ผู้บังคับการตำรวจท่องเที่ยว ชี้แจงเรือสปีดโบ๊ตชนนักท่องเที่ยวชาวรัสเซีย ที่ปากอ่าวมาหยา เหตุแล่นในพื้นที่ห้ามวิ่ง จับกุม และดำเนินคดีแล้ว สั่งวางมาตรการไม่ให้เกิดขึ้นอีก พร้อมจัดตั้งจุดร่วมกวาดล้างกลุ่มผู้มีอิทธิพลในช่วงเทศกาลตรุษจีน
วันนี้ (3 ก.พ.) ที่ทำเนียบรัฐบาล พล.ต.ต.สุรเชษฐ หักพาล ผู้บังคับการตำรวจท่องเที่ยว กล่าวถึงกรณีเรือสปีดโบ๊ตชนนักท่องเที่ยวชาวรัสเซีย 2 คน ที่ปากอ่าวมาหยา ระหว่างเกาะพีพี ที่ จ.กระบี่ ว่าพื้นที่ดังกล่าวมีหน่วยงานที่เกี่ยวข้องรับผิดชอบหลายหน่วย อาทิ กรมเจ้าท่ากระบี่ ดูแลในส่วนของทะเล ส่วนพื้นที่ชายฝั่งเป็นของกรมอุทยานฯ ในพื้นที่ และอยู่ในความรับผิดชอบของสถานีตำรวจภูธรเมืองกระบี่ จากที่ได้รับรายงานนักท่องเที่ยวชาวรัสเซียได้รับบาดเจ็บสาหัสเนื่องจากเรือสปีดโบ๊ตแล่นในพื้นที่ที่ห้ามวิ่ง แต่เป็นพื้นที่ดำน้ำของนักท่องเที่ยว ทำให้เห็นว่าผู้ขับขี่เรือเป็นผู้กระทำความผิดซึ่งขณะนี้เจ้าหน้าที่ตำรวจได้ดำเนินการจับกุมและดำเนินคดีแล้ว
ส่วนการช่วยเหลือผู้ประสบเหตุครั้งนี้ เบื้องต้นได้มีการนำผู้บาดเจ็บส่งโรงพยาบาล ขณะนี้อาการปลอดภัย ส่วนขาที่บาดเจ็บอยู่ในการดูแลของแพทย์ นอกจากนี้ ได้ประสานไปยังสถานทูตเพื่อติดต่อกับครอบครัวผู้บาดเจ็บ ส่วนการแก้ปัญหาในระยะยาวและสร้างความเชื่อมั่นแก่นักท่องเที่ยว ตนได้สั่งการให้ทุกหน่วยที่เกี่ยวข้องในพื้นที่วางมาตรการบูรณาการร่วมกันเพื่อไม่ให้เกิดเหตุดังกล่าวขึ้นอีก รวมถึงการดูแลความปลอดภัยในแหล่งท่องเที่ยวทั่วประเทศ เช่น จ.ภูเก็ต เกาะสมุย พัทยา และหาดใหญ่ เป็นต้น สำหรับเหตุการณ์ดังกล่าว คาดว่า ผบ.ตร.ได้เรียนให้นายกรัฐมนตรีทราบแล้ว
พล.ต.ต.สุรเชษฐกล่าวถึงการเตรียมมาตรการรักษาความปลอดภัยของนักท่องเที่ยวในช่วงเทศกาลตรุษจีนที่จะมีในวันที่ 6-8 ก.พ.นี้ว่า เบื้องต้นได้สั่งการให้มีจุดตรวจร่วมระหว่างทหาร ฝ่ายปกครอง กระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา ในการลงพื้นที่เพื่อกวาดล้างกลุ่มผู้มีอิทธิพล อาทิ ควบคุมการเก็บค่าบริการของจักรยานยนต์รับจ้าง และแท็กซี่ ไม่ให้มีราคาแพงกว่าที่มาตรฐานกำหนด รวมถึงร้านค้าและการบริการต่างๆ ไม่ให้มีการเอาเปรียบนักท่องเที่ยว โดยเฉพาะพื้นที่การจัดงานตรุษจีนที่เยาวราชที่ต้องดูแลเป็นพิเศษ
