บรรดาค่ายเกมโมบายยักษ์ใหญ่หลายรายคงรู้สึกร้อนๆหนาวๆไปตามๆกัน เมื่อบอสใหญ่บริษัทนินเทนโด แค่ลงมาแย่งส่วนแบ่งตลาดไม่พอ ยังเปรยถึงนโยบายฟรีทูเพลย์แบบสวนกระแสที่ไม่เน้นผลกำไร
จากข่าวการประกาศจับมือเป็นพันธมิตรกันทางธุรกิจ ระหว่างบริษัทนินเทนโด ค่ายเกมชื่อดังฝั่งปลาดิบ กับค่ายเกมมือถือ DeNA เพื่อสร้างแอพพลิเคชั่นเกมรุกตลาดอุปกรณ์สมาร์ตดีไวซ์ ล่าสุดทาง "ซาโตรุ อิวาตะ" (Satoru Iwata) ประธานใหญ่บริษัทนินเทนโด ก็ออกมาให้สัมภาษณ์ถึงแนวทางของบริษัทในการทำธุรกิจโมบาย
"ผมเข้าใจดีว่า มันไม่เหมือนโมเดลธุรกิจเกมกล่องที่ทำลงเฉพาะเครื่อง ซึ่งในปัจจุบันโมเดลธุรกิจแบบให้เริ่มเล่นฟรี กำลังแพร่หลาย และได้ถูกปรับใช้ในหลายๆเกมบนอุปกรณ์สมาร์ตดีไวซ์ ดังนั้นมันจึงเป็นเรื่องปกติที่รูปแบบธุรกิจเล่นฟรี จะกลายมาเป็นตัวเลือกแรกๆที่เราต้องพิจารณา"
"ในอีกมุมมองหนึ่ง แม้แต่ในโลกของแอพพลิเคชันบนอุปกรณ์สมาร์ตดีไวซ์เอง มันก็ยังมีการเปลี่ยนแปลงในเรื่องของโมเดลธุรกิจอยู่ตลอดเวลา และด้วยเหตุผลนั้นเราจึงจำเป็นต้องปรึกษาหารือกับทาง DeNA เพื่อตัดสินใจเลือกช่องทางการจ่ายเงินที่เหมาะสมสำหรับบางเกม ดังนั้นคำตอบของผมคือโมเดลธุรกิจทั้งสองสามารถเป็นตัวเลือกของเราได้ทั้งคู่" อิวาตะ กล่าว
นอกจากนี้หัวเรือใหญ่นินเทนโดในวัย 55 ปี ยังอธิบายต่อถึงประเด็นที่มีบริษัทเกมโมบายบางค่าย หวังพึ่งอยู่แต่เกมฮิตเพียงเกมเดียว (ไม่ได้เอ่ยนาม แต่คงหมายถึง Candy Crush) โดยทางอิวาตะ ให้ความเห็นว่านินเทนโดจะไม่ทำแบบนั้น แต่ตรงกันข้ามทางนินเทนโดจะเน้นป้อนเกมหลากหลายซีรีย์ที่มีพื้นฐานจากแฟรนไชส์แม่เหล็กยอดฮิตของบริษัท ซึ่งนั่นจะช่วยสร้างความแตกต่าง และเป็นผลดีต่อธุรกิจในระยะยาว
"สำหรับนินเทนโด การใช้ประโยชน์จากคลังทรัพย์สินทางปัญญา (IP) มากมายที่เราได้สรรสร้างอย่างพิถีพิถันมานานกว่า 30 ปี ถือเป็นจุดแข็งหลักของเรา และเราอยากที่จะผลิตเกมไตเติ้ลสุดฮิตลงสู่ตลาดพร้อมๆกัน โดยการเพิ่มเสริมเติมเสน่ห์ให้เหล่า IP ของทางนินเทนโดที่ผู้คนทั่วโลกต่างคุ้นเคยกันดี"
"คุณค่าของคอนเทนต์โดยทั่วไปจะค่อยๆลดต่ำลงในโลกดิจิตอล โดยเฉพาะอย่างยิ่งบนอุปกรณ์สมาร์ตดีไวซ์ มันไม่ใช่เรื่องง่ายเลยที่จะรักษาคุณค่าของเนื้อหาให้คงอยู่ตลอดไป เราหวังที่จะสำรวจหาหนทางใหม่ๆที่เราไม่ต้องบั่นทอนคุณค่าของเกมนินเทนโด แต่กลับกันเราจะพยายามเพิ่มคุณค่าของมันให้มากขึ้นจากเดิม"
"มันจะไม่ใช่เป็นเพียงแค่การพอร์ตเกมเก่าลงสู่สมาร์ตดีไวซ์เหมือนอย่างที่หลายค่ายเคยทำ แต่เราจะพัฒนาซอฟต์แวร์ขึ้นมาใหม่ที่เหมาะสมเข้ากันกับสไตล์การเล่น และวิธีบังคับบนอุปกรณ์ดังกล่าว เป้าหมายสูงสุดของเราคือการผลักดันเหล่าผู้ใช้แทบเล็ตและมือถือให้หันมาสู่นินเทนโด เหมือนอย่างที่พวกเขาก้าวเข้ามาเป็นแฟนคลับบนเครื่องเล่นเกมของเรา"
"นินเทนโดจะไม่เลือกวิธีจ่ายเงินที่อาจส่งผลเสียต่อภาพลักษณ์ของแบรนด์นินเทนโด เพื่อให้พ่อแม่ผู้ปกครองสามารถปล่อยให้บุตรหลานเข้าถึงมันได้อย่างอุ่นใจ มันถือเป็นเรื่องสำคัญอย่างยิ่งสำหรับเราที่ต้องพิจารณาทางที่เหมาะสมในการดึงดูดผู้คนทั่วโลกให้มาเล่นแอพฯของเราให้ได้มากที่สุด มากกว่าการมานั่งเลือกวิธีจ่ายเงินแบบไหนที่ทำเงินได้เยอะสุด"
เมื่อถูกถามถึงเรื่องบทบาทของ "ชิเงรุ มิยาโมโตะ" (Shigeru Miyamoto) เกมดีไซน์เนอร์คนสำคัญของนินเทนโด ต่อการสร้างสรรค์แอพพลิเคชันเกมบนมือถือ ทางอิวาตะ กลับเลี่ยงที่จะตอบคำถาม โดยระบุว่าความเกี่ยวข้องของตัวมิยาโมโตะ จะมีการพูดคุยกันเมื่อถึงเวลา แต่ตอนนี้หน้าที่หลักของมิยาโมโตะ คือการพัฒนาเกมหลายไตเติ้ลสำหรับเครื่องวียู ที่มีกำหนดออกวางจำหน่ายภายในปีนี้
สำหรับแรงจูงใจหลักที่ทำให้นินเทนโด ตบเท้าร่วมแจมธุรกิจโมบาย ทางอิวาตะ ได้ให้เหตุผลว่าปัจจุบันมีกลุ่มเกมเมอร์จำนวนไม่น้อยที่เป็นเจ้าของสมาร์ตโฟน หรือแท็บเล็ต แต่กลับไม่ได้สนใจในตัวเครื่องเล่นเกมของนินเทนโดอย่าง 3DS ซึ่งการนำแฟรนไชส์ดังๆของนินเทนโดมาปล่อยลงบนอุปกรณ์สมาร์ตดีไวซ์ จะช่วยให้บริษัทได้เข้าถึงเกมเมอร์เหล่านี้ถึงที่ที่พวกเขาอยู่ และอาจชักจูงให้พวกเขาตัดสินใจซื้อเครื่องเล่นนินเทนโดได้สักวันหนึ่ง
ในช่วงท้ายของบทสัมภาษณ์ ทางอิวาตะ ได้คาดการณ์เอาไว้ว่าจะมีผลงานเกมโมบายตัวแรกของนินเทนโด ออกมาให้ได้เล่นกันภายในสิ้นปี 2015 ซึ่งภายหลังจากข่าวการประกาศร่วมแจมธุรกิจเกมโมบาย ทำให้ล่าสุดหุ้นบริษัทนินเทนโด ได้ขยับถีบตัวเพิ่มสูงขึ้นถึง 30 เปอร์เซนต์เลยทีเดียว
ข้อมูลและภาพประกอบจาก
gamespot
time
*ทีมงานผู้จัดการเกม เรียนเชิญผู้อ่านทุกท่านร่วมเป็นแฟนเพจ ManagerGame ทางเฟซบุ๊กเพื่อเพิ่มช่องทางการรับรู้ข่าวสารวงการเกมครับ*