โดย : ปิ่น บุตรี (pinn109@hotmail.com)
Facebook Travel Unlimited / เที่ยวถึงไหนถึงกัน
...แต่ไหนแต่ไรมาไม่เคยเห็นอู่ฮั่นเป็นแบบนี้
แต่ฉันมั่นใจ
แสงสว่างจะสาดส่องทั่วพื้นดิน
ดอกซากุระจะเบ่งบานอีกครั้ง
คนรุ่นก่อนยังคงกินเล่อกันเมี่ยน (บะหมี่แห้งร้อน)
ถนนจะมีเสียงคนดังอีกครั้ง
พวกเราจะถอดหน้ากากอนามัย
อยากไปที่ที่อยากจะไป
ได้พบคนที่อยากเจอ...
จากบทเพลง “อู่ฮั่น” แปลภาษาไทยโดย : Stay in Style
วันนี้แม้ “อู่ฮั่น” จะเป็นที่รู้จักโด่งดังไปทั่วโลกว่า เป็นแหล่งกำเนิดของไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่ หรือที่หลายคนนิยมเรียกกันว่า “ไวรัสอู่ฮั่น” จนทำให้ทางการจีนต้องประกาศปิดเมืองอู่ฮั่น (และอีกบางเมืองใกล้เคียง) ตั้งแต่ช่วงตรุษจีนที่ผ่านมา
อย่างไรก็ดีสำหรับเมืองอู่ฮั่นในยามปกตินั้น ถือเป็นอีกหนึ่งเมืองที่มีมนต์เสน่ห์น่าท่องเที่ยว และบ้านเราก็มีเที่ยวบินตรงสู่เมืองอู่ฮั่น
ดังนั้นเพื่อเป็นการฉายภาพของเมืองอู่ฮั่น ในมิติที่นอกเหนือไปจากเรื่องไวรัสโคโรนา ผมจึงขอคัดสรร 10 เรื่องน่ารู้คู่เมืองอู่ฮั่นมานำเสนอกัน ดังนี้
1.เมืองเอก หูเป่ย : อู่ฮั่นเป็นเมืองเอกหรือเมืองหลวงของมณฑลหูเป่ย ตั้งอยู่ตรงช่วงกลางของประเทศจีนค่อนมาทางตะวันออก ปัจจุบันอู่ฮั่นมีประชากรประมาณ 11 ล้านคน มากที่สุดในภาคกลางของจีน และมากเป็นอันดับ 7 ของประเทศ
2.อู่ฮั่นชื่อนี้มาอย่างไร? : ชื่อ “อู่ฮั่น” มาจากการรวมกันของ 3 เมืองในประวัติศาสตร์ คือ เมืองอู่ชาง ฮั่นโข่ว และฮั่นหยาง ซึ่งทั้งสามเมืองรู้จักกันในชื่อ “เมืองทั้งสามของอู่ฮั่น”
3.ยุทธการผาแดง : อู่ฮั่นเป็นหนึ่งในเมืองขนาดใหญ่และเมืองสำคัญมาตั้งแต่เมื่อครั้งอดีต เคยเป็นจุดยุทธศาสตร์สำคัญในสมัยสามก๊กใน “ยุทธการผาแดง” หรือ “ศึกผาแดง” หรือ “ศึกเซ็กเพ็ก” หรือที่คนไทยรู้จักกันดีในชื่อ “โจโฉแตกทัพเรือ”
ยุทธการผาแดง เกิดขึ้นในราว ค.ศ. 208 เป็นหนึ่งในสงครามที่สำคัญที่สุด ในยุคปลายราชวงศ์ฮั่นในรัชสมัยของพระเจ้าฮั่นเหี้ยนเต้ ซึ่งเป็นจุดเริ่มต้นของยุคสามก๊กในประเทศจีนในเวลาต่อมา
สำหรับผาแดง หรือ หน้าผาเซ็กเพ็ก (ซานกั๋วชื่อปี้) ตั้งอยู่ริมแม่น้ำแยงซีเกียงทางทิศใต้ ห่างจากตัวเมืองอู่ฮั่นไปทางทิศตะวันตกเฉียงเหนือประมาณ 36 กม.
ปัจจุบันผาแดงถือเป็นอีกหนึ่งสถานที่ท่องเที่ยวน่าสนใจของผู้มาเยือนอู่ฮั่น ที่ผาแดงมีจุดท่องเที่ยวเด่น ๆ อาทิ หน้าผาแดง กระท่อมบังทอง แท่นเรียกลม และ พิพิธภัณฑ์สงครามผาแดง
4.ชิคาโกตะวันออก : ในช่วงปลายราชวงศ์ชิง และช่วงหลังต้นยุคจีนปฏิรูป อู่ฮั่นได้รับฉายาว่าเป็น “ชิคาโก้แห่งตะวันออก” หรือ “ชิคาโกแห่งจีน” เนื่องจากเป็นเมืองที่มีความทันสมัยในอันดับต้น ๆ ของเอเชีย
ปัจจุบันอู่ฮั่นถือเป็นเมืองเศรษฐกิจใหญ่เป็นอันดับ 8 ของจีน อีกทั้งยังเป็นเมืองสำคัญที่เชื่อมต่อการคมนาคมรถไฟฟ้าความเร็วสูงที่สำคัญของจีนไปสู่ภูมิภาคต่าง ๆ โดยมีเส้นทางรถไฟความเร็วสูงสายอู่ฮั่น -กวางโจว เป็นสายหลัก
ขณะที่การคมนาคมทางอากาศ สนามบินอู่ฮั่นเทียนเหอ ถือเป็นอีกหนึ่งศูนย์กลางการบินของเมืองจีน สามารถรองรับผู้โดยสารได้มากถึง 25 ล้านคน มีเที่ยวบินสู่เมืองสำคัญทั่วโลก รวมถึงในประเทศไทย ทั้งที่กรุงเทพฯ เชียงใหม่ ภูเก็ต และ กระบี่
5.เมืองแห่งสะพานระดับโลก : อู่ฮั่นเป็นเมืองที่ไม่ติดทะเล แต่มีแม่น้ำใหญ่ 2 สายมาบรรจบกัน คือ แม่น้ำแยงซีเกียงและแม่น้ำฮั่น แบ่งอู่ฮั่นออกเป็น 3 เขต ได้แก่ อู่ชาง ฮั่นโข่ว และฮั่นหยาง
อู่ฮั่นเป็นหนึ่งในเมืองที่มีความโดดเด่นในเรื่องของ “สะพาน” ซึ่งถือเป็นปัจจัยหลักที่ทำให้อู่ฮั่นได้รับฉายา “ชิคาโกแห่งจีน” เพราะถือว่ามีความสำคัญต่อการคมนาคมในประเทศ
สำหรับสะพานที่โดดเด่นของอู่ฮั่นนั้นก็นำโดย “สะพานข้ามแม่น้ำแยงซีเกียง” หรือ “สะพานใหญ่ข้ามแม่น้ำแยงซีเกียง” หนึ่งในสัญลักษณ์เมืองอู่ฮั่น กับความสวยงามคลาสสิกของสะพานขนาดใหญ่ที่สร้างข้ามแม่น้ำแยงซีเกียงเป็นแห่งแรกในเมืองจีน สะพานแห่งนี้เป็นสะพานแบบ “2 in 1” คือมีทั้งทางรถยนตร์และทางรถไฟ ที่สร้างขึ้นในช่วงของแม่น้ำแยงซีเกียงที่แคบที่สุดในอู่ฮั่น โดยเปิดใช้อย่างเป็นทางการมาตั้งแต่ ปี ค.ศ. 1957
นอกจากนี้อู่ฮั่นยังมีสะพานอื่น ๆ อีก ได้แก่ สะพานฉิงชวน, สะพานข้ามแม่น้ำแยงซีเกียงอิงอู่โจว, สะพานใหญ่ซาหู, สะพานข้ามทะเลสาบโฮ่วกวน ที่เป็นสะพานข้ามทะเลสาบที่ยาวที่สุดในประเทศจีน โดยมีความยาวถึง 5.5 กม. และ “สะพานข้ามแม่น้ำแยงซีหยางซื่อก่าง” สะพานแขวน 2 ชั้น ที่มีช่วงสะพาน (span) ยาวที่สุดในโลกถึง 1,700 เมตร
6.มหัศจรรย์สันทรายแห่งแยงซีเกียง : แม่น้ำแยงซีเกียงที่ไหลผ่านตัวเมืองอู่ฮั่น ยามที่สายน้ำลดระดับลงต่ำมาก จะเกิดเป็นสันดอนทรายขนาดมหึมาโผล่พ้นเหนือน้ำขึ้นมา ดุจดังเกาะกลางแม่น้ำที่มีทิวทัศน์เป็นริ้วแนวสันทรายอันสวยงามน่าตื่นตาตื่นใจ ซึ่งคนจีนเรียกสถานที่แห่งนี้ว่า “เทียนซิ่งโจว”
7.เมืองอากาศเปลี่ยนแปลงบ่อย : อู่ฮั่นเป็นเมืองที่สภาพอากาศแปรปรวนอยู่เสมอ จนได้รับฉายาว่าเป็น “เมืองที่เปลี่ยนแปลงทุกวัน” โดยมีผู้เปรียบเปรยว่า ฤดูกาลที่อู่ฮั่นนั้นเปลี่ยนแปลงเสมือนใช้พัดโบก
อย่างไรก็ดีอู่ฮั่นแต่ละฤดูต่างก็มีเสน่ห์ที่แตกต่างกันออกไป โดยเฉพาะในฤดูใบไม้ผลิ ช่วงปลายเดือนมีนาคมถึงเมษายน เมืองอู่ฮั่นจะเต็มไปด้วยดอกซากุระบานสะพรั่งไปทั่วทั้งเมือง โดยจุดชมซากุระเลื่องชื่อของอู่ฮั่นนั้นก็คือที่บริเวณทะเลสาบตงหู ทะเลสาบที่ใหญ่ที่สุดของประเทศจีน และที่มหาวิทยาลัยอู่ฮั่น
8.หอกระเรียนเหลือง : อู่ฮั่นมี “หอกระเรียนเหลือง” (Yellow Crane Tower) เป็นแลนด์มาร์ค เป็นสัญลักษณ์สำคัญประจำเมือง ตั้งโดดเด่นอยู่กลางเมือง
หอกระเรียนเหลือง สร้างขึ้นตั้งแต่ ค.ศ.223 เป็นหอสูง 5 ชั้น ในอดีตสร้างขึ้นเพื่อใช้เป็นที่สังเกตการณ์ป้องกันการโจมตีจากข้าศึกศัตรู ต่อมาถูกเผาทำลายจากการสู้รบจึงได้มีการสร้างขึ้นใหม่เลียนแบบโครงสร้างไม้ที่เป็นของเดิม
ปัจจุบันหอกระเรียนเหลืองถือเป็นสถานที่ท่องเที่ยวชื่อดังของเมืองอู่ฮั่น โดยประเทศจีนขึ้นทะเบียนเป็นให้เป็นแหล่งท่องเที่ยวระดับ 5A ซึ่งถือเป็นแหล่งท่องเที่ยวชั้นดีเยี่ยมของเมืองจีน
9.เล่อกันเมี่ยน : คนอู่ฮั่นมีวัฒนธรรมการกินที่คล้ายคนไทยอยู่อย่างหนึ่งนั่นก็คือ มักชอบออกไปหาอะไรกินยามค่ำคืน
สำหรับอาหารประจำถิ่นคู่บ้านคู่เมืองอู่ฮั่นก็คือ “เล่อกันเมี่ยน” หรือ “บะหมี่แห้งร้อน” ที่ได้รับการยกย่องให้เป็น 1 ใน 10 สุดยอดเมนูเส้นของจีน (คัดสรรโดยรัฐบาลกลางจีน)
เล่อกันเมี่ยน เป็นการนำเส้นก๋วยเตี๋ยว (เมี่ยน) ที่เป็นเส้นบะหมี่สีเหลืองทรงกลม (คล้ายเส้นสปาเก็ตตี้) นำมาลวกแล้วไปคลุกกับน้ำมันงา พักทิ้งไว้จนเย็น เวลาจะกินให้นำไปลวกอีกครั้ง แล้วคลุกเคล้ากับเครื่องปรุงรส อย่างเช่น ซอสถั่วเหลือง ซอสพริก ซอสงา โรยหน้าด้วยพริก ต้นหอม ผักชี (หรือบางสูตรอาจใช้นำพริกเสฉวน ที่จะให้รสจัดจ้านขึ้นด้วยความเผ็ดร้อนของหม่าล่า)
เล่อกันเมี่ยนถือเป็นอีกหนึ่งสัญลักษณ์ของเมืองอู่ฮั่น ซึ่ง “เฉิน อวี่ถิง” สาวชาวเทียนจินได้วาดภาพเล่อกันเมี่ยนด้วยลายเส้นการ์ตูนน่ารัก ๆ โพสต์ลงบนเว็บไซต์เว่ยป๋อ เพื่อให้กำลังใจแก่ชาวอู่ฮั่น โดยให้เมนูประจำถิ่นของเมืองต่าง ๆ มายืนคอยให้กำลังใจผู้ป่วยที่แทนด้วยเล่อกันเมี่ยน ซึ่งสื่อถึงความเป็นอู่ฮั่นได้เป็นอย่างดี
10.เมืองพี่เมืองน้องกทม. : อู่ฮั่นเป็นหนึ่งในเมืองพี่เมืองน้อง (Sister City) ของกรุงเทพมหานคร เพื่อส่งเสริมมิตรภาพของคนไทย-จีน ระหว่างเมืองทั้งสอง รวมถึงเพื่อการแลกเปลี่ยนทางวัฒนธรรม การค้า และการท่องเที่ยว โดยมีความร่วมมือระหว่างสองเมืองเริ่มมีมาตั้งแต่ปี 2556 และมีการลงนามอย่างเป็นทางการ เมื่อวันที่ 16 พฤศจิกายน 2561
และนี่ก็คือ 10 เรื่องน่ารู้คู่เมืองอู่ฮั่น ซึ่งวันนี้ผู้คนทั่วโลกต่างส่งกำลังใจให้ชาวอู่ฮั่น ชาวจีน และผู้ที่ประสบภาวะติดเชื้อไวรัสโคโรนา ให้เข้มแข็งต่อสู่กับวิกฤติอย่าย่อท้อ แล้วก็ภาวนาของให้วิกฤติไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่ที่เขย่าโลกอยู่นี้ ผ่านพ้นไปโดยไว
แล้ววันที่ท้องฟ้าสดใสจะกลับมาเยือนอู่ฮั่นอีกครั้ง
....................................................................................................
สามารถส่งข้อมูลข่าวสารด้านการท่องเที่ยว-อาหารมาได้ที่ กอง บก.ข่าวท่องเที่ยว แฟกซ์ 0-2629-4467 อีเมล์ travel_astvmgr@hotmail.com หรือติดตามเพิ่มเติมได้ที่ Facebook :Travel @ Manager
ชมคลิปต่าง ๆ ได้ที่ Travel MGR
Facebook Travel Unlimited / เที่ยวถึงไหนถึงกัน
...แต่ไหนแต่ไรมาไม่เคยเห็นอู่ฮั่นเป็นแบบนี้
แต่ฉันมั่นใจ
แสงสว่างจะสาดส่องทั่วพื้นดิน
ดอกซากุระจะเบ่งบานอีกครั้ง
คนรุ่นก่อนยังคงกินเล่อกันเมี่ยน (บะหมี่แห้งร้อน)
ถนนจะมีเสียงคนดังอีกครั้ง
พวกเราจะถอดหน้ากากอนามัย
อยากไปที่ที่อยากจะไป
ได้พบคนที่อยากเจอ...
จากบทเพลง “อู่ฮั่น” แปลภาษาไทยโดย : Stay in Style
วันนี้แม้ “อู่ฮั่น” จะเป็นที่รู้จักโด่งดังไปทั่วโลกว่า เป็นแหล่งกำเนิดของไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่ หรือที่หลายคนนิยมเรียกกันว่า “ไวรัสอู่ฮั่น” จนทำให้ทางการจีนต้องประกาศปิดเมืองอู่ฮั่น (และอีกบางเมืองใกล้เคียง) ตั้งแต่ช่วงตรุษจีนที่ผ่านมา
อย่างไรก็ดีสำหรับเมืองอู่ฮั่นในยามปกตินั้น ถือเป็นอีกหนึ่งเมืองที่มีมนต์เสน่ห์น่าท่องเที่ยว และบ้านเราก็มีเที่ยวบินตรงสู่เมืองอู่ฮั่น
ดังนั้นเพื่อเป็นการฉายภาพของเมืองอู่ฮั่น ในมิติที่นอกเหนือไปจากเรื่องไวรัสโคโรนา ผมจึงขอคัดสรร 10 เรื่องน่ารู้คู่เมืองอู่ฮั่นมานำเสนอกัน ดังนี้
1.เมืองเอก หูเป่ย : อู่ฮั่นเป็นเมืองเอกหรือเมืองหลวงของมณฑลหูเป่ย ตั้งอยู่ตรงช่วงกลางของประเทศจีนค่อนมาทางตะวันออก ปัจจุบันอู่ฮั่นมีประชากรประมาณ 11 ล้านคน มากที่สุดในภาคกลางของจีน และมากเป็นอันดับ 7 ของประเทศ
2.อู่ฮั่นชื่อนี้มาอย่างไร? : ชื่อ “อู่ฮั่น” มาจากการรวมกันของ 3 เมืองในประวัติศาสตร์ คือ เมืองอู่ชาง ฮั่นโข่ว และฮั่นหยาง ซึ่งทั้งสามเมืองรู้จักกันในชื่อ “เมืองทั้งสามของอู่ฮั่น”
3.ยุทธการผาแดง : อู่ฮั่นเป็นหนึ่งในเมืองขนาดใหญ่และเมืองสำคัญมาตั้งแต่เมื่อครั้งอดีต เคยเป็นจุดยุทธศาสตร์สำคัญในสมัยสามก๊กใน “ยุทธการผาแดง” หรือ “ศึกผาแดง” หรือ “ศึกเซ็กเพ็ก” หรือที่คนไทยรู้จักกันดีในชื่อ “โจโฉแตกทัพเรือ”
ยุทธการผาแดง เกิดขึ้นในราว ค.ศ. 208 เป็นหนึ่งในสงครามที่สำคัญที่สุด ในยุคปลายราชวงศ์ฮั่นในรัชสมัยของพระเจ้าฮั่นเหี้ยนเต้ ซึ่งเป็นจุดเริ่มต้นของยุคสามก๊กในประเทศจีนในเวลาต่อมา
สำหรับผาแดง หรือ หน้าผาเซ็กเพ็ก (ซานกั๋วชื่อปี้) ตั้งอยู่ริมแม่น้ำแยงซีเกียงทางทิศใต้ ห่างจากตัวเมืองอู่ฮั่นไปทางทิศตะวันตกเฉียงเหนือประมาณ 36 กม.
ปัจจุบันผาแดงถือเป็นอีกหนึ่งสถานที่ท่องเที่ยวน่าสนใจของผู้มาเยือนอู่ฮั่น ที่ผาแดงมีจุดท่องเที่ยวเด่น ๆ อาทิ หน้าผาแดง กระท่อมบังทอง แท่นเรียกลม และ พิพิธภัณฑ์สงครามผาแดง
4.ชิคาโกตะวันออก : ในช่วงปลายราชวงศ์ชิง และช่วงหลังต้นยุคจีนปฏิรูป อู่ฮั่นได้รับฉายาว่าเป็น “ชิคาโก้แห่งตะวันออก” หรือ “ชิคาโกแห่งจีน” เนื่องจากเป็นเมืองที่มีความทันสมัยในอันดับต้น ๆ ของเอเชีย
ปัจจุบันอู่ฮั่นถือเป็นเมืองเศรษฐกิจใหญ่เป็นอันดับ 8 ของจีน อีกทั้งยังเป็นเมืองสำคัญที่เชื่อมต่อการคมนาคมรถไฟฟ้าความเร็วสูงที่สำคัญของจีนไปสู่ภูมิภาคต่าง ๆ โดยมีเส้นทางรถไฟความเร็วสูงสายอู่ฮั่น -กวางโจว เป็นสายหลัก
ขณะที่การคมนาคมทางอากาศ สนามบินอู่ฮั่นเทียนเหอ ถือเป็นอีกหนึ่งศูนย์กลางการบินของเมืองจีน สามารถรองรับผู้โดยสารได้มากถึง 25 ล้านคน มีเที่ยวบินสู่เมืองสำคัญทั่วโลก รวมถึงในประเทศไทย ทั้งที่กรุงเทพฯ เชียงใหม่ ภูเก็ต และ กระบี่
5.เมืองแห่งสะพานระดับโลก : อู่ฮั่นเป็นเมืองที่ไม่ติดทะเล แต่มีแม่น้ำใหญ่ 2 สายมาบรรจบกัน คือ แม่น้ำแยงซีเกียงและแม่น้ำฮั่น แบ่งอู่ฮั่นออกเป็น 3 เขต ได้แก่ อู่ชาง ฮั่นโข่ว และฮั่นหยาง
อู่ฮั่นเป็นหนึ่งในเมืองที่มีความโดดเด่นในเรื่องของ “สะพาน” ซึ่งถือเป็นปัจจัยหลักที่ทำให้อู่ฮั่นได้รับฉายา “ชิคาโกแห่งจีน” เพราะถือว่ามีความสำคัญต่อการคมนาคมในประเทศ
สำหรับสะพานที่โดดเด่นของอู่ฮั่นนั้นก็นำโดย “สะพานข้ามแม่น้ำแยงซีเกียง” หรือ “สะพานใหญ่ข้ามแม่น้ำแยงซีเกียง” หนึ่งในสัญลักษณ์เมืองอู่ฮั่น กับความสวยงามคลาสสิกของสะพานขนาดใหญ่ที่สร้างข้ามแม่น้ำแยงซีเกียงเป็นแห่งแรกในเมืองจีน สะพานแห่งนี้เป็นสะพานแบบ “2 in 1” คือมีทั้งทางรถยนตร์และทางรถไฟ ที่สร้างขึ้นในช่วงของแม่น้ำแยงซีเกียงที่แคบที่สุดในอู่ฮั่น โดยเปิดใช้อย่างเป็นทางการมาตั้งแต่ ปี ค.ศ. 1957
นอกจากนี้อู่ฮั่นยังมีสะพานอื่น ๆ อีก ได้แก่ สะพานฉิงชวน, สะพานข้ามแม่น้ำแยงซีเกียงอิงอู่โจว, สะพานใหญ่ซาหู, สะพานข้ามทะเลสาบโฮ่วกวน ที่เป็นสะพานข้ามทะเลสาบที่ยาวที่สุดในประเทศจีน โดยมีความยาวถึง 5.5 กม. และ “สะพานข้ามแม่น้ำแยงซีหยางซื่อก่าง” สะพานแขวน 2 ชั้น ที่มีช่วงสะพาน (span) ยาวที่สุดในโลกถึง 1,700 เมตร
6.มหัศจรรย์สันทรายแห่งแยงซีเกียง : แม่น้ำแยงซีเกียงที่ไหลผ่านตัวเมืองอู่ฮั่น ยามที่สายน้ำลดระดับลงต่ำมาก จะเกิดเป็นสันดอนทรายขนาดมหึมาโผล่พ้นเหนือน้ำขึ้นมา ดุจดังเกาะกลางแม่น้ำที่มีทิวทัศน์เป็นริ้วแนวสันทรายอันสวยงามน่าตื่นตาตื่นใจ ซึ่งคนจีนเรียกสถานที่แห่งนี้ว่า “เทียนซิ่งโจว”
7.เมืองอากาศเปลี่ยนแปลงบ่อย : อู่ฮั่นเป็นเมืองที่สภาพอากาศแปรปรวนอยู่เสมอ จนได้รับฉายาว่าเป็น “เมืองที่เปลี่ยนแปลงทุกวัน” โดยมีผู้เปรียบเปรยว่า ฤดูกาลที่อู่ฮั่นนั้นเปลี่ยนแปลงเสมือนใช้พัดโบก
อย่างไรก็ดีอู่ฮั่นแต่ละฤดูต่างก็มีเสน่ห์ที่แตกต่างกันออกไป โดยเฉพาะในฤดูใบไม้ผลิ ช่วงปลายเดือนมีนาคมถึงเมษายน เมืองอู่ฮั่นจะเต็มไปด้วยดอกซากุระบานสะพรั่งไปทั่วทั้งเมือง โดยจุดชมซากุระเลื่องชื่อของอู่ฮั่นนั้นก็คือที่บริเวณทะเลสาบตงหู ทะเลสาบที่ใหญ่ที่สุดของประเทศจีน และที่มหาวิทยาลัยอู่ฮั่น
8.หอกระเรียนเหลือง : อู่ฮั่นมี “หอกระเรียนเหลือง” (Yellow Crane Tower) เป็นแลนด์มาร์ค เป็นสัญลักษณ์สำคัญประจำเมือง ตั้งโดดเด่นอยู่กลางเมือง
หอกระเรียนเหลือง สร้างขึ้นตั้งแต่ ค.ศ.223 เป็นหอสูง 5 ชั้น ในอดีตสร้างขึ้นเพื่อใช้เป็นที่สังเกตการณ์ป้องกันการโจมตีจากข้าศึกศัตรู ต่อมาถูกเผาทำลายจากการสู้รบจึงได้มีการสร้างขึ้นใหม่เลียนแบบโครงสร้างไม้ที่เป็นของเดิม
ปัจจุบันหอกระเรียนเหลืองถือเป็นสถานที่ท่องเที่ยวชื่อดังของเมืองอู่ฮั่น โดยประเทศจีนขึ้นทะเบียนเป็นให้เป็นแหล่งท่องเที่ยวระดับ 5A ซึ่งถือเป็นแหล่งท่องเที่ยวชั้นดีเยี่ยมของเมืองจีน
9.เล่อกันเมี่ยน : คนอู่ฮั่นมีวัฒนธรรมการกินที่คล้ายคนไทยอยู่อย่างหนึ่งนั่นก็คือ มักชอบออกไปหาอะไรกินยามค่ำคืน
สำหรับอาหารประจำถิ่นคู่บ้านคู่เมืองอู่ฮั่นก็คือ “เล่อกันเมี่ยน” หรือ “บะหมี่แห้งร้อน” ที่ได้รับการยกย่องให้เป็น 1 ใน 10 สุดยอดเมนูเส้นของจีน (คัดสรรโดยรัฐบาลกลางจีน)
เล่อกันเมี่ยน เป็นการนำเส้นก๋วยเตี๋ยว (เมี่ยน) ที่เป็นเส้นบะหมี่สีเหลืองทรงกลม (คล้ายเส้นสปาเก็ตตี้) นำมาลวกแล้วไปคลุกกับน้ำมันงา พักทิ้งไว้จนเย็น เวลาจะกินให้นำไปลวกอีกครั้ง แล้วคลุกเคล้ากับเครื่องปรุงรส อย่างเช่น ซอสถั่วเหลือง ซอสพริก ซอสงา โรยหน้าด้วยพริก ต้นหอม ผักชี (หรือบางสูตรอาจใช้นำพริกเสฉวน ที่จะให้รสจัดจ้านขึ้นด้วยความเผ็ดร้อนของหม่าล่า)
เล่อกันเมี่ยนถือเป็นอีกหนึ่งสัญลักษณ์ของเมืองอู่ฮั่น ซึ่ง “เฉิน อวี่ถิง” สาวชาวเทียนจินได้วาดภาพเล่อกันเมี่ยนด้วยลายเส้นการ์ตูนน่ารัก ๆ โพสต์ลงบนเว็บไซต์เว่ยป๋อ เพื่อให้กำลังใจแก่ชาวอู่ฮั่น โดยให้เมนูประจำถิ่นของเมืองต่าง ๆ มายืนคอยให้กำลังใจผู้ป่วยที่แทนด้วยเล่อกันเมี่ยน ซึ่งสื่อถึงความเป็นอู่ฮั่นได้เป็นอย่างดี
10.เมืองพี่เมืองน้องกทม. : อู่ฮั่นเป็นหนึ่งในเมืองพี่เมืองน้อง (Sister City) ของกรุงเทพมหานคร เพื่อส่งเสริมมิตรภาพของคนไทย-จีน ระหว่างเมืองทั้งสอง รวมถึงเพื่อการแลกเปลี่ยนทางวัฒนธรรม การค้า และการท่องเที่ยว โดยมีความร่วมมือระหว่างสองเมืองเริ่มมีมาตั้งแต่ปี 2556 และมีการลงนามอย่างเป็นทางการ เมื่อวันที่ 16 พฤศจิกายน 2561
และนี่ก็คือ 10 เรื่องน่ารู้คู่เมืองอู่ฮั่น ซึ่งวันนี้ผู้คนทั่วโลกต่างส่งกำลังใจให้ชาวอู่ฮั่น ชาวจีน และผู้ที่ประสบภาวะติดเชื้อไวรัสโคโรนา ให้เข้มแข็งต่อสู่กับวิกฤติอย่าย่อท้อ แล้วก็ภาวนาของให้วิกฤติไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่ที่เขย่าโลกอยู่นี้ ผ่านพ้นไปโดยไว
แล้ววันที่ท้องฟ้าสดใสจะกลับมาเยือนอู่ฮั่นอีกครั้ง
....................................................................................................
สามารถส่งข้อมูลข่าวสารด้านการท่องเที่ยว-อาหารมาได้ที่ กอง บก.ข่าวท่องเที่ยว แฟกซ์ 0-2629-4467 อีเมล์ travel_astvmgr@hotmail.com หรือติดตามเพิ่มเติมได้ที่ Facebook :Travel @ Manager
ชมคลิปต่าง ๆ ได้ที่ Travel MGR
