xs
xsm
sm
md
lg

ตะลุยทุ่งหญ้าสะวันนา ตามหาความสงบ ที่ “เกาะพระทอง”

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

ทุ่งหญ้าสะวันนาสีทองอร่าม
ขึ้นชื่อว่าเป็นเกาะกลางทะเลอันดามัน ใครๆ ก็ต้องคิดถึงภูเขา หาดทราย สายลม (และสองเรา) คิดถึงการพักผ่อนริมหาดขาวๆ ท่ามกลางแสงตะวันแรงกล้าในหน้าร้อน แต่ “ตะลอนเที่ยว” อยากจะบอกว่า บนเกาะแห่งนี้ก็มีหาดทรายขาวๆ สวยๆ ให้เดินเล่น และก็ยังมีธรรมชาติสงบๆ ให้ดื่มด่ำจนอิ่มใจด้วยเช่นกัน
เฝ้ารอแสงแรกของวัน
“เกาะพระทอง” ตั้งอยู่ใน อ.คุระบุรี จ.พังงา ด้วยระยะทางที่ห่างจากฝั่งคุระบุรีมาทางตะวันออกเพียง 2 กิโลเมตร ทำให้การเดินทางมายังเกาะแห่งนี้ไม่ได้ยากลำบากเกินไป เพียงแค่มาให้ถึงพังงา ตรงมายังคุระบุรี แล้วต่อเรือมายังเกาะพระทอง หลับตาลงเสียพักใหญ่ พอลืมตามีอีกครั้งเกาะพระทองก็มาอยู่ตรงหน้าแล้ว

เกาะพระทองมีพื้นที่ราว 102 ตารางกิโลเมตร ถือว่าเป็นเกาะที่ใหญ่ที่สุดของพังงา และใหญ่เป็นอันดับ 5 ของไทย ซึ่งบนเกาะนั้นมีความหลากหลายทางชีวภาพมาก เพราะมีทั้งชายหาด ป่าชายหาด ป่าชายเลน ป่าพรุ ป่าเสม็ด ทุ่งหญ้า ไม้พุ่ม พืชสังคมทดแทน กล้วยไม้หายาก
เก็บภาพยามเช้าตรู่ไว้ในความทรงจำ
บริเวณป่าชายเลนของเกาะ มีความอุดมสมบูรณ์มาก ถือเป็นแหล่งทรัพยากรสำคัญ คลังอาหารตามธรรมชาติชั้นเลิศของชาวเกาะ เพราะมีทั้ง กุ้ง หอย ปู ปลา โดยเฉพาะกับ “ปูดำ” ที่เป็นสัตว์เศรษฐกิจเด่นของที่นี่ ส่วนทางด้านฝั่งตะวันตกจะเป็นแนวชายหาดอันสวยงามทอดยาวมีทิวสนขึ้นประดับในบางช่วง ซึ่งเป็นผลมาจากการเกิดสึนามิเมื่อครั้งปี 2547 คลื่นยักษ์ที่ถาโถมเข้ามา แม้ว่าจะพรากหลายชีวิตบนเกาะไป แต่ก็ทำให้ธรรมชาติบนเกาะพระทองแปลกหูแปลกตาไปบ้าง โดยเฉพาะต้นสนที่ขึ้นเรียงรายอยู่ตามหาด ซึ่งก่อนจะมีสึนามินั้นพื้นที่ริมหาดไม่ได้มีต้นสนขึ้นอยู่

จุดสำคัญที่ทำให้เกาะพระทองเป็นที่พูดถึงในหมู่นักท่องเที่ยวก็คือ ทุ่งหญ้าสีทองอร่ามกว้างไกลสุดลูกหูลูกตาที่อยู่บนเกาะ และถูกยกย่องให้เป็นหนึ่งใน “อันซีนไทยแลนด์”
รถอีแต๊ก พาหนะทัวร์เกาะพระทอง
เส้นทางการชมทุ่งหญ้าสีทอง เริ่มต้นขึ้นตั้งแต่ฟ้ายังไม่สาง การเดินทางท่องเที่ยวบนเกาะนั้นต้องใช้บริการ “รถอีแต๊ก” ที่วิ่งฝ่าความมืดไปด้วยความชำนาญของคนขับ ไปหยุดอยู่ท่ามกลางทุ่งหญ้ากว้าง รอเวลาที่พระอาทิตย์เริ่มฉายแสงส่องสว่างแตะแต้มขอบฟ้า เผยให้เห็นพื้นที่รอบๆ ตัวขึ้นมา

รอเพียงอึดใจเดียว ให้แสงแดดอ่อนๆ ส่องอาบไล้ ทุ่งหญ้าเหล่านี้จะกลายเป็นทุ่งหญ้าสีทองเหลืองอร่าม ที่หลายๆ คนรู้จักกันชื่อ “ทุ่งหญ้าสะวันนา” หรือ “ทุ่งหญ้าซาฟารี” ส่วนคนที่เกาะจะเรียกว่า “หญ้าเสือหมอบ” ซึ่งจะยิ่งสวยงามจับตา หากมาชมในช่วงฤดูแล้ง โดยเฉพาะราวเดือน ธ.ค.-ม.ค. นั้นก็จะยิ่งมองเห็นเป็นสีทองอร่ามในช่วงแดดอ่อนๆ ยามเช้าและเย็น
ทุ่งหญ้าสีทองกว้างสุดลูกหูลูกตา
เก็บภาพสวยๆ กันจนอิ่มใจ ก็ขึ้นรถอีแต๊กออกเดินทางกันต่อ ซึ่งถนนบนเกาะนั้นก็มีถนนสายหลักอยู่เส้นเดียวที่เป็นถนนคอนกรีต ส่วนเส้นทางอื่นๆ ก็เป็นถนนทรายสีขาวนวล เนื้อละเอียดยิบ แซมด้วยถนนดินบ้างในบางจุด ซึ่งในบางจุดที่เป็นถนนทรายอ่อนนุ่ม รถอีแต๊กติดหล่มทราย ทั้งคนขับ ทั้งคนนั่ง ก็ต้องออกแรงช่วยกันทั้งผลักทั้งดัน จะได้เดินหน้าเที่ยวต่อกันได้โดยไว

ระหว่างทาง นอกจากจะนั่งรถอีแต๊กรับลมเย็นๆ แล้ว สองข้างทางก็มีอะไรน่าดูชมให้เพลิดเพลินใจกันไปด้วย บางจุดก็ดูเป็นป่า บางจุดก็เป็นคลอง เป็นร่องน้ำ ที่เกิดจากการทำเหมืองเมื่อครั้งอดีตที่เคยรุ่งเรือง ในคลองยามหน้าแล้งแบบนี้อาจจะดูไม่มีอะไร แต่ยามหน้าน้ำนั้นก็ยังพอมีปลาให้จับกันอยู่
ติดหล่มบ้าง ก็ต้องช่วยกันออกแรง
จากนั้นเมื่อสิ้นสุดเส้นทางถนน ก็เป็นเส้นทางลำลองในผืนป่าเสม็ดอันกว้างใหญ่ กับต้นเสม็ดขาวรูปทรงหยึกหยัก แปลกตา สวยงาม ซึ่งนี่ถือเป็นหนึ่งในไฮไลต์อันโดดเด่นของเกาะพระทอง กับ "ป่าเสม็ด" นับเกือบหมื่นไร่ มีหญ้าต้นเตี้ยๆ ขึ้นแซมเต็มไปทั่วบริเวณ ต้นเสม็ดขาวนั้นนอกจากจะมีทรวดทรงแปลกตา ก็ยังมีประโยชน์หลายอย่าง ที่เห็นชัดๆ ก็คือเปลือกของต้นเสม็ดนั้นหากนำไปชุบน้ำยาง ก็นำมาทำเป็นคบเพลิง หรือทำเป็นเชื้อไฟในการหุงหาอาหารได้ ซึ่งที่ตามลำต้นเสม็ดหลายๆ ต้นมีกล้วยไม้ พืชอิงแอบอาศัยต่างๆขึ้นอยู่แบบพึ่งพาอาศัยกัน อีกทั้งยังมีเอื้องปากนกแก้ว กล้วยไม้พันธุ์หายากให้ชมกันบนเกาะแห่งนี้
ร่องน้ำที่เกิดจากการทำเหมืองเมื่อครั้งอดีต
บนเกาะแห่งนี้ นอกจากจะมีต้นไม้แปลกๆ ให้ได้ดูกัน ก็ยังมากไปด้วยสัตว์นานาพันธุ์ และสิ่งที่ถือเป็นอีกหนึ่งไฮไลต์ก็คือ “กวางม้า” หรือกวางป่าตัวโต สมัยก่อนนั้นมีกวางมากมายอยู่บนเกาะแห่งนี้ แล้วก็ถูกชาวบ้านล่าไปขาย จนเมื่อกวางมีจำนวนน้อยลง ก็เกิดข้อตกลงกันในหมู่ชาวบ้านว่าจะเลิกล่ากวางเพื่อช่วยสืบทอดให้คนรุ่นหลังยังมีกวางไว้ดู

แต่หลังจากเกิดสึนามิ ก็ต้องตั้งกลุ่มขึ้นมาอนุรักษ์กวางอย่างจริงจังมากขึ้น เพราะกวางที่นี่ถูกหมาเลี้ยง หมาบ้าน ที่เริ่มเปลี่ยนวิถีกลายเป็นหมาป่าไล่ล่า เนื่องจากเจ้าของหมาพวกนี้ส่วนหนึ่งเสียชีวิตจากเหตุการณ์สึนามิ อีกส่วนหนึ่งอพยพไปอยู่บนฝั่ง ปล่อยทิ้งพวกมันให้หากินตามยถากรรม ส่วนอีกหนึ่งผู้ล่ากวางที่สำคัญนั้นย่อมหนีไม่พ้น “คน” ที่มีทั้งคนนอกคนใน ซึ่งชาวบ้านในพื้นที่กลุ่มหนึ่งได้ตั้งกลุ่มอนุรักษ์กวางขึ้นมา คอยดูแลไม่ให้ทั้งหมาทั้งคนไล่ล่า และร่วมอยู่กับกวางอย่างเป็นมิตร
ป่าเสม็ด อีกหนึ่งความงามของธรรมชาติบนเกาะพระทอง
นอกจากนี้บนเกาะพระทองยังเป็นแหล่งวางไข่เต่าทะเลที่สำคัญของเมืองไทย ซึ่งชาวบ้านได้ตั้งกลุ่มอนุรักษ์ดูแลเต่าทะเลขึ้นมา อีกทั้งยังเป็นแหล่งดูนกที่สำคัญ เพราะบนเกาะมีนกเกือบ 140 ชนิด ทั้งนกป่า นกน้ำ มีนกที่เด่นๆอย่าง กาน้ำ เหยี่ยวแดง กระสานวล ปากซ่อม รวมถึงนกหายากอย่าง “นกแก๊ก” และ“นกตะกรุม” ที่หายากและใกล้สูญพันธุ์ นับเป็นอีกหนึ่งไฮไลท์อันโดดเด่นที่ตอกย้ำถึงลักษณะเฉพาะและความหลากหลายทางธรรมชาติของเกาะพระทอง

สัมผัสความงามของทุ่งหญ้าและป่าเสม็ดจนหนำใจ ก็ล่วงเข้ายามสาย แดดร้อนแรงเริ่มสาดส่องให้ความร้อนระอุ ก็ออกเดินทางด้วยรถอีแต๊กอีกครั้ง คราวนี้มุ่งหน้าไปสู่ฝั่งตะวันตก และลงเดินเท้าต่อไปยังหาดทรายกว้างไกลสวยงาม ในบริเวณที่เรียกว่า “สุดขอบฟ้า” ที่ตั้งชื่อตามรีสอร์ทดั้งเดิมของที่นี่
อยู่กันแบบพึ่งพาอาศัยกัน
ที่สุดขอบฟ้ามีจุดชมวิวเป็นเนินน้อยๆให้ขึ้นไปชมทิวทัศน์ของแนวเวิ้งอ่าว นับเป็นพื้นที่ธรรมชาติที่สูงสุดบนเกาะแห่งนี้ ขณะที่ตามแนวชายหาดมีหาดตาสุขในบริเวณรีสอร์ทเป็นจุดพักผ่อนสำคัญของชาวต่างชาติ ส่วนจุดชมพระอาทิตย์ตกอันสวยงามในบริเวณนี้ ขอยกให้ “อ่าวตาแดง” หรือ ที่หลายคนเรียกว่า “อ่าวตาฉุย” เพราะเรียกชื่อตามรีสอร์ท “ทับตาฉุย” รีสอร์ท สงบน่ารัก ที่ตั้งอยู่หลังแนวหาดนี้

บริเวณอ่าวตาแดงเมื่อมองออกไปในทะเลจะเห็นเกาะปลิงใหญ่ ปลิงเล็ก ทอดตัวอยู่คู่กันในท้องทะเล นอกจากนี้ยังมีแนวโขดหิน “พ่อตาหินกอง” ที่ชาวบ้านให้ความเคารพนับถือ โดยมีการตั้งศาลไว้ริมทะเล
เกาะปลิงใหญ่ เกาะปลิงเล็ก ด้านหน้าเกาะพระทอง
ใครที่ต้องการกิจกรรมแน่นๆ บนเกาะแห่งนี้ อาจจะต้องผิดหวัง เพราะนอกจากการนั่งรถอีแต๊กชมธรรมชาติบนเกาะ หรือเดินเล่นพูดคุยกับชาวบ้าน กิจกรรมที่ดีที่สุดก็หนีไม่พ้นการนั่งฟังเสียงคลื่นลมทะเลให้ใจสงบ ได้พักผ่อนสมองกับความเงียบ ไร้ซึ่งความอึกทึกวุ่นวาย จะมีบ้างที่ออกไปเล่นน้ำทะเล ดำน้ำดูปะการังที่เกาะใกล้ๆ แต่สุดท้ายแล้วก็คือการปล่อยให้ชีวิตดำเนินไปอย่างช้า-ช้า ไม่ต้องกังวลกับสิ่งรอบตัวมากนัก

ชีวิตช้า-ช้า บนเกาะสวย-สวย เหมาะแล้วที่จะเป็นจุดพักใจให้คนที่เหนื่อยล้าได้เข้ามาผ่อนคลายท่ามกลางธรรมชาติแสนสงบแบบนี้
พักผ่อนริมหาดทรายแสนสงบ
* * * * * * * * * * * * * * * * *

“เกาะพระทอง” ตั้งอยู่ที่ อ.คุระบุรี จ.พังงา เป็นเกาะที่เหมาะแก่การท่องเที่ยวเชิงอนุรักษ์ เรียนรู้วิถีชุมชน หรือท่องเที่ยวเชิงจิตอาสา CSR เพราะบนเกาะมีความสงบ มีธรรมชาติที่ยังสมบูรณ์ ไม่ใช่เกาะแห่งแสงสี หรือการท่องเที่ยวแบบสะดวกหรูหรา เพราะการสัญจรบนเกาะ ต้องใช้รถอีแต๊ก รถขับเคลื่อน 4 ล้อ รถจักรยานยนตร์พ่วงข้าง หรือทางเรือ ใกล้ๆ กับเกาะพระทองมี เกาะระ และ เกาะคอเขา เป็น 2 เกาะท่องเที่ยวที่น่าสนใจเคียงคู่กัน

ผู้สนใจข้อมูลท่องเที่ยวเกาะพระทองเพิ่มเติมสอบถามได้ที่ ศูนย์ประสานงานการท่องเที่ยวจังหวัดพังงา การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) โทร.0-7648-1900-2
* * * * * * * * * * * * * * * * *

สามารถส่งข้อมูลข่าวสารด้านการท่องเที่ยว-อาหารมาได้ที่ กอง บก.ข่าวท่องเที่ยว แฟกซ์ 0-2629-4467 อีเมล์ travel_astvmgr@hotmail.com

 

กำลังโหลดความคิดเห็น