“กีวี่” เป็นผลไม้ลูกเล็กๆ ที่อุดมไปด้วยคุณค่า หลายคนอาจจะคิดว่ากีวี่มีต้นกำเนิดในประเทศทางยุโรป หรือที่นิวซีแลนด์ แต่รู้หรือไม่ว่าที่จริงแล้ว “กีวี่” มีต้นกำเนิดอยู่ในประเทศจีน นี่เอง
กำเนิดของกีวี่แม้จะอยู่ในประเทศจีน แต่ต่อมาได้แพร่หลายออกมานอกประเทศ จนกระทั่งมีผู้นำไปปลูกที่ประเทศนิวซีแลนด์ แล้วมีการปรับปรุงพันธุ์จนได้กีวี่ที่มีรสชาติดี สามารถปลูกเพื่อเป็นสินค้าส่งออกที่มีชื่อเสียงของประเทศได้ ซึ่งในสมัยก่อนนั้นกีวี่มีชื่อเรียกในภาษาอังกฤษว่า “Chinese Gooseberry” แต่เมื่อมารุ่งเรืองที่นิวซีแลนด์ จึงมีการเปลี่ยนชื่อเรียกเป็น “Kiwi” ตามชื่อของนกกีวี่ที่เป็นสัญลักษณ์ของประเทศนิวซีแลนด์
รูปร่างหน้าตาของลูกกีวี่นั้น จะเป็นผลรีๆ รูปไข่ มีขนเล็กๆ ปกคลุมทั่วผล เนื้อด้านในเป็นสีออกเขียว หรือออกเหลือง แล้วแต่สายพันธุ์ รสชาติเปรี้ยวอมหวาน ชุ่มน้ำ สามารถเก็บไว้ได้นานถึงสองอาทิตย์หากเก็บไว้อย่างเหมาะสม
สำหรับคุณค่าที่ได้จากการกินกีวี่นั้น อย่างแรกเลยคือ กีวี่เป็นผลไม้ที่มีวิตามินซีสูงมาก เพื่อเทียบกับผลไม้ชนิดอื่นๆ เช่น ส้ม มะละกอ ฯลฯ ซึ่งวิตามินซีนั้นจะช่วยกระตุ้นการทำงานของระบบภูมิคุ้มกันโรค และช่วยซ่อมแซมส่วนที่สึกหรอของร่างกาย รวมถึงกระตุ้นการสร้างเซลล์ใหม่ๆ ด้วย
นอกจากนี้ กีวี่ยังมีวิตามินอีที่ช่วยชะลอความชรา ด้วยสารต้านอนุมูลอิสระ และยังช่วยลดระดับคอเลสเตอรอล และช่วยในการไหลเวียนโลหิตในร่างกายด้วย ที่สำคัญ ยังมีไฟเบอร์หรือเส้นใยอาหารจากธรรมชาติ ช่วยในเรื่องระบบการขับถ่ายและการย่อย
ผลไม้ลูกเล็กๆ แค่นี้ แต่ต้องเรียกว่าเล็กพริกขี้หนู เพราะกินแล้วได้ประโยชน์มากมายจริงๆ
* * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * *
สามารถส่งข้อมูลข่าวสารด้านการท่องเที่ยว-อาหารมาได้ที่ กอง บก.ข่าวท่องเที่ยว แฟกซ์ 0-2629-4467 อีเมล์
travel_astvmgr@hotmail.com
data-width="450" data-height="590" data-show-faces="true" data-stream="true" data-
header="true">