เรียนรู้และเตรียมพร้อมรับคลื่นยักษ์กับ "นิทรรศการสึนามิ" ที่ศิริราช

จากเหตุการณ์แผ่นดินไหว 8.6 ริกเตอร์ ที่เกาะสุมาตรา ประเทศอินโดนีเซีย(วานนี้ 11เม.ย.) ทำให้ศูนย์เตือนภัยสึนามิมหาสมุทรแปซิฟิกประกาศเตือนภัยใน 28 ประเทศ รวมถึงประเทศไทยด้วย ทำให้ศูนย์เตือนภัยพิบัติแห่งชาติแจ้งเตือนเฝ้าระวังสึนามิใน 6 จังหวัด ชายฝั่งทะเลอันดามัน สร้างความตื่นตระหนกตกใจเป็นอย่างมาก

แม้จะยกเลิกการเตือนภัยสึนามิไปแล้วเมื่อคืนวาน แต่เพื่อเป็นการเตรียมความพร้อมหากเกิดเหตุการณ์ไม่คาดฝันขึ้นในอนาคต เพราะเมืองไทยเคยประสบภัยสึนามิครั้งใหญ่ในปี พ.ศ. 2547 ซึ่งปัจจุบันทางโรงพยาบาลศิริราช ได้จัดแสดง "นิทรรศการศิริราชกับสึนามิ" เอาไว้เพื่อให้ผู้สนใจได้เรียนรู้กัน

โดยนิทรรศการชุด "ศิริราชกับสึนามิ" ซึ่งบันทึกเหตุการณ์ธรณีพิบัติภัยครั้งแรกในประวัติศาสตร์ของประเทศไทย จัดแสดงให้เห็นถึงบทบาทของแพทย์ศิริราชในการรักษาผู้ป่วยที่บาดเจ็บทั้งทางกายและทางจิตใจ และขั้นตอนวิธีการชันสูตรศพโดยใช้หลักฐานทางนิติเวชศาสตร์และดีเอ็นเอ เพื่อช่วยเหลือผู้ประสบภัยและผู้เสียชีวิตจากมหาคลื่นสึนามิ

ซึ่งการจัดแสดงใช้เทคนิคสื่อผสม เช่น หุ่นจำลองแสดงการชันสูตรศพจากเหตุการณ์สึนามิ มีการจำลองบาดแผลที่เกิดจากสึนามิ เช่น บาดแผลลึกที่แขน แสดงการผ่าตัดเพื่อทำความสะอาดบาดแผล และนำสิ่งสกปรกต่างๆออก หาหลักฐานที่บ่งชี้เอกลักษณ์บุคคล ภาพถ่ายทางอากาศที่ทำให้เห็นถึงความเสียหายที่เกิดจากเหตุการณ์สึนามิ

และยังมีห้องจัดฉายภาพยนตร์ โดยจะมีภาพยนตร์ฉาย 2 เรื่องด้วยกัน ได้แก่ เรื่องศิริราชกับสึนามิ และดีเอ็นเอในเหตุการณ์สึนามิด้วย อีกทั้งยังมีเทคโนโลยีคอมพิวเตอร์สื่อสัมผัสอันทันสมัย สามารถใส่หูฟังรับฟังข้อมูลเรื่องราวต่างๆ และเดินชมนิทรรศการไปด้วยพร้อมๆกัน

นอกจากนี้ ที่โรงพยาบาลศิริราชยังมีพิพิธภัณฑ์อื่นๆให้ชมและเรียนรู้อีกหลายแห่ง คือ พิพิธภัณฑ์พยาธิวิทยาเอลลิส, พิพิธภัณฑ์นิติเวชศาสตร์ สงกรานต์ นิยมเสน, พิพิธภัณฑ์ประวัติการแพทย์ไทย อวย เกตุสิงห์, พิพิธภัณฑ์ปรสิตวิทยา, พิพิธภัณฑ์กายวิภาคศาสตร์คองดอน และพิพิธภัณฑ์ก่อน ประวัติศาสตร์และห้องปฏิบัติการ สุด แสงวิเชียร

***************************************
***************************************

"นิทรรศการศิริราชกับสึนามิ" จัดแสดงอยู่ภายในพิพิธภัณฑ์นิติเวชศาสตร์ สงกรานต์ นิยมเสน ชั้น2 อาคารอดุลยเดชวิกรม โรงพยาบาลศิริราช เปิดทำการในวันจันทร์ - เสาร์ เวลา 9.00 - 16.00 น. ยกเว้นวันหยุดนักขัตฤกษ์ อัตราค่าเข้าชมคนไทย 20 บาท เด็กและนักเรียนในเครื่องแบบเข้าชมฟรี