"ส้มโอหวาน ข้าวสารขาว ลูกสาวงาม ข้าวหลามหวานมัน สนามจันทร์งามล้น พุทธมณฑลคู่ธานี พระปฐมเจดีย์เสียดฟ้า สวยงามตาแม่น้ำท่าจีน" เมื่อกล่าวถึงคำขวัญนี้ หลายๆ คนคงรู้เลยว่าต้องพาไปที่เมืองยอดแหลม "จังหวัดนครปฐม" แน่นอน ซึ่งจังหวัดนครปฐม ก็มีร้านอาหารมากมาย ทั้งของคาว ของหวานให้ผู้ที่ผ่านมาแวะเวียนได้ชิมกัน แต่วันนี้จะมาพูดถึงเรื่องของหวานที่หลายๆ คนติดใจเมื่อแวะผ่านมานครปฐมจะต้องซื้อกลับบ้านไปเป็นของฝากอย่างแน่นอน นั่นก็คือ "ข้าวหลามจังหวัดนครปฐม"
ข้าวหลามนครปฐมมีประวัติความเป็นมาร่วม150ปี แต่โด่งดังมาจนถึงทุกวันนี้ก็เป็นเพราะเมื่อครั้งที่“พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว”เสด็จฯมายังจังหวัดนครปฐม ได้มีการสาธิตการทำข้าวหลามถวาย ในครั้งนั้นนอกจากทำข้าวหลามแล้ว ได้ทำก๋วยเตี๋ยวถวายด้วย จึงมีชื่อที่คนทั่วไปเรียกขานกันว่า "ข้าวหลามเสวย" และ "ก๋วยเตี๋ยวเสวย" ตั้งแต่นั้นมาจึงทำให้ข้าวหลามนครปฐมกลายเป็นของฝากที่เมื่อใครมาก็อยากแวะชิม
ต้นตำรับความอร่อยสูตรข้าวหลามนครปฐมที่ขายกันดิบดี จนกลายเป็นคำขวัญประจำจังหวัด เพราะข้าวหลามที่นี่แตกต่างจากที่อื่น จะสังเกตได้จากข้าวหลามนครปฐมจะมีจุกฝาใบตองแห้งปิดกระบอกเอาไว้เพื่อให้เกิดความหอมขณะเผา และเพื่อแก้ปัญหาแมลงเข้าไปหลบภายในกระบอก จึงปิดจุกทันทีที่กรอกข้าวหลาม อีกทั้งยังใส่กะทิมากกว่าปกติจึงทำให้มีความหวานมันกลมกล่อมกำลังดี
และที่จังหวัดนครปฐมก็มีร้านข้าวหลามเก่าแก่ที่มีอายุความเป็นมากว่า 100 ปี ชื่อร้านว่า "ข้าวหลามแม่ลูกจันทร์" โดย ป้าแป้ว หรือ คุณสมิตรา ภู่พะเนียด เจ้าของร้านข้าวหลามแม่ลูกจันทร์ บอกว่า สูตรข้าวหลามแม่ลูกจันทร์เริ่มจากคุณยายเภา ส่งต่อมายังรุ่นคุณแม่ลูกจันทร์ มาจนถึงคุณป้าแป้ว ซึ่งปัจจุบัน ลูกของป้าแป้วก็สืบทอดสูตรข้าวหลามร้านแม่ลูกจันทร์ต่อเป็นรุ่นที่ 4 แล้ว
จุดเด่นของร้านข้าวหลามแม่ลูกจันทร์ อยู่ที่ทางร้านยังคงใช้กรรมวิธีแบบดั้งเดิม โดยเผาข้าวหลามด้วยเตาถ่านอิฐแดงเป็นรางยาวแบบโบราณและค่อยๆ เผาด้วยไฟรุมๆ ไม่ได้เผาด้วยแก๊สอย่างรวบรัดทำให้ข้าวหลามสุกไม่มีข้าวดิบปน ทุกๆ วันจะเริ่มจากการเตรียมข้าวหลาม ล้างกระบอกไม้ไผ่ให้สะอาดและตากแห้ง กรอกข้าว กรอกกะทิในช่วงเย็น เพื่อรอเผาในตอนเช้ามืดก่อนเปิดร้านขาย
ทางร้านมีข้าวหลามให้เลือกทั้งหมด 7 ไส้นั้น คือ ข้าวหลามดำ, ข้าวหลามขาว, สังขยาข้าวเหนียวดำ, สังขยาข้าวเหนียวขาว, ข้าวหลามชาเขียวใบเตย, ข้าวหลามอัญชัน และที่ลูกค้าชื่นชอบมากที่สุด คือข้าวหลามบ๊ะจ่าง ที่รวมเอาวัตถุดิบชั้นดีมาทำ ทั้งเนื้อหมูไม่ติดมัน ไข่แดงของไข่เค็ม กุ้งแห้ง เห็ดหอม ถั่วลิสง กระเทียม พริกไทย ผัดเข้ากันอย่างพอดี ทำให้มีรสชาติกลมกล่อม ผสมผสานกับกลิ่นหอมของไม้ไผ่ที่เอาไปเผากับบ๊ะจ่างอย่างลงตัว
ข้าวหลามทุกไส้ราคาเริ่มต้นที่กระบอกละ 40 บาท หรือ 3 กระบอก 100 บาท ส่วนบ๊ะจ่างจะราคาเริ่มต้นที่ 80 - 120 บาท แล้วแต่ขนาด
ร้านข้าวหลามแม่ลูกจันทร์มี 2 สาขาด้วยกัน คือ บริเวณหน้าร้านทองจินดาห้า ถนนซ้ายพระ และหน้าสถานีรถไฟจังหวัดนครปฐม เปิดบริการทุกวัน ตั้งแต่เวลา 08.00 - 15.00 น. แต่บางวันของจะหมดตั้งแต่ 11.00 น. สามารถโทร. จองหรือสอบถามได้ที่เบอร์ 08-1572-4242 หรือ 08-6325-3057
*****************************************
สามารถส่งข้อมูลข่าวสารด้านการท่องเที่ยว-อาหารมาได้ที่ กอง บก.ข่าวท่องเที่ยว แฟกซ์ 0-2629-4467 อีเมล์ travel_astvmgr@hotmail.com
