เนื่องด้วยเทศกาลแห่งความสุขส่งท้ายปีเก่าเข้าสู่ปีใหม่ ที่กำลังจะมาถึง ในวาระพิเศษนี้ทางการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) ได้จัดเส้นทางไหว้กษัตริย์ 9 พระองค์ ได้แก่
1.สมเด็จพระเจ้าตากสินมหาราช (พระเจ้ากรุงธนบุรี) : เพื่อขอพรให้ “ให้มีจิตใจเข้มแข็ง ต่อสู้อุปสรรคขวากหนามทั้งปวง”
สถานที่สักการะ
- พระบรมราชานุสาวรีย์ พระเจ้าตากสินมหาราช บริเวณวงเวียนใหญ่
- วัดอินทาราม ซึ่งเป็นวัดที่พระองค์ทรงสร้าง และปฏิสังขรณ์อยู่อย่างสม่ำเสมอ และมีพระเจดีย์กู้ชาติ คือ พระเจดีย์ที่บรรจุพระบรมอัฐิของสมเด็จพระเจ้ากรุงธนบุรี ยอดบัวกลุ่มคู่ กับพระเจดีย์บรรจุพระบรมอัฐิของสมเด็จพระอัครมเหสี ยอดเป็นปล้องไฉน ทั้งสององค์นี้ประดิษฐานอยู่หน้าพระอุโบสถเก่า
2.พระบาทสมเด็จพระพุทธยอดฟ้าจุฬาโลกมหาราช (ร.1) : เพื่อขอพรให้ “มีความเป็นเลิศในงานการปกครอง ปฏิบัติราชการเจริญรุ่งเรือง และมีครอบครัวเป็นปึกแผ่น”
สถานที่สักการะ
- พระบรมราชานุสาวรีย์ พระบาทสมเด็จพระพุทธยอดฟ้าจุฬาโลก บริเวณเชิงสะพานพุทธยอดฟ้า
- วัดระฆังโฆสิตารามวรมหาวิหาร ภายในวัดมีหอพระไตรปิฎกที่เคยเป็นที่พระตำหนักและหอประทับนั่งของรัชกาลที่ 1 ขณะทรงรับราชการในสมัยกรุงธนบุรี และโปรดเกล้าฯให้รื้อมาถวายวัด เมื่อขึ้นครองราชสมบัติแล้ว มีพระราชประสงค์ให้บูรณะปฎิสังขรณ์ให้สวยงามเพื่อเป็นหอพระไตรปิฎก
3.พระบาทสมเด็จพระพุทธเลิศหล้านภาลัย (ร.2) : เพื่อขอพรให้ “มีความสุขสุนทรีย์ในชีวิต และทำงานด้านศิลปะทุกแขนงได้เจริญรุ่งเรือง”
สถานที่สักการะคือ
- พระบรมราชานุสาวรีย์ พระบาทสมเด็จพระพุทธเลิศหล้านภาลัย ซึ่งประดิษฐานอยู่บริเวณริมฝั่งแม่น้ำเจ้าพระยา ที่วัดอรุณราชวราราม
4.พระบาทสมเด็จพระนั่งเกล้าเจ้าอยู่หัว (ร.3) : เพื่อขอพรให้ “มีความเจริญรุ่งเรืองทางการค้าขาย”
สถานที่สักการะ
- พระบรมราชานุสาวรีย์รัชกาลที่ 3 ที่ลานพลับพลามหาเจษฎาบดินทร์ ชึ่งรัชกาลที่ 3 โปรดเกล้าฯให้สร้างโลหะปราสาท แทนการสร้างเจดีย์ นับเป็นโลหะปราสาทแห่งที่ 3 ของโลก บนยอดปราสาทเป็นที่ประดิษฐานของพระบรมสารีริกธาตุ
5.พระบาทสมเด็จพระจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว (ร.4) : เพื่อขอพรให้ “มีความเจริญก้าวหน้าและสัมฤทธิ์ผลในการทำงานด้านวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี”
สถานที่สักการะ
- พระบรมราชานุสาวรีย์ สมเด็จพระจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว บริเวณด้านหน้าวังสราญรมย์
- วัดราชาธิวาสราชวรวิหาร เป็นวัดที่ทรงปฎิสังขรณ์ใหม่ และพระราชทานนามมีความหมายว่า “วัดอันเป็นที่ประทับของพระราชา” มีพระบรมรูปที่ตำหนักพระจอมเกล้า และพระบรมรูปหุ่นขี้ผึ้งฉลองพระองค์ศีลอยู่ในพิพิธภัณฑ์ของวัด
6.พระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว (ร.5) : เพื่อขอพรให้ “มีความเจริญรุ่งเรืองในทุกด้านของชีวิต และเป็นที่รักใคร่ของคนทั่วไป”
สถานที่สักการะ
- พระบรมราชานุสาวรีย์ ร.5 (พระบรมรูปทรงม้า) ณ ลานพระราชวังดุสิต นิยมสักการะด้วย ดอกกุหลาบสีชมพู เนื่องจากมีความเชื่อว่าดอกกุหลาบมีความงามและมีหนามที่แหลมคม (คืออำนาจ) หากนำมาบูชาจะทำให้ผู้บูชามีอำนาจ และสีชมพูยังเป็นสีของวันอังคาร (วันพระราชสมภพ)
- พระบรมฉายาลักษณ์ที่พระที่นั่งทรงผนวชที่วัดเบญจมบพิตรฯ
7.พระบาทสมเด็จพระมงกุฎเกล้าเจ้าอยู่หัว (ร.6) : เพื่อขอพรให้ “มีความรอบรู้และสติปัญญา ในด้านศิลปวิทยาการและวรรณกรรม”
สถานที่สักการะ
- พระบรมราชานุสารีย์ ร.6 ที่หอวชิราวุธานุสรณ์ ตั้งอยู่ในบริเวณหอสมุดแห่งชาติ
- พระบรมราชานุสาวรีย์ ร.6 บริเวณด้านหน้าสวนลุมพินี
- และพระบรมราชานุสาวรีย์ ร.6 บริเวณด้านหน้าพระราชวังพญาไท ซึ่งรัชกาลที่ 6 เสด็จฯมาประทับที่พระราชวังนี้เป็นประจำ โปรดเกล้าฯให้สร้างเป็นเมืองจำลองขึ้นเพื่อทดลองการปกครองระบอบประชาธิปไตย ชื่อว่า “ดุสิตธานี” บริเวณด้านหน้าพระราชวังพญาไท มีพระบรมราชานุสาวรีย์ พระบาทสมเด็จพระมงกุฏเกล้าเจ้าอยู่หัว ประดิษฐานอยู่
8.พระบาทสมเด็จพระปกเกล้าเจ้าอยู่หัว (ร.7) : เพื่อขอพรให้ “มีวิสัยทัศน์ก้าวไกลด้านประชาธิปไตย และเสียสละเพื่อส่วนรวม”
สถานที่สักการะ
- พระบรมราชานุสาวรีย์ ร.7 บริเวณด้านหน้าอาคารรัฐสภา
- พิพิธภัณฑ์พระบาทสมเด็จพระปกเกล้าเจ้าอยู่หัว เป็นที่แสดงพระราชประวัติและรวบรวมเครื่องใช้ส่วนพระองค์ของ ร.7 และสมเด็จพระนางเจ้ารำไพพรรณี พระบรมราชินี บริเวณเชิงสะพานผ่านฟ้าลีลาศ (อาคารกรมโยธาธิการ)
9.พระบาทสมเด็จพระปรเมนทรมหาอานันทมหิดล พระอัฐมรามาธิบดินทร (ร.8) : เพื่อขอพรให้ “มีความเมตตากรุณาต่อผู้คน และเป็นเยาวชนที่มีสติปัญญาเป็นเลิศ”
สถานที่สักการะ
- พระบรมราชานุสาวรีย์ ร.8 ณ สวนเฉลิมพระเกียรติ ร.8 บริเวณเชิงสะพานพระราม 8
- พระบรมราชานุสาวรีย์ ร.8 บริเวณด้านหน้าวิหารหลวงวัดสุทัศนเทพวราราม ซึ่งวัดแห่งนี้มีพระบรมสารีรางคารของ ร.8 บรรจุผ้าทิพย์ด้านหน้าพุทธบัลลังก์พระศรีศากยมุนี
และนี่ก็เป็นเส้นทางไหว้กษัตริย์ 9 พระองค์ รับปีใหม่ ซึ่งเป็นเส้นทางเสริมสิริมงคลที่ให้ลูกหลานชาวไทยได้บูชาและรำลึกถึงพระมหากรุณาธิคุณของบูรพกษัตริย์ไทยที่ทรงสร้างประเทศไทยให้มีวันนี้
สำหรับในหลวงของเรา คือ พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวภูมิพลอดุลยเดช (ร.9) มีพระบรมสาทิสลักษณ์ไว้สักการะที่บ้าน เพื่อรำลึกถึงความเสียสละความสุขส่วนพระองค์เพื่อราษฎรที่พระองค์ทรงรักและห่วงใย โดยมีพระราชประสงค์ให้พสกนิกรของพระองค์พ้นจากภัยพิบัติต่างๆ อันมีคุณาประโยชน์อันยิ่งใหญ่ ได้แก่ การพระราชทานฝนหลวง การชลประทาน การศึกษาผ่านดาวเทียม การเกษตรกรรม
การสักการะในหลวงผู้เป็นผู้ให้จะอยู่ในหัวใจคนไทย เชื่อว่า “ชีวิตจะราบรื่น แคล้วคลาดอุปสรรคทั้งปวงด้วยสติและปัญญาที่จะแก้ไขทุกสถานการณ์ได้สำเร็จ”
