จังหวัด “สุราษฎร์ธานี” ขึ้นชื่อว่าเป็นเมือง “หอยใหญ่” เนื่องด้วยทรัพยากรในท้องทะเลที่อุดมสมบูรณ์ โดยบริเวณอ่าวบ้านดอน ใน อ.กาญจนดิษฐ์ จ.สุราษฎร์ธานี ถือเป็นอีกหนึ่งแหล่งเลี้ยงหอยนางรมใหญ่ที่สุดในประเทศไทย เนื่องจากที่นี่มีความเหมาะสมของพื้นที่ รวมไปถึงสภาพน้ำและอากาศ จึงทำให้หอยนางรมที่นี่ตัวอวบอ้วนสดหวานน่ากินเป็นที่สุด
และหากอยากไปชิมหอยนางรมที่ได้มาตรฐานแบบสุราษฎร์ฯ คือ “ขาว นวล อ้วน สะอาด” กันถึงถิ่นฟาร์มหอย พร้อมทั้งยังได้เรียนรู้เรื่องราวน่ารู้ต่างๆ เกี่ยวกับการเลี้ยงหอยนางรม แล้วละก็ ไม่มีที่ไหนเหมาะสมเท่ากับที่ “สินมานะ ฟาร์มสเตย์” แหล่งเรียนรู้คู่การท่องเที่ยว ซึ่งมีลักษณะเป็นขนำกลางทะเลอ่าวบ้านดอน การไปเยือนยังฟาร์มสเตย์แห่งนี้จะต้องนั่งเรือออกจากคลองท่าทอง แหล่งป่าชายเลนของ อ.กาญจนดิษฐ์ ออกไปสู่ทะเลที่อ่าวบ้านดอน แหล่งเลี้ยงหอยคุณภาพของจังหวัดสุราษฎร์ธานี
ระหว่างทางที่เรือแล่นอยู่ในคลองท่าทองนั้น สองข้างทางจะมองเห็นวิถีชีวิตของชาวประมงพื้นบ้านและป่าชายเลนที่มีความหลากหลายของสิ่งมีชีวิต และเมื่อเรือแล่นออกมาสู่อ่าวบ้านดอนอย่างเต็มตัว จะมองเห็นไม้ที่ปักไว้เป็นแนวยาวเพื่อเป็นเขตแดนไม่ให้เรือเข้าไปลากอวนด้านใน เนื่องจากมีการเลี้ยงหอยไว้ อีกทั้งยังมองเห็นบ้านหลังน้อยบนเสาสูงกลางทะเลอยู่กระจัดกระจายทั่วไป ซึ่งเรียกกันว่า “ขนำ” หรือที่พักชั่วคราวที่สร้างไว้ในทะเล เพื่อให้คนมาคอยดูแลหอย หรือสัตว์น้ำอื่นๆ ที่เลี้ยงไว้
“สินมานะ ฟาร์มสเตย์” เป็นอีกหนึ่งขนำที่มีขนาดใหญ่ที่สุดในบริเวณนั้น เพราะเปิดให้เป็นแหล่งเรียนรู้และแหล่งท่องเที่ยวของผู้ที่ต้องการมาเรียนรู้วีถีชาวประมงและวิธีการเลี้ยงหอยนางรมหลากหลายแบบ รวมถึงยังสามารถมาพักค้างคืนกินอาหารทะเลในรูปแบบของฟาร์มสเตย์ โดยเฉพาะอย่างยิ่งมากิน “หอยนางรม” ที่ขาว นวล อ้วน สะอาด ซึ่งมีการสอนและแนะนำวิธีกินหอยนางรมให้ได้รสชาติหอยที่แท้จริงอีกด้วย
“คุณสมชาย สินมา” เจ้าของฟาร์มสเตย์สินมานะ เล่าให้เราฟังถึงการเลี้ยงหอยบริเวณอ่าวบ้านดอนว่า ที่นี่มีการเลี้ยงหอยเศรษฐกิจหลักๆ 3 ชนิดด้วยกัน คือหอยนางรม หอยแครง และหอยแมลงภู่ และหอยนางรมตัวใหญ่ๆ ที่เราจะได้ลองชิมกันนั้นคือหอยนางรมพันธุ์ใหญ่ที่เรียกว่าหอยตะโกรมขาว โดยหอยนางรมนี้ดำรงชีวิตอยู่ได้โดยการดูดน้ำรอบๆ ตัวเข้าไปทางด้านหนึ่งและปล่อยทิ้งออกอีกด้านหนึ่ง อาหารจำพวกแพลงค์ตอนและก๊าซออกซิเจนจะเข้าไปพร้อมกับน้ำ และเรายังได้ทราบถึงการผสมพันธุ์ของนางรม โดยหอยเพศเมียจะปล่อยไข่ออกมา ส่วนหอยเพศผู้ก็จะปล่อยน้ำเชื้อออกมาผสมกันภายนอก เกิดเป็นหอยนางรมมาให้เรากิน
มาถึงสินมานะ ฟาร์มสเตย์แล้ว นักท่องเที่ยวทุกคนจะได้ลองชิมหอยนางรมเรียกได้ว่าเป็นหอยไซส์ใหญ่ อวบ ขาว ขนานแท้ โดยทางฟาร์มจะเพาะหอยไว้ประมาณ 2 ปี จึงทำให้มีขนาดใหญ่พอเหมาะ รสชาติหวานพอดี และจะได้ชิมในแบบฉบับที่ไม่เหมือนที่อื่นๆ โดยปกติแล้ว เรามักจะกินหอยนางรมกับน้ำจิ้มซีฟู้ด ยอดกระถิน หอมเจียว แต่ที่นี่ไม่มีเครื่องปรุงหรือเครื่องเทศรสจัดที่จะบดบังรสชาติที่แท้จริงของหอย มีเพียงยอดกระถินและน้ำมะนาวเพียงสองอย่างเท่านั้น
โดยวิธีกินหอยนางรมเพื่อที่จะได้รสชาติอย่างแท้จริงนั้น ต้องกินหลังจากแกะหอยออกจากเปลือกภายใน 1 นาที เมื่อแกะเปลือกหอยออกแล้วให้ลองดมที่ตัวหอยเพื่อให้จมูกรับรู้ถึงกลิ่น จากนั้นราดน้ำมะนาวลงไปบนตัวหอย น้ำในตัวหอยก็จะค่อยๆ ซึมออกมา แล้วส่งหอยเข้าปากอมไว้สักครู่แล้วค่อยๆ เคี้ยว จากนั้นตามด้วยยอดกระถินเล็กน้อยให้ได้รสหวานกลมกล่อมในปาก รสชาติหวานสดของตัวหอยผสมกับยอดกระถิน ตัดกับความเปรี้ยวของน้ำมะนาวเข้ากันได้ดี ค่อยๆ กลืนน้ำและเนื้อหอยลงไปเพียงส่วนหนึ่ง กินยอดกระถินที่เหลือเคี้ยวรวมกันจนหมดคำ เป็นการกินหอยนางรมสดๆ ที่เข้าถึงรสชาติของเนื้อหอยอย่างที่สุด
ชิมหอยอร่อยๆ แล้วอย่าลืมชมทิวทัศน์ของอ่าวบ้านดอน และฟาร์มหอยอันกว้างไกลของชาวประมง ลมทะเลเย็นๆ พัดมาเย็นสบายชวนนอนเล่นเอนหลัง ซึ่งหากใครติดใจบรรยากาศก็สามารถเลือกนอนพักค้างคืนได้ หรือจะเลือกเที่ยวแบบเช้าไปเย็นกลับก็สามารถเลือกได้เช่นกัน ใครอยากสัมผัสบรรยากาศของขนำกลางทะเล อยากชิมรสชาติหอยนางรมสดๆ และเรียนรู้เรื่องราวของฟาร์มหอยกับเจ้าของฟาร์มหอยตัวจริง “สินมานะ ฟาร์มสเตย์” มาที่นี่ที่เดียวครบ
* * * * * * * * * * * * * * * * * * *
“สินมานะ ฟาร์มสเตย์” อยู่ใน อ.กาญจนดิษฐ์ จ.สุราษฎร์ธานี ผู้ที่มาท่องเที่ยวแบบไปกลับมีค่าใช้จ่าย 400 บาท/คน (อาหารทะเล 1 มื้อ) แบบพักค้างคืนค่าบริการ 800 บาท/คน (ที่พัก 1 คืน อาหารทะเล 2 มื้อ และ นำเที่ยวตลอดรายการ) สอบถามรายละเอียดโทร.08-1597-7575
* * * * * * * * * * * * * * * * * * *
สามารถส่งข้อมูลข่าวสารด้านการท่องเที่ยว-อาหารมาได้ที่ กอง บก.ข่าวท่องเที่ยว แฟกซ์ 0-2629-4467 อีเมล์ travel_astvmgr@hotmail.com