Youtube :Travel MGR
กรมอุทยานฯ เผยภาพ ดอกชมพูภูคาดอกไม้สุดหายากแห่งเดียวในโลก ที่ อช. ดอยภูคา จ.น่าน เริ่มทยอยบานอวดโฉมต้อนรับนักท่องเที่ยวในเดือนแห่งความรัก
เพจ สำนักอุทยานแห่งชาติ - National Parks of Thailand ของกรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่า และพันธุ์พืช (ทส.) โพสต์ภาพ ดอกชมพูภูคา ดอกไม้ดอกไม้สุดหายากแห่งเดียวในโลกที่อุทยานแห่งชาติดอยภูคา จ.น่าน เริ่มทยอยออกดอกเบ่งบานอวดโฉมนักท่องเที่ยว โดยมีข้อความดังนี้
ดอกชมพูภูคาเริ่มทยอยบานอวดโฉมต้อนรับนักท่องเที่ยวในเดือนแห่งความรัก “
ดอกชมพูภูคา บริเวณศาลเจ้าหลวงภูคา (ต้นด้านใน) อุทยานแห่งชาติดอยภูคา จังหวัดน่าน เริ่มทะยอยบานอวดโฉมต้อนรับนักท่องเที่ยวให้เข้ามาเยี่ยมชมในขณะนี้ ซึ่งดอกชมพูภูคาจะออกช่อดอกสีชมพูสวยสดงดงาม ปีละ 1 ครั้ง เท่านั้น ในช่วงเดือน กุมภาพันธ์ - มีนาคม 🌸🌸
ต้นชมพูภูคาในอดีตเคยถูกพบมากบริเวณผืนป่าพรมแดนระหว่างจีนและเวียดนาม ภายหลังป่าบริเวณดังกล่าวถูกทำลายไปหมด จึงถูกคาดว่าสูญพันธุ์ไปจากโลก แต่กลับถูกค้นพบที่ประเทศไทยแห่งเดียวในโลกเท่านั้น
“ชมพูภูคา” เป็นพรรณไม้ยืนต้นขนาดใหญ่ที่หาได้ยากและใกล้สูญพันธุ์ ชมพูภูคาจะขึ้นอยู่ในบริเวณป่าดิบเขาที่ระดับความสูง 1,200-1,500 เมตรจากระดับน้ำทะเล ส่วนใหญ่แล้วจะพบในบริเวณทางตอนใต้ของประเทศจีน ภาคเหนือของเวียดนาม ไต้หวัน และไทย โดยในประเทศไทยพบที่ดอยภูคา จ.น่าน
อย่างไรก็ดีพบว่าภายหลังป่าบริเวณที่มีต้นชมพูภูคาในต่างประเทศที่กล่าวมาถูกทำลายไปหมด จึงคาดว่าต้นชมพูภูคาอาจสูญพันธุ์ไป ซึ่งปัจจุบันมีข้อมูลระบุว่าพบต้นชมพูภูคาที่อุทยานแห่งชาติดอยภูคา จังหวัดน่าน ประเทศไทย เพียงแห่งเดียวในโลกเท่านั้น
ทั้งนี้เนื่องจากพื้นที่ที่ต้นชมพูภูคาจะเจริญเติบโต จะมีร่มเงาของไม้ใหญ่หนาทึบ มีอากาศหนาวเย็น มีความชุ่มชื้นสูง มีเมฆหมอกปกคลุมตลอดทั้งปี จึงถือว่าระบบนิเวศของชมพูภูคามีความเปราะบางมาก
นอกจากนี้ อีกสาเหตุที่ต้นชมพูภูคากลายเป็นพรรณไม้หายาก เนื่องจากในเมล็ดของชมพูภูคามีเมือกสำหรับยับยั้งการเจริญเติบโต อีกทั้งระบบนิเวศของป่าดิบเขาเริ่มเปลี่ยนไป ทำให้มีการขยายพันธุ์ได้ยาก
ทุก ๆ ปี ต้นชมพูภูคาที่ดอยภูคา จ.น่าน จะออกดอกบานระหว่างช่วงเดือนกุมภาพันธ์-มีนาคม ซึ่งภาพดอกชมพูภูคาบานนั้นหาชมได้ยากมาก โดยดอกชมพูภูคาจะออกดอกเป็นช่อตามปลายกิ่ง ตัวดอกมีสีชมพู เมื่อบานดอกจะชิดกันแน่น ทำให้ดูเป็นพุ่มสวยงาม นักท่องเที่ยวสามารถไปเยี่ยมชมได้ที่อุทยานแห่งชาติดอยภูคา จ.น่าน
สำหรับจุดที่สามารถชมต้นชมพูภูคาได้สะดวกที่สุด อยู่บริเวณริมทางหลวงหมายเลข 1256 (ปัว-บ่อเกลือ) อยู่ห่างจากที่ทำการอุทยานฯ ประมาณ 4 กิโลเมตร ทางอุทยานจัดทำเป็นระเบียงไม้ยื่นออกไปให้ยืนชมต้นชมพูภูคาที่ยืนต้นสูงขึ้นมาจากหุบเขา
ทั้งนี้หากนักท่องเที่ยวสนใจจะไปชมดอกชมพูภูคาสีชมพูสวยที่บานสะพรั่ง สามารถไปชมได้ตั้งแต่บัดนี้จนถึงเดือนมีนาคม (ทั้งนี้ ควรสอบถามทางอุทยานฯ ว่าดอกชมพูภูคายังบานอยู่หรือไม่) โดยผู้สนใจสามารถสอบถามข้อมูลดอกชมพูภูคาบานเพิ่มเติมได้ที่ อุทยานแห่งชาติดอยภูคา โทร. 0 5473 1623, 08 2194 1349
....................................................................................................
สามารถส่งข้อมูลข่าวสารด้านการท่องเที่ยว-อาหารมาได้ที่ กอง บก.ข่าวท่องเที่ยว แฟกซ์ 0-2629-4467 อีเมล์ travel_astvmgr@hotmail.com หรือติดตามเพิ่มเติมได้ที่ Facebook :Travel @ Manager
ชมคลิปต่าง ๆ ได้ที่ Travel MGR
กรมอุทยานฯ เผยภาพ ดอกชมพูภูคาดอกไม้สุดหายากแห่งเดียวในโลก ที่ อช. ดอยภูคา จ.น่าน เริ่มทยอยบานอวดโฉมต้อนรับนักท่องเที่ยวในเดือนแห่งความรัก
เพจ สำนักอุทยานแห่งชาติ - National Parks of Thailand ของกรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่า และพันธุ์พืช (ทส.) โพสต์ภาพ ดอกชมพูภูคา ดอกไม้ดอกไม้สุดหายากแห่งเดียวในโลกที่อุทยานแห่งชาติดอยภูคา จ.น่าน เริ่มทยอยออกดอกเบ่งบานอวดโฉมนักท่องเที่ยว โดยมีข้อความดังนี้
ดอกชมพูภูคาเริ่มทยอยบานอวดโฉมต้อนรับนักท่องเที่ยวในเดือนแห่งความรัก “
ดอกชมพูภูคา บริเวณศาลเจ้าหลวงภูคา (ต้นด้านใน) อุทยานแห่งชาติดอยภูคา จังหวัดน่าน เริ่มทะยอยบานอวดโฉมต้อนรับนักท่องเที่ยวให้เข้ามาเยี่ยมชมในขณะนี้ ซึ่งดอกชมพูภูคาจะออกช่อดอกสีชมพูสวยสดงดงาม ปีละ 1 ครั้ง เท่านั้น ในช่วงเดือน กุมภาพันธ์ - มีนาคม 🌸🌸
ต้นชมพูภูคาในอดีตเคยถูกพบมากบริเวณผืนป่าพรมแดนระหว่างจีนและเวียดนาม ภายหลังป่าบริเวณดังกล่าวถูกทำลายไปหมด จึงถูกคาดว่าสูญพันธุ์ไปจากโลก แต่กลับถูกค้นพบที่ประเทศไทยแห่งเดียวในโลกเท่านั้น
“ชมพูภูคา” เป็นพรรณไม้ยืนต้นขนาดใหญ่ที่หาได้ยากและใกล้สูญพันธุ์ ชมพูภูคาจะขึ้นอยู่ในบริเวณป่าดิบเขาที่ระดับความสูง 1,200-1,500 เมตรจากระดับน้ำทะเล ส่วนใหญ่แล้วจะพบในบริเวณทางตอนใต้ของประเทศจีน ภาคเหนือของเวียดนาม ไต้หวัน และไทย โดยในประเทศไทยพบที่ดอยภูคา จ.น่าน
อย่างไรก็ดีพบว่าภายหลังป่าบริเวณที่มีต้นชมพูภูคาในต่างประเทศที่กล่าวมาถูกทำลายไปหมด จึงคาดว่าต้นชมพูภูคาอาจสูญพันธุ์ไป ซึ่งปัจจุบันมีข้อมูลระบุว่าพบต้นชมพูภูคาที่อุทยานแห่งชาติดอยภูคา จังหวัดน่าน ประเทศไทย เพียงแห่งเดียวในโลกเท่านั้น
ทั้งนี้เนื่องจากพื้นที่ที่ต้นชมพูภูคาจะเจริญเติบโต จะมีร่มเงาของไม้ใหญ่หนาทึบ มีอากาศหนาวเย็น มีความชุ่มชื้นสูง มีเมฆหมอกปกคลุมตลอดทั้งปี จึงถือว่าระบบนิเวศของชมพูภูคามีความเปราะบางมาก
นอกจากนี้ อีกสาเหตุที่ต้นชมพูภูคากลายเป็นพรรณไม้หายาก เนื่องจากในเมล็ดของชมพูภูคามีเมือกสำหรับยับยั้งการเจริญเติบโต อีกทั้งระบบนิเวศของป่าดิบเขาเริ่มเปลี่ยนไป ทำให้มีการขยายพันธุ์ได้ยาก
ทุก ๆ ปี ต้นชมพูภูคาที่ดอยภูคา จ.น่าน จะออกดอกบานระหว่างช่วงเดือนกุมภาพันธ์-มีนาคม ซึ่งภาพดอกชมพูภูคาบานนั้นหาชมได้ยากมาก โดยดอกชมพูภูคาจะออกดอกเป็นช่อตามปลายกิ่ง ตัวดอกมีสีชมพู เมื่อบานดอกจะชิดกันแน่น ทำให้ดูเป็นพุ่มสวยงาม นักท่องเที่ยวสามารถไปเยี่ยมชมได้ที่อุทยานแห่งชาติดอยภูคา จ.น่าน
สำหรับจุดที่สามารถชมต้นชมพูภูคาได้สะดวกที่สุด อยู่บริเวณริมทางหลวงหมายเลข 1256 (ปัว-บ่อเกลือ) อยู่ห่างจากที่ทำการอุทยานฯ ประมาณ 4 กิโลเมตร ทางอุทยานจัดทำเป็นระเบียงไม้ยื่นออกไปให้ยืนชมต้นชมพูภูคาที่ยืนต้นสูงขึ้นมาจากหุบเขา
ทั้งนี้หากนักท่องเที่ยวสนใจจะไปชมดอกชมพูภูคาสีชมพูสวยที่บานสะพรั่ง สามารถไปชมได้ตั้งแต่บัดนี้จนถึงเดือนมีนาคม (ทั้งนี้ ควรสอบถามทางอุทยานฯ ว่าดอกชมพูภูคายังบานอยู่หรือไม่) โดยผู้สนใจสามารถสอบถามข้อมูลดอกชมพูภูคาบานเพิ่มเติมได้ที่ อุทยานแห่งชาติดอยภูคา โทร. 0 5473 1623, 08 2194 1349
....................................................................................................
สามารถส่งข้อมูลข่าวสารด้านการท่องเที่ยว-อาหารมาได้ที่ กอง บก.ข่าวท่องเที่ยว แฟกซ์ 0-2629-4467 อีเมล์ travel_astvmgr@hotmail.com หรือติดตามเพิ่มเติมได้ที่ Facebook :Travel @ Manager
ชมคลิปต่าง ๆ ได้ที่ Travel MGR