โดย : ปิ่น บุตรี(pinn109@hotmail.com)
“ที่ราบสูงที่ลาดเอียงได้อย่างสวยงามและโอบล้อมไปด้วยหุบเขาสูงตระหง่าน”
“วิลเลียม คาเมรอน”(William Cameron)นักสำรวจชาวอังกฤษ ได้บรรยายถึงดินแดนแห่งความงามท่ามกลางขุนเขาที่ตั้งอยู่ทางตอนเหนือของมาเลเซีย ซึ่งเขาได้มาสำรวจคนพบอย่างเป็นทางการในปี ค.ศ.1885
หลังดินแดนงามแห่งนี้เปิดโลกให้คนรับรู้ ก็ได้มีการสร้างชุมชน สร้างเมืองขึ้น โดยทางอังกฤษผู้ปกครองมาเลเซียในยุคนั้นได้เข้ามาสร้างเป็นเมืองพักตากอากาศอันสวยงาม พร้อมกับตั้งชื่อเมืองแห่งนี้เพื่อเป็นเกียรติแก่วิลเลียม คาเมรอนผู้ค้นพบว่า“คาเมรอน ไฮแลนด์”
1...
คาเมรอน ไฮแลนด์ ตั้งอยู่ในรัฐปาหัง ประเทศมาเลเซีย มีพื้นที่ส่วนใหญ่เป็นเทือกเขาสูง มีความสูงเฉลี่ย 1,524 เมตรเหนือระดับน้ำทะเล เป็นดินแดนที่มีอากาศหนาวเย็นตลอดทั้งปี
คาเมรอน ไฮแลนด์ ตั้งอยู่ห่างจากเมืองหลวงกัวลาลัมเปอร์ประมาณ 200 กิโลเมตร ใช้เวลาเดินทางประมาณ 3-4 ชั่วโมง ซึ่งเมื่อเส้นทางแยกจากทางหลวงใหญ่แล้วจะมีสภาพคดเคี้ยวขึ้นเขาสูงชัน
ระหว่างทางจะมี“น้ำตกลาตา”(Lata)ให้เราได้แวะเที่ยวชมกับน้ำตกใสไหลเย็นชุ่มฉ่ำที่ไหลจากหน้าผาเป็นสายฟูฟ่องลงมาสู่ลำธารน้ำใสแจ๋วเบื้องล่าง ที่มีผู้นิยมไปเล่นน้ำที่น้ำตกนี้กันไม่น้อยเลย
บริเวณน้ำตกลาตามีร้านอาหาร ร้านขายของที่ระลึก จำพวกสินค้าพื้นเมืองไว้ขายนักท่องเที่ยวกันจำนวนหนึ่ง ซึ่งนี่นอกจากจะเป็นสถานที่ท่องเที่ยวแล้ว ยังเป็นที่พักรถ พักคนขับ รวมถึงให้นักท่องเที่ยวได้ผ่อนคลายเดินยืดเส้นยืดสายหรือไปสัมผัสน้ำตกที่ไหลเย็นชุ่มฉ่ำ นอกจากนี้ก็ยังเป็นจุดพักให้ผู้ที่เมารถบางคนได้นั่งพัก หายใจโล่งๆ ดมยาดม และปล่อยของ(ออก)กันบ้าง สำหรับผู้ที่เมา(รถ)หนัก
จากน้ำตกเดินทางไปอีกเกือบๆ 2 ชั่วโมงก็จะถึงยังดินแดน คาเมรอน ไฮแลนด์ ที่ปัจจุบันมีเมืองหลักๆอยู่ 3 เมือง(อำเภอ) ซึ่งผมขอไล่ไปตามระดับความสูงดังนี้
เริ่มจากล่างสุดคือเมือง “ริงเลท”(Ringlet) เป็นเมืองแรกที่สร้างขึ้นในคาเมรอนฯ ถือเป็นพื้นที่หลักในการทำสวนผลไม้ สวนผัก
เมื่อไต่ระดับความสูงขึ้นไปอีกจะเป็นเมือง “ทานา ราตา”(Tanah Rata) ซึ่งเคยเป็นศูนย์กลางการปกครองและเมืองราชการในอดีต ปัจจุบันถือเป็นอีกหนึ่งเมืองท่องเที่ยวหลักของคาเมรอนฯ ในทานา ราตา มีบ้านพัก บังกะโล ตลาด ร้านค้า ร้านอาหารมากมาย โดยเฉพาะกลุ่มตึกเก่าและกลุ่มอาคารกลางเมืองที่สร้างอย่างสวยงามชวนให้เดินเที่ยวชม
ส่วนเมืองสำคัญลำดับสุดท้ายคือ“บรินชาง”(Brinchang) เมืองที่ตั้งอยู่บนหุบเขา เมืองที่ผมกับคณะเลือกพักกันในทริปนี้ โดยพวกเราพักกันที่โรงแรมคอปทรอน(Copthorne)ซึ่งเป็นโรงแรมตั้งอยู่บนที่สูง มีพื้นที่กว้างใหญ่ โอ่โถง สามารถมองเห็นวิวทิวทัศน์ได้อย่างสวยงาม และเป็นที่พักที่คนไทยนิยมพักกันไม่น้อยเลย
เมืองบรินชาง นอกจากจะโดดเด่นไปด้วยการทำ ไร่ชา สวนผลไม้ ฟาร์มสตรอเบอร์รี่ และพืชผักเมืองหนาวอื่นๆ ท่ามกลางขุนเขาอันสวยงามและสายหมอกที่ลอยปกคลุมเมืองอยู่เป็นนิจ แล้วยังเป็นเมืองที่มีสถานที่ท่องเที่ยวมากหลาย อีกทั้งยังมี “ยอดเขาบรินชาง” เป็นจุดสูงสุดของคาเมรอน ไฮแลนด์ ในระดับความสูง ราว 2,000 เมตร(1,999.80 เมตร) หรือถ้าคิดเป็นฟุตก็จะได้ความสูงที่เป็นตัวเลขแสนสวยคือ 6,666 ฟุต
2…
แม้พื้นที่ส่วนใหญ่ในปัจจุบันของคาเมรอน ไฮแลนด์ จะได้รับการพัฒนา มีการก่อสร้างอาคารสิ่งต่างๆมากมายเพื่อรองรับการท่องเที่ยวที่โตวันโตคืน แต่ว่าเมืองนี้ก็ยังคงอนุรักษ์ป่าไม้เอาไว้ โดยเฉพาะกับพืชพันธุ์สำคัญอย่าง “เฟิร์นมหาสดำ” พืชโบราณดึกดำบรรพ์ที่เหลือน้อยในบ้านเราเต็มที แต่ที่คาเมรอนฯมีให้เห็นกันทั่วไป ทั้งตามป่าเขา ตาม 2 ข้างทาง ริมไร่ หรือแม้แต่กระทั่งในเมืองก็ยังมีต้นเฟิร์นมหาสดำจำนวนมากยืนต้นตระหง่าน แผ่สยายกิ่งทรงพุ่มในสไตล์ไม้ดึกดำบรรพ์ให้ยลกัน
นอกจากธรรมชาติอันสวยงามแล้ว คาเมรอนฯยังอุดมไปด้วยสถานที่ท่องเที่ยวเด่นๆประเภท “แมนเมด”(Man Made)มนุษย์สร้าง นำโดยแหล่งท่องเที่ยวเชิงเกษตร ที่มีการเปิดไร่ เปิดฟาร์ม เปิดสวนให้คนเข้าไปเที่ยวชมกันเป็นจำนวนมาก โดยคาเมรอน ไฮแลนด์ นั้นเด่นมากในเรื่องของการปลูกชา ซึ่งเจ้าของไร่ชาได้เดินทางเข้ามาปลูกชาในยุคบุกเบิก
สำหรับจุดชมไร่ชาที่เด่นๆในคาเมรอนฯนั้น ผมได้ไปสัมผัสเที่ยวชมมา 2 แห่งด้วยกัน
แห่งแรกคือที่“คาเมรอน วัลเล่ย์” ซึ่งเป็นจุดแวะพักระหว่างทาง ที่นี่เราจะได้เห็นหุบเขาไร่ชาอันอลังการกว้างไกล พร้อมมีเส้นทางให้นักท่องเที่ยวลงไปเดินเที่ยวในไร่ชา ไปถ่ายรูปเล่น หรือไปเซลฟี่ ขณะที่ด้านบนนั้นก็เป็นร้านขายชา กาแฟ สินคาที่ระลึก และอีกหนึ่งมุมชมวิวทิวทัศน์ไร่ชาอันสวยงาม ที่มีคนแวะเวียนไปชมวิวไร่ชาและนั่งดื่มชา กาแฟ พร้อมของกินแกล้มกันไม่ได้ขาด
ส่วนจุดชมไร่ชาแห่งที่สองนั้นคือ “ไร่ชาโบห์”(BOH)(หรือไร่ชาสุไหง ปาลัส-Sungei Palas) ชาแบรนด์ดังของมาเลเซีย
ไร่ชาโบห์เป็นไร่ชาขนาดใหญ่ที่สูงที่สุดในคาเมรอน ไฮแลนด์(ตั้งอยู่ในเมืองบรินชาง)ภายในไร่มีการจัดตกแต่งภูมิทัศน์อย่างสวยงาม มีจุดชมวิว จุดถ่ายรูปคู่กับไร่ชา หุบเขาอันสวยงามกว้างไกล
นอกจากนี้ที่ด้านบนก็ยังมี ร้านอาหาร เครื่องดื่ม ที่เป็นร้านกระจกใส มองลงไปเห็นไร่ชาได้อย่างสวยงาม อีกทั้งยังมีมุมระเบียงที่เป็นไฮไลท์ให้นักท่องเที่ยวมาถ่ายรูปไร่ชาในมุมสวยเริ่ดควบคู่ไปกับการจิบชา กาแฟ และสั่งขนม เค้ก เบเกอรี่ มาละเลียดในบรรยากาศ ซึ่งใครที่ไปที่นี่แล้วแค่แวะถ่ายรูปแบบพวกชะโงกทัวร์นั้นนับว่าน่าเสียดายแย่เลย
3…
ในคาเมรอน ไฮแลนด์ ยังมีสถานที่ท่องเที่ยวเด่นๆให้ไปสัมผัสกันอีกไม่ว่าจะเป็น
-“สวนกุหลาบ”(เมืองทริงแคป) ที่ภายในนอกจากจะมีกุหลาบหลากหลายให้ชมกันแล้ว ก็ยังมีแคคตัส และดอกไม้อีกสารพัดทั้งดอกไม้จริง ดอกไม้ปลอม ให้ชมกัน รวมถึงมีจุดชมวิวให้เดินขึ้นไปชมเมืองทริงแคป ที่มองลงไปเห็นบ้านเรือนปลูกสร้างไล่ระดับตามสภาพพื้นที่ไปอย่างมีสีสัน
-“สวนผีเสื้อ”(เมืองบรินชาง ใกล้ที่พักของเรา) ภายในโรงผีเสื้อให้เข้าไปเดินเที่ยวชม ท่ามกลางต้นไม้ ดอกไม้ ซึ่งก็จะได้พบกับผีเสื้อมากหลาย สารพัดปีกสีสันสวยงาม บ้างบินว่อน บ้างบินฉวัดเฉวียน บางเกาะนิ่งบนดอกไม้ ใบไม้ จนหลายๆคนคิดว่ามีใครนำมาสตาฟฟ์ไว้ นอกจากนี้ภายในสวนผีเสื้อยังมีสัตว์อื่นๆให้เที่ยวชมกัน อาทิ กระต่าย หนู เต่า กิ้งก่า กว่าง ด้วง กบ นก รวมไปถึงงู สัตว์มีพิษที่ดูน่าเกลียดน่ากลัว แต่ว่ากลับมีคนไปเฝ้าดูมันเป็นจำนวนมาก
-“สวนแคคตัส”(เมืองบรินชาง) ที่มากไปด้วยแคคตัสจำนวนมาก หลากหลายรูปแบบ ทั้งขนาดใหญ่-เล็ก หลากหลายรูปแบบ รูปทรง และหลากหลายสีสัน ซึ่งใครสนใจกสามารถซื้อมาเป็นของฝากติดไม้ติดมือกันได้
ส่วน“สวนลาเวนเดอร์”(Lavender Garden) ที่ตั้งอยู่ในย่าน “Kea Farm”นั้น ถือเป็นอีกหนึ่งที่เที่ยวไฮไลท์ประจำทริป ที่นี่เป็นสวยสวยที่มีการจัดตกแต่งอย่างสวยงาม มีมุมกิ๊บเก๋ มุมสวยๆงามๆ ให้พวกชอบถ่ายรูป ชอบเซลฟี่หามุมส่วนตัวถ่ายรูปกันเพลิน ไม่ว่าจะเป็นมุมตู้ไปรษณีย์ มุมคิตตี้ มุมกระถางรองเท้า มุมซุ้มที่ทำเป็นบ้านเล็กๆ มุมถ่ายคู่กับรถคันสวย และมุมไฮไลท์คือมุมแปลงดอกไม้ด้านหน้าที่ปลูกลาเวนเดอร์ ซัลเวีย บีโกเนีย ซึ่งหากไปถูกช่วงเวลาที่ดอกไม้ทั้งสามชนิดพร้อมใจกันออกดอกเบ่งบาน จะเห็นแปลงสีม่วง เหลือง แดง ตัดสลับกันอย่างสวยงาม
ในสวนลาเวนเดอร์ยังมีชั้นสองให้เที่ยวชม บนนั้นมีสวนสตรอเบอร์รี่เล็กๆเปิดให้นักท่องเที่ยวสามารถเดินเข้าไปเก็บสตรอเบอรี่ได้ นอกจากนี้ก็ยังมีแปลงปลูกเยอบีร่าที่หากมันพร้อมใจกันออกดอกเบ่งบานจะสวยงามมาก ถือเป็นไฮไลท์แห่งชั้นสองที่หากใครไม่ได้ขึ้นไปชม นับน่าเสียดายแย่เลย
4…
อีกหนึ่งเสน่ห์ของคาเมรอน ไฮแลนด์ ที่ถือเป็นไฮไลท์ของดินแดนนี้นั่นก็คือ การเป็นเมืองที่มีการปลูก“สตรอเบอร์รี่” ที่ถือเป็นผลไม้ขึ้นชื่อของที่นี่อยู่เป็นจำนวนมาก
ฟาร์มสตรอเบอร์รี่ในคาเมรอนฯ มีทั้งฟาร์มเล็กๆของชาวบ้าน ไปจนถึงไร่ฟาร์มขนาดใหญ่ของผู้มีเงินหนา
ฟาร์มปลูกสตรอเบอร์รี่ที่นี่จะต่างจากเมืองไทยเรา คือที่คาเมรอนส่วนใหญ่นิยมทำเป็นโรงเรือน แล้วทำโครงใส่ภาชนะปลูกสตรอเบอร์รี่เป็นชั้นๆ บ้างก็ปลูกในกระถางที่แขวนอย่างเป็นระเบียบ เก็บผลง่าย
ฟาร์มสตรอเบอร์รี่หลายแห่งของที่นี่ มีการจัดตกแต่งอย่างสวยงาม เปิดให้คนเข้าไปเที่ยวชม บ้างก็เปิดให้นักท่องเที่ยวสามารถเดินเข้าไปเก็บสตรอเบอร์รี่สดๆจากต้นใส่ในตะกร้าหรือในภาชนะที่ทางฟาร์มจัดเตรียมไว้ แล้วนำออกมาชั่งกิโลเช็คปริมาณ ก่อนจะคิดเงินกัน ในราคาตามที่สวนกำหนด
สำหรับใครที่มาเที่ยวคาเมรอน ไฮแลนด์นั้น สามารถหาซื้อสตรอเบอร์รี่กินได้ทั่วไป ทั้งสตรอเบอร์รี่สีแดงสดใหม่จากต้น สตรอร์เบอร์รี่แปรรูป อย่าง แยมสตรอเบอร์รี่ น้ำสตรอเบอร์รี่ ชาสตรอเบอร์รี่ ไอศกรีมสตรอร์เบอรี่ หรือเค้กสตรอเบอรร์รี่ เป็นต้น
นอกจากนี้คนที่นี่ยังนิยมสตรอเบอรร์รี่ไปกินร่วมกับเครื่องดื่ม ขนมอื่นๆอีก อย่างเช่น กินสตรอเบอรี่กับกาแฟ ชา ชาเขียว สตรอเบอรี่กับโยเกิร์ต สตรอเบอร์รี่มัฟฟิน รวมไปถึง“สตรอเบอร์รี่ ช็อกโกแลต ฟองดู” ที่มีทั้งที่เสียบไม้ขาย และขายเป็นชุดในฟาร์ม ในร้านใหญ่ๆ
ขณะที่แหล่งตลาดขายสตรอเบอรร์รี่แหล่งใหญ่ให้นักท่องเที่ยวก็คือ ตลาดคี ฟาร์ม (Kea Farm) ที่อยู่ใกล้ๆกับที่พักชนิดเดินจากโรงแรมมาเที่ยวชมตลาดได้
ตลาดคี ฟาร์ม เป็นแหล่งขายสินค้าอันหลากหลายแห่งคาเมรอน ไม่ว่าจะเป็นพืชผักผลไม้สดๆ อาหารกิน ดอกไม้สด แคคตัส สินค้าที่ระลึกต่างๆอันหลากหลาย และที่ขาดไม่ได้ก็คือสตรอเบอร์รี่สีแดงสดใส ที่มีทั้งลูกเล็ก ลูกใหญ่ วางขายให้เลือกซื้อกันทั่วไป และด้วยความที่เมืองนี้อุดมสมบูรณ์ไปด้วยสตรอเบอรร์รี่ ทำให้หลายๆคนตั้งฉายาให้กับคาเมรอน ไฮแลนด์ว่าเป็น “เมืองสตรอเบอร์รี่” ไปโดยปริยาย
นอกจากนี้หลายคนยังบอกว่าถ้ามาคาเมรอนฯแล้วไม่ได้ลองหม่ำสตรอเบอร์รี่ก็เหมือนกับว่ายังมาไม่ถึง ซึ่งนี่ก็คือเสน่ห์แห่งคาเมรอน ไฮแลนด์ อีกหนึ่งดินแดนมากสีสัน หนึ่งในสถานที่ท่องเที่ยวแห่งมาเลเซีย ที่รอคอยให้ผู้สนใจได้เดินทางไปสัมผัสเปิดประสบการณ์อันน่าตื่นตาตื่นใจกัน
*****************************************
คาเมรอน ไฮแลนด์ ตั้งอยู่ในรัฐปาหัง ทางภาคเหนือของมาเลเซีย ห่างจากเมืองหลวงกัวลาลัมเปอร์ประมาณ 200 กิโลเมตร ใช้เวลาเดินทางประมาณ 3-4 ชั่วโมงเนื่องจากเส้นทางสู่คาเมรอน ไฮแลนด์ เป็นทางขึ้นเขา มีสภาพคดเคี้ยว จากเมืองไทยมีเส้นทางรถยนต์ที่คนไทยนิยม คือเส้นทางไปจากด่านสะเดา อ.หาดใหญ่ จ.สงขลา แล้วเดินทางสู่คาเมรอน ไฮแลนด์
ผู้สนใจสามารถสอบถามข้อมูลการเดินทาง ที่พัก ร้านอาหาร สายการบิน และสถานที่ท่องเที่ยวต่างๆในมาเลเซียได้ที่ การท่องเที่ยวมาเลเซีย สำนักงานกรุงเทพฯ โทร. 0-2636-3380 หรือดูที่ www.tourism.gov.my/th-th/th หรือ เฟซบุ๊ค Tourism Malaysia
Thailand
* * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * *
สามารถส่งข้อมูลข่าวสารด้านการท่องเที่ยว-อาหารมาได้ที่ กอง บก.ข่าวท่องเที่ยว แฟกซ์ 0-2629-4467 อีเมล์ travel_astvmgr@hotmail.com
“ที่ราบสูงที่ลาดเอียงได้อย่างสวยงามและโอบล้อมไปด้วยหุบเขาสูงตระหง่าน”
“วิลเลียม คาเมรอน”(William Cameron)นักสำรวจชาวอังกฤษ ได้บรรยายถึงดินแดนแห่งความงามท่ามกลางขุนเขาที่ตั้งอยู่ทางตอนเหนือของมาเลเซีย ซึ่งเขาได้มาสำรวจคนพบอย่างเป็นทางการในปี ค.ศ.1885
หลังดินแดนงามแห่งนี้เปิดโลกให้คนรับรู้ ก็ได้มีการสร้างชุมชน สร้างเมืองขึ้น โดยทางอังกฤษผู้ปกครองมาเลเซียในยุคนั้นได้เข้ามาสร้างเป็นเมืองพักตากอากาศอันสวยงาม พร้อมกับตั้งชื่อเมืองแห่งนี้เพื่อเป็นเกียรติแก่วิลเลียม คาเมรอนผู้ค้นพบว่า“คาเมรอน ไฮแลนด์”
1...
คาเมรอน ไฮแลนด์ ตั้งอยู่ในรัฐปาหัง ประเทศมาเลเซีย มีพื้นที่ส่วนใหญ่เป็นเทือกเขาสูง มีความสูงเฉลี่ย 1,524 เมตรเหนือระดับน้ำทะเล เป็นดินแดนที่มีอากาศหนาวเย็นตลอดทั้งปี
คาเมรอน ไฮแลนด์ ตั้งอยู่ห่างจากเมืองหลวงกัวลาลัมเปอร์ประมาณ 200 กิโลเมตร ใช้เวลาเดินทางประมาณ 3-4 ชั่วโมง ซึ่งเมื่อเส้นทางแยกจากทางหลวงใหญ่แล้วจะมีสภาพคดเคี้ยวขึ้นเขาสูงชัน
ระหว่างทางจะมี“น้ำตกลาตา”(Lata)ให้เราได้แวะเที่ยวชมกับน้ำตกใสไหลเย็นชุ่มฉ่ำที่ไหลจากหน้าผาเป็นสายฟูฟ่องลงมาสู่ลำธารน้ำใสแจ๋วเบื้องล่าง ที่มีผู้นิยมไปเล่นน้ำที่น้ำตกนี้กันไม่น้อยเลย
บริเวณน้ำตกลาตามีร้านอาหาร ร้านขายของที่ระลึก จำพวกสินค้าพื้นเมืองไว้ขายนักท่องเที่ยวกันจำนวนหนึ่ง ซึ่งนี่นอกจากจะเป็นสถานที่ท่องเที่ยวแล้ว ยังเป็นที่พักรถ พักคนขับ รวมถึงให้นักท่องเที่ยวได้ผ่อนคลายเดินยืดเส้นยืดสายหรือไปสัมผัสน้ำตกที่ไหลเย็นชุ่มฉ่ำ นอกจากนี้ก็ยังเป็นจุดพักให้ผู้ที่เมารถบางคนได้นั่งพัก หายใจโล่งๆ ดมยาดม และปล่อยของ(ออก)กันบ้าง สำหรับผู้ที่เมา(รถ)หนัก
จากน้ำตกเดินทางไปอีกเกือบๆ 2 ชั่วโมงก็จะถึงยังดินแดน คาเมรอน ไฮแลนด์ ที่ปัจจุบันมีเมืองหลักๆอยู่ 3 เมือง(อำเภอ) ซึ่งผมขอไล่ไปตามระดับความสูงดังนี้
เริ่มจากล่างสุดคือเมือง “ริงเลท”(Ringlet) เป็นเมืองแรกที่สร้างขึ้นในคาเมรอนฯ ถือเป็นพื้นที่หลักในการทำสวนผลไม้ สวนผัก
เมื่อไต่ระดับความสูงขึ้นไปอีกจะเป็นเมือง “ทานา ราตา”(Tanah Rata) ซึ่งเคยเป็นศูนย์กลางการปกครองและเมืองราชการในอดีต ปัจจุบันถือเป็นอีกหนึ่งเมืองท่องเที่ยวหลักของคาเมรอนฯ ในทานา ราตา มีบ้านพัก บังกะโล ตลาด ร้านค้า ร้านอาหารมากมาย โดยเฉพาะกลุ่มตึกเก่าและกลุ่มอาคารกลางเมืองที่สร้างอย่างสวยงามชวนให้เดินเที่ยวชม
ส่วนเมืองสำคัญลำดับสุดท้ายคือ“บรินชาง”(Brinchang) เมืองที่ตั้งอยู่บนหุบเขา เมืองที่ผมกับคณะเลือกพักกันในทริปนี้ โดยพวกเราพักกันที่โรงแรมคอปทรอน(Copthorne)ซึ่งเป็นโรงแรมตั้งอยู่บนที่สูง มีพื้นที่กว้างใหญ่ โอ่โถง สามารถมองเห็นวิวทิวทัศน์ได้อย่างสวยงาม และเป็นที่พักที่คนไทยนิยมพักกันไม่น้อยเลย
เมืองบรินชาง นอกจากจะโดดเด่นไปด้วยการทำ ไร่ชา สวนผลไม้ ฟาร์มสตรอเบอร์รี่ และพืชผักเมืองหนาวอื่นๆ ท่ามกลางขุนเขาอันสวยงามและสายหมอกที่ลอยปกคลุมเมืองอยู่เป็นนิจ แล้วยังเป็นเมืองที่มีสถานที่ท่องเที่ยวมากหลาย อีกทั้งยังมี “ยอดเขาบรินชาง” เป็นจุดสูงสุดของคาเมรอน ไฮแลนด์ ในระดับความสูง ราว 2,000 เมตร(1,999.80 เมตร) หรือถ้าคิดเป็นฟุตก็จะได้ความสูงที่เป็นตัวเลขแสนสวยคือ 6,666 ฟุต
2…
แม้พื้นที่ส่วนใหญ่ในปัจจุบันของคาเมรอน ไฮแลนด์ จะได้รับการพัฒนา มีการก่อสร้างอาคารสิ่งต่างๆมากมายเพื่อรองรับการท่องเที่ยวที่โตวันโตคืน แต่ว่าเมืองนี้ก็ยังคงอนุรักษ์ป่าไม้เอาไว้ โดยเฉพาะกับพืชพันธุ์สำคัญอย่าง “เฟิร์นมหาสดำ” พืชโบราณดึกดำบรรพ์ที่เหลือน้อยในบ้านเราเต็มที แต่ที่คาเมรอนฯมีให้เห็นกันทั่วไป ทั้งตามป่าเขา ตาม 2 ข้างทาง ริมไร่ หรือแม้แต่กระทั่งในเมืองก็ยังมีต้นเฟิร์นมหาสดำจำนวนมากยืนต้นตระหง่าน แผ่สยายกิ่งทรงพุ่มในสไตล์ไม้ดึกดำบรรพ์ให้ยลกัน
นอกจากธรรมชาติอันสวยงามแล้ว คาเมรอนฯยังอุดมไปด้วยสถานที่ท่องเที่ยวเด่นๆประเภท “แมนเมด”(Man Made)มนุษย์สร้าง นำโดยแหล่งท่องเที่ยวเชิงเกษตร ที่มีการเปิดไร่ เปิดฟาร์ม เปิดสวนให้คนเข้าไปเที่ยวชมกันเป็นจำนวนมาก โดยคาเมรอน ไฮแลนด์ นั้นเด่นมากในเรื่องของการปลูกชา ซึ่งเจ้าของไร่ชาได้เดินทางเข้ามาปลูกชาในยุคบุกเบิก
สำหรับจุดชมไร่ชาที่เด่นๆในคาเมรอนฯนั้น ผมได้ไปสัมผัสเที่ยวชมมา 2 แห่งด้วยกัน
แห่งแรกคือที่“คาเมรอน วัลเล่ย์” ซึ่งเป็นจุดแวะพักระหว่างทาง ที่นี่เราจะได้เห็นหุบเขาไร่ชาอันอลังการกว้างไกล พร้อมมีเส้นทางให้นักท่องเที่ยวลงไปเดินเที่ยวในไร่ชา ไปถ่ายรูปเล่น หรือไปเซลฟี่ ขณะที่ด้านบนนั้นก็เป็นร้านขายชา กาแฟ สินคาที่ระลึก และอีกหนึ่งมุมชมวิวทิวทัศน์ไร่ชาอันสวยงาม ที่มีคนแวะเวียนไปชมวิวไร่ชาและนั่งดื่มชา กาแฟ พร้อมของกินแกล้มกันไม่ได้ขาด
ส่วนจุดชมไร่ชาแห่งที่สองนั้นคือ “ไร่ชาโบห์”(BOH)(หรือไร่ชาสุไหง ปาลัส-Sungei Palas) ชาแบรนด์ดังของมาเลเซีย
ไร่ชาโบห์เป็นไร่ชาขนาดใหญ่ที่สูงที่สุดในคาเมรอน ไฮแลนด์(ตั้งอยู่ในเมืองบรินชาง)ภายในไร่มีการจัดตกแต่งภูมิทัศน์อย่างสวยงาม มีจุดชมวิว จุดถ่ายรูปคู่กับไร่ชา หุบเขาอันสวยงามกว้างไกล
นอกจากนี้ที่ด้านบนก็ยังมี ร้านอาหาร เครื่องดื่ม ที่เป็นร้านกระจกใส มองลงไปเห็นไร่ชาได้อย่างสวยงาม อีกทั้งยังมีมุมระเบียงที่เป็นไฮไลท์ให้นักท่องเที่ยวมาถ่ายรูปไร่ชาในมุมสวยเริ่ดควบคู่ไปกับการจิบชา กาแฟ และสั่งขนม เค้ก เบเกอรี่ มาละเลียดในบรรยากาศ ซึ่งใครที่ไปที่นี่แล้วแค่แวะถ่ายรูปแบบพวกชะโงกทัวร์นั้นนับว่าน่าเสียดายแย่เลย
3…
ในคาเมรอน ไฮแลนด์ ยังมีสถานที่ท่องเที่ยวเด่นๆให้ไปสัมผัสกันอีกไม่ว่าจะเป็น
-“สวนกุหลาบ”(เมืองทริงแคป) ที่ภายในนอกจากจะมีกุหลาบหลากหลายให้ชมกันแล้ว ก็ยังมีแคคตัส และดอกไม้อีกสารพัดทั้งดอกไม้จริง ดอกไม้ปลอม ให้ชมกัน รวมถึงมีจุดชมวิวให้เดินขึ้นไปชมเมืองทริงแคป ที่มองลงไปเห็นบ้านเรือนปลูกสร้างไล่ระดับตามสภาพพื้นที่ไปอย่างมีสีสัน
-“สวนผีเสื้อ”(เมืองบรินชาง ใกล้ที่พักของเรา) ภายในโรงผีเสื้อให้เข้าไปเดินเที่ยวชม ท่ามกลางต้นไม้ ดอกไม้ ซึ่งก็จะได้พบกับผีเสื้อมากหลาย สารพัดปีกสีสันสวยงาม บ้างบินว่อน บ้างบินฉวัดเฉวียน บางเกาะนิ่งบนดอกไม้ ใบไม้ จนหลายๆคนคิดว่ามีใครนำมาสตาฟฟ์ไว้ นอกจากนี้ภายในสวนผีเสื้อยังมีสัตว์อื่นๆให้เที่ยวชมกัน อาทิ กระต่าย หนู เต่า กิ้งก่า กว่าง ด้วง กบ นก รวมไปถึงงู สัตว์มีพิษที่ดูน่าเกลียดน่ากลัว แต่ว่ากลับมีคนไปเฝ้าดูมันเป็นจำนวนมาก
-“สวนแคคตัส”(เมืองบรินชาง) ที่มากไปด้วยแคคตัสจำนวนมาก หลากหลายรูปแบบ ทั้งขนาดใหญ่-เล็ก หลากหลายรูปแบบ รูปทรง และหลากหลายสีสัน ซึ่งใครสนใจกสามารถซื้อมาเป็นของฝากติดไม้ติดมือกันได้
ส่วน“สวนลาเวนเดอร์”(Lavender Garden) ที่ตั้งอยู่ในย่าน “Kea Farm”นั้น ถือเป็นอีกหนึ่งที่เที่ยวไฮไลท์ประจำทริป ที่นี่เป็นสวยสวยที่มีการจัดตกแต่งอย่างสวยงาม มีมุมกิ๊บเก๋ มุมสวยๆงามๆ ให้พวกชอบถ่ายรูป ชอบเซลฟี่หามุมส่วนตัวถ่ายรูปกันเพลิน ไม่ว่าจะเป็นมุมตู้ไปรษณีย์ มุมคิตตี้ มุมกระถางรองเท้า มุมซุ้มที่ทำเป็นบ้านเล็กๆ มุมถ่ายคู่กับรถคันสวย และมุมไฮไลท์คือมุมแปลงดอกไม้ด้านหน้าที่ปลูกลาเวนเดอร์ ซัลเวีย บีโกเนีย ซึ่งหากไปถูกช่วงเวลาที่ดอกไม้ทั้งสามชนิดพร้อมใจกันออกดอกเบ่งบาน จะเห็นแปลงสีม่วง เหลือง แดง ตัดสลับกันอย่างสวยงาม
ในสวนลาเวนเดอร์ยังมีชั้นสองให้เที่ยวชม บนนั้นมีสวนสตรอเบอร์รี่เล็กๆเปิดให้นักท่องเที่ยวสามารถเดินเข้าไปเก็บสตรอเบอรี่ได้ นอกจากนี้ก็ยังมีแปลงปลูกเยอบีร่าที่หากมันพร้อมใจกันออกดอกเบ่งบานจะสวยงามมาก ถือเป็นไฮไลท์แห่งชั้นสองที่หากใครไม่ได้ขึ้นไปชม นับน่าเสียดายแย่เลย
4…
อีกหนึ่งเสน่ห์ของคาเมรอน ไฮแลนด์ ที่ถือเป็นไฮไลท์ของดินแดนนี้นั่นก็คือ การเป็นเมืองที่มีการปลูก“สตรอเบอร์รี่” ที่ถือเป็นผลไม้ขึ้นชื่อของที่นี่อยู่เป็นจำนวนมาก
ฟาร์มสตรอเบอร์รี่ในคาเมรอนฯ มีทั้งฟาร์มเล็กๆของชาวบ้าน ไปจนถึงไร่ฟาร์มขนาดใหญ่ของผู้มีเงินหนา
ฟาร์มปลูกสตรอเบอร์รี่ที่นี่จะต่างจากเมืองไทยเรา คือที่คาเมรอนส่วนใหญ่นิยมทำเป็นโรงเรือน แล้วทำโครงใส่ภาชนะปลูกสตรอเบอร์รี่เป็นชั้นๆ บ้างก็ปลูกในกระถางที่แขวนอย่างเป็นระเบียบ เก็บผลง่าย
ฟาร์มสตรอเบอร์รี่หลายแห่งของที่นี่ มีการจัดตกแต่งอย่างสวยงาม เปิดให้คนเข้าไปเที่ยวชม บ้างก็เปิดให้นักท่องเที่ยวสามารถเดินเข้าไปเก็บสตรอเบอร์รี่สดๆจากต้นใส่ในตะกร้าหรือในภาชนะที่ทางฟาร์มจัดเตรียมไว้ แล้วนำออกมาชั่งกิโลเช็คปริมาณ ก่อนจะคิดเงินกัน ในราคาตามที่สวนกำหนด
สำหรับใครที่มาเที่ยวคาเมรอน ไฮแลนด์นั้น สามารถหาซื้อสตรอเบอร์รี่กินได้ทั่วไป ทั้งสตรอเบอร์รี่สีแดงสดใหม่จากต้น สตรอร์เบอร์รี่แปรรูป อย่าง แยมสตรอเบอร์รี่ น้ำสตรอเบอร์รี่ ชาสตรอเบอร์รี่ ไอศกรีมสตรอร์เบอรี่ หรือเค้กสตรอเบอรร์รี่ เป็นต้น
นอกจากนี้คนที่นี่ยังนิยมสตรอเบอรร์รี่ไปกินร่วมกับเครื่องดื่ม ขนมอื่นๆอีก อย่างเช่น กินสตรอเบอรี่กับกาแฟ ชา ชาเขียว สตรอเบอรี่กับโยเกิร์ต สตรอเบอร์รี่มัฟฟิน รวมไปถึง“สตรอเบอร์รี่ ช็อกโกแลต ฟองดู” ที่มีทั้งที่เสียบไม้ขาย และขายเป็นชุดในฟาร์ม ในร้านใหญ่ๆ
ขณะที่แหล่งตลาดขายสตรอเบอรร์รี่แหล่งใหญ่ให้นักท่องเที่ยวก็คือ ตลาดคี ฟาร์ม (Kea Farm) ที่อยู่ใกล้ๆกับที่พักชนิดเดินจากโรงแรมมาเที่ยวชมตลาดได้
ตลาดคี ฟาร์ม เป็นแหล่งขายสินค้าอันหลากหลายแห่งคาเมรอน ไม่ว่าจะเป็นพืชผักผลไม้สดๆ อาหารกิน ดอกไม้สด แคคตัส สินค้าที่ระลึกต่างๆอันหลากหลาย และที่ขาดไม่ได้ก็คือสตรอเบอร์รี่สีแดงสดใส ที่มีทั้งลูกเล็ก ลูกใหญ่ วางขายให้เลือกซื้อกันทั่วไป และด้วยความที่เมืองนี้อุดมสมบูรณ์ไปด้วยสตรอเบอรร์รี่ ทำให้หลายๆคนตั้งฉายาให้กับคาเมรอน ไฮแลนด์ว่าเป็น “เมืองสตรอเบอร์รี่” ไปโดยปริยาย
นอกจากนี้หลายคนยังบอกว่าถ้ามาคาเมรอนฯแล้วไม่ได้ลองหม่ำสตรอเบอร์รี่ก็เหมือนกับว่ายังมาไม่ถึง ซึ่งนี่ก็คือเสน่ห์แห่งคาเมรอน ไฮแลนด์ อีกหนึ่งดินแดนมากสีสัน หนึ่งในสถานที่ท่องเที่ยวแห่งมาเลเซีย ที่รอคอยให้ผู้สนใจได้เดินทางไปสัมผัสเปิดประสบการณ์อันน่าตื่นตาตื่นใจกัน
*****************************************
คาเมรอน ไฮแลนด์ ตั้งอยู่ในรัฐปาหัง ทางภาคเหนือของมาเลเซีย ห่างจากเมืองหลวงกัวลาลัมเปอร์ประมาณ 200 กิโลเมตร ใช้เวลาเดินทางประมาณ 3-4 ชั่วโมงเนื่องจากเส้นทางสู่คาเมรอน ไฮแลนด์ เป็นทางขึ้นเขา มีสภาพคดเคี้ยว จากเมืองไทยมีเส้นทางรถยนต์ที่คนไทยนิยม คือเส้นทางไปจากด่านสะเดา อ.หาดใหญ่ จ.สงขลา แล้วเดินทางสู่คาเมรอน ไฮแลนด์
ผู้สนใจสามารถสอบถามข้อมูลการเดินทาง ที่พัก ร้านอาหาร สายการบิน และสถานที่ท่องเที่ยวต่างๆในมาเลเซียได้ที่ การท่องเที่ยวมาเลเซีย สำนักงานกรุงเทพฯ โทร. 0-2636-3380 หรือดูที่ www.tourism.gov.my/th-th/th หรือ เฟซบุ๊ค Tourism Malaysia
Thailand* * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * *
สามารถส่งข้อมูลข่าวสารด้านการท่องเที่ยว-อาหารมาได้ที่ กอง บก.ข่าวท่องเที่ยว แฟกซ์ 0-2629-4467 อีเมล์ travel_astvmgr@hotmail.com
