xs
xsm
sm
md
lg

เผยความจริงทวารบาลวัดบวรฯเลือดออกปาก ที่แท้แค่คราบฝิ่นและโอเลี้ยงแก้บน

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

คราบฝิ่นและกาแฟติดอยู่ที่ปากของทวารบาล
จากกรณีเว็บไซต์สื่อบางสำนักนำเสนอข่าวว่า มีคนแห่ไปดูทวารบาลที่บริเวณซุ้มประตูวัดบวรนิเวศมีของเหลวสีดำไหลออกจากปากคล้ายเลือด และมีคนกลัวว่าจะเป็นลางร้าย จนผู้คนในโลกโซเชียลแชร์กันว่อนเน็ต แต่แท้ที่จริงแล้วเป็นคราบฝิ่นเทียมและกาแฟที่มีผู้มาแก้บนเท่านั้น

จากการสอบถามแม่ค้าขายพวงมาลัยบริเวณด้านหน้าประตูวัดบวรนิเวศเล่าให้ฟังว่า การนำฝิ่นมาทาที่ปากของทวารบาลหรือเซี่ยวกางนั้นมีมาตั้งแต่สมัยอดีตแล้ว โดยทำเพื่อเป็นการแก้บน และในปัจจุบันก็ยังมีการบนบานอยู่ โดยผู้ที่มากราบไหว้จะกราบขอพรในเรื่องต่างๆ ทั้งเรื่องการเรียน การงาน ขอให้ทำยอดขายได้ ขอให้ซื้อขายที่ดินได้ รวมถึงขอให้ถูกหวยด้วยเช่นกัน โดยมีคนถูกหวยติดต่อกันหลายงวดแล้ว แต่ไม่ได้มาขูดหรือมาทำอะไร เพียงมากราบไหว้ขอพรและเมื่อสมหวังก็จะมาแก้บนเท่านั้น

สำหรับของแก้บนก็สามารถหาซื้อได้ที่ร้านขายพวงมาลัยบริเวณวัดบวรฯ โดยบางร้านจะจัดเป็นชุดคือมีฝิ่นเทียม โอเลี้ยง และพวงมาลัย
คราบดำยาวมาจนถึงเท้า
หากใครบนบานสำเร็จก็จะนำฝิ่นเทียม ถุงโอเลี้ยง และพวงมาลัยมาถวาย

แม่ค้ายังกล่าวอีกว่า จากการที่เกิดเป็นกระแสข่าว น่าจะมาจากการที่บางทีเด็กๆ มาทัศนศึกษาที่วัดแล้วเห็นทวารบาลหรือเซี่ยวกางที่ประตูทางเข้ามีสีดำที่ปากเลยนึกว่าเป็นเลือด แล้วก็พูดกันปากต่อปากไป รวมทั้งเอาไปลงอินเทอร์เน็ตบ้างจนกลายเป็นข่าว และในช่วงนี้ที่กำลังเป็นข่าวก็มีคนมาดูทวารบาลกันเรื่อยๆ และทางวัดก็ไม่ได้ห้ามคนแก้บน เพราะทำกันมานานแล้ว

สำหรับทวารบาลหรือเซี่ยวกางของวัดบวรนิเวศวิหารที่มีผู้กล่าวถึงนี้ อยู่บริเวณซุ้มประตูทางเข้าวัดหน้าพระอุโบสถวัดบวรนิเวศ มีทั้งหมด 4 องค์บนบานประตู 4 บาน ซึ่งเป็นทวารบาลที่ได้รับอิทธิพลของจีนมาอย่างเด่นชัด บานประตูแกะจากไม้เป็นรูปเทวดาแบบจีนหนวดเครายาว ปิดทองเหลืองอร่าม แต่ละองค์ถืออาวุธแตกต่างกันไป ตนหนึ่งมือซ้ายถือสามง่าม มือขวาถือกริช เหยียบบนหลังจระเข้ องค์หนึ่งถือดาบสองมือ ยืนอยู่บนหลังเสือ องค์หนึ่งมือขวาถือโล่ มือซ้ายถือดาบ เหยียบบนหลังมังกรและลิง และอีกองค์หนึ่งถือทวน ยืนอยู่บนหลังสิงห์แบบจีน มีตำนานอยู่ในลัทธิมหายานว่า เป็นจอมแห่งเทวดาผู้พิทักษ์ประตูวัด ซึ่งกรมพระราชวังบวรมหาศักดิพลเสพย์ ได้ปฏิสังขรณ์ใหม่ในสมัยรัชกาลที่ 3 ตามคตินิยมแบบจีน

ที่แปลกก็คือบริเวณปากของทวารบาลวัดบวรฯ จะมีคราบสีดำติดเป็นทางยาว จนทำให้เกิดความเข้าใจผิดตามข่าว ซึ่งเหตุที่ทำให้เกิดคราบดำนี้มีที่มาจากเรื่องที่เล่ากันว่า สมัยก่อนยุคที่เมืองไทยยังสูบฝิ่น มีชาวจีนคนหนึ่งติดฝิ่นงอมแงม ต่อมาทางการได้ปราบทำลายโรงงานยาฝิ่นจนหมดสิ้น เมื่อแกชาวจีนผู้นั้นหาฝิ่นสูบไม่ได้สุดท้ายเลยลงแดงตายที่ตรงประตูวัด
ผู้คนที่ผ่านไปมาแวะเข้ามากราบไหว้
ด้านหน้าบริเวณซุ้มประตูวัดบวรนิเวศ
พระอุโบสถวัดบวรฯ
หลังจากทางวัดมาพบศพจึงทำพิธีกงเต๊กให้ ต่อมาชาวจีนคนนั้นได้ไปเข้าฝันสมเด็จท่านเจ้าอาวาสว่า ให้ทำที่ให้อยู่แล้วจะเฝ้าวัดให้ ทางวัดจึงสร้างกำแพงทำซุ้มประตูแล้วอัญเชิญดวงวิญญาณชาวจีนคนนั้นมาสถิตอยู่ ณ ประตูแห่งนี้

ต่อมาก็มีเรื่องเล่ากันว่าของในวัดที่เคยถูกขโมยไปหลายครั้ง ล้วนได้คืนกลับมาหมดด้วยความศักดิ์สิทธิ์ของดวงวิญญาณคนจีนที่คอยเฝ้าวัด ทำให้เกิดการบูชาทวารบาลขึ้น ซึ่งหลายๆ คนต่างเชื่อกันว่าถ้าบนอะไรแล้วก็จะได้สิ่งนั้นตามที่ขอ และนิยมนำฝิ่นมาป้ายปาก และนำถุงโอเลี้ยงหรือโอยั๊วะมาแขวนบูชาเพื่อเป็นการแก้บนเพราะมีสีดำคล้ายฝิ่น นอกจากนั้นก็ยังแขวนพวงมาลัยบูชาอีกด้วย

นอกจากนั้นยังมีความเชื่ออื่นๆ ดังที่จุลภัสสร พนมวัน ณ อยุธยา ผู้เชี่ยวชาญด้านประวัติศาสตร์ไทย กล่าวว่า “ในช่วงรัชกาลที่ 2 หรือ 3 พวกคนจีนเข้ามาในเมืองไทยเยอะเพื่อมาเป็นแรงงาน พวกนี้ส่วนมากจะสูบฝิ่นติดฝิ่น แล้วอาจจะมาขอหวยอะไรทำนองนี้ แล้วปรากฏว่าถูกหวย คิดว่าเราเองชอบฝิ่นเจ้าก็คงชอบเหมือนกันเลยเอาขี้ฝิ่นดิบมาป้ายปาก ปากก็เลยดำ แต่ปัจจุบันความเชื่อมันก็เริ่มกลาย กลายเป็นว่าท่านโปรดของดำหมดเลย เหมือนพระราหู พอเราผ่านไปก็เลยเห็นเป็นถุงโอเลี้ยงบ้าง ซุปไก่ดำบ้าง ตามความเชื่อของแต่ละบุคคล”

* * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * *

เรื่องที่เกี่ยวข้อง

"ทวารบาล" ศิลปะพิทักษ์ประตูที่ถูกมองข้าม
* * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * *

สามารถส่งข้อมูลข่าวสารด้านการท่องเที่ยว-อาหารมาได้ที่ กอง บก.ข่าวท่องเที่ยว แฟกซ์ 0-2629-4467 อีเมล travel_astvmgr@hotmail.com

 

กำลังโหลดความคิดเห็น