Youtube :Travel MGR
ในช่วงนี้ถือเป็นการเริ่มต้นสู่ฤดูท่องเที่ยวของท้องทะเลอันดามัน คลื่นลมในทะเลฝั่งตะวันตกเริ่มสงบ เผยให้เห็นความงดงามของน้ำทะเลใสและหาดทรายขาวที่งดงามเลื่องชื่อ
และนอกจากน้ำใสทรายขาวแล้ว หากพูดถึงปะการังและโลกใต้ทะเลที่งดงามแห่งหนึ่งในไทย ที่แม้นักท่องเที่ยวทั่วไปที่ดำน้ำลึกไม่เป็นก็ยังสามารถชมความงามได้ ต้องยกให้ “หมู่เกาะสุรินทร์” แห่งทะเลพังงามาเป็นอันดับต้นๆ โดยถือได้ว่าที่นี่เป็นหนึ่งในแหล่งดำน้ำตื้นที่ดีที่สุดในเมืองไทย ที่ในปีนี้เพิ่งจะเปิดฤดูการท่องเที่ยวตั้งแต่เดือนตุลาคม ยาวไปถึงเดือนพฤษภาคมปีหน้า
หมู่เกาะสุรินทร์ อยู่ในความดูแลของอุทยานแห่งชาติหมู่เกาะสุรินทร์ ในพื้นที่อำเภอคุระบุรี จังหวัดพังงา ตั้งอยู่ในทะเลอันดามัน ห่างจากชายฝั่งทะเลบริเวณท่าเรือคุระบุรีประมาณ 60 กิโลเมตร เดินทางด้วยเรือสปีดโบทใช้เวลาประมาณ 1.15 ชั่วโมง หมู่เกาะประกอบไปด้วยเกาะ 5 เกาะ คือ เกาะสุรินทร์เหนือ เกาะสุรินทร์ใต้ ซึ่งเป็นสองเกาะใหญ่ และมีเกาะบริวารได้แก่ เกาะรี (เกาะสต๊อร์ค) เกาะไข่ (เกาะตอรินลา) และเกาะกลาง (เกาะปาจุมบา)
“ตะลอนเที่ยว” อยู่บนเรือสปีดโบทมุ่งหน้าสู่หมู่เกาะสุรินทร์ เมื่อเรือแล่นเข้าใกล้เกาะหลายๆ คนบนเรือต่างก็อุทานด้วยความตื่นเต้นเพราะภาพเบื้องหน้าคือผืนน้ำสีน้ำเงินเข้มที่ไล่โทนเป็นสีฟ้ากระจ่างสดใสไปจรดผืนทรายสีขาว งดงามราวกับเกาะสวรรค์อย่างไรอย่างนั้นเลย...
หมู่เกาะสุรินทร์เป็นเขตอุทยานทางทะเลที่นักท่องเที่ยวสามารถพักค้างคืนนอนฟังเสียงคลื่นบนเกาะได้ โดยมีให้บริการทั้งบ้านพักและเต็นท์ของอุทยาน หรือจะนำเต็นท์มากางเองก็ได้ นักท่องเที่ยวบางส่วนนิยมมาเที่ยวหมู่เกาะสุรินทร์แบบ One Day Trip แต่ “ตะลอนเที่ยว” ขอแนะนำให้พักค้างคืนที่เกาะอย่างน้อย 1 คืนจะดีกว่า เพราะจะได้ความชิลและได้สัมผัสบรรยากาศของเกาะรวมถึงท้องทะเลอย่างเต็มที่มากกว่า
สำหรับบ้านพักและที่ทำการของอุทยานฯ จะอยู่ที่ “อ่าวช่องขาด” บนเกาะสุรินทร์เหนือ ซึ่งเป็นเกาะหลักของอุทยานฯ ที่อ่าวช่องขาดมีชายหาดงามๆ และน้ำทะเลใสแจ๋วที่สามารถลงเล่นน้ำได้ อีกทั้งบนชายหาดยังมีกลุ่มหินเล็กๆ รูปร่างคล้ายหัวไก่ตั้งเด่นเป็นดังสัญลักษณ์ของอ่าวแห่งนี้
ส่วนจุดกางเต็นท์จะอยู่ที่ “อ่าวไม้งาม” บนเกาะสุรินทร์เหนือเช่นกัน อ่าวไม้งามเป็นอ่าวขนาดใหญ่ โค้งอ่าวเว้าลึกเป็นรูปตัวยูขนาบด้วยแหลมหินทั้งสองด้าน มีแนวหาดทรายขาวสะอาดงดงามและมีต้นไม้ร่มรื่น โดยระหว่างอ่าวช่องขาดและอ่าวไม้งามสามารถเดินถึงกันได้บนเส้นทางเดินศึกษาธรรมชาติซึ่งมีระยะทางประมาณ 2 ก.ม.
นอกจากชายหาดและน้ำทะเลขาวใสบนเกาะแล้ว สิ่งที่พลาดไม่ได้เมื่อมาเที่ยวหมู่เกาะสุรินทร์ก็คือการออกไปดำน้ำชมปะการังอันสวยงามและชมปลาหลากชนิด โดยหมู่เกาะสุรินทร์วางตัวอยู่ในกลุ่มอ่าวขนาดใหญ่ มีจุดบังคลื่นลมได้ดี จึงเป็นแหล่งกำเนิดแนวปะการังน้ำตื้นที่มีความอุดมสมบูรณ์และสวยงาม แต่ภายหลังได้ประสบกับ 2 วิกฤติสำคัญคือคลื่นยักษ์สึนามิและวิกฤติปะการังฟอกขาว ก็ทำให้ปะการังน้ำตื้นที่เกาะสุรินทร์เสียหายไปบ้าง โดยในช่วงนี้ธรรมชาติก็ค่อยๆ ฟื้นฟูกลับคืนมา
จุดดำน้ำในหมู่เกาะสุรินทร์มีอยู่หลายจุดด้วยกัน หากใครซื้อแพ็กเกจดำน้ำมาทางบริษัททัวร์ก็จะจัดจุดดำน้ำตามความเหมาะสมต่อสภาพของคลื่นลมในช่วงนั้นๆ ดังเช่น “ตะลอนเที่ยว” ได้ดำน้ำสำรวจโลกได้ทะเลในทริปนี้รวม 4 จุดด้วยกัน เริ่มจาก
- อ่าวช่องขาด (อ่าวนีโม) เป็นจุดที่มีปะการังและฝูงปลาหลากชนิด แต่ที่เป็นไฮไลท์ก็คือมีดอกไม้ทะเลอยู่หลายจุดซึ่งเป็นที่อยู่ของปลาการ์ตูนหน้าตาน่ารักที่แหวกว่ายอยู่กลางกอดอกไม้ทะเล จนทำให้หลายๆ คนเรียกอ่าวช่องขาดด้วยชื่อเล่นว่า “อ่าวนีโม” นั่นเอง
- อ่าวแม่ยาย เป็นอ่าวที่มีขนาดใหญ่ทีสุดในบรรดาอ่าวทั้งหมดของเกาะสุรินทร์เหนือ อ่าวแม่ยายมีชายหาดเล็กๆ ที่ร่มครึ้มไปด้วยป่าดิบเขา โลกใต้ทะเลของอ่าวแม่ยายนี้ก็มีความอุดมสมบูรณ์ มีปะการังหลากชนิดบริเวณกว้าง ทั้งปะการังผักกาด ปะการังจาน ปะการังโต๊ะ ปะการังเขากวาง ฯลฯ
- อ่าวไม้งาม หน้าหาดบริเวณจุดกางเต็นท์ หากว่ายน้ำออกจากฝั่งไปก็จะพบโลกใต้ทะเลที่สวยงาม มีทั้งปะการังโต๊ะ ปะการังโขด ปะการังเคลือบ ฯลฯ และฝูงปลานานาชนิด โดยท่องเที่ยวสามารถดำน้ำตื้นเลียบแนวหินไปจนจรดปลายแหลมทั้งสองได้
- อ่าวสุเทพ ที่นี่ถือเป็นจุดดำน้ำไฮไลท์ของหมู่เกาะสุรินทร์ก็ว่าได้ เป็นอ่าวที่อยู่ใกล้กับ อ่าวสุเทพเป็นอ่าวใหญ่ที่สุดของเกาะสุรินทร์ใต้ บริเวณนี้มีแนวปะการังที่สมบูรณ์กว่า 1,200 เมตร แนวปะการังยาวต่อเนื่องเป็นดังสวนใต้ทะเลที่งดงามยิ่งนัก บริเวณนี้ยังเป็นจุดที่พบสัตว์น้ำที่หลากหลาย อาทิ กุ้งมังกรที่ชอบว่ายน้ำหากินในกอปะการัง เพราะอ่าวนี้ตั้งอยู่ใกล้กับเกาะปาจุมบาซึ่งเป็นแหล่งอาศัยของกุ้งมังกร
นอกจากนั้นก็ยังมีจุดดำน้ำอื่นๆ อาทิ อ่าวบอน อ่าวสับปะรด อ่าวเต่า หินกองหรือหินแพ เกาะมังกร ฯลฯ ที่ก็มีความงดงามของปะการังและฝูงปลาที่ไม่แพ้กัน
และอีกหนึ่งจุดท่องเที่ยวที่ไม่ใช่การดำน้ำแต่ก็ต้องไปชมให้ได้ก็คือ “หมู่บ้านมอแกน” ซึ่งตั้งอยู่บริเวณอ่าวบอนของเกาะสุรินทร์ใต้ อ่าวนี้เป็นที่ตั้งของชุมชนชาวมอแกน ชาวเลที่เดิมใช้ชีวิตร่อนเร่กลางทะเลกันมาหลายชั่วอายุคน ในอดีตที่หมู่เกาะสุรินทร์มีชุมชนชาวมอแกนตั้งอยู่ 2 แห่งคือที่อ่าวไทรเอน เกาะสุรินทร์เหนือ และอ่าวบอน เกาะสุรินทร์ใต้ แต่ภายหลังเหตุการณ์สึนามิเมื่อปี 2547 บ้านเรือนชาวมอแกนเกิดความเสียหาย ทางอุทยานฯ จึงจัดสรรพื้นที่และรวบรวมชาวมอแกนให้มาอาศัยอยู่ที่บริเวณอ่าวบอนเพียงแห่งเดียว
เรือจอดให้เราขึ้นไปเที่ยวชมหมู่บ้านมอแกนอย่างใกล้ชิด มองเห็นบ้านแต่ละหลังที่ปลูกอยู่ติดกันนั้นสร้างแบบง่ายๆ เป็นบ้านไม้ใต้ถุนสูง หลังคาและผนังบ้านทำด้วยวัสดุธรรมชาติ นอกจากเดินชมบรรยากาศของหมู่บ้านมอแกนแล้วก็อย่าลืมช่วยสนับสนุนของที่ระลึกเล็กๆ น้อยๆ ที่ชาวมอแกนทำขึ้นและนำมาวางขายกับนักท่องเที่ยวในราคาไม่แพง มีทั้งเครื่องประดับ สร้อยข้อมือ ข้อเท้า งานแกะสลักไม้ เรือไม้ ฯลฯ
ถ้าใครอยากมาสัมผัสบรรยากาศทะเลแสนงาม และชมโลกใต้ทะเลแหล่งดำน้ำตื้นที่ถือว่าดีที่สุดแห่งหนึ่งในไทย ช่วงเวลานี้ถือว่าเหมาะสมอย่างยิ่ง หรือใครจะวางแผนเที่ยวช่วงปีใหม่ก็รีบวางแผนกันได้เลย
การเดินทางมายังหมู่เกาะสุรินทร์จากพังงานั้นสามารถนั่งเรือได้จากหลายท่าเรือ อาทิ ท่าเรือบ้านน้ำเค็ม ท่าเรือทับละมุ และท่าเรือคุระบุรี แต่ท่าเรือที่เดินทางมาหมู่เกาะสุรินทร์ได้ใกล้ที่สุดก็คือท่าเรือคุระบุรี โดยเรือสปีดโบทใช้เวลาประมาณ 1.15 นาที นักท่องเที่ยวส่วนใหญ่จะซื้อแพ็คเกจทัวร์กับบริษัททัวร์ที่รวมเอาค่าเรือไปกลับ ทริปดำน้ำ ที่พักและอาหาร แต่บางคนซื้อเฉพาะตั๋วเรือไปกลับอย่างเดียวก็มี และมีหลายบริษัททัวร์ให้เลือกใช้บริการ
ทั้งนี้นักท่องเที่ยวที่สนใจสอบถามรายละเอียดเกี่ยวกับที่เที่ยว ที่กิน ที่พักในจังหวัดพังงา สามารถติดต่อได้ที่ การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) สำนักงานพังงา โทร.0 7641 3400 ถึง 2
สามารถส่งข้อมูลข่าวสารด้านการท่องเที่ยว-อาหารมาได้ที่ กอง บก.ข่าวท่องเที่ยว แฟกซ์ 0-2629-4467 อีเมล์ travel_astvmgr@hotmail.com หรือติดตามเพิ่มเติมได้ที่ Facebook :Travel @ Manager
ชมคลิปต่าง ๆ ได้ที่ Travel MGR
ในช่วงนี้ถือเป็นการเริ่มต้นสู่ฤดูท่องเที่ยวของท้องทะเลอันดามัน คลื่นลมในทะเลฝั่งตะวันตกเริ่มสงบ เผยให้เห็นความงดงามของน้ำทะเลใสและหาดทรายขาวที่งดงามเลื่องชื่อ
และนอกจากน้ำใสทรายขาวแล้ว หากพูดถึงปะการังและโลกใต้ทะเลที่งดงามแห่งหนึ่งในไทย ที่แม้นักท่องเที่ยวทั่วไปที่ดำน้ำลึกไม่เป็นก็ยังสามารถชมความงามได้ ต้องยกให้ “หมู่เกาะสุรินทร์” แห่งทะเลพังงามาเป็นอันดับต้นๆ โดยถือได้ว่าที่นี่เป็นหนึ่งในแหล่งดำน้ำตื้นที่ดีที่สุดในเมืองไทย ที่ในปีนี้เพิ่งจะเปิดฤดูการท่องเที่ยวตั้งแต่เดือนตุลาคม ยาวไปถึงเดือนพฤษภาคมปีหน้า
หมู่เกาะสุรินทร์ อยู่ในความดูแลของอุทยานแห่งชาติหมู่เกาะสุรินทร์ ในพื้นที่อำเภอคุระบุรี จังหวัดพังงา ตั้งอยู่ในทะเลอันดามัน ห่างจากชายฝั่งทะเลบริเวณท่าเรือคุระบุรีประมาณ 60 กิโลเมตร เดินทางด้วยเรือสปีดโบทใช้เวลาประมาณ 1.15 ชั่วโมง หมู่เกาะประกอบไปด้วยเกาะ 5 เกาะ คือ เกาะสุรินทร์เหนือ เกาะสุรินทร์ใต้ ซึ่งเป็นสองเกาะใหญ่ และมีเกาะบริวารได้แก่ เกาะรี (เกาะสต๊อร์ค) เกาะไข่ (เกาะตอรินลา) และเกาะกลาง (เกาะปาจุมบา)
“ตะลอนเที่ยว” อยู่บนเรือสปีดโบทมุ่งหน้าสู่หมู่เกาะสุรินทร์ เมื่อเรือแล่นเข้าใกล้เกาะหลายๆ คนบนเรือต่างก็อุทานด้วยความตื่นเต้นเพราะภาพเบื้องหน้าคือผืนน้ำสีน้ำเงินเข้มที่ไล่โทนเป็นสีฟ้ากระจ่างสดใสไปจรดผืนทรายสีขาว งดงามราวกับเกาะสวรรค์อย่างไรอย่างนั้นเลย...
หมู่เกาะสุรินทร์เป็นเขตอุทยานทางทะเลที่นักท่องเที่ยวสามารถพักค้างคืนนอนฟังเสียงคลื่นบนเกาะได้ โดยมีให้บริการทั้งบ้านพักและเต็นท์ของอุทยาน หรือจะนำเต็นท์มากางเองก็ได้ นักท่องเที่ยวบางส่วนนิยมมาเที่ยวหมู่เกาะสุรินทร์แบบ One Day Trip แต่ “ตะลอนเที่ยว” ขอแนะนำให้พักค้างคืนที่เกาะอย่างน้อย 1 คืนจะดีกว่า เพราะจะได้ความชิลและได้สัมผัสบรรยากาศของเกาะรวมถึงท้องทะเลอย่างเต็มที่มากกว่า
สำหรับบ้านพักและที่ทำการของอุทยานฯ จะอยู่ที่ “อ่าวช่องขาด” บนเกาะสุรินทร์เหนือ ซึ่งเป็นเกาะหลักของอุทยานฯ ที่อ่าวช่องขาดมีชายหาดงามๆ และน้ำทะเลใสแจ๋วที่สามารถลงเล่นน้ำได้ อีกทั้งบนชายหาดยังมีกลุ่มหินเล็กๆ รูปร่างคล้ายหัวไก่ตั้งเด่นเป็นดังสัญลักษณ์ของอ่าวแห่งนี้
ส่วนจุดกางเต็นท์จะอยู่ที่ “อ่าวไม้งาม” บนเกาะสุรินทร์เหนือเช่นกัน อ่าวไม้งามเป็นอ่าวขนาดใหญ่ โค้งอ่าวเว้าลึกเป็นรูปตัวยูขนาบด้วยแหลมหินทั้งสองด้าน มีแนวหาดทรายขาวสะอาดงดงามและมีต้นไม้ร่มรื่น โดยระหว่างอ่าวช่องขาดและอ่าวไม้งามสามารถเดินถึงกันได้บนเส้นทางเดินศึกษาธรรมชาติซึ่งมีระยะทางประมาณ 2 ก.ม.
นอกจากชายหาดและน้ำทะเลขาวใสบนเกาะแล้ว สิ่งที่พลาดไม่ได้เมื่อมาเที่ยวหมู่เกาะสุรินทร์ก็คือการออกไปดำน้ำชมปะการังอันสวยงามและชมปลาหลากชนิด โดยหมู่เกาะสุรินทร์วางตัวอยู่ในกลุ่มอ่าวขนาดใหญ่ มีจุดบังคลื่นลมได้ดี จึงเป็นแหล่งกำเนิดแนวปะการังน้ำตื้นที่มีความอุดมสมบูรณ์และสวยงาม แต่ภายหลังได้ประสบกับ 2 วิกฤติสำคัญคือคลื่นยักษ์สึนามิและวิกฤติปะการังฟอกขาว ก็ทำให้ปะการังน้ำตื้นที่เกาะสุรินทร์เสียหายไปบ้าง โดยในช่วงนี้ธรรมชาติก็ค่อยๆ ฟื้นฟูกลับคืนมา
จุดดำน้ำในหมู่เกาะสุรินทร์มีอยู่หลายจุดด้วยกัน หากใครซื้อแพ็กเกจดำน้ำมาทางบริษัททัวร์ก็จะจัดจุดดำน้ำตามความเหมาะสมต่อสภาพของคลื่นลมในช่วงนั้นๆ ดังเช่น “ตะลอนเที่ยว” ได้ดำน้ำสำรวจโลกได้ทะเลในทริปนี้รวม 4 จุดด้วยกัน เริ่มจาก
- อ่าวช่องขาด (อ่าวนีโม) เป็นจุดที่มีปะการังและฝูงปลาหลากชนิด แต่ที่เป็นไฮไลท์ก็คือมีดอกไม้ทะเลอยู่หลายจุดซึ่งเป็นที่อยู่ของปลาการ์ตูนหน้าตาน่ารักที่แหวกว่ายอยู่กลางกอดอกไม้ทะเล จนทำให้หลายๆ คนเรียกอ่าวช่องขาดด้วยชื่อเล่นว่า “อ่าวนีโม” นั่นเอง
- อ่าวแม่ยาย เป็นอ่าวที่มีขนาดใหญ่ทีสุดในบรรดาอ่าวทั้งหมดของเกาะสุรินทร์เหนือ อ่าวแม่ยายมีชายหาดเล็กๆ ที่ร่มครึ้มไปด้วยป่าดิบเขา โลกใต้ทะเลของอ่าวแม่ยายนี้ก็มีความอุดมสมบูรณ์ มีปะการังหลากชนิดบริเวณกว้าง ทั้งปะการังผักกาด ปะการังจาน ปะการังโต๊ะ ปะการังเขากวาง ฯลฯ
- อ่าวไม้งาม หน้าหาดบริเวณจุดกางเต็นท์ หากว่ายน้ำออกจากฝั่งไปก็จะพบโลกใต้ทะเลที่สวยงาม มีทั้งปะการังโต๊ะ ปะการังโขด ปะการังเคลือบ ฯลฯ และฝูงปลานานาชนิด โดยท่องเที่ยวสามารถดำน้ำตื้นเลียบแนวหินไปจนจรดปลายแหลมทั้งสองได้
- อ่าวสุเทพ ที่นี่ถือเป็นจุดดำน้ำไฮไลท์ของหมู่เกาะสุรินทร์ก็ว่าได้ เป็นอ่าวที่อยู่ใกล้กับ อ่าวสุเทพเป็นอ่าวใหญ่ที่สุดของเกาะสุรินทร์ใต้ บริเวณนี้มีแนวปะการังที่สมบูรณ์กว่า 1,200 เมตร แนวปะการังยาวต่อเนื่องเป็นดังสวนใต้ทะเลที่งดงามยิ่งนัก บริเวณนี้ยังเป็นจุดที่พบสัตว์น้ำที่หลากหลาย อาทิ กุ้งมังกรที่ชอบว่ายน้ำหากินในกอปะการัง เพราะอ่าวนี้ตั้งอยู่ใกล้กับเกาะปาจุมบาซึ่งเป็นแหล่งอาศัยของกุ้งมังกร
นอกจากนั้นก็ยังมีจุดดำน้ำอื่นๆ อาทิ อ่าวบอน อ่าวสับปะรด อ่าวเต่า หินกองหรือหินแพ เกาะมังกร ฯลฯ ที่ก็มีความงดงามของปะการังและฝูงปลาที่ไม่แพ้กัน
และอีกหนึ่งจุดท่องเที่ยวที่ไม่ใช่การดำน้ำแต่ก็ต้องไปชมให้ได้ก็คือ “หมู่บ้านมอแกน” ซึ่งตั้งอยู่บริเวณอ่าวบอนของเกาะสุรินทร์ใต้ อ่าวนี้เป็นที่ตั้งของชุมชนชาวมอแกน ชาวเลที่เดิมใช้ชีวิตร่อนเร่กลางทะเลกันมาหลายชั่วอายุคน ในอดีตที่หมู่เกาะสุรินทร์มีชุมชนชาวมอแกนตั้งอยู่ 2 แห่งคือที่อ่าวไทรเอน เกาะสุรินทร์เหนือ และอ่าวบอน เกาะสุรินทร์ใต้ แต่ภายหลังเหตุการณ์สึนามิเมื่อปี 2547 บ้านเรือนชาวมอแกนเกิดความเสียหาย ทางอุทยานฯ จึงจัดสรรพื้นที่และรวบรวมชาวมอแกนให้มาอาศัยอยู่ที่บริเวณอ่าวบอนเพียงแห่งเดียว
เรือจอดให้เราขึ้นไปเที่ยวชมหมู่บ้านมอแกนอย่างใกล้ชิด มองเห็นบ้านแต่ละหลังที่ปลูกอยู่ติดกันนั้นสร้างแบบง่ายๆ เป็นบ้านไม้ใต้ถุนสูง หลังคาและผนังบ้านทำด้วยวัสดุธรรมชาติ นอกจากเดินชมบรรยากาศของหมู่บ้านมอแกนแล้วก็อย่าลืมช่วยสนับสนุนของที่ระลึกเล็กๆ น้อยๆ ที่ชาวมอแกนทำขึ้นและนำมาวางขายกับนักท่องเที่ยวในราคาไม่แพง มีทั้งเครื่องประดับ สร้อยข้อมือ ข้อเท้า งานแกะสลักไม้ เรือไม้ ฯลฯ
ถ้าใครอยากมาสัมผัสบรรยากาศทะเลแสนงาม และชมโลกใต้ทะเลแหล่งดำน้ำตื้นที่ถือว่าดีที่สุดแห่งหนึ่งในไทย ช่วงเวลานี้ถือว่าเหมาะสมอย่างยิ่ง หรือใครจะวางแผนเที่ยวช่วงปีใหม่ก็รีบวางแผนกันได้เลย
การเดินทางมายังหมู่เกาะสุรินทร์จากพังงานั้นสามารถนั่งเรือได้จากหลายท่าเรือ อาทิ ท่าเรือบ้านน้ำเค็ม ท่าเรือทับละมุ และท่าเรือคุระบุรี แต่ท่าเรือที่เดินทางมาหมู่เกาะสุรินทร์ได้ใกล้ที่สุดก็คือท่าเรือคุระบุรี โดยเรือสปีดโบทใช้เวลาประมาณ 1.15 นาที นักท่องเที่ยวส่วนใหญ่จะซื้อแพ็คเกจทัวร์กับบริษัททัวร์ที่รวมเอาค่าเรือไปกลับ ทริปดำน้ำ ที่พักและอาหาร แต่บางคนซื้อเฉพาะตั๋วเรือไปกลับอย่างเดียวก็มี และมีหลายบริษัททัวร์ให้เลือกใช้บริการ
ทั้งนี้นักท่องเที่ยวที่สนใจสอบถามรายละเอียดเกี่ยวกับที่เที่ยว ที่กิน ที่พักในจังหวัดพังงา สามารถติดต่อได้ที่ การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) สำนักงานพังงา โทร.0 7641 3400 ถึง 2
สามารถส่งข้อมูลข่าวสารด้านการท่องเที่ยว-อาหารมาได้ที่ กอง บก.ข่าวท่องเที่ยว แฟกซ์ 0-2629-4467 อีเมล์ travel_astvmgr@hotmail.com หรือติดตามเพิ่มเติมได้ที่ Facebook :Travel @ Manager
ชมคลิปต่าง ๆ ได้ที่ Travel MGR