สถาบันอาหาร กระทรวงอุตสาหกรรม เล็งเห็นถึงความสำคัญของวันแม่แห่งชาติ (12 ส.ค.) ซึ่งเป็นวันสำคัญหลายครอบครัวนิยมพากันออกไปรับประทานอาหารนอกบ้าน ส่งผลให้ภัตตาคาร และร้านอาหารหลายแห่งเนืองแน่นไปด้วยลูกค้าที่มาต่อคิวรอรับประทานเกือบตลอดทั้งวัน ได้จัดทำโครงการสำรวจความคิดเห็นอาหารยอดนิยมในวันแม่ สอบถามความต้องการของแม่ และนำเสนอเมนูอาหารไทยที่ได้รับความนิยมสูงสุด 5 อันดับแรก แก่ภัตตาคาร และร้านอาหาร เพื่อจัดเตรียมให้ตรงกับความต้องการของลูกค้า ผลสำรวจเมนูปลากะพงนึ่งมะนาว เป็นเมนูยอดนิยมอันดับ 1
เพ็ชร ชินบุตร ผู้อำนวยการสถาบันอาหาร กระทรวงอุตสาหกรรม เผยว่า ฝ่ายวิจัยและข้อมูล สถาบันอาหาร ดำเนินการสำรวจความคิดเห็นกลุ่มตัวอย่าง “แม่” จำนวน 1,717 ราย ที่มีอายุ 25 ปีขึ้นไป ในเขตจังหวัดกรุงเทพฯ และปริมณฑล ช่วงเดือนพฤษภาคมถึงเดือนมิถุนายน พ.ศ.2556 รวบรวมข้อมูลด้วยวิธีการสำรวจ โดยเลือกคำตอบที่ตรงกับความต้องการมากที่สุดได้ไม่เกิน 5 เมนู ผ่าน 2 ช่องทาง ได้แก่ Web Application SurveyCan และการสุ่มสัมภาษณ์รายบุคคลด้วยแบบสอบถามปลายปิด เพื่อค้นหาอาหารไทยยอดนิยม 5 อันดับแรก ที่คุณแม่ชื่นชอบและต้องการสั่งมารับประทานร่วมกับครอบครัวในช่วงเทศกาลวันแม่ปีนี้
ผลสำรวจรายการอาหารยอดนิยม 5 อันดับแรก ที่คุณแม่ชื่นชอบและต้องการสั่งมารับประทาน จากรายการอาหารไทยทั้งหมด 346 รายการ ได้แก่ อันดับที่ 1 ปลากะพงนึ่งมะนาว ได้รับการโหวตร้อยละ 35 ให้เป็นเมนูยอดฮิตอันดับ1 ด้วยคุณค่าโปรตีนและรสชาติหวานจากเนื้อปลาสด เสิร์ฟพร้อมน้ำราดรสแซบ เปรี้ยว เผ็ด หอมกระเทียมและมะนาวสด เหมาะสำหรับคุณแม่และทุกคนในครอบครัวมาก เนื่องจากเนื้อปลาที่มีโปรตีนสูงและไขมันไม่อิ่มตัวหรือโอเมก้า 3 ซึ่งจำเป็นต่อร่างกายโดยเฉพาะเซลล์สมอง รวมถึงวิตามินและแร่ธาตุ ช่วยควบคุมการทำงานของร่างกายให้ทำหน้าที่ได้ตามปกติ
อันดับที่ 2 น้ำพริกกะปิปลาทู ได้รับการโหวตร้อยละ 34 คุณแม่ที่ชอบอาหารรสจัดจ้านเผ็ดร้อนจากพริกขี้หนูสวนและกระเทียม รสหวานเล็กน้อยจากน้ำตาลปี๊บ รสเค็มจากกะปิและน้ำปลา และรสเปรี้ยวจากมะนาว นอกจากรสชาติน้ำพริกที่อร่อยถูกใจแล้ว เครื่องเคียงที่รับประทานร่วมกันอย่างปลาทู ซึ่งเป็นแหล่งโปรตีนที่ดี รวมถึงไอโอดีน และโอเมก้า 3 ที่ช่วยบำรุงสมอง ผักที่ช่วยต้านอนุมูลอิสระช่วยในระบบขับถ่าย “ชะอม” บำรุงสายตา ช่วยต้านอนุมูลอิสระ “ถั่วฝักยาว” อุดมไปด้วยแคลเซียม ฟอสฟอรัส ช่วยบำรุงกระดูกและฟัน ป้องกันโรคกระดูกพรุน ช่วยเผาผลาญคาร์โบไฮเดรต ไขมัน ควบคุมการทำงานของไต “กะหล่ำดอก” มีสารโพแตสเซียมช่วยควบคุมการทำงานของหัวใจ ช่วยต้านอนุมูลอิสระ สารซัลโฟเรเฟน ช่วยเพิ่มปริมาณเอ็มไซม์ที่ต่อสู้กับเซลมะเร็ง หรือ “มะเขือเปราะ” มีใยอาหารชนิดละลายน้ำอยู่มาก จึงช่วยการ ดูดซึมและพาไขมันออกจากร่างกาย เป็นต้น
อันดับที่ 3 ส้มตำไทย ได้รับการโหวตร้อยละ 32 เป็นอาหารที่เหมาะกับคุณแม่เป็นอย่างมาก เนื่องจากมีไขมันต่ำ พร้อมทั้งมีวิตามิน แร่ธาตุ และใยอาหารมาก ช่วยระบบขับถ่าย มะละกอดิบ ช่วยย่อยอาหาร มะเขือเทศ ช่วยระบายบำรุงผิว พริกขี้หนู ช่วยเจริญอาหาร ขับลม น้ำมันจากกระเทียม ช่วยยับยั้งการเจริญของเชื้อรา แบคทีเรียและไวรัส ช่วยลดน้ำตาลและไขมันในหลอดเลือด มะนาว แก้เสมหะ แก้ไอ เป็นต้น
อันดับที่ 4 ปลากะพงทอดน้ำปลา ได้รับการโหวตร้อยละ 28 เป็นเมนูยอดฮิต เพราะอยู่ที่ความหวานของปลากะพงสดๆ ผิวนอกมีสีเหลืองทอง กรอบอร่อยแต่เนื้อปลาข้างในยังคงมีสีขาวสวย นุ่มฟู บวกกับรสชาติที่กลมกล่อมของน้ำราด รสชาติทั้งเค็มปนหวานนิดๆ และรสจัดจ้านของน้ำยำมะม่วงที่ผสมผสานได้อย่างลงตัว ทั้งยังได้ประโยชน์จากเนื้อปลากะพงซึ่งเป็นปลาทะเล ย่อยง่าย มีไอโอดีน โอเมก้า 3 ช่วยบำรุงสมอง และมีโปรตีนสูง
และอันดับที่ 5 แกงส้มชะอมทอด ได้รับการโหวตร้อยละ 28 เป็นเมนูที่มีน้ำแกงที่เข้มข้นชวนรับประทาน ความหอม และรสชาติเป็นเอกลักษณ์ คือ เปรี้ยว หวาน เผ็ดกำลังดี ผสมผสานกับชะอมทอดไข่ และเนื้อปลาช่อนทอดกรอบ (หรือกุ้งตามความต้องการ) และยังมีคุณค่าสูงจากส่วนประกอบหลัก ที่เป็นผักและเนื้อปลาจึงมีคุณค่าต่อร่างกายสูง และไขมันต่ำ ส่วนชะอมเป็นผักที่มีเส้นใยสูง ยอดและใบช่วยลดความร้อนในร่างกาย ส่วนราก ช่วยแก้อาการท้องอืด ท้องเฟ้อ ขับลมในลำไส้ และยังมีส่วนประกอบของโปรตีน วิตามินบี 1 และวิตามินซี พริกขี้หนู มีฤทธิ์ต่อระบบทางเดินอาหาร มะขาม เป็นยาขับปัสสาวะ แก้คลื่นไส้ แก้บิดถ่ายเป็นเลือด และใช้เป็นยาบำรุงกระเพาะอาหาร ขณะที่ไข่ไก่ (ทอดไข่ไก่กับชะอม) และเนื้อปลา เป็นแหล่งของโปรตีนที่ย่อยง่าย
ผู้อำนวยการสถาบันอาหาร กระทรวงอุตสาหกรรม กล่าวเพิ่มเติมว่า จากผลการสำรวจเมนูอาหารไทยที่ได้รับความนิยม 5 อันดับแรก กล่าวได้ว่าปัจจุบันสุภาพสตรี(คุณแม่)ส่วนใหญ่นิยมบริโภคเมนูอาหารประเภทปลา และมีส่วนประกอบของพืชผักที่มีคุณค่าทางโภชนาการสูง แต่ยังคงรสชาติจัดจ้าน ครบรสตามแบบฉบับอาหารไทย ไม่นิยมรับประทานอาหารที่มีไขมันสูง ซึ่งเป็นแนวโน้มการบริโภคอาหารทั่วโลกที่มุ่งใส่ใจเรื่องสุขภาพเป็นหลัก ซึ่งสถาบันอาหารหวังว่าผลสำรวจดังกล่าวจะเป็นแนวทางสำหรับภัตตาคาร ร้านอาหารต่างๆ ในการพัฒนาคุณภาพอาหาร และหรือจัดโปรโมชั่นเมนูอาหารยอดนิยมวันแม่เพื่อตอบสนองความต้องการของลูกค้า
* * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * *
สามารถส่งข้อมูลข่าวสารด้านการท่องเที่ยว-อาหารมาได้ที่ กอง บก.ข่าวท่องเที่ยว แฟกซ์ 0-2629-4467 อีเมล์ travel_astvmgr@hotmail.com