โดย : ปิ่น บุตรี(pinn109@hotmail.com)
“หาดทรายสวยสี่ร้อยลี้”
นี่คือสโลแกนของ “ชุมพร” 1 ใน 12 จังหวัดที่ได้รับการคัดเลือกจาก “การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.)” ให้เป็น “เมืองต้องห้าม...พลาด” แคมเปญท่องเที่ยวที่ประสบความสำเร็จอย่างสูงในปี พ.ศ. 2558
สโลแกนเมือง “หาดทรายสวยสี่ร้อยลี้” เป็นการสะท้อนมนต์เสน่ห์ของจังหวัดชุมพรที่มีแนวหาดทรายเลาะเลียบทะเลอ่าวไทยนับจากเหนือจรดใต้ของจังหวัดยาวกว่า 222 กิโลเมตร ไล่เรียงไปตั้งแต่ อ.ปะทิว ถึง อ.ละแม
ขณะที่ในท้องทะเลชุมพรนั้นก็เป็นอีกหนึ่งแห่งทรัพยากรอันอุดมสมบูรณ์ เป็นอีกหนึ่งความงดงามอันน่าทึ่งแห่งอ่าวไทย โดยเฉพาะในเขตพื้นที่ “อุทยานแห่งชาติหมู่เกาะชุมพร” นั้นมีมนต์เสน่ห์แห่งท้องทะเลให้สัมผัสกันหลากหลาย ทั้งหาดทรายชายทะเล ป่าชายเลน หมู่เกาะน้อย-ใหญ่ และโลกใต้ทะเลอันงดงาม
ชนิดที่ใครหลายๆ คนคาดไม่ถึงว่าโลกใต้ทะเลชุมพรจะมีความงดงามน่าเพริศแพร้วถึงปานนั้น
1...
อุทยานแห่งชาติหมู่เกาะชุมพร ประกาศจัดตั้งเป็นอุทยานแห่งชาติในปี พ.ศ. 2542 มีพื้นที่เกือบ 2 แสนไร่(198,125 ไร่) ครอบคลุมพื้นที่นับจากเหนือจรดใต้ไล่ไปตั้งแต่เกาะจระเข้ในเขตอำเภอปะทิว(เหนือสุด) เรื่อยลงมากินพื้นที่อ่าวทุ่งคาและหมู่เกาะต่างๆ ในเขตอำเภอเมือง หมู่เกาะในอำเภอสวี อำเภอทุ่งตะโก มาจนถึงอ่าวท้องครกในเขตอำเภอหลังสวน
อุทยานฯ หมู่เกาะชุมพร มีทรัพยากรทางทะเลที่หลากหลาย มีพื้นที่ครอบคลุมทั้งภูเขา ป่าไม้ ป่าชายเลน ชายฝั่ง หาดทรายชายทะเล ท้องทะเล และหมู่เกาะต่างๆ โดยมีจุดเด่นคือแนวชายหาดที่ทอดยาวกว่า 100 กิโลเมตร ครอบคลุมพื้นที่เกือบครึ่งของชายฝั่งทะเลชุมพร
นอกจากนี้อุทยานฯ หมู่เกาะชุมพรยังมีอีกหนึ่งที่ถือเป็นจุดเด่นสำคัญนั่นก็คือ อุทยานฯ แห่งนี้ประกอบไปด้วยเกาะน้อยใหญ่มากถึงกว่า 40 เกาะ หลายต่อหลายเกาะจัดเป็นสถานที่ท่องเที่ยวอันโดดเด่นแห่งท้องทะเลชุมพรกับมนต์เสน่ห์ความงดงามอันเป็นเอกลักษณ์ ไม่ว่าจะเป็นรูปร่างลักษณะเฉพาะตัวอันแปลกตาของบางเกาะที่เกิดจากธรรมชาติสรรสร้างและชวนให้จินตนาการ รวมไปถึงโลกใต้ทะเลอันงดงามของทรัพยากรทางทะเล มากไปด้วยฝูงปลาใหญ่น้อยและแนวปะการังอันอุดมสมบูรณ์
โดยลักษณะเด่นของโลกใต้ท้องทะเลแห่งอุทยานฯ หมู่เกาะชุมพรคือ มีการพบพันธุ์ปลาหลากหลายและมากที่สุดแห่งหนึ่งในอ่าวไทย มีการพบถ้วยทะเล(Corallimorph) พรมทะเล(Zooandthid) และดงดอกไม้ทะเล(Sea Anemone) ที่มีขนาดมากที่สุดในอ่าวไทย อีกทั้งยังเป็นแหล่งอนุรักษ์เพาะพันธุ์ “หอยมือเสือ” อีกหนึ่งสัตว์ทะเลใกล้สูญพันธุ์ให้ดำรงคงอยู่คู่ท้องทะเลไทย
นอกจากนี้ที่ทะเลชุมพรยังได้ชื่อว่าเป็นอีกหนึ่งแหล่งที่มีโอกาสพบเห็น “ฉลามวาฬ” ยักษ์ใหญ่แห่งท้องทะเลที่มักจะมาปรากฏตัวอวดโฉมให้นักดำน้ำให้เป็นที่ตื่นเต้นกันอยู่บ่อยครั้ง ซึ่งด้วยองค์ประกอบอันทรงเสน่ห์ต่างๆ เหล่านี้ ทำให้อุทยานแห่งชาติหมู่เกาะชุมพรเป็นอีกหนึ่งสถานที่ท่องเที่ยวทางทะเลที่น่าสนใจยิ่ง
อันเป็นที่มาของการออกท่องโลกทะเลชุมพรของผมในทริปนี้
2...
ทะเลใต้ในพื้นที่ด้ามขวานของเมืองไทยมีลักษณะพิเศษของท้องทะเลใน 2 ฝั่ง คือทะเลฝั่งอ่าวไทยและฝั่งอันดามันซึ่งต่างก็มีช่วงฤดูมรสุมที่ตรงกันข้ามกัน คือในช่วงหน้าฝนตั้งแต่ช่วงเดือนพฤษภาคมไปจนถึงเดือนตุลาคม(หรือราวๆกลางเดือนพฤศจิกายนของบางปี) ถือเป็นหน้ามรสุมเป็นโลว์ซีซันของทะเลฝั่งอันดามัน แต่นี่กลับเป็นช่วงฤดูท่องเที่ยวของทะเลฝั่งอ่าวไทย โดยตั้งแต่เดือนพฤษภาคมไปจนถึงเดือนตุลาคมคลื่นลมทางฝั่งอ่าวไทยจะสงบ เหมาะต่อการเที่ยวทะเล
ส่วนในช่วงเดือนพฤศจิกายนไปจนถึงราวเดือนมกราคมจะเป็นช่วงมรสุมของทะเลฝั่งอ่าวไทย แต่กลับเป็นช่วงฤดูกาลท่องเที่ยวของทะเลฝั่งอันดามัน ทำให้ทะเลใต้บ้านเราสามารถเที่ยวได้ตลอดทั้งปี
นั่นจึงทำให้ในช่วงกลางเดือนสิงหาคมที่ผ่านมา ผมกับเพื่อนๆออกเดินทางล่องใต้ลงสู่ชุมพร เมืองต้องห้าม...พลาด เพื่อไปสัมผัสกับความงามอันทรงเสน่ห์ของท้องทะเลชุมพร โดยเราไปลงเรือ(ตามที่นัดหมาย)กันที่ อบจ.ชุมพร แล้วนั่งเรือล่องออกไปตามคลองปากน้ำชุมพร ระหว่างทางผ่านบ้านเรือนชุมชนชาวประมง และเรือประมงจำนวนมากที่จอดเรียงรายอยู่ริมสองฟากฝั่งน้ำ มีทั้งเรือที่จอดรอเวลาออกทะเลไปหาปลา และเรือที่จอดเพราะออกทะเลไม่ได้เนื่องจากเป็นเรือประมงผิดกฎหมาย ซึ่งรัฐบาลลุงตู่เขาเข้มงวดเอาจริงเอาจังห้ามเรือประมงผิดกฎหมาย ทำอวนลาก อวนรุน ออกไปจับสัตว์น้ำแบบล้างผลาญทำลายทรัพยากร
หลังเรือแล่นในคลองปากน้ำมาได้สักพักเราก็มาถึงยังปากน้ำชุมพร จากนั้นเรือก็แล่นฉลุยมุ่งหน้าสู่ท้องทะเลใหญ่ในหมู่เกาะชุมพร เพื่อไปเที่ยวชมรูปร่างความแปลกตาลักษณะพิเศษของบางเกาะ ซึ่งระหว่างทางเรือได้แล่นผ่าน “เกาะแรด” หรือ “เกาะอีแรด” ที่มองเห็นอยู่ไกลๆ เกาะแรดเมื่อมองในมุมที่ใช่แล้วจะมีรูปร่างคล้ายแรดนอนหมอบอยู่กลางทะเล โดยมี “เกาะหลักแรด” ที่ชาวบ้านเล่าว่า เป็นเหมือนหลักที่เอาไว้ผูกแรดให้อยู่กับที่ตั้งอยู่เคียงข้างใกล้ๆ กัน
จากนั้นเรือได้พามาแวะชมสิ่งน่าสนใจในจุดแรก โดยพี่คนขับเรือพาเราไปวนชม “เกาะทะลุ” ที่อยู่ห่างจากปากน้ำชุมพรประมาณ 13 กม.
เกาะทะลุชุมพรแม้ไม่ดังเท่าเกาะทะลุ ประจวบฯ ที่อยู่ไม่ไกลกัน แต่ว่าเกาะทะลุชุมพร ก็มีความโดดเด่นและมีเสน่ห์อันน่ายลไม่น้อยกับเกาะหินกลางทะเลที่มีลักษณะคล้ายสะพานหิน บนเกาะมีโพรงถ้ำและมีช่องทะลุที่เกิดจากการสร้างสรรค์ของธรรมชาติอยู่หลายช่องด้วยกันอันเป็นที่มาของชื่อเกาะทะลุ โดยเฉพาะช่องทะลุ “รูปหัวใจ” หรือที่บางคนเรียกว่า “เกาะทะลุหัวใจ” ที่เป็นช่องหินธรรมชาติช่องหนึ่ง ซึ่งเมื่อล่องเรือไปมองในมุมมองที่ใช่(คนขับเรือจะรู้ดี) เราจะมองเห็นเป็นช่องทะลุรูปหัวใจที่สามารถมองเห็นช่องรูปหัวใจได้ทั้งมุมด้านหน้าและด้านหลัง ซึ่งแม้เป็น(รูป)หัวใจดวงเดียวกัน แต่ว่าก็ให้มุมมองที่แตกต่างกันได้ดีทีเดียว
นับประสาอะไรกับใจของคนบางคน ที่แม้มีใจดวงเดียว แต่ว่ากลับมี “หลายใจ” ไปเสียยังงั้น
จากเกาะทะลุเราไปต่อยังหนึ่งในจุดดำน้ำไฮไลต์สำคัญของทะเลชุมพรที่เกาะง่ามใหญ่ เกาะง่ามน้อย 2 เกาะง่ามที่ตั้งอยู่ใกล้ๆ กัน
เกาะง่ามใหญ่เป็นเกาะหินผาสูงชัน ไม่มีชายหาด แต่เป็นเกาะสัมปทานรังนกที่บนเกาะมีการสร้างบ้านพักง่ายๆ ของคนงานและคนเฝ้าเกาะเป็นอีกหนึ่งจุดดึงดูดสายตา เกาะง่ามใหญ่ไม่เปิดให้คนทั่วไปขึ้นเกาะ แต่อนุญาตให้ไปดำน้ำดูปะการังในบริเวณรอบๆ เกาะ และนั่งเรือเที่ยวชมรอบๆ เกาะได้
นอกจากภาพของบ้านพัก ที่สร้างเป็นกระท่อมเล็กๆ ตั้งอยู่อย่างหวาดเสียวของคนเฝ้าเกาะและคนเก็บรังนกแล้ว ด้านหนึ่งของเกาะง่ามใหญ่ยังมีผาหินรูปร่างประหลาดแปลกตาดูน่ามหัศจรรย์ ซึ่งถูกเรียกขาน “ฝ่ามือพระพุทธเจ้า”
ฝ่ามือพระพุทธเจ้า เป็นผาหินตัดสีออกเหลืองปนน้ำตาล สูงประมาณ 100 เมตร กว้างประมาณ 60 เมตร มีริ้วรอยแตกแยกดูคล้ายฝ่ามือคน(ขนาดใหญ่) ที่ยอดปลายผาหินมีรอยแยกคล้ายรูปร่างของนิ้วมือจำนวน 4 นิ้ว ส่วนด้านล่างมีหินงอกออกมามองคล้ายกับนิ้วโป้ง ซึ่งเมื่อนั่งเรือไปมองแบบถูกจุดถูกมุมผาหินจุดนี้ที่เกาะง่ามใหญ่จะดูคล้ายกับฝ่ามือคนไม่น้อย แบบไม่ต้องใช้จินตนาการอะไรมากมาย
ทั้งนี้ชาวบ้านแถบนี้มีความเชื่อว่าเป็นฝ่ามือพระพุทธเจ้ามานานแล้ว โดยชาวประมงแห่งท้องทะเลชุมพรต่างให้ความนับถือ เพราะเชื่อว่าสามารถคุ้มครองให้ชาวประมงรอดพ้นจากภัยธรรมชาติ โดยเฉพาะภัยทางทะเล และในจุดนี้ก็ยังเป็นที่หลบพายุกลางทะเลมาหลายสิบปีแล้ว นอกจากนี้ชาวเรือยังใช้เป็นสัญลักษณ์ในการเดินเรือเข้าสู่ปากน้ำชุมพรมาตั้งแต่สมัยโบราณ ซึ่งในอดีตฝ่ามือพระพุทธเจ้าเป็นที่รับรู้เฉพาะในหมู่ของชาวประมงเท่านั้น เพราะเป็นพื้นที่อยู่กลางทะเล แต่ปัจจุบันฝ่ามือพระพุทธเจ้าถือเป็นหนึ่งในอันซีนเมืองชุมพร ที่ทาง “การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย” (ททท.) ส่งเสริมผลักดันให้เป็นจุดดึงดูดจุดใหม่แห่งท้องทะเลชุมพร
จากมุมฝ่ามือพระพุทธเจ้า เรือขับมาอีกหน่อยตรงหัวมุมเกาะ ซึ่งเป็นที่ตั้งของ “หินเจดีย์” กับกองหินกลางทะเลรูปร่างคล้ายเจดีย์แต่เป็นเจดีย์หินที่โย้เอียงนิดๆ บริเวณนี้ถือเป็นจุดดำน้ำตื้นชั้นดี มีทุ่นให้เรือไปผูกทุ่นจอดเทียบ พร้อมปล่อยนักท่องเที่ยวลงดำน้ำ ซึ่งหลังจากนั้นไม่นานผมกับเพื่อนก็ค่อยๆหย่อนตัวลงสู่ท้องทะเลชุมพรที่น้ำใสแจ๋วแหวว เพื่อไปแหวกว่ายดำน้ำชมโลกใต้ทะเลอันน่าตื่นตาตื่นใจในบริเวณนี้กัน
3...
เกาะง่ามใหญ่ จัดได้ว่าเป็นสวรรค์น้อยๆ ของคนดำน้ำตื้นอีกแห่งหนึ่งในเมืองไทย เพราะโลกใต้ทะเลที่นี่งามนัก มากไปด้วยแนวปะการังอ่อนและปะการังแข็งอันอุดมสมบูรณ์ให้ชมกันเป็นจำนวนมาก รวมถึงมีปลาสวยๆงามๆ ใหญ่น้อยจำนวนมากแหวกว่ายไปมาชวนมองเป็นยิ่งนัก
อ้อ!!! แต่แถบนี้ก็มีสิ่งพึงระวังอย่างหอยเม่น ตัวสีดำ หนามแหลมเฟี้ยว ที่มักจะแทรกตัวอยู่ในบางจุด เมื่อเราเห็นควรหลีกลี้หนีห่างมันให้ดีๆ
สำหรับสิ่งที่ชวนตื่นตาตื่นใจเป็นอย่างยิ่งของโลกใต้ทะเลที่นี่ ซึ่งพี่ไกด์เราภูมิใจนำเสนอตั้งแต่อยู่บนเรือก็คือ “ดอกไม้ทะเล” ที่มีขึ้นอยู่เป็นจำนวนมาก ชนิดไม่ได้ขึ้นเป็นกอ เป็นดง หากขึ้นอยู่เต็มพรึดเป็นแปลงใหญ่ๆ ดูละลานตาเต็มไปหมด โดยเฉพาะยามที่เหล่าดอกไม้ทะเลเหล่านี้พลิ้วไหวโยกตัวส่ายไปมาตามกระแสคลื่น มันดูคล้ายการเต้นระบำที่เกิดจากการสร้างสรรค์ของธรรมชาติอันชวนทึ่งและน่าประทับใจกระไรปานนั้น
นอกจากนี้ในแปลงดอกไม้ทะเลยังมีหมู่ปลาแหวกว่ายผลุบๆโผล่ๆอยู่ภายใต้เหล่าดอกไม้ทะเลที่พลิ้วไหว โดยเฉพาะอย่างยิ่งเจ้าปลาการ์ตูนที่แอบอาศัยซุกซ่อนแบบผลุบๆโผล่ๆอยู่ในมวลหมู่มหาดอกไม้ทะเล สำหรับปลาการ์ตูนที่นี่ส่วนใหญ่เป็นปลาการ์ตูนอินเดียนแดง ส่วนเจ้านีโม ปลาการ์ตูนส้มขาวนั้นที่นี่ไม่มีให้ชมเหมือนกับที่ท้องทะเลทางฝั่งอันดามัน
จากเกาะง่ามใหญ่เราไปดำน้ำต่อที่เกาะง่ามน้อยที่อยู่ใกล้ๆ กันและก็เป็นเกาะสัมปทานรังนกเหมือนกัน
โลกใต้ทะเลที่เกาะง่ามน้อยถือว่ามีสภาพความอุดมสมบูรณ์และความสวยงามไม่ต่างไปจากเกาะง่ามใหญ่ ซึ่งหลายๆคนเมื่อมาดำน้ำชมต่างประทับใจไปตามๆกัน นับเป็นอีกจุดดำน้ำตื้นอันทรงเสน่ห์แห่งท้องทะเลชุมพร ที่นอกจากเกาะง่ามใหญ่ ง่ามน้อยแล้ว ท้องทะเลชุมพรยังมีจุดดำน้ำตื้นอันน่าสนใจอยู่ที่เกาะทองหลาง เกาะมาตรา(มัตรา) เกาะรังกาจิว(ลังกาจิว) เกาะแกลบ เกาะอีแรด และเกาะไข่ เป็นต้น
นับได้ว่าท้องทะเลชุมพรทั้งเหนือน้ำและใต้น้ำเป็นอีกหนึ่งสิ่งไม่ควรพลาด สำหรับคนที่มาเที่ยวยังชุมพร เมืองต้องห้าม...พลาด ซึ่งทุกๆคน ทุกภาคส่วน ทั้งเจ้าบ้าน ผู้ประกอบการ ภาครัฐ และนักท่องเที่ยวจำเป็นต้องช่วยกันอนุรักษ์ทรัพยากรทางทะเลอันทรงคุณค่าเหล่านี้ให้อยู่ท้องทะเลไทย และอยู่คู่โลกไปตราบนานเท่านาน
*****************************************
ที่ทำการอุทยานแห่งชาติหมู่เกาะชุมพร ตั้งอยู่ที่ บ้านโพงพาง ต.หาดทรายรี อ.เมือง จ.ชุมพร โทร.0-7755-8144, 0-77558145
ผู้สนใจสามารถสอบถามข้อมูลเที่ยวทะเลชุมพร และข้อมูลสถานที่ท่องเที่ยวเชื่อมโยงกับอุทยานฯ หมู่เกาะชุมพร ที่พัก ร้านอาหาร และการเดินทางในจังหวัดชุมพรได้ที่ การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) สำนักงานชุมพร โทร.0-7750-2775-6, 0-7750-1831
*****************************************
สามารถส่งข้อมูลข่าวสารด้านการท่องเที่ยว-อาหารมาได้ที่ กอง บก.ข่าวท่องเที่ยว แฟกซ์ 0-2629-4467 อีเมล travel_astvmgr@hotmail.com
“หาดทรายสวยสี่ร้อยลี้”
นี่คือสโลแกนของ “ชุมพร” 1 ใน 12 จังหวัดที่ได้รับการคัดเลือกจาก “การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.)” ให้เป็น “เมืองต้องห้าม...พลาด” แคมเปญท่องเที่ยวที่ประสบความสำเร็จอย่างสูงในปี พ.ศ. 2558
สโลแกนเมือง “หาดทรายสวยสี่ร้อยลี้” เป็นการสะท้อนมนต์เสน่ห์ของจังหวัดชุมพรที่มีแนวหาดทรายเลาะเลียบทะเลอ่าวไทยนับจากเหนือจรดใต้ของจังหวัดยาวกว่า 222 กิโลเมตร ไล่เรียงไปตั้งแต่ อ.ปะทิว ถึง อ.ละแม
ขณะที่ในท้องทะเลชุมพรนั้นก็เป็นอีกหนึ่งแห่งทรัพยากรอันอุดมสมบูรณ์ เป็นอีกหนึ่งความงดงามอันน่าทึ่งแห่งอ่าวไทย โดยเฉพาะในเขตพื้นที่ “อุทยานแห่งชาติหมู่เกาะชุมพร” นั้นมีมนต์เสน่ห์แห่งท้องทะเลให้สัมผัสกันหลากหลาย ทั้งหาดทรายชายทะเล ป่าชายเลน หมู่เกาะน้อย-ใหญ่ และโลกใต้ทะเลอันงดงาม
ชนิดที่ใครหลายๆ คนคาดไม่ถึงว่าโลกใต้ทะเลชุมพรจะมีความงดงามน่าเพริศแพร้วถึงปานนั้น
1...
อุทยานแห่งชาติหมู่เกาะชุมพร ประกาศจัดตั้งเป็นอุทยานแห่งชาติในปี พ.ศ. 2542 มีพื้นที่เกือบ 2 แสนไร่(198,125 ไร่) ครอบคลุมพื้นที่นับจากเหนือจรดใต้ไล่ไปตั้งแต่เกาะจระเข้ในเขตอำเภอปะทิว(เหนือสุด) เรื่อยลงมากินพื้นที่อ่าวทุ่งคาและหมู่เกาะต่างๆ ในเขตอำเภอเมือง หมู่เกาะในอำเภอสวี อำเภอทุ่งตะโก มาจนถึงอ่าวท้องครกในเขตอำเภอหลังสวน
อุทยานฯ หมู่เกาะชุมพร มีทรัพยากรทางทะเลที่หลากหลาย มีพื้นที่ครอบคลุมทั้งภูเขา ป่าไม้ ป่าชายเลน ชายฝั่ง หาดทรายชายทะเล ท้องทะเล และหมู่เกาะต่างๆ โดยมีจุดเด่นคือแนวชายหาดที่ทอดยาวกว่า 100 กิโลเมตร ครอบคลุมพื้นที่เกือบครึ่งของชายฝั่งทะเลชุมพร
นอกจากนี้อุทยานฯ หมู่เกาะชุมพรยังมีอีกหนึ่งที่ถือเป็นจุดเด่นสำคัญนั่นก็คือ อุทยานฯ แห่งนี้ประกอบไปด้วยเกาะน้อยใหญ่มากถึงกว่า 40 เกาะ หลายต่อหลายเกาะจัดเป็นสถานที่ท่องเที่ยวอันโดดเด่นแห่งท้องทะเลชุมพรกับมนต์เสน่ห์ความงดงามอันเป็นเอกลักษณ์ ไม่ว่าจะเป็นรูปร่างลักษณะเฉพาะตัวอันแปลกตาของบางเกาะที่เกิดจากธรรมชาติสรรสร้างและชวนให้จินตนาการ รวมไปถึงโลกใต้ทะเลอันงดงามของทรัพยากรทางทะเล มากไปด้วยฝูงปลาใหญ่น้อยและแนวปะการังอันอุดมสมบูรณ์
โดยลักษณะเด่นของโลกใต้ท้องทะเลแห่งอุทยานฯ หมู่เกาะชุมพรคือ มีการพบพันธุ์ปลาหลากหลายและมากที่สุดแห่งหนึ่งในอ่าวไทย มีการพบถ้วยทะเล(Corallimorph) พรมทะเล(Zooandthid) และดงดอกไม้ทะเล(Sea Anemone) ที่มีขนาดมากที่สุดในอ่าวไทย อีกทั้งยังเป็นแหล่งอนุรักษ์เพาะพันธุ์ “หอยมือเสือ” อีกหนึ่งสัตว์ทะเลใกล้สูญพันธุ์ให้ดำรงคงอยู่คู่ท้องทะเลไทย
นอกจากนี้ที่ทะเลชุมพรยังได้ชื่อว่าเป็นอีกหนึ่งแหล่งที่มีโอกาสพบเห็น “ฉลามวาฬ” ยักษ์ใหญ่แห่งท้องทะเลที่มักจะมาปรากฏตัวอวดโฉมให้นักดำน้ำให้เป็นที่ตื่นเต้นกันอยู่บ่อยครั้ง ซึ่งด้วยองค์ประกอบอันทรงเสน่ห์ต่างๆ เหล่านี้ ทำให้อุทยานแห่งชาติหมู่เกาะชุมพรเป็นอีกหนึ่งสถานที่ท่องเที่ยวทางทะเลที่น่าสนใจยิ่ง
อันเป็นที่มาของการออกท่องโลกทะเลชุมพรของผมในทริปนี้
2...
ทะเลใต้ในพื้นที่ด้ามขวานของเมืองไทยมีลักษณะพิเศษของท้องทะเลใน 2 ฝั่ง คือทะเลฝั่งอ่าวไทยและฝั่งอันดามันซึ่งต่างก็มีช่วงฤดูมรสุมที่ตรงกันข้ามกัน คือในช่วงหน้าฝนตั้งแต่ช่วงเดือนพฤษภาคมไปจนถึงเดือนตุลาคม(หรือราวๆกลางเดือนพฤศจิกายนของบางปี) ถือเป็นหน้ามรสุมเป็นโลว์ซีซันของทะเลฝั่งอันดามัน แต่นี่กลับเป็นช่วงฤดูท่องเที่ยวของทะเลฝั่งอ่าวไทย โดยตั้งแต่เดือนพฤษภาคมไปจนถึงเดือนตุลาคมคลื่นลมทางฝั่งอ่าวไทยจะสงบ เหมาะต่อการเที่ยวทะเล
ส่วนในช่วงเดือนพฤศจิกายนไปจนถึงราวเดือนมกราคมจะเป็นช่วงมรสุมของทะเลฝั่งอ่าวไทย แต่กลับเป็นช่วงฤดูกาลท่องเที่ยวของทะเลฝั่งอันดามัน ทำให้ทะเลใต้บ้านเราสามารถเที่ยวได้ตลอดทั้งปี
นั่นจึงทำให้ในช่วงกลางเดือนสิงหาคมที่ผ่านมา ผมกับเพื่อนๆออกเดินทางล่องใต้ลงสู่ชุมพร เมืองต้องห้าม...พลาด เพื่อไปสัมผัสกับความงามอันทรงเสน่ห์ของท้องทะเลชุมพร โดยเราไปลงเรือ(ตามที่นัดหมาย)กันที่ อบจ.ชุมพร แล้วนั่งเรือล่องออกไปตามคลองปากน้ำชุมพร ระหว่างทางผ่านบ้านเรือนชุมชนชาวประมง และเรือประมงจำนวนมากที่จอดเรียงรายอยู่ริมสองฟากฝั่งน้ำ มีทั้งเรือที่จอดรอเวลาออกทะเลไปหาปลา และเรือที่จอดเพราะออกทะเลไม่ได้เนื่องจากเป็นเรือประมงผิดกฎหมาย ซึ่งรัฐบาลลุงตู่เขาเข้มงวดเอาจริงเอาจังห้ามเรือประมงผิดกฎหมาย ทำอวนลาก อวนรุน ออกไปจับสัตว์น้ำแบบล้างผลาญทำลายทรัพยากร
หลังเรือแล่นในคลองปากน้ำมาได้สักพักเราก็มาถึงยังปากน้ำชุมพร จากนั้นเรือก็แล่นฉลุยมุ่งหน้าสู่ท้องทะเลใหญ่ในหมู่เกาะชุมพร เพื่อไปเที่ยวชมรูปร่างความแปลกตาลักษณะพิเศษของบางเกาะ ซึ่งระหว่างทางเรือได้แล่นผ่าน “เกาะแรด” หรือ “เกาะอีแรด” ที่มองเห็นอยู่ไกลๆ เกาะแรดเมื่อมองในมุมที่ใช่แล้วจะมีรูปร่างคล้ายแรดนอนหมอบอยู่กลางทะเล โดยมี “เกาะหลักแรด” ที่ชาวบ้านเล่าว่า เป็นเหมือนหลักที่เอาไว้ผูกแรดให้อยู่กับที่ตั้งอยู่เคียงข้างใกล้ๆ กัน
จากนั้นเรือได้พามาแวะชมสิ่งน่าสนใจในจุดแรก โดยพี่คนขับเรือพาเราไปวนชม “เกาะทะลุ” ที่อยู่ห่างจากปากน้ำชุมพรประมาณ 13 กม.
เกาะทะลุชุมพรแม้ไม่ดังเท่าเกาะทะลุ ประจวบฯ ที่อยู่ไม่ไกลกัน แต่ว่าเกาะทะลุชุมพร ก็มีความโดดเด่นและมีเสน่ห์อันน่ายลไม่น้อยกับเกาะหินกลางทะเลที่มีลักษณะคล้ายสะพานหิน บนเกาะมีโพรงถ้ำและมีช่องทะลุที่เกิดจากการสร้างสรรค์ของธรรมชาติอยู่หลายช่องด้วยกันอันเป็นที่มาของชื่อเกาะทะลุ โดยเฉพาะช่องทะลุ “รูปหัวใจ” หรือที่บางคนเรียกว่า “เกาะทะลุหัวใจ” ที่เป็นช่องหินธรรมชาติช่องหนึ่ง ซึ่งเมื่อล่องเรือไปมองในมุมมองที่ใช่(คนขับเรือจะรู้ดี) เราจะมองเห็นเป็นช่องทะลุรูปหัวใจที่สามารถมองเห็นช่องรูปหัวใจได้ทั้งมุมด้านหน้าและด้านหลัง ซึ่งแม้เป็น(รูป)หัวใจดวงเดียวกัน แต่ว่าก็ให้มุมมองที่แตกต่างกันได้ดีทีเดียว
นับประสาอะไรกับใจของคนบางคน ที่แม้มีใจดวงเดียว แต่ว่ากลับมี “หลายใจ” ไปเสียยังงั้น
จากเกาะทะลุเราไปต่อยังหนึ่งในจุดดำน้ำไฮไลต์สำคัญของทะเลชุมพรที่เกาะง่ามใหญ่ เกาะง่ามน้อย 2 เกาะง่ามที่ตั้งอยู่ใกล้ๆ กัน
เกาะง่ามใหญ่เป็นเกาะหินผาสูงชัน ไม่มีชายหาด แต่เป็นเกาะสัมปทานรังนกที่บนเกาะมีการสร้างบ้านพักง่ายๆ ของคนงานและคนเฝ้าเกาะเป็นอีกหนึ่งจุดดึงดูดสายตา เกาะง่ามใหญ่ไม่เปิดให้คนทั่วไปขึ้นเกาะ แต่อนุญาตให้ไปดำน้ำดูปะการังในบริเวณรอบๆ เกาะ และนั่งเรือเที่ยวชมรอบๆ เกาะได้
นอกจากภาพของบ้านพัก ที่สร้างเป็นกระท่อมเล็กๆ ตั้งอยู่อย่างหวาดเสียวของคนเฝ้าเกาะและคนเก็บรังนกแล้ว ด้านหนึ่งของเกาะง่ามใหญ่ยังมีผาหินรูปร่างประหลาดแปลกตาดูน่ามหัศจรรย์ ซึ่งถูกเรียกขาน “ฝ่ามือพระพุทธเจ้า”
ฝ่ามือพระพุทธเจ้า เป็นผาหินตัดสีออกเหลืองปนน้ำตาล สูงประมาณ 100 เมตร กว้างประมาณ 60 เมตร มีริ้วรอยแตกแยกดูคล้ายฝ่ามือคน(ขนาดใหญ่) ที่ยอดปลายผาหินมีรอยแยกคล้ายรูปร่างของนิ้วมือจำนวน 4 นิ้ว ส่วนด้านล่างมีหินงอกออกมามองคล้ายกับนิ้วโป้ง ซึ่งเมื่อนั่งเรือไปมองแบบถูกจุดถูกมุมผาหินจุดนี้ที่เกาะง่ามใหญ่จะดูคล้ายกับฝ่ามือคนไม่น้อย แบบไม่ต้องใช้จินตนาการอะไรมากมาย
ทั้งนี้ชาวบ้านแถบนี้มีความเชื่อว่าเป็นฝ่ามือพระพุทธเจ้ามานานแล้ว โดยชาวประมงแห่งท้องทะเลชุมพรต่างให้ความนับถือ เพราะเชื่อว่าสามารถคุ้มครองให้ชาวประมงรอดพ้นจากภัยธรรมชาติ โดยเฉพาะภัยทางทะเล และในจุดนี้ก็ยังเป็นที่หลบพายุกลางทะเลมาหลายสิบปีแล้ว นอกจากนี้ชาวเรือยังใช้เป็นสัญลักษณ์ในการเดินเรือเข้าสู่ปากน้ำชุมพรมาตั้งแต่สมัยโบราณ ซึ่งในอดีตฝ่ามือพระพุทธเจ้าเป็นที่รับรู้เฉพาะในหมู่ของชาวประมงเท่านั้น เพราะเป็นพื้นที่อยู่กลางทะเล แต่ปัจจุบันฝ่ามือพระพุทธเจ้าถือเป็นหนึ่งในอันซีนเมืองชุมพร ที่ทาง “การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย” (ททท.) ส่งเสริมผลักดันให้เป็นจุดดึงดูดจุดใหม่แห่งท้องทะเลชุมพร
จากมุมฝ่ามือพระพุทธเจ้า เรือขับมาอีกหน่อยตรงหัวมุมเกาะ ซึ่งเป็นที่ตั้งของ “หินเจดีย์” กับกองหินกลางทะเลรูปร่างคล้ายเจดีย์แต่เป็นเจดีย์หินที่โย้เอียงนิดๆ บริเวณนี้ถือเป็นจุดดำน้ำตื้นชั้นดี มีทุ่นให้เรือไปผูกทุ่นจอดเทียบ พร้อมปล่อยนักท่องเที่ยวลงดำน้ำ ซึ่งหลังจากนั้นไม่นานผมกับเพื่อนก็ค่อยๆหย่อนตัวลงสู่ท้องทะเลชุมพรที่น้ำใสแจ๋วแหวว เพื่อไปแหวกว่ายดำน้ำชมโลกใต้ทะเลอันน่าตื่นตาตื่นใจในบริเวณนี้กัน
3...
เกาะง่ามใหญ่ จัดได้ว่าเป็นสวรรค์น้อยๆ ของคนดำน้ำตื้นอีกแห่งหนึ่งในเมืองไทย เพราะโลกใต้ทะเลที่นี่งามนัก มากไปด้วยแนวปะการังอ่อนและปะการังแข็งอันอุดมสมบูรณ์ให้ชมกันเป็นจำนวนมาก รวมถึงมีปลาสวยๆงามๆ ใหญ่น้อยจำนวนมากแหวกว่ายไปมาชวนมองเป็นยิ่งนัก
อ้อ!!! แต่แถบนี้ก็มีสิ่งพึงระวังอย่างหอยเม่น ตัวสีดำ หนามแหลมเฟี้ยว ที่มักจะแทรกตัวอยู่ในบางจุด เมื่อเราเห็นควรหลีกลี้หนีห่างมันให้ดีๆ
สำหรับสิ่งที่ชวนตื่นตาตื่นใจเป็นอย่างยิ่งของโลกใต้ทะเลที่นี่ ซึ่งพี่ไกด์เราภูมิใจนำเสนอตั้งแต่อยู่บนเรือก็คือ “ดอกไม้ทะเล” ที่มีขึ้นอยู่เป็นจำนวนมาก ชนิดไม่ได้ขึ้นเป็นกอ เป็นดง หากขึ้นอยู่เต็มพรึดเป็นแปลงใหญ่ๆ ดูละลานตาเต็มไปหมด โดยเฉพาะยามที่เหล่าดอกไม้ทะเลเหล่านี้พลิ้วไหวโยกตัวส่ายไปมาตามกระแสคลื่น มันดูคล้ายการเต้นระบำที่เกิดจากการสร้างสรรค์ของธรรมชาติอันชวนทึ่งและน่าประทับใจกระไรปานนั้น
นอกจากนี้ในแปลงดอกไม้ทะเลยังมีหมู่ปลาแหวกว่ายผลุบๆโผล่ๆอยู่ภายใต้เหล่าดอกไม้ทะเลที่พลิ้วไหว โดยเฉพาะอย่างยิ่งเจ้าปลาการ์ตูนที่แอบอาศัยซุกซ่อนแบบผลุบๆโผล่ๆอยู่ในมวลหมู่มหาดอกไม้ทะเล สำหรับปลาการ์ตูนที่นี่ส่วนใหญ่เป็นปลาการ์ตูนอินเดียนแดง ส่วนเจ้านีโม ปลาการ์ตูนส้มขาวนั้นที่นี่ไม่มีให้ชมเหมือนกับที่ท้องทะเลทางฝั่งอันดามัน
จากเกาะง่ามใหญ่เราไปดำน้ำต่อที่เกาะง่ามน้อยที่อยู่ใกล้ๆ กันและก็เป็นเกาะสัมปทานรังนกเหมือนกัน
โลกใต้ทะเลที่เกาะง่ามน้อยถือว่ามีสภาพความอุดมสมบูรณ์และความสวยงามไม่ต่างไปจากเกาะง่ามใหญ่ ซึ่งหลายๆคนเมื่อมาดำน้ำชมต่างประทับใจไปตามๆกัน นับเป็นอีกจุดดำน้ำตื้นอันทรงเสน่ห์แห่งท้องทะเลชุมพร ที่นอกจากเกาะง่ามใหญ่ ง่ามน้อยแล้ว ท้องทะเลชุมพรยังมีจุดดำน้ำตื้นอันน่าสนใจอยู่ที่เกาะทองหลาง เกาะมาตรา(มัตรา) เกาะรังกาจิว(ลังกาจิว) เกาะแกลบ เกาะอีแรด และเกาะไข่ เป็นต้น
นับได้ว่าท้องทะเลชุมพรทั้งเหนือน้ำและใต้น้ำเป็นอีกหนึ่งสิ่งไม่ควรพลาด สำหรับคนที่มาเที่ยวยังชุมพร เมืองต้องห้าม...พลาด ซึ่งทุกๆคน ทุกภาคส่วน ทั้งเจ้าบ้าน ผู้ประกอบการ ภาครัฐ และนักท่องเที่ยวจำเป็นต้องช่วยกันอนุรักษ์ทรัพยากรทางทะเลอันทรงคุณค่าเหล่านี้ให้อยู่ท้องทะเลไทย และอยู่คู่โลกไปตราบนานเท่านาน
*****************************************
ที่ทำการอุทยานแห่งชาติหมู่เกาะชุมพร ตั้งอยู่ที่ บ้านโพงพาง ต.หาดทรายรี อ.เมือง จ.ชุมพร โทร.0-7755-8144, 0-77558145
ผู้สนใจสามารถสอบถามข้อมูลเที่ยวทะเลชุมพร และข้อมูลสถานที่ท่องเที่ยวเชื่อมโยงกับอุทยานฯ หมู่เกาะชุมพร ที่พัก ร้านอาหาร และการเดินทางในจังหวัดชุมพรได้ที่ การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) สำนักงานชุมพร โทร.0-7750-2775-6, 0-7750-1831
*****************************************
สามารถส่งข้อมูลข่าวสารด้านการท่องเที่ยว-อาหารมาได้ที่ กอง บก.ข่าวท่องเที่ยว แฟกซ์ 0-2629-4467 อีเมล travel_astvmgr@hotmail.com