เที่ยวเพลินที่ “สวนผึ้ง” ต้นตำรับฟาร์มแกะสุดคลาสสิก

“อำเภอสวนผึ้ง” จุดหมายของการเดินทางมาท่องเที่ยวในวันหยุดสุดสัปดาห์ของใครหลายคน และเป็นที่รู้กันดีว่าอำเภอแห่งนี้เป็นพื้นที่ตั้งของสถานที่ท่องเที่ยวมากมาย ทั้งที่ถูกสรรค์สร้างขึ้นจากธรรมชาติ หรือจะเป็นที่เที่ยวที่ถูกสร้างสรรค์ขึ้นมาใหม่ อีกทั้งสภาพอากาศก็ยังดีเป็นอันดับต้นๆ ของประเทศ ซึ่งทาง "กองการตลาดภาคกลาง การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.)" เล็งเห็นถึงศักยภาพอันโดดเด่นของอำเภอแห่งนี้ จึงได้จัดแคมเปญ “เที่ยวราชบุรี สัมผัสอากาศดีดี ที่สวนผึ้ง” ขึ้น เพื่อส่งเสริมกิจกรรมการท่องเที่ยวในพื้นที่ภาคกลางให้เป็นที่แพร่หลายมากขึ้น
 
สำหรับทริปนี้นับเป็นโอกาสดีอีกครั้งที่ “ตะลอนเที่ยว” ได้หวนกลับมาเยือนสวนผึ้งอีกครั้ง ได้เห็นบรรยากาศของอำเภอนี้ที่กำลังโตวันโตคืนทางด้านการท่องเที่ยว ซึ่งแต่ก่อนที่เราจะเริ่มต้นการตะลอนเที่ยวนั้น ก็จะขอเล่าประวัติชื่ออำเภอที่น่าสนใจให้ฟังกันก่อน “อำเภอสวนผึ้ง” เป็นส่วนหนึ่งของจังหวัดราชบุรี ที่มาของคำว่า “สวนผึ้ง” นั้น มาจากพื้นที่โดยทั่วไปของอำเภอซึ่งมีสภาพแวดล้อมห้อมล้อมด้วยธรรมชาติ และมีต้นไม้ชนิดหนึ่งเป็นต้นไม้ที่มีสีขาวนวล ซึ่งจะมีผึ้งจำนวนมากมาอาศัยทำรังบนต้นไม้ชนิดนี้ จนดูคล้ายกับเป็นสวนเลี้ยงผึ้ง ชาวบ้านกะเหรี่ยงในพื้นที่จะเรียกต้นไม้ชนิดนี้ว่า "ไหมซ่าเลียง" ชาวบ้านไทยเรียกว่า "ต้นชวนผึ้ง” หรือ “ยวนผึ้ง" และกลายมาเป็นชื่อของอำเภอในปัจจุบัน

เมื่อรู้ประวัติความเป็นมาของ อ.สวนผึ้ง กันแล้ว ทีนี้เรามาออกตะลอนเที่ยวในสวนผึ้งกัน โดยเริ่มต้นจากการไปชมบรรยากาศหมู่บ้านชาวไร่สไตล์อังกฤษแบบวินเทจ กันที่ “เดอะ ซีนเนอรี่ วินเทจ ฟาร์ม” สถานที่ท่องเที่ยวที่มีบรรยากาศเป็นหมู่บ้านชาวไร่ ภายในเดอะ ซีนเนอรี่ วินเทจ ฟาร์มนั้น เป็นที่ตั้งของร้านขายสิน ร้านอาหาร ให้เราได้เดินเที่ยวเดินชมเคล้าไปกับบรรยากาศไร่นา พร้อมทั้งยังมีมุมสำหรับถ่ายรูปสไตล์ชาวไร่อยู่หลายๆ มุม ให้ได้โพสท่าถ่ายรูปไปเก็บไว้เป็นที่ระลึก กิจกรรมยอดนิยมของที่เที่ยวแห่งนี้ คือการให้อาหารแกะบริเวณสนามหญ้า โดยจะมีเหล่าแกะทั้งตัวเล็กตัวใหญ่ แวะเวียนมาขออาหารจากเรา สร้างความเพลิดเพลินได้เป็นอย่างดี ซึ่งกิจกรรมนี้ก็กลายมาเป็นเอกลักษณ์อีกอย่างหนึ่งของเดอะ ซีนเนอรี่ฯ

ที่เที่ยวถัดมาอยู่ไม่ไกลกันมาก “บ้านหอมเทียน” สถานที่ท่องเที่ยวที่หลายๆ คนรู้จักกันดีเมื่อได้มาเยือนอำเภอสวนผึ้ง โดยเป็นที่ตั้งของร้านขายเทียนหอมทําเอง ที่มีเทียนหอมหลากหลายรูปแบบ หลากหลายกลิ่นหอม ให้ได้เลือกซื้อกลับไปเพิ่มความหอมที่บ้าน และยังมีร้านอาหาร ร้านขายสินค้าอื่นๆ ให้ได้เดินชมเดินชอป และยังมีมุมถ่ายรูปน่ารักๆ อยู่หลายมุมให้ได้ถ่ายรูปกัน อีกทั้งตลอดการเดินเที่ยว ก็จะได้กลิ่นหอมอบอวลของเทียนหอม มาเป็นระยะๆ อีกด้วย สร้างบรรยกาศแปลกใหม่สำหรับการมาท่องเที่ยว

“ไร่องุ่นปัญญาสวรรค์” สถานที่ท่องเที่ยวถัดมา ที่จะมาแวะเที่ยวกันที่เที่ยวแห่งนี้ เป็นสถานที่ท่องเที่ยวเชิงเกษตร ที่ปลูกองุ่นไว้หลากหลายสายพันธุ์ ไม่ว่าจะเป็นองุ่นเขียว องุ่นแดง องุ่นไร้เมล็ด รวมถึงผลไม้ชนิดอื่นๆ อาทิ กล้วย, ฝรั่ง, แก้วมังกร ที่สามารถเข้าไปชมได้อย่างใกล้ชิด สำหรับมุมยอดนิยมที่ใครหลายคนชื่นชอบกันนั้น ก็คงจะหนีไม่พ้นบริเวณใต้เถาองุ่นที่ปลูกไว้ภายในสวน ซึ่งทางไร่ได้อนุญาตให้นักท่องเที่ยวเข้ามายังบริเวณนี้ได้ และยังสามารถทำกิจกรรมได้ทุกอิริยาบถ ไม่ว่าจะเป็นการโพสท่าถ่ายรูปกับพวงผลองุ่น นั่งสนทนาใต้ร่มเงาเถาองุ่นได้อย่างใกล้ชิด อีกทั้งยังสามารถเลือกซื้อผลไม้สดๆ กลับไปฝากคนที่บ้านได้อีกด้วย

เสร็จจากการชมผลไม้กันแล้ว เราก็จะมาชมดอกไม้สวยๆ กันต่อที่ “สวนผึ้งออร์คิด” สวนแห่งนี้ เป็นศูนย์รวมกล้วยไม้ ซึ่งเป็นทั้งสถานที่ท่องเที่ยวศูนย์เพาะพันธุ์และจำหน่ายกล้วยไม้ โดยภายในสวนนั้นปลูกกล้วยไม้หลากสายพันธุ์ ไม่ว่าจะเป็น แวนด้า เหลืองเกรียงไกร ศรีสยาม แอสโคฯ ซึ่งแต่ละพันธุ์มีหลากหลายสีสันให้ได้เดินชมกันอย่างใกล้ชิด และในขณะเดินชมนั้นก็จะมีคนสวนให้คำอธิบาย ให้ความรู้เรื่องกล้วยไม้ตลอดการเดินชม

ดอกกล้วยไม้ของทางสวนนั้น แต่ละดอกสวยสดงดงาม บางสายพันธุ์สีสันแปลกตาน่าชม มีตั้งแต่ราคาหลักร้อยถึงหลักหมื่น โดยสายพันธุ์ที่เป็นไฮไลต์ก็คงจะเป็นกล้วยไม้สายพันธุ์ “แวนด้า ฟ้ามุ้ย” ที่ออกดอกสีม่วงสะดุดตา ราคาแพงที่สุดอยู่ที่ต้นละ 25,000 บาท และหากใครที่สนใจก็ยังสามารถเลือกซื้อกล้วยไม้กลับไปประดับตกแต่งที่บ้านได้อีกด้วย โดยจะได้รับคำแนะนำในการปลูกเป็นอย่างดี

หากใครที่กำลังมองหากิจกรรมแอดแวนเจอร์ ที่อำเภอสวนผึ้งแห่งนี้ ก็มีให้ทำกันด้วย โดยจะเป็น “พายเรือคายัค ล่องลำน้ำภาชี” ซึ่งจะเป็นการพายเรือคายัคชมธรรมชาติของสองฟากฝั่งของลำน้ำภาชี ลำน้ำสายสำคัญของอำเภอสวนผึ้ง ตลอดเส้นทางนั้นก็จะพบกับธรรมชาติที่ยังเขียวขจี และในบางช่วงของลำน้ำก็ยังจะพบแก่งเล็กแก่งน้อยที่มาสร้างความตื่นเต้นให้เราเป็นระยะๆ แต่ไม่ต้องห่วง แก่งแต่ละแก่งนั้นเป็นเพียงแก่งเล็กๆ ซึ่งสามารถพายเรือผ่านไปได้ไม่ยากนัก

หลังจากพายเรือชมวิวกันมาแล้ว ก็จะขอพามาพักให้หายเหนื่อยกันที่ “ตลาดน้ำสวนผึ้ง เวเนโต้ ” สถานที่ท่องเที่ยว ที่จำลองสถาปัตยกรรมที่โดดเด่นของโทนสีขาวตัดน้ำเงิน จากเกาะซานโตรินี ประเทศกรีซ มาให้ได้เดินเที่ยวชมบรรยกาศ โดยจะมีร้านค้า ร้านอาหารตลอดเส้นทางให้ได้เลือกชอปเลือกชิม พร้อมกับมีมุมน่ารักๆ ลานน้ำพุ และสวนหย่อม ให้ได้ถ่ายรูปกัน และยังมีทะเลสาบให้ได้มานั่งกินลมชมวิวของขุนเขา และตากอากาศดีๆ ของอำเภอสวนผึ้งกันอีกด้วย

ปิดท้ายการตะลอนเที่ยวที่อำเภอสวนผึ้ง กันที่ “จุดชมวิวห้วยคอกหมู” จุดชมวิวแห่งนี้ตั้งอยู่ที่สันเขาตะนาวศรี มีลักษณะแหลมยื่นเข้าไปติดกับชายแดนในเขตพื้นที่ของจังหวัดมะริด ประเทศพม่า อยู่สูงจากระดับน้ำทะเล 867 เมตร โดยทางองค์การบริหารส่วนตำบลตะนาวศรีร่วมกับกองร้อยตำรวจตระเวนชายแดน 137 ได้พัฒนาปรับปรุงภูมิทัศน์ให้เป็นแหล่งท่องเที่ยวมาตั้งแต่ปี พ.ศ. 2549 จากจุดชมวิว สามารถมองเห็นภูมิทัศน์ได้อย่างกว้างไกล ซึ่งยังอุดมสมบูรณ์ไปด้วยป่าเขียวขจีไปพร้อมกับการสูดอากาศบริสุทธิ์ และยังสามารถชมพระตกได้อย่างสวยงาม และหากใครมีโอกาสมาในฤดูหนาวแล้ว ก็อาจจะมีโอกาสสัมผัสความเย็นในระดับ 3 องศาได้อีกด้วย

ไม่น่าเชื่อว่าในพื้นที่เพียงหนึ่งอำเภอ จะมีแหล่งท่องเที่ยวมากมายให้เราได้ตะลอนเที่ยวได้ตลอดทั้งวัน แต่จะขอบอกไว้ว่าสถานที่เที่ยวของอำเภอสวนผึ้งนั้นยังไม่หมดแค่เพียงเท่านี้ แต่เนื่องจากวันและเวลาของวันหยุดช่างผ่านไปอย่างรวดเร็ว และงานเลี้ยงต้องมีวันเลิกรา จึงต้องขอจบการตะลอนเที่ยวครั้งนี้เพียงเท่านี้ หากใครที่กำลังมองหาสถานที่ท่องเที่ยว สวนผึ้งคงเป็นอีกหนึ่งทางเลือกที่น่าสนใจ

**********************************************************************************

สอบถามข้อมูลเพิ่มเติมการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) สำนักงานเพชรบุรี รับผิดชอบพื้นที่จังหวัดเพชรบุรี-ราชบุรี โทร.0-3247-1005-6 คอลเซ็นเตอร์ 1672

เดอะ ซีนเนอรี่ วินเทจ ฟาร์ม เปิดบริการทุกวันจันทร์ - ศุกร์ เวลา 10.00-18.00 น. เสาร์ - อาทิตย์ และวันหยุดนักขัตฤกษ์ เวลา 08.30-18.30 น. ค่าเข้าชม 40 บาท
บ้านหอมเทียน เปิดบริการเวลา วันจันทร์ - ศุกร์ 08.30-18.00 วันเสาร์-อาทิตย์ เวลา 08.30-20.00 น. ค่าเข้าชม 40 บาท
ตลาดน้ำสวนผึ้ง เวเนโต้ เปิดให้บริการทุกวัน วันจันทร์ - ศุกร์ 10.00-17.00 น. วันเสาร์-อาทิตย์ เวลา 09.00-17.00 น. ค่าเข้าชม 30 บาท.

* * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * *

สามารถส่งข้อมูลข่าวสารด้านการท่องเที่ยว-อาหารมาได้ที่ กอง บก.ข่าวท่องเที่ยว แฟกซ์ 0-2629-4467 อีเมล travel_astvmgr@hotmail.com