365 วันในหนึ่งปีนั้น บางคนก็คิดว่าสั้นนัก แต่สำหรับบางคนก็คิดว่ามันยาวนานนัก แต่ถึงอย่างไรโลกก็ได้หมุนวนจนกลับมาครบรอบช่วงสิ้นปีอีกรอบหนึ่ง
และเนื่องจากสภาวะปัจจุบันที่มีแต่ความวุ่นวาย ไม่ว่าจะเป็นทางกายหรือทางใจ ด้วยความเป็นมนุษย์ปุถุชนก็ไม่อาจจะหลีกเลี่ยงสิ่งเหล่านี้ได้ กิจกรรมสวดมนต์ข้ามปีจึงได้เกิดขึ้น และก็เป็นอีกหนึ่งทางเลือกสำหรับคนที่กำลังมองหาสิ่งดีและสวยงามให้กับชีวิตในช่วงส่งท้ายปีเก่าและเริ่มต้นปีใหม่ ซึ่งกิจกรรมนี้ได้มีการจัดและได้รับความนิยมมาในช่วง 1-2 ปีที่ผ่านมา
และนี่ก็คือ กิจกรรมสวดมนต์ข้ามปีใน 5 วัดดังของกรุงเทพฯ ที่มีความน่าสนใจเหมาะสำหรับการไปอิ่มบุญ อิ่มใจ สวดมนต์ข้ามปีรับขวัญปีใหม่ในปีมะเส็งเพื่อความเป็นสิริมงคล
เริ่มต้นที่วัดสระเกศราชวรมหาวิหาร ตั้งอยู่ริมคลองมหานาค เขตป้อมปราบศัตรูพ่าย พระอารามหลวงชั้นโท ซึ่งเป็นวัดเก่าแก่ตั้งแต่สมัยอยุธยา และเป็นที่ตั้งของภูเขาทอง (พระบรมบรรพต) โดยบนยอดนั้นเป็นที่ประดิษฐานของพระสารีริกธาตุ จุดเด่นของพิธีการสวดมนต์ข้ามปีของทางวัดสระเกศนั้น ก็คือ การได้เดินวนขึ้นไปยังจุดบนสุดของภูเขาทอง
โดยระหว่างทางเดินขึ้นนั้นก็จะมีเสียงสวดมนต์เหมือนดังได้เวียนเทียนรอบภูเขาทองแห่งนี้ และยังเปรียบเสมือนการเดินขึ้นสู่สรวงสวรรค์ เพื่อไปสักการะพระบรมสารีริกธาตุและขอพร อันเป็นการเสริมสร้างความคิดอันเป็นสิริมงคลแก่ชีวิตในวันขึ้นปีใหม่ และกิจกรรมที่น่าสนใจอีกอย่าง ก็คือการชมวิวทิวทัศด้านบนของยอดภูเขาทองนั้นถือได้ว่าสวยงามมาก ซึ่งสามารถที่จะมองเห็นค่ำคืนแห่งวันขึ้นปีใหม่ได้ถึง 360 องศา
ต่อด้วยวัดหัวลำโพง ที่ถนนพระราม 4 แขวงสี่พระยา เขตบางรัก ในปีนี้ทางวัดหัวลำโพงได้มีการจัดพิธีสวดมนต์ข้ามปีด้วยเช่นกัน และทางผู้ที่ได้มาร่วมพิธีสวดมนต์ข้ามปีนั้นก็สามารถที่จะทำบุญโลงศพ ของทางมูลนิธิร่วมกตัญญู โดยทางวัดหัวลำโพงแห่งนี้ได้มีการจัดทำบุญโรงศพตลอด 24 ชั่วโมง
สำหรับกิจกรรมทำบุญโรงศพนี้ถือเป็นไฮไลท์เด่นของทางวัดหัวลำโพงเลยก็ว่าได้ การทำบุญโรงศพนั้น ถือเป็นความเชื่ออย่างหนึ่ง ที่ว่าเป็นการสะเดาะเคราะห์และเสริมดวงชะตาให้แข็งแกร่งขึ้น หากใครที่คิดว่าช่วงเวลาปีเก่าที่ได้ผ่านมานั้นย่ำแย่ ก็ถือเป็นการดีสำหรับในการมาสวดมนต์ข้ามปีและทำบุญที่วัดหัวลำโพงแห่งนี้ ได้ทั้งสวดมนต์เสริมมงคลให้กับตนเอง อีกทั้งยังได้สะเดาะเคราะห์ในสิ่งที่ไม่ดีไปกับการทำบุญโลงศพได้อีกด้วย
ส่วนวัดบวรนิเวศวิหารก็เป็นอีกหนึ่งสถานที่ที่ได้รับความนิยม ในการมาสวดมนต์ข้ามปี โดยวัดนั้นตั้งอยู่ที่ถนนตะนาว เขตบางลำพู เป็นวัดชั้นเอกชนิดราชวรวิหาร หากใครได้มาร่วมพิธีสวดมนต์ข้ามปีแล้วนั้นก็สามารถที่จะเข้ามาชมจิตกรรมฝาผนังในพระอุโบสถ ซึ่งเป็นภาพแสดงปริศนาธรรมเปรียบด้วย น้ำใจคน 6 ประเภทเรียกว่า ฉฬาภิชาติ ได้อีกด้วย
นอกจากนี้ ยังสามารถสักการะพระพุทธชินสีห์ และสิ่งศักดิ์สิทธิ์ต่างๆ ภายในเขตบริเวณพุทธาวาส อาทิ พระพุทธบาทจำลอง พระไพรีพินาศอันศักดิ์สิทธิ์ พระบรมรูปปั้นพระบาทสมเด็จพระจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว และพระเจดีย์ใหญ่ ซึ่งภายในกลางคูหาประดิษฐานพระเจดีย์กาไหล่ทองบรรจุพระบรมสารีริกธาตุ ถือเป็นการได้มาสักการะและขอพรสิ่งศักดิ์สิทธิ์ต่างๆ อันเป็นเคารพนับถือและเป็นที่พึ่งทางจิตใจ ให้เกิดความร่มเย็นและนำพาความผาสุกแก่ชีวิตในวันส่งท้ายปีเก่าต้อนรับปีใหม่นี้ และด้วยอานิสงส์ในความเชื่อนั้นหากใครได้สวดมนต์ ณ ที่นี่ชีวิตก็จะพบแต่สิ่งที่ดีงาม
ด้านวัดพระเชตุพนวิมลมังคลารามราชวรมหาวิหาร (วัดโพธิ์) ที่เป็นวัดสำคัญแห่งหนึ่งของประเทศไทย ก็ได้จัดพิธีสวดมนต์ข้ามปีด้วยเช่นกัน วัดโพธิ์แห่งนี้เป็นวัดประจำรัชกาลในรัชกาลที่ 1 อีกทั้งยังเปรียบเสมือนเป็นมหาวิทยาลัยแห่งแรกของประเทศ เนื่องจากเป็นที่รวมจารึกสรรพวิชาหลากหลายแขนงไว้ภายในเขตวัดแห่งนี้ และภายในวัดเองนั้นก็มีอาณาบริเวณกว้างขวางมีสถาปัตยกรรมสวยงามต่างๆ มากมายอาทิ รวมถึงวัดโพธิ์แห่งนี้ถือได้ว่าเป็นวัดที่มีพระเจดีย์มากที่สุดในประเทศไทย
หากใครได้มาร่วมกิจกรรมสวดมนต์ข้ามปีที่วัดนั้นก็สามารถที่จะเดินชมในความงามขอพื้นที่ต่างๆ ของวัดได้อีกด้วย และที่เป็นไฮไลต์คงไม่พ้น วิหารพระพุทธไสยาส ซึ่งพระพุทธไสยาสภายในวิหารนี้ใหญ่เป็นอันดับสามของประเทศไทย โดยที่พระบาทนั้นประดับมุกภาพมงคล 108 ประการ หากได้มาสักการะ ก็จะถือเป็นการเสริมมงคลถึง 108 ประการให้แก่ชีวิตในวันขึ้นปีใหม่ให้ชีวิตร่มเย็นเป็นสุข
ปิดท้ายกันที่ วัดอรุณราชวรารามราชวรมหาวิหารหรือวัดอรุณ ในเขตฝั่งธนบุรี ที่ตั้งอยู่ที่ถนนอรุณอมรินทร์ เขตบางกอกใหญ่
วัดอรุณเป็นพระอารามหลวงชั้นเอกชนิดราชวรมหาวิหาร 1 ใน 6 ของไทย หากใครได้มีโอกาสได้มาร่วมพิธีนั้นก็คงที่จะไม่พลาดที่จะมาสักการะ “พระปรางค์วัดอรุณฯ” ซึ่งในความเชื่อของหลายๆ คนนั้น การได้มาทำบุญในวัดแห่งก็เปรียบเสมือนการได้รู้แจ้งในสิ่งต่างๆ เพราะแต่เดิมนั้นชื่อวัดแห่งนี้ คือ วัดแจ้ง อีกทั้งยังเปรียบเหมือนการสร้างความเป็นมงคลให้กับชีวิตต้อนรับอรุณรุ่งในเช้าวันใหม่ของปีใหม่ เพื่อให้ชีวิตรุ่งโรจน์ดั่งแสงอรุณทุกคืนวัน ซึ่งพระปรางค์นั้นก็ยังสามารถที่จะขึ้นไปชมวิวด้านบนได้ด้วย โดยจะหวาดเสียวนิดหน่อย เพราะมีความชัน แต่วิวทิวทัศน์ด้านบนนั้นก็งดงามไม่แพ้ภูเขาทอง เนื่องจากที่ตั้งนั้นติดลำน้ำเจ้าพระยา สามารถที่จะมองเห็นสายน้ำยามค่ำคืนที่ประดับประดาด้วยแสงไฟ ในวันตอนรับปีใหม่
นอกจากกิจกรรมสวดมนต์ข้ามไปใน 5 วัดดัง ตามที่กล่าวมาแล้ว ในบ้านเราก็ได้มีการจัดกิจกรรมสวดมนต์ข้ามปีอยู่ในหลายสถานที่ทั่วทุกภูมิภาคของเมืองไทย
ซึ่งนี่ถือเป็นหนึ่งในกิจกรรมร่วมเสริมสร้างคุณงามความดีที่เราสามารถเข้าถึงหลักธรรมคำสอนของพระพุทธศาสนา และสามารถเป็นที่พึ่งทางจิตใจในวันส่งท้ายปีเก่าต้อนรับปีใหม่ เป็นการหามุมสงบให้แก่ตนเองได้นึกทบทวนในสิ่งที่เคยทำไปในปีเก่าและปล่อยวาง แล้วเริ่มต้นทำและคิดในสิ่งดีดีในวันปีใหม่นี้