Youtube :Travel MGR
หากใครมองหาสถานที่ท่องเที่ยวใกล้กรุงเทพฯ พาครอบครัวไปพักผ่อน หากิจกรรมทำร่วมกันในช่วงวันหยุดสุดสัปดาห์ ขอแนะนำให้มาที่ “หมู่บ้านอนุรักษ์ควายไทย" อ.ศรีประจันต์ จ.สุพรรณบุรี ที่นี่เป็นแหล่งเรียนรู้วิถีชีวิตและภูมิปัญญาของบรรพบุรุษไทยที่สืบทอดมาอย่างช้านาน รวมทั้งยังมีร้านกาแฟริมน้ำ "กินแฟ ดูฟาย" ให้นั่งพักผ่อนหย่อนใจพร้อมมองควายเล่นน้ำกันเพลิดเพลิน
"การเลี้ยงควายไทย" ถือเป็นอีกหนึ่งภูมิปัญญาไทยที่เพิ่งได้รับการประกาศจากกระทรวงวัฒนธรรมเพื่อขึ้นทะเบียนเป็นมรดกภูมิปัญญาทางวัฒนธรรมของชาติเมื่อไม่นานมานี้ นับเป็นอีกหนึ่งเรื่องดีๆ ที่ทำให้สังคมได้รับรู้และตระหนักถึงคุณค่าของภูมิปัญญาที่สืบทอดต่อกันมา แม้จะเป็นเรื่องเล็กๆ อย่างการเลี้ยงควายก็ตาม
สำหรับคนเมืองที่อยากสัมผัสกับ "การเลี้ยงควาย" อย่างใกล้ชิด ต้องมาที่จังหวัดสุพรรณบุรี ซึ่งถือเป็นจังหวัดที่มีอาชีพหลักคือการเกษตรกรรม และ "ควาย" ก็เป็นสัตว์ที่เลี้ยงไว้ใกล้ชิดเพื่อการใช้งานและมีชีวิตเคียงคู่กับคนสุพรรณฯ มาตลอด โดยที่ “หมู่บ้านอนุรักษ์ควายไทย” คือสถานที่ที่รวบรวมเรื่องราว และรูปแบบวิถีชีวิตของคนในชนบทที่กำลังจะเลือนหายไป จึงเป็นอีกสถานที่หนึ่งที่ไม่ควรพลาด หากมีโอกาสได้เดินทางมาท่องเที่ยวเมืองสุพรรณ
“หมู่บ้านอนุรักษ์ควายไทย" หรือ "บ้านควาย" ใน อ.ศรีประจันต์ จ.สุพรรณบุรี ถูกสร้างขึ้นเพื่อสนันสนุนการท่องเที่ยวเชิงอนุรักษ์และรักษาขนบธรรมเนียมและวัฒนธรรมซึ่งเป็นมรดกของประเทศไทย นอกจากนี้โครงการบ้านควายยังสนองนโยบายของรัฐโดยการสร้างรายได้และสร้างโอกาสให้แก่ชุมชมใกล้เคียงในการทำมาหากินและประกอบอาชีพเพื่อยังชีพอย่างพอเพียง
ภายในหมู่บ้านสะท้อนให้เห็นภูมิปัญญาของบรรพบุรุษไทย ผ่านกลุ่มหมู่บ้านชาวนาไทยแบบเรียบง่าย อาทิ บ้านเรือนไม้แบบเรือนปลายนา ที่มีอุปกรณ์ดำรงชีวิตในอดีตต่างๆ ที่เก็บไว้ให้ศึกษา ไม่ว่าจะเป็นหม้อดิน ตะกร้าโบราณ สุ่มจับปลา เกวียน กระเดื่องตำข้าว เรือไม้เก่า ซึ่งล้วนแล้วแต่เป็นเครื่องมือในการดำรงชีวิตของชาวบ้าน หมู่บ้านอนุรักษ์ควายไทยจึงได้รวบรวมสิ่งเหล่านี้ไว้สำหรับการศึกษาด้านการเกษตรกรรม
ผู้ที่มาเยี่ยมชมหมู่บ้านอนุรักษ์ควายไทยยังจะได้พบกับการย้อนอดีตวิถีชีวิตชาวนาไทยผ่านการแสดงการสาธิตการปลูกข้าว หว่านข้าว ทั้งยังมีพิธีการทำขวัญข้าวของภาคกลาง สาธิตการเตรียมดินเพื่อทำนา ไถนา คราดนา ดำนา ถอนกล้า
และยังมีไฮไลต์อยู่ที่การแสดงโชว์ความสามารถของควายแสนรู้ เริ่มตั้งแต่การให้ข้อมูลเกี่ยวกับเกี่ยวกับเรื่องของควายก่อน เช่น ประวัติความเป็นมาและสายพันธุ์ของควายไทย วีธีและเทคนิคการนำควายมาใช้งาน การบังคับควายให้เดินเลี้ยวซ้าย-ขวา การสั่งให้ควายสวัสดีผู้ชมโดยนั่งโน้มตัวลงไปที่พื้นและก้มหัวลง จากนั้นสั่งให้ควายนอนแนบลงไปกับพื้น และสุดท้ายสั่งให้ควายยิ้ม ซึ่งเป็นอีกหนึ่งโชว์ที่เรียกเสียงฮือฮาจากผู้ชมได้ดีเพราะความน่ารักแสนรู้ของเจ้าควายเหล่านี้
นอกจากนั้นยังมีการสาธิตวิธีการขึ้นควาย การทำท่าสะพานควายนับพันปี คือให้ควายยืนเรียงกันเป็นแนวยาว 3 ตัวและให้คนวิ่งบนหลังควายไป-กลับ ต่อด้วยการลอดใต้ท้องควาย ที่คล้ายกับการลอดท้องช้างนั่นเอง ถัดมาเป็นการโชว์ให้ควายเดินข้ามคนซึ่งหวาดเสียวพอๆ กับลอดท้องควาย รวมไปถึงยังมีทีเด็ดที่ให้ผู้ชมทดลองขี่ควาย มีทั้งควายตัวเล็กไปจนถึงตัวใหญ่ แต่ตัวที่ฮิตที่สุดคงหนีไม่พ้นควายแคระ มีลักษณะตัวเล็กเตี้ย และมีฟันล่างที่ยื่นออกมา ทำให้ทั้งเด็กและผู้ใหญ่ให้ความสนใจและสนุกในการกดชัตเตอร์กันเป็นจำนวนมาก
นอกจากการแสดงความสามารถของควายแสนรู้แล้ว ยังมีอีกหนึ่งไฮไลต์เด็ดเมื่อมายังหมู่บ้านอนุรักษ์ควายไทย ก็คือมานั่งดื่มกาแฟที่ร้าน "กินแฟ ดูฟาย" เป็นคาเฟ่เล็กๆ ตั้งอยู่ริมบึง ที่มีเครื่องดื่มหลากหลายไว้คอยบริการระหว่างวัน พร้อมชมความน่ารักของเจ้าควายไทยที่กำลังแช่น้ำคลายร้อน
โดยบรรยากาศของร้าน "กินแฟ ดูฟาย" เป็นร้านตั้งอยู่ริมน้ำ มีชานไม้ยื่นออกไปให้ได้นั่งชิลกัน และไฮไลต์ก็คือเจ้าควายไทย ประมาณ 5-6 ตัว ที่จะว่ายน้ำเล่นคลายร้อนให้นักท่องเที่ยวได้นั่งชม รวมไปถึงมารอกินอาหารที่นักท่องเที่ยวจะคอยป้อนหญ้าที่ทางร้านมีบริการให้อีกด้วย เป็นกิจกรรมที่เราจะได้เห็นความน่ารัก ขี้อ้อน ของควายไทย รวมไปถึงได้ถ่ายรูปกับเจ้าควายในน้ำอย่างใกล้ชิดอีกด้วย
สำหรับคนที่ชอบควาย รักควาย หรืออยากรู้จักควายซึ่งเป็นสัตว์เลี้ยงใช้งานที่อยู่คู่กับเกษตรกรไทยมายาวนานให้มากขึ้น ต้องไม่พลาดมาเยือนที่นี่ “หมู่บ้านอนุรักษ์ควายไทย" จ.สุพรรณบุรี
“หมู่บ้านอนุรักษ์ควายไทย" ตั้งอยู่ริมถนนทางหลวง 340 อ.ศรีประจันต์ จ.สุพรรณบุรี ห่างจากตัวเมืองสุพรรณบุรี 20 กิโลเมตร และห่างจากตัว อ.ศรีประจันต์ ประมาณ 2 กิโลเมตร เปิดทำการทุกวัน เวลา 09.00-18.00 น. รอบการแสดง วันธรรมดา (วันจันทร์-ศุกร์) มี 2 รอบ คือ 11.00-11.30 น. และ 15.00-15.30 น. ส่วนวันหยุดราชการและวันหยุดนักขัตฤกษ์ มี 3 รอบ คือ 11.00-11.30 น., 14.30-15.00 และ 16.00-16.30 น.
สามารถส่งข้อมูลข่าวสารด้านการท่องเที่ยว-อาหารมาได้ที่ กอง บก.ข่าวท่องเที่ยว แฟกซ์ 0-2629-4467 อีเมล์ travel_astvmgr@hotmail.com หรือติดตามเพิ่มเติมได้ที่ Facebook :Travel @ Manager
ชมคลิปต่าง ๆ ได้ที่ Travel MGR
หากใครมองหาสถานที่ท่องเที่ยวใกล้กรุงเทพฯ พาครอบครัวไปพักผ่อน หากิจกรรมทำร่วมกันในช่วงวันหยุดสุดสัปดาห์ ขอแนะนำให้มาที่ “หมู่บ้านอนุรักษ์ควายไทย" อ.ศรีประจันต์ จ.สุพรรณบุรี ที่นี่เป็นแหล่งเรียนรู้วิถีชีวิตและภูมิปัญญาของบรรพบุรุษไทยที่สืบทอดมาอย่างช้านาน รวมทั้งยังมีร้านกาแฟริมน้ำ "กินแฟ ดูฟาย" ให้นั่งพักผ่อนหย่อนใจพร้อมมองควายเล่นน้ำกันเพลิดเพลิน
"การเลี้ยงควายไทย" ถือเป็นอีกหนึ่งภูมิปัญญาไทยที่เพิ่งได้รับการประกาศจากกระทรวงวัฒนธรรมเพื่อขึ้นทะเบียนเป็นมรดกภูมิปัญญาทางวัฒนธรรมของชาติเมื่อไม่นานมานี้ นับเป็นอีกหนึ่งเรื่องดีๆ ที่ทำให้สังคมได้รับรู้และตระหนักถึงคุณค่าของภูมิปัญญาที่สืบทอดต่อกันมา แม้จะเป็นเรื่องเล็กๆ อย่างการเลี้ยงควายก็ตาม
สำหรับคนเมืองที่อยากสัมผัสกับ "การเลี้ยงควาย" อย่างใกล้ชิด ต้องมาที่จังหวัดสุพรรณบุรี ซึ่งถือเป็นจังหวัดที่มีอาชีพหลักคือการเกษตรกรรม และ "ควาย" ก็เป็นสัตว์ที่เลี้ยงไว้ใกล้ชิดเพื่อการใช้งานและมีชีวิตเคียงคู่กับคนสุพรรณฯ มาตลอด โดยที่ “หมู่บ้านอนุรักษ์ควายไทย” คือสถานที่ที่รวบรวมเรื่องราว และรูปแบบวิถีชีวิตของคนในชนบทที่กำลังจะเลือนหายไป จึงเป็นอีกสถานที่หนึ่งที่ไม่ควรพลาด หากมีโอกาสได้เดินทางมาท่องเที่ยวเมืองสุพรรณ
“หมู่บ้านอนุรักษ์ควายไทย" หรือ "บ้านควาย" ใน อ.ศรีประจันต์ จ.สุพรรณบุรี ถูกสร้างขึ้นเพื่อสนันสนุนการท่องเที่ยวเชิงอนุรักษ์และรักษาขนบธรรมเนียมและวัฒนธรรมซึ่งเป็นมรดกของประเทศไทย นอกจากนี้โครงการบ้านควายยังสนองนโยบายของรัฐโดยการสร้างรายได้และสร้างโอกาสให้แก่ชุมชมใกล้เคียงในการทำมาหากินและประกอบอาชีพเพื่อยังชีพอย่างพอเพียง
ภายในหมู่บ้านสะท้อนให้เห็นภูมิปัญญาของบรรพบุรุษไทย ผ่านกลุ่มหมู่บ้านชาวนาไทยแบบเรียบง่าย อาทิ บ้านเรือนไม้แบบเรือนปลายนา ที่มีอุปกรณ์ดำรงชีวิตในอดีตต่างๆ ที่เก็บไว้ให้ศึกษา ไม่ว่าจะเป็นหม้อดิน ตะกร้าโบราณ สุ่มจับปลา เกวียน กระเดื่องตำข้าว เรือไม้เก่า ซึ่งล้วนแล้วแต่เป็นเครื่องมือในการดำรงชีวิตของชาวบ้าน หมู่บ้านอนุรักษ์ควายไทยจึงได้รวบรวมสิ่งเหล่านี้ไว้สำหรับการศึกษาด้านการเกษตรกรรม
ผู้ที่มาเยี่ยมชมหมู่บ้านอนุรักษ์ควายไทยยังจะได้พบกับการย้อนอดีตวิถีชีวิตชาวนาไทยผ่านการแสดงการสาธิตการปลูกข้าว หว่านข้าว ทั้งยังมีพิธีการทำขวัญข้าวของภาคกลาง สาธิตการเตรียมดินเพื่อทำนา ไถนา คราดนา ดำนา ถอนกล้า
และยังมีไฮไลต์อยู่ที่การแสดงโชว์ความสามารถของควายแสนรู้ เริ่มตั้งแต่การให้ข้อมูลเกี่ยวกับเกี่ยวกับเรื่องของควายก่อน เช่น ประวัติความเป็นมาและสายพันธุ์ของควายไทย วีธีและเทคนิคการนำควายมาใช้งาน การบังคับควายให้เดินเลี้ยวซ้าย-ขวา การสั่งให้ควายสวัสดีผู้ชมโดยนั่งโน้มตัวลงไปที่พื้นและก้มหัวลง จากนั้นสั่งให้ควายนอนแนบลงไปกับพื้น และสุดท้ายสั่งให้ควายยิ้ม ซึ่งเป็นอีกหนึ่งโชว์ที่เรียกเสียงฮือฮาจากผู้ชมได้ดีเพราะความน่ารักแสนรู้ของเจ้าควายเหล่านี้
นอกจากนั้นยังมีการสาธิตวิธีการขึ้นควาย การทำท่าสะพานควายนับพันปี คือให้ควายยืนเรียงกันเป็นแนวยาว 3 ตัวและให้คนวิ่งบนหลังควายไป-กลับ ต่อด้วยการลอดใต้ท้องควาย ที่คล้ายกับการลอดท้องช้างนั่นเอง ถัดมาเป็นการโชว์ให้ควายเดินข้ามคนซึ่งหวาดเสียวพอๆ กับลอดท้องควาย รวมไปถึงยังมีทีเด็ดที่ให้ผู้ชมทดลองขี่ควาย มีทั้งควายตัวเล็กไปจนถึงตัวใหญ่ แต่ตัวที่ฮิตที่สุดคงหนีไม่พ้นควายแคระ มีลักษณะตัวเล็กเตี้ย และมีฟันล่างที่ยื่นออกมา ทำให้ทั้งเด็กและผู้ใหญ่ให้ความสนใจและสนุกในการกดชัตเตอร์กันเป็นจำนวนมาก
นอกจากการแสดงความสามารถของควายแสนรู้แล้ว ยังมีอีกหนึ่งไฮไลต์เด็ดเมื่อมายังหมู่บ้านอนุรักษ์ควายไทย ก็คือมานั่งดื่มกาแฟที่ร้าน "กินแฟ ดูฟาย" เป็นคาเฟ่เล็กๆ ตั้งอยู่ริมบึง ที่มีเครื่องดื่มหลากหลายไว้คอยบริการระหว่างวัน พร้อมชมความน่ารักของเจ้าควายไทยที่กำลังแช่น้ำคลายร้อน
โดยบรรยากาศของร้าน "กินแฟ ดูฟาย" เป็นร้านตั้งอยู่ริมน้ำ มีชานไม้ยื่นออกไปให้ได้นั่งชิลกัน และไฮไลต์ก็คือเจ้าควายไทย ประมาณ 5-6 ตัว ที่จะว่ายน้ำเล่นคลายร้อนให้นักท่องเที่ยวได้นั่งชม รวมไปถึงมารอกินอาหารที่นักท่องเที่ยวจะคอยป้อนหญ้าที่ทางร้านมีบริการให้อีกด้วย เป็นกิจกรรมที่เราจะได้เห็นความน่ารัก ขี้อ้อน ของควายไทย รวมไปถึงได้ถ่ายรูปกับเจ้าควายในน้ำอย่างใกล้ชิดอีกด้วย
สำหรับคนที่ชอบควาย รักควาย หรืออยากรู้จักควายซึ่งเป็นสัตว์เลี้ยงใช้งานที่อยู่คู่กับเกษตรกรไทยมายาวนานให้มากขึ้น ต้องไม่พลาดมาเยือนที่นี่ “หมู่บ้านอนุรักษ์ควายไทย" จ.สุพรรณบุรี
“หมู่บ้านอนุรักษ์ควายไทย" ตั้งอยู่ริมถนนทางหลวง 340 อ.ศรีประจันต์ จ.สุพรรณบุรี ห่างจากตัวเมืองสุพรรณบุรี 20 กิโลเมตร และห่างจากตัว อ.ศรีประจันต์ ประมาณ 2 กิโลเมตร เปิดทำการทุกวัน เวลา 09.00-18.00 น. รอบการแสดง วันธรรมดา (วันจันทร์-ศุกร์) มี 2 รอบ คือ 11.00-11.30 น. และ 15.00-15.30 น. ส่วนวันหยุดราชการและวันหยุดนักขัตฤกษ์ มี 3 รอบ คือ 11.00-11.30 น., 14.30-15.00 และ 16.00-16.30 น.
สามารถส่งข้อมูลข่าวสารด้านการท่องเที่ยว-อาหารมาได้ที่ กอง บก.ข่าวท่องเที่ยว แฟกซ์ 0-2629-4467 อีเมล์ travel_astvmgr@hotmail.com หรือติดตามเพิ่มเติมได้ที่ Facebook :Travel @ Manager
ชมคลิปต่าง ๆ ได้ที่ Travel MGR