Youtube :Travel MGR
หนึ่งในสัญลักษณ์ของการย่างก้าวเข้าสู่ฤดูใบไม้ผลิของประเทศญี่ปุ่น ก็คือการผลิบานของ “ดอกซากุระ” ที่หลายๆ คนรอคอย ทั่วประเทศญี่ปุ่นมีซากุระมากกว่า 300 สายพันธุ์ ซึ่งมีความแตกต่างทั้งรูปร่างดอก สีสันที่มีตั้งแต่สีขาวบริสุทธิ์ ขาวอมชมพู จนถึงชมพูเข้มสด ทั่วประเทศญี่ปุ่นมีจุดชมดอกซากุระบานมากกว่า 1,000 แห่ง และมีระยะเวลาเริ่มบานของดอกไม้แตกต่างกันไป ทำให้ทุกพื้นที่ของแดนอาทิตย์อุทัยมีดอกซากุระที่งดงามไม่ซ้ำกัน ซึ่งโดยทั่วไปแล้วก็จะสามารถชมได้ตั้งแต่ช่วงปลายเดือนมีนาคม-กลางเดือนเมษายน แต่สำหรับในบางพื้นที่และซากุระบางสายพันธุ์ก็สามารถชมได้ตั้งแต่เดือนมกราคม บางที่ก็สามารถชมได้ถึงเดือนพฤษภาคม โดยดอกซากุระจะเริ่มบานตั้งแต่ทางภาคใต้ เรื่อยขึ้นไปทางภาคเหนือของประเทศญี่ปุ่น
ซึ่งในปี 2020 นี้ ก็เริ่มมีการพยากรณ์ช่วงเวลาที่ดอกซากุระจะเริ่มผลิบานออกมาแล้ว โดยทางสมาคมอุตุนิยมวิทยาญี่ปุ่น (JMC : Japan Meteorological Corporation) ได้ประกาศพยากรณ์ซากุระบานออกมาดังนี้ (อัพเดต 23 ม.ค.63)
โดยวันที่ที่ปรากฏในพยากรณ์จะเป็นวันที่เริ่มบาน และใช้เวลาอีกประมาณ 5-7 วัน ก็จะเป็นช่วงที่บานสวยเต็มที่ หรือที่เรียกว่า Full Bloom และหลังจากนั้นอีกประมาณ 1 สัปดาห์ก็จะค่อยๆ ร่วงไปจนหมด (ทั้งนี้ ขึ้นอยู่กับปัจจัยอื่นๆ ด้วย อาทิ อุณหภูมิ สภาพอากาศ ลม หรือฝน)
ใครที่กำลังเตรียมตัวไปชมซากุระที่ประเทศญี่ปุ่นในปีนี้ ทาง องค์การส่งเสริมการท่องเที่ยวแห่งประเทศญี่ปุ่น (JNTO) ก็มีสถานที่แนะนำที่เหมาะกับการไปชมดอกซากุระบานสะพรั่ง 16 จุดทั่วประเทศญี่ปุ่น
สวนสาธารณะโกะเรียวกะคุ (Goryokaku), ฮอกไกโด (Hokkaido) คือป้อมปราการรูปดาวห้าแฉกในเมืองฮาโกดาเตะ (Hakodate) ภายในสวนสาธารณะแห่งนี้มีต้นซากุระปลูกไว้ราว 1,600 ต้น ซึ่งจะผลิดอกบานสะพรั่งสวยงามเต็มพื้นที่รอบรูปดาวห้าแฉก นอกจากนี้ในฤดูซากุระบานหากมองลงมาจากจุดชมวิวบนหอคอยป้อมโกะเรียวกะคุ (Goryokaku Tower) จะเห็นทิวทัศน์งดงามแน่นขนัดไปด้วยซากุระสีชมพูอยู่เต็มบริเวณ และเมื่อพ้นช่วงที่ซากุระบานเต็มที่ไปแล้วบนผิวน้ำในคูรอบบริเวณป้อมก็จะปกคลุมไปด้วยกลีบซากุระสวยงามจับตาอย่างยิ่งทีเดียว
ฮิโตเมะเซ็มบงซากุระ ริมแม่น้ำชิโรอิชิ (Hitome Senbonzakura, Shiroishi River), มิยะงิ (Miyagi) “ฮิโตเมะเซ็มบงซากุระ” แปลว่า ซากุระ 1,000 ต้นที่เห็นได้ในคราวเดียว โดยที่ริมแม่น้ำชิโรอิชิ มีต้นซากุระกว่า 1,200 ต้นที่ทอดตัวเป็นแนวยาวราว 8 กิโลเมตร ในวันที่ท้องฟ้าโปร่งจะสามารถมองเห็นเทือกเขาซะโอ (Mt. Zao) เป็นฉากหลัง ซึ่งทิวทัศน์อันงดงามนี้เป็นหนึ่งในสัญลักษณ์ของภูมิภาคโทโฮคุ (Tohoku) โดย 1 ใน 3 ของจำนวนซากุระทั้งหมดของที่นี่อายุเกือบร้อยปี ยามค่ำคืนสามารถเพลิดเพลินกับวิวซากุระประดับไฟ พร้อมร้านขายของในงานเทศกาลชมซากุระแห่งโอกาวาระ (Ogawara Sakura Matsuri)
มิฮะรุทากิซากุระ (Miharu Takizakura), ฟุคุชิมะ (Fukushima) “มิฮะรุทากิซากุระ” เป็นสายพันธุ์ชิดาเระซากุระ (Shidarezakura) อายุกว่า 1,000 ปี เป็นสมบัติทางธรรมชาติของญี่ปุ่น และยังเป็นหนึ่งในสามต้นซากุระที่สวยที่สุด คำว่า “ทากิซากุระ” หมายถึง น้ำตกของต้นซากุระ เวลาดอกซากุระต้นนี้บานสะพรั่งนั้นแลดูคล้ายน้ำตกที่ลดหลั่นเป็นชั้นสวยงาม เนื่องจากกิ่งที่แผ่วงกว้างออไปรอบทิศมากกว่า 20 เมตร ช่วงกลางคืนจะมีการเปิดไฟประดับให้ได้ชม และรอบเมืองมิฮะรุก็ยังมีจุดชมซากุระบานสวยๆ อยู่อีก อย่างสวนซากุระ (Sakuranokoen) มีถึง 2,300 ต้น และซากุระ 450 ปีที่วัดฟุคุจูจิ (Fukujujizakura)
นะงะโทโระ (Nagatoro), ไซตะมะ (Saitama) ได้รับคัดเลือกให้เป็นหนึ่งในร้อยจุดชมซากุระยอดนิยม เมืองนี้เต็มไปด้วยซากุระกว่า 3,000 ต้น โดยเฉพาะความสวยงามจับตาเป็นพิเศษจากอุโมงค์ดอกซากุระจากสองฝั่งถนน มีสองบริเวณด้วยกัน คือ ถนนคิตะซากุระ (Kita-Sakura) มีซากุระเรียงรายอยู่ 400 ต้น ยาวกว่า 2.5 กิโลเมตร และถนนมินะมิซากุระ (Minami-Sakura) มีซากุระนับ 200 ต้น ยาวกว่า 1 กิโลเมตร ยามค่ำยังสามารถดื่มด่ำความงามของการเปิดไฟชมซากุระตอนกลางคืนได้ด้วย
ชิโดริงะฟุชิเรียวคุโด (Chidorigafuchi-ryokudo), โตเกียว (Tokyo) เส้นทางเดินซึ่งเต็มไปด้วยต้นไม้เขียวชอุ่มยาว 700 เมตรที่ทอดตัวเป็นแนวยาวเลียบคูน้ำทางฝั่งตะวันตกของพระราชวังอิมพีเรียล (Imperial Palace) ใจกลางกรุงโตเกียว (Tokyo) แห่งนี้ เมื่อถึงฤดูซากุระบานจะเต็มไปด้วยนักท่องเที่ยวที่มาเยือนนับล้านคนเลยทีเดียว ด้วยซากุระจำนวนกว่า 260 ต้น ทำให้ในฤดูซากุระบานทั้งสองฝั่งเส้นทางจะปกคลุมไปด้วยสีชมพูอ่อนงดงาม ให้ความรู้สึกราวกับกำลังเดินอยู่ท่ามกลางอุโมงค์ดอกซากุระ นอกจากนี้ยังสามารถเช่าเรือพายเล่นในคูน้ำเพื่อเพลิดเพลินกับทัศนียภาพอันงดงามของซากุระที่ผลิบานเต็มที่ได้อีกด้วย
สวนสาธารณะอะซะฮิยะมะ (Asahiyama Park), โทยามะ (Toyama) มีซากุระสายพันธุ์โซเมอิ โยชิโนะ (Somei Yoshino) มากกว่า 270 ต้น มีจุดชมวิวทิวทัศนือันงดงามเลียบฝั่งของอ่าวโทยามะ (Toyama Bay) คาบสมุทรโนะโตะ (Noto Peninsula) และเทือกเขาทาเตยามะ (Tatayama mountain range) สามารถชมการประดับไฟซากุระยามค่ำคืนและลิ้มรสอาหารท้องถิ่นอย่างฮิมิอุด้ง (Himi Udon) ได้ที่นี่
สวนสาธารณะซากปราสาททะคะโต (Taktato Castle Ruins Park), นะงะโนะ (Nagano) ความงามของซากุระพันธุ์โคฮิกังแห่งปราสาททะคะโตะ (Takato Kohiganzakura) ที่มีจำนวนกว่า 1,500 ต้น เป็นที่เลื่องลือด้วยกลีบเล็กๆ น่ารัก สีอมชมพูเข้ม เป็นเอกลักษณ์ที่หาดูได้ยากในญี่ปุ่น ใจกลางสวนนั้นมีสะพานโค้งโออุนเคียว (Ounkyo) เป็นหนึ่งในจุดชมซากุระที่ดีที่สุดของสวนแห่งนี้ และบริเวณหอกลองไทโกยากูระ (Taikoyagura) ทางทิศตะวันตกของสวน ก็จะเห็นภาพของดอกไม้สีชมพูตัดกับท้องฟ้าและหิมะสีขาวของเทือกเขาแอลป์ เป็นภาพที่งดงามจับตาเช่นกัน
คาวาซุซากุระ (Kawazu-zakura), ชิซุโอกะ (Shizuoka) มีจุดเด่นคือผลิดอกบานเร็วที่สุดและมีดอกสีชมพูเข้ม มีขนาดใหญ่ ซึ่งบริเวณแนวริมฝั่งแม่น้ำคาวาซุ (Kawazu River) ตั้งอยู่บนคาบสมุทรอิซุ (Izu) ในจังหวัดชิซุโอกะ (Shizuoka) มีต้นคาวาซุซากุระขนาดใหญ่ อายุกว่า 60 ปี มากถึง 8,000 ต้น เรียงรายบานสะพรั่งพร้อมกับทุ่งดอกคาโนลาสีเหลือง ตลอดทั้งเดือนมีการจัดเทศกาลชมดอกซากุระแห่งคาวาซุ มีซุ้มอาหารท้องถิ่นขายข้างทาง และมีการประดับประดาไฟเพื่อชมความงามของซากุระในยามค่ำคืน
แหลมไคซุ โอซากิ (Kaizu Osaki Peninsula), ชิงะ (Shiga) เป็นส่วนหนึ่งของทะเลสาบบิวะ (Lake Biwa) ที่แห่งนี้มีชื่อเสียงในเรื่องซากุระที่บานช้ากว่าใครในภูมิภาคคันไซ (Kansai) โดยจะเห็นอุโมงค์ซากุระ 800 ต้นตามแนวริมฝั่ง ทั้งนี้ ยังมีกิจกรรมอื่นๆ เช่น ล่องเรือชมวิว พายเรือแคนู เดิน หรือขี่จักรยาน เป็นต้น ยังมีจุดชมซากุระรอบทะเลสาบบิวะ ได้แก่ ปราสาทฮิโคะเนะ มีต้นซากุระ 1,200 ต้น วัดมิอิเดะระ ซากุระ 1,000 ต้น เที่ยวชุมชนริมน้ำ Hachiman-bori โดยการล่องเรือชมดอกซากุระ 6 กิโลเมตร เป็นต้น
ภูเขาโยชิโนะ (Mt. Yoshino), นารา (Nara) ที่ภูเขาโยชิโนะ (Mt. Yoshino) ได้รับการขึ้นทะเบียนเป็นมรดกโลก เต็มไปด้วยซากุระป่าราว 200 สายพันธุ์ รวมทั้งสิ้นกว่า 30,000 ต้น โดยสายพันธุ์ที่มีจำนวนมากที่สุดคือสายพันธุ์เก่าแก่อย่าง “ชิโระยามะซากุระ (Shiroyamazakura)” ทุกปีจะมีนักท่องเที่ยวเดินทางมายังภูเขาโยชิโนะเพื่อชมความงามของซากุระที่ขึ้นอยู่เต็มหุบเขาและแนวสันเขา นอกจากนี้ในฤดูซากุระบานยังมีการประดับไฟไลท์อัพในเวลากลางคืนให้ได้สัมผัสกับทัศนียภาพอันงดงามแตกต่างไปจากเวลากลางวันอีกด้วย
เซระโคซัง ฟุเรอาอิ โนะ ซาโตะ (Sera Kozan Fureai no Sato), ฮิโรชิมะ (Hiroshima) ได้ชื่อว่าเป็นถนนที่สวยที่สุด เรียงรายไปด้วยซากุระพันธุ์ชิดาเระซากุระ (Shidarezakura) มากถึง 250 ต้น และในสวนแห่งนี้ก็ยังมีซากุระอีกหลากหลายชนิดให้ได้ดื่มด่ำความสวยงามในพื้นที่เปิดขนาดใหญ่ถึง 3 จุด นอกจากนี้ ที่จังหวัดฮิโรชิมะ ยังมีจุดชมซ่กุระที่ไม่ควรพลาด ได้แก่ เกาะมิยะจิมะ (Miyajima) มีศาลเจ้ากลางน้ำและรอบๆ เกาะมีซากุระกว่า 1,300 ต้น สวนฮิจิยาม่า (Hijiyama Park) พื้นที่กว้างขวาง ตั้งอยู่บนเนินเขาที่สามารถมองเห็นวิวเมือง และมีซากุระถึง 1,300 ต้น
สะพานไม้คินไตเคียว (Kintaikyo Bridge), ยะมะงุชิ (Yamaguchi) สะพาน “คินไตเคียว” เป็นสะพานที่มีรูปร่างแตกต่างจากสะพานทั่วไป ถูกจัดอันดับให้เป็นหนึ่งในสามสะพานที่มีชื่อเสียงที่สุดในญี่ปุ่น งานเทศกาลชมดอกซากุระแห่งสะพาน “คินไตเคียว” จัดขึ้นในช่วงต้นเดือนเมษายนของทุกปี ซึ่งได้รับความนิยมจากนักท่องเที่ยวจำนวนมาก ในช่วงฤดูชมดอกซากุระยามค่ำคืนจะมีการประดับแสงไฟด้วย กิจกรรมที่พลาดไม่ได้สำหรับที่นี่คือ การล่องเรือชมสะพาน “คินไตเคียว” และดอกซากุระที่บานสะพรั่ง
ภูเขาชิอุเดะ (Mt. Shiude), คางาวะ (Kagawa) ภาพความสวยงามที่น่าจดจำของภูเขาที่ถูกย้อมไปด้วยสีชมพูอ่อนของซากุระราว 1,000 ต้น บนภูเขาชิอุเดะ ที่มีความสูง 352 เมตร บนคาบสมุทรโชไน (Shonai Peninsula) เป็นภาพที่สุดแสนโรแมนติก เมื่อได้ดื่มด่ำไปกับซากุระบานสะพรั่ง มีเมฆหมอกกับวิวทะเลเซโตะ (Seto Inland Sea) อยู่เบื้องหลัง ซึ่งในวันที่อากาศเป็นใจก็จะเห็นไปถึงเกาะโชโดะชิมะ (Shodoshima Island) จากจุดชมวิวด้านบน ยิ่งในช่วงที่ประอาทิตย์ค่อยๆ ลับขอบฟ้า แสดงแดดที่ย้อมผืนน้ำทะเลให้เป็นสีส้มอมชมพูนั้นสะกดสายตาเป็นอย่างยิ่ง
อุมิโนะนะกะมิจิ ซีไซด์ปาร์ค (Uminonakamichi Seaside Park), ฟุคุโอกะ (Fukuoka) สวนริมทะเลแห่งนี้คืออุทยานแห่งชาติขนาดใหญ่ที่ตั้งอยู่ที่ “อุมิโนะนะกะมิจิ (Uminonakamichi)” ซึ่งอยู่ตรงกลางระหว่างอ่าวฮะคะตะ (Hakata Bay) และทะเลเก็งไค (The Genkai Sea) ภายในบริเวณสวนงดงามด้วยดอกไม้ที่ผลิบานอวดสีสันตามฤดูกาล และเป็นอีกหนึ่งจุดชมซากุระยอดนิยมในช่วงแรกของฤดูใบไม้ผลิ ตามจุดต่าง ๆ ภายในสวนสาธารณะมีซากุระสายพันธุ์ “โซเมโยชิโนะ (Someiyoshino)” และ “โอชิมะซากุระ (Oshimazakura)” รวมเป็นจำนวนราว 2,000 ต้น สามารถเช่าจักรยานขี่ไปตามเส้นทางจักรยานที่ให้ความรู้สึกราวกับกำลังโลดแล่นผ่านไปท่ามกลางอุโมงค์ดอกซากุระแสนสวยทีเดียว
สวนสาธารณะอิโซะยามะ (Isoyama Park), คะโงะชิมะ (Kagoshima) ซากุระพร้อมวิวเกาะซากุระจิมะ (Sakura-jima Island) ชมได้ที่สวนอิโซะยามะ ตั้งอยู่บนภูเขาสูง 150 เมตรเปิดให้เข้าชมได้พาะฤดูดอกซากุระบาน ภายในสวนงดงามไปด้วยซากุระจำนวน 250 ต้น นอกจากนี้ยังสามารถเที่ยวชมดอกไม้ในจังหวัดคะโงะชิมะ ได้แก่ สวนเซ็งกันเอ็น สวนญี่ปุ่นดั้งเดิมและคฤหาสอันงามสง่า สวนโยชิโนะ สวนขนาดใหญ่ที่มีซากุระถึง 800 ต้น หรือ สวนสัตว์ฮิระคะวะ ก็มีต้นซากุระถึง 1,000 ต้น
ซากปราสาทนะคิจิน (Nakijin Castle), โอกินาวะ (Okinawa) เป็นสถานที่งดงามด้วยวิวหน้าผาสูง ที่นี่เป็นจุดชมซากุระยอดนิยม โดยเฉพาะอย่างยิ่งในช่วงเทศกาลชมซากุระนะคิจินกุซุคุ (Nakijin Gusuku Sakura Festival) จะได้ชมความงามของซากปราสาทหินโบราณท่ามกลางซากุระ ที่มีการประดับไฟในยามค่ำคืน ทั้งนี้ยังมีจุดชมซากุระและมีการจัดงานเทศกาลชมดอกซากุระ ได้แก่ ภูเขายาเอะดาเคะ สวนนาโงะ สวนยะเอะเสะ สวนโยงิ เป็นต้น
สามารถส่งข้อมูลข่าวสารด้านการท่องเที่ยว-อาหารมาได้ที่ กอง บก.ข่าวท่องเที่ยว แฟกซ์ 0-2629-4467 อีเมล์ travel_astvmgr@hotmail.com หรือติดตามเพิ่มเติมได้ที่ Facebook :Travel @ Manager
ชมคลิปต่าง ๆ ได้ที่ Travel MGR
หนึ่งในสัญลักษณ์ของการย่างก้าวเข้าสู่ฤดูใบไม้ผลิของประเทศญี่ปุ่น ก็คือการผลิบานของ “ดอกซากุระ” ที่หลายๆ คนรอคอย ทั่วประเทศญี่ปุ่นมีซากุระมากกว่า 300 สายพันธุ์ ซึ่งมีความแตกต่างทั้งรูปร่างดอก สีสันที่มีตั้งแต่สีขาวบริสุทธิ์ ขาวอมชมพู จนถึงชมพูเข้มสด ทั่วประเทศญี่ปุ่นมีจุดชมดอกซากุระบานมากกว่า 1,000 แห่ง และมีระยะเวลาเริ่มบานของดอกไม้แตกต่างกันไป ทำให้ทุกพื้นที่ของแดนอาทิตย์อุทัยมีดอกซากุระที่งดงามไม่ซ้ำกัน ซึ่งโดยทั่วไปแล้วก็จะสามารถชมได้ตั้งแต่ช่วงปลายเดือนมีนาคม-กลางเดือนเมษายน แต่สำหรับในบางพื้นที่และซากุระบางสายพันธุ์ก็สามารถชมได้ตั้งแต่เดือนมกราคม บางที่ก็สามารถชมได้ถึงเดือนพฤษภาคม โดยดอกซากุระจะเริ่มบานตั้งแต่ทางภาคใต้ เรื่อยขึ้นไปทางภาคเหนือของประเทศญี่ปุ่น
ซึ่งในปี 2020 นี้ ก็เริ่มมีการพยากรณ์ช่วงเวลาที่ดอกซากุระจะเริ่มผลิบานออกมาแล้ว โดยทางสมาคมอุตุนิยมวิทยาญี่ปุ่น (JMC : Japan Meteorological Corporation) ได้ประกาศพยากรณ์ซากุระบานออกมาดังนี้ (อัพเดต 23 ม.ค.63)
โดยวันที่ที่ปรากฏในพยากรณ์จะเป็นวันที่เริ่มบาน และใช้เวลาอีกประมาณ 5-7 วัน ก็จะเป็นช่วงที่บานสวยเต็มที่ หรือที่เรียกว่า Full Bloom และหลังจากนั้นอีกประมาณ 1 สัปดาห์ก็จะค่อยๆ ร่วงไปจนหมด (ทั้งนี้ ขึ้นอยู่กับปัจจัยอื่นๆ ด้วย อาทิ อุณหภูมิ สภาพอากาศ ลม หรือฝน)
ใครที่กำลังเตรียมตัวไปชมซากุระที่ประเทศญี่ปุ่นในปีนี้ ทาง องค์การส่งเสริมการท่องเที่ยวแห่งประเทศญี่ปุ่น (JNTO) ก็มีสถานที่แนะนำที่เหมาะกับการไปชมดอกซากุระบานสะพรั่ง 16 จุดทั่วประเทศญี่ปุ่น
สวนสาธารณะโกะเรียวกะคุ (Goryokaku), ฮอกไกโด (Hokkaido) คือป้อมปราการรูปดาวห้าแฉกในเมืองฮาโกดาเตะ (Hakodate) ภายในสวนสาธารณะแห่งนี้มีต้นซากุระปลูกไว้ราว 1,600 ต้น ซึ่งจะผลิดอกบานสะพรั่งสวยงามเต็มพื้นที่รอบรูปดาวห้าแฉก นอกจากนี้ในฤดูซากุระบานหากมองลงมาจากจุดชมวิวบนหอคอยป้อมโกะเรียวกะคุ (Goryokaku Tower) จะเห็นทิวทัศน์งดงามแน่นขนัดไปด้วยซากุระสีชมพูอยู่เต็มบริเวณ และเมื่อพ้นช่วงที่ซากุระบานเต็มที่ไปแล้วบนผิวน้ำในคูรอบบริเวณป้อมก็จะปกคลุมไปด้วยกลีบซากุระสวยงามจับตาอย่างยิ่งทีเดียว
ฮิโตเมะเซ็มบงซากุระ ริมแม่น้ำชิโรอิชิ (Hitome Senbonzakura, Shiroishi River), มิยะงิ (Miyagi) “ฮิโตเมะเซ็มบงซากุระ” แปลว่า ซากุระ 1,000 ต้นที่เห็นได้ในคราวเดียว โดยที่ริมแม่น้ำชิโรอิชิ มีต้นซากุระกว่า 1,200 ต้นที่ทอดตัวเป็นแนวยาวราว 8 กิโลเมตร ในวันที่ท้องฟ้าโปร่งจะสามารถมองเห็นเทือกเขาซะโอ (Mt. Zao) เป็นฉากหลัง ซึ่งทิวทัศน์อันงดงามนี้เป็นหนึ่งในสัญลักษณ์ของภูมิภาคโทโฮคุ (Tohoku) โดย 1 ใน 3 ของจำนวนซากุระทั้งหมดของที่นี่อายุเกือบร้อยปี ยามค่ำคืนสามารถเพลิดเพลินกับวิวซากุระประดับไฟ พร้อมร้านขายของในงานเทศกาลชมซากุระแห่งโอกาวาระ (Ogawara Sakura Matsuri)
มิฮะรุทากิซากุระ (Miharu Takizakura), ฟุคุชิมะ (Fukushima) “มิฮะรุทากิซากุระ” เป็นสายพันธุ์ชิดาเระซากุระ (Shidarezakura) อายุกว่า 1,000 ปี เป็นสมบัติทางธรรมชาติของญี่ปุ่น และยังเป็นหนึ่งในสามต้นซากุระที่สวยที่สุด คำว่า “ทากิซากุระ” หมายถึง น้ำตกของต้นซากุระ เวลาดอกซากุระต้นนี้บานสะพรั่งนั้นแลดูคล้ายน้ำตกที่ลดหลั่นเป็นชั้นสวยงาม เนื่องจากกิ่งที่แผ่วงกว้างออไปรอบทิศมากกว่า 20 เมตร ช่วงกลางคืนจะมีการเปิดไฟประดับให้ได้ชม และรอบเมืองมิฮะรุก็ยังมีจุดชมซากุระบานสวยๆ อยู่อีก อย่างสวนซากุระ (Sakuranokoen) มีถึง 2,300 ต้น และซากุระ 450 ปีที่วัดฟุคุจูจิ (Fukujujizakura)
นะงะโทโระ (Nagatoro), ไซตะมะ (Saitama) ได้รับคัดเลือกให้เป็นหนึ่งในร้อยจุดชมซากุระยอดนิยม เมืองนี้เต็มไปด้วยซากุระกว่า 3,000 ต้น โดยเฉพาะความสวยงามจับตาเป็นพิเศษจากอุโมงค์ดอกซากุระจากสองฝั่งถนน มีสองบริเวณด้วยกัน คือ ถนนคิตะซากุระ (Kita-Sakura) มีซากุระเรียงรายอยู่ 400 ต้น ยาวกว่า 2.5 กิโลเมตร และถนนมินะมิซากุระ (Minami-Sakura) มีซากุระนับ 200 ต้น ยาวกว่า 1 กิโลเมตร ยามค่ำยังสามารถดื่มด่ำความงามของการเปิดไฟชมซากุระตอนกลางคืนได้ด้วย
ชิโดริงะฟุชิเรียวคุโด (Chidorigafuchi-ryokudo), โตเกียว (Tokyo) เส้นทางเดินซึ่งเต็มไปด้วยต้นไม้เขียวชอุ่มยาว 700 เมตรที่ทอดตัวเป็นแนวยาวเลียบคูน้ำทางฝั่งตะวันตกของพระราชวังอิมพีเรียล (Imperial Palace) ใจกลางกรุงโตเกียว (Tokyo) แห่งนี้ เมื่อถึงฤดูซากุระบานจะเต็มไปด้วยนักท่องเที่ยวที่มาเยือนนับล้านคนเลยทีเดียว ด้วยซากุระจำนวนกว่า 260 ต้น ทำให้ในฤดูซากุระบานทั้งสองฝั่งเส้นทางจะปกคลุมไปด้วยสีชมพูอ่อนงดงาม ให้ความรู้สึกราวกับกำลังเดินอยู่ท่ามกลางอุโมงค์ดอกซากุระ นอกจากนี้ยังสามารถเช่าเรือพายเล่นในคูน้ำเพื่อเพลิดเพลินกับทัศนียภาพอันงดงามของซากุระที่ผลิบานเต็มที่ได้อีกด้วย
สวนสาธารณะอะซะฮิยะมะ (Asahiyama Park), โทยามะ (Toyama) มีซากุระสายพันธุ์โซเมอิ โยชิโนะ (Somei Yoshino) มากกว่า 270 ต้น มีจุดชมวิวทิวทัศนือันงดงามเลียบฝั่งของอ่าวโทยามะ (Toyama Bay) คาบสมุทรโนะโตะ (Noto Peninsula) และเทือกเขาทาเตยามะ (Tatayama mountain range) สามารถชมการประดับไฟซากุระยามค่ำคืนและลิ้มรสอาหารท้องถิ่นอย่างฮิมิอุด้ง (Himi Udon) ได้ที่นี่
สวนสาธารณะซากปราสาททะคะโต (Taktato Castle Ruins Park), นะงะโนะ (Nagano) ความงามของซากุระพันธุ์โคฮิกังแห่งปราสาททะคะโตะ (Takato Kohiganzakura) ที่มีจำนวนกว่า 1,500 ต้น เป็นที่เลื่องลือด้วยกลีบเล็กๆ น่ารัก สีอมชมพูเข้ม เป็นเอกลักษณ์ที่หาดูได้ยากในญี่ปุ่น ใจกลางสวนนั้นมีสะพานโค้งโออุนเคียว (Ounkyo) เป็นหนึ่งในจุดชมซากุระที่ดีที่สุดของสวนแห่งนี้ และบริเวณหอกลองไทโกยากูระ (Taikoyagura) ทางทิศตะวันตกของสวน ก็จะเห็นภาพของดอกไม้สีชมพูตัดกับท้องฟ้าและหิมะสีขาวของเทือกเขาแอลป์ เป็นภาพที่งดงามจับตาเช่นกัน
คาวาซุซากุระ (Kawazu-zakura), ชิซุโอกะ (Shizuoka) มีจุดเด่นคือผลิดอกบานเร็วที่สุดและมีดอกสีชมพูเข้ม มีขนาดใหญ่ ซึ่งบริเวณแนวริมฝั่งแม่น้ำคาวาซุ (Kawazu River) ตั้งอยู่บนคาบสมุทรอิซุ (Izu) ในจังหวัดชิซุโอกะ (Shizuoka) มีต้นคาวาซุซากุระขนาดใหญ่ อายุกว่า 60 ปี มากถึง 8,000 ต้น เรียงรายบานสะพรั่งพร้อมกับทุ่งดอกคาโนลาสีเหลือง ตลอดทั้งเดือนมีการจัดเทศกาลชมดอกซากุระแห่งคาวาซุ มีซุ้มอาหารท้องถิ่นขายข้างทาง และมีการประดับประดาไฟเพื่อชมความงามของซากุระในยามค่ำคืน
แหลมไคซุ โอซากิ (Kaizu Osaki Peninsula), ชิงะ (Shiga) เป็นส่วนหนึ่งของทะเลสาบบิวะ (Lake Biwa) ที่แห่งนี้มีชื่อเสียงในเรื่องซากุระที่บานช้ากว่าใครในภูมิภาคคันไซ (Kansai) โดยจะเห็นอุโมงค์ซากุระ 800 ต้นตามแนวริมฝั่ง ทั้งนี้ ยังมีกิจกรรมอื่นๆ เช่น ล่องเรือชมวิว พายเรือแคนู เดิน หรือขี่จักรยาน เป็นต้น ยังมีจุดชมซากุระรอบทะเลสาบบิวะ ได้แก่ ปราสาทฮิโคะเนะ มีต้นซากุระ 1,200 ต้น วัดมิอิเดะระ ซากุระ 1,000 ต้น เที่ยวชุมชนริมน้ำ Hachiman-bori โดยการล่องเรือชมดอกซากุระ 6 กิโลเมตร เป็นต้น
ภูเขาโยชิโนะ (Mt. Yoshino), นารา (Nara) ที่ภูเขาโยชิโนะ (Mt. Yoshino) ได้รับการขึ้นทะเบียนเป็นมรดกโลก เต็มไปด้วยซากุระป่าราว 200 สายพันธุ์ รวมทั้งสิ้นกว่า 30,000 ต้น โดยสายพันธุ์ที่มีจำนวนมากที่สุดคือสายพันธุ์เก่าแก่อย่าง “ชิโระยามะซากุระ (Shiroyamazakura)” ทุกปีจะมีนักท่องเที่ยวเดินทางมายังภูเขาโยชิโนะเพื่อชมความงามของซากุระที่ขึ้นอยู่เต็มหุบเขาและแนวสันเขา นอกจากนี้ในฤดูซากุระบานยังมีการประดับไฟไลท์อัพในเวลากลางคืนให้ได้สัมผัสกับทัศนียภาพอันงดงามแตกต่างไปจากเวลากลางวันอีกด้วย
เซระโคซัง ฟุเรอาอิ โนะ ซาโตะ (Sera Kozan Fureai no Sato), ฮิโรชิมะ (Hiroshima) ได้ชื่อว่าเป็นถนนที่สวยที่สุด เรียงรายไปด้วยซากุระพันธุ์ชิดาเระซากุระ (Shidarezakura) มากถึง 250 ต้น และในสวนแห่งนี้ก็ยังมีซากุระอีกหลากหลายชนิดให้ได้ดื่มด่ำความสวยงามในพื้นที่เปิดขนาดใหญ่ถึง 3 จุด นอกจากนี้ ที่จังหวัดฮิโรชิมะ ยังมีจุดชมซ่กุระที่ไม่ควรพลาด ได้แก่ เกาะมิยะจิมะ (Miyajima) มีศาลเจ้ากลางน้ำและรอบๆ เกาะมีซากุระกว่า 1,300 ต้น สวนฮิจิยาม่า (Hijiyama Park) พื้นที่กว้างขวาง ตั้งอยู่บนเนินเขาที่สามารถมองเห็นวิวเมือง และมีซากุระถึง 1,300 ต้น
สะพานไม้คินไตเคียว (Kintaikyo Bridge), ยะมะงุชิ (Yamaguchi) สะพาน “คินไตเคียว” เป็นสะพานที่มีรูปร่างแตกต่างจากสะพานทั่วไป ถูกจัดอันดับให้เป็นหนึ่งในสามสะพานที่มีชื่อเสียงที่สุดในญี่ปุ่น งานเทศกาลชมดอกซากุระแห่งสะพาน “คินไตเคียว” จัดขึ้นในช่วงต้นเดือนเมษายนของทุกปี ซึ่งได้รับความนิยมจากนักท่องเที่ยวจำนวนมาก ในช่วงฤดูชมดอกซากุระยามค่ำคืนจะมีการประดับแสงไฟด้วย กิจกรรมที่พลาดไม่ได้สำหรับที่นี่คือ การล่องเรือชมสะพาน “คินไตเคียว” และดอกซากุระที่บานสะพรั่ง
ภูเขาชิอุเดะ (Mt. Shiude), คางาวะ (Kagawa) ภาพความสวยงามที่น่าจดจำของภูเขาที่ถูกย้อมไปด้วยสีชมพูอ่อนของซากุระราว 1,000 ต้น บนภูเขาชิอุเดะ ที่มีความสูง 352 เมตร บนคาบสมุทรโชไน (Shonai Peninsula) เป็นภาพที่สุดแสนโรแมนติก เมื่อได้ดื่มด่ำไปกับซากุระบานสะพรั่ง มีเมฆหมอกกับวิวทะเลเซโตะ (Seto Inland Sea) อยู่เบื้องหลัง ซึ่งในวันที่อากาศเป็นใจก็จะเห็นไปถึงเกาะโชโดะชิมะ (Shodoshima Island) จากจุดชมวิวด้านบน ยิ่งในช่วงที่ประอาทิตย์ค่อยๆ ลับขอบฟ้า แสดงแดดที่ย้อมผืนน้ำทะเลให้เป็นสีส้มอมชมพูนั้นสะกดสายตาเป็นอย่างยิ่ง
อุมิโนะนะกะมิจิ ซีไซด์ปาร์ค (Uminonakamichi Seaside Park), ฟุคุโอกะ (Fukuoka) สวนริมทะเลแห่งนี้คืออุทยานแห่งชาติขนาดใหญ่ที่ตั้งอยู่ที่ “อุมิโนะนะกะมิจิ (Uminonakamichi)” ซึ่งอยู่ตรงกลางระหว่างอ่าวฮะคะตะ (Hakata Bay) และทะเลเก็งไค (The Genkai Sea) ภายในบริเวณสวนงดงามด้วยดอกไม้ที่ผลิบานอวดสีสันตามฤดูกาล และเป็นอีกหนึ่งจุดชมซากุระยอดนิยมในช่วงแรกของฤดูใบไม้ผลิ ตามจุดต่าง ๆ ภายในสวนสาธารณะมีซากุระสายพันธุ์ “โซเมโยชิโนะ (Someiyoshino)” และ “โอชิมะซากุระ (Oshimazakura)” รวมเป็นจำนวนราว 2,000 ต้น สามารถเช่าจักรยานขี่ไปตามเส้นทางจักรยานที่ให้ความรู้สึกราวกับกำลังโลดแล่นผ่านไปท่ามกลางอุโมงค์ดอกซากุระแสนสวยทีเดียว
สวนสาธารณะอิโซะยามะ (Isoyama Park), คะโงะชิมะ (Kagoshima) ซากุระพร้อมวิวเกาะซากุระจิมะ (Sakura-jima Island) ชมได้ที่สวนอิโซะยามะ ตั้งอยู่บนภูเขาสูง 150 เมตรเปิดให้เข้าชมได้พาะฤดูดอกซากุระบาน ภายในสวนงดงามไปด้วยซากุระจำนวน 250 ต้น นอกจากนี้ยังสามารถเที่ยวชมดอกไม้ในจังหวัดคะโงะชิมะ ได้แก่ สวนเซ็งกันเอ็น สวนญี่ปุ่นดั้งเดิมและคฤหาสอันงามสง่า สวนโยชิโนะ สวนขนาดใหญ่ที่มีซากุระถึง 800 ต้น หรือ สวนสัตว์ฮิระคะวะ ก็มีต้นซากุระถึง 1,000 ต้น
ซากปราสาทนะคิจิน (Nakijin Castle), โอกินาวะ (Okinawa) เป็นสถานที่งดงามด้วยวิวหน้าผาสูง ที่นี่เป็นจุดชมซากุระยอดนิยม โดยเฉพาะอย่างยิ่งในช่วงเทศกาลชมซากุระนะคิจินกุซุคุ (Nakijin Gusuku Sakura Festival) จะได้ชมความงามของซากปราสาทหินโบราณท่ามกลางซากุระ ที่มีการประดับไฟในยามค่ำคืน ทั้งนี้ยังมีจุดชมซากุระและมีการจัดงานเทศกาลชมดอกซากุระ ได้แก่ ภูเขายาเอะดาเคะ สวนนาโงะ สวนยะเอะเสะ สวนโยงิ เป็นต้น
สามารถส่งข้อมูลข่าวสารด้านการท่องเที่ยว-อาหารมาได้ที่ กอง บก.ข่าวท่องเที่ยว แฟกซ์ 0-2629-4467 อีเมล์ travel_astvmgr@hotmail.com หรือติดตามเพิ่มเติมได้ที่ Facebook :Travel @ Manager
ชมคลิปต่าง ๆ ได้ที่ Travel MGR