“กินเจ” ประโยชน์ที่มากกว่าสุขใจและได้บุญ

เทศกาลกินเจในปีนี้ จัดขึ้นตั้งแต่วันที่ 1-9 ตุลาคม 2559 ซึ่งในความหมายของการกินเจนั้น คือการไม่กินเนื้อสัตว์ และดำรงตนอยู่ในศีลธรรม มีความบริสุทธิ์ทั้งกาย วาจา และใจ โดยการกินเจนั้นนอกจากจะไม่กินเนื้อสัตว์แล้ว ยังเป็นการกินอาหารที่มาจากพืชผัดธรรมชาติ ไม่มีเนื้อสัตว์ปะปน ไม่กินของสดคาว และไม่ปรุงด้วยผักฉุน 5 ชนิด รวมถึงการงดเว้นผลิตภัณฑ์จากนมสด นมข้น เพราะถือว่าเป็นของสดของคาว

การกินเจ ถือว่าเป็นการละเว้นการฆ่าสัตว์ตัดชีวิตในช่วง 9 วันนี้ เป็นการกินด้วยจิตเมตตา และเพื่องดเว้นกรรม หลายคนเชื่อว่าเป็นการทำบุญทำกุศลอย่างหนึ่ง ทำให้จิตใจเราสงบสุขมากขึ้น แต่นอกจากจะได้บุญจากการกินเจแล้ว ประโยชน์ที่นอกเหนือจากนี้คือการได้ประโยชน์ต่อสุขภาพร่างกายของเราเอง

ทั้งนี้ก็เนื่องจากการงดเว้นเนื้อสัตว์ต่างๆ และกินผักผลไม้ต่างๆ มากขึ้น ทำให้ระบบย่อยอาหารได้หยุดพักจากการทำงานหนักมาตลอดทั้งปี พืชผัก และโปรตีนที่ได้จากถั่วต่างๆ ย่อยง่ายกว่าเนื้อสัตว์และไขมันมาก นอกจากนี้ เส้นใยจากพืชผักยังช่วยระบบขับถ่ายและการย่อยอาหารให้ดีขึ้น ใครที่ท้องผูกจากการกินเนื้อมากๆ กากใยจากผักจะช่วยระบบขับถ่ายให้ดีขึ้นได้มาก และยังช่วยขับของเสียและสารพิษต่างๆ ออกจากร่างกาย

นอกจากนี้ วิตามินและแร่ธาตุต่างๆ จากพืชผักยังช่วยบำรุงร่างกาย ช่วยให้ผิวพรรณเปล่งปลั่ง สดใส สุขภาพแข็งแรงขึ้น

แต่ถ้าอยากจะได้ประโยชน์จากการกินเจแบบนี้ เราก็ต้องเลือกสรรเมนูอาหารเจให้ได้คุณภาพด้วย โดยเน้นการกินให้ครบ 5 หมู่ เลือกกินแป้งหรือข้าวที่ไม่ผ่านการขัดขาว เช่น ข้าวกล้อง ขนมปังโฮลวีต ธัญพืชต่างๆ เลือกผัก-ผลไม้สด สะอาด เลือกกินของนึ่ง ต้ม ตุ๋น มากกว่าของทอดและผัด ลดของมัน กินหวาน-เค็มให้น้อยลง เลือกโปรตีนจากถั่วและเห็ดเป็นหลัก เพื่อไม่ให้ร่างกายขาดโปรตีน

สุดท้ายก็คือการออกกำลังกายอย่างสม่ำเสมอ และทำจิตใจให้ผ่องใส เท่านี้ก็จะทำให้การกินเจ 9 วัน ได้ประโยชน์อย่างสูงสุด
* * * * * * * * * * * * * * * * *

สามารถส่งข้อมูลข่าวสารด้านการท่องเที่ยว-อาหารมาได้ที่ กอง บก.ข่าวท่องเที่ยว แฟกซ์ 0-2629-4467 อีเมล์ travel_astvmgr@hotmail.com