายชลให้ข้อมูลต่อว่า “ส่วนใหญ่ต้นตะบูนที่ลานแห่งนี้จะเป็นต้นตะบูนขาว โดยรากเขาจะแผ่ออกไปไกลเหนือพื้นดิน ในบริเวณนี้ก็จะมีต้นตะบูนดำอยู่บ้างบริเวณรอบๆ ซึ่งจะต่างจากต้นตะบูนขาวตรงที่รากเขาจะมีลักษณะแหลมขึ้นมาคล้ายรากต้นลำพู และถ้าวันไหนน้ำแห้งช่วงกลางวันแสงแดดส่องดีรากก็จะแห้งเป็นสีขาวสวย แต่ถ้ายังไม่แห้งดีก็จะออกสีดำๆ หน่อย”

สายชลยังกล่าวเสริมว่า เราอนุญาตให้นักท่องเที่ยวสามารถเดินลงไปชมและถ่ายรูปที่ลานตะบูนได้ แต่ปัจจุบันนี้ทางชุมชนก็ได้ทำสะพานทางเดินเหนือรากตะบูนไว้ด้วย เพราะนักท่องเที่ยวเริ่มมากันเยอะ หากเหยียบย่ำรากตะบูนทุกวันๆ ก็อาจจะทำให้เกิดความเสียหายได้ก็จึงทำสะพานทางเดินไว้ให้ชมอยู่ด้านบน ซึ่งก็เป็นข้อดีเพราะบางช่วงที่น้ำขึ้นจนท่วมลานตะบูนนักท่องเที่ยวก็ยังสามารถเข้าไปชมและถ่ายรูปจากบนสะพานได้

บรรยากาศดูลึกลับเหมือนป่าในเทพนิยาย

สามารถเดินลงไปชม หรือเดินบนสะพานไม้ก็ได้
และนอกจากการเที่ยวชมความมหัศจรรย์ของลานตะบูนแล้ว ที่ชุมชนท่าระแนะก็ยังมีกิจกรรมให้ทำอีกมากมาย ไม่ว่าจะเป็นการชิมชาร้อยรูซึ่งเป็นสมุนไพรเพื่อสุขภาพจากป่าชายเลน ชิมใบโกงกางชุบแป้งทอดแสนอร่อย ทำขนมพื้นบ้านอย่างขนมพิมพ์ข้าวตอก ทดลองย้อมผ้าจากลูกตะบูนที่ให้สีน้ำตาลสวย ฯลฯ ทั้งหมดนี้ถ้าจะทำทุกฐานกิจกรรมก็ต้องใช้เวลาทั้งวัน โดยทางชุมชนก็มีบริการโฮมสเตย์และพาชมหิ่งห้อยตอนกลางคืนด้วย

และอีกหนึ่งกิจกรรมที่น่าสนใจที่ผู้ใหญ่สายชลแนะนำก็คือ “การเหยียบกั้ง” ที่จะเริ่มขึ้นในเดือนมีนาคม-เมษายน โดยเมื่อน้ำน้อยและใสชาวบ้านก็จะนำเรือท้องแบนออกไปยังปากอ่าวและมองหารูกั้ง เมื่อเจอแล้วก็จะเหยียบที่รูเพื่อให้กั้งออกมาจากอีกรูหนึ่ง เป็นวิถีชาวประมงที่น่าสนใจไม่น้อยเลย

มีมุมให้นั่งถ่ายภาพหลายมุม

ชวนเพื่อนไปนั่งถ่ายรูปกันมุมนี้
สำหรับผู้ที่สนใจอยากมาชมลานตะบูนหรืออยากมาลองเหยียบกั้งก็สามารถมาเที่ยวกันได้ที่ชุมชนท่าระแนะ โดยค่าใช้จ่ายในการนั่งเรือไปชมลานตะบูนสำหรับ 1-2 คนจะเป็นราคาเหมาลำละ 300 บาท หรือหากมา 3 คนขึ้นไปคิดราคาคนละ 100 บาท (เรือนั่งได้ไม่เกิน 9 คนขึ้นอยู่กับน้ำหนัก) ใช้เวลาในการเดินทางไปกลับและการเดินชมด้วยประมาณ 1 ชั่วโมง สามารถมาเที่ยวได้ทุกวัน แต่ควรโทรมาสอบถามถึงระดับน้ำล่วงหน้าก่อนก็จะดี

ส่วนกิจกรรมการเหยียบกั้งมีค่าเรือ 1,000 บาท ไปได้ 2 คน เนื่องจากน้ำตื้น ควรโทรสอบถามก่อนเช่นกัน ส่วนฐานกิจกรรมต่างๆ นั้นต้องแจ้งล่วงหน้าหากประสงค์จะทำกิจกรรม โดยสามารถติดต่อได้ที่โทร.08 1 161 6694 หรือสอบถามรายละเอียดเกี่ยวกับที่เที่ยว ที่กิน ที่พักในจังหวัดตราดได้ที่ การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) สำนักงานตราด โทร.0 3959 7259 ถึง 60

สามารถส่งข้อมูลข่าวสารด้านการท่องเที่ยว-อาหารมาได้ที่ กอง บก.ข่าวท่องเที่ยว แฟกซ์ 0-2629-4467 อีเมล์ travel_astvmgr@hotmail.com หรือติดตามเพิ่มเติมได้ที่ Facebook :Travel @ Manager


ชมคลิปต่าง ๆ ได้ที่ Travel MGR



กำลังโหลดความคิดเห็น