ระนอง- กรมทรัพยากรธรณี ซ้อมแผนการเฝ้าระวัง การแจ้งเตือนภัย การอพยพประชาชนและการช่วยเหลือ ผู้ประสบภัยดินถล่มที่จังหวัดระนอง
นายนพพล ศรีสุข รองอธิบดีรักษาราชการแทนอธิบดีกรมทรัพยากรธรณี เปิดเผยว่า กรมทรัพยากรธรณี กำหนดฝึกซ้อมแผนการเฝ้าระวัง การแจ้งเตือนภัย การอพยพประชาชนและการช่วยเหลือผู้ประสบภัยดินถล่มจังหวัดระนอง ในวันที่ 24 พฤศจิกายน 2554 ณ โรงเรียนบ้านนา ต.บ้านนา อ.กะเปอร์ จ.ระนอง
ทั้งนี้ มีวัตถุประสงค์เพื่อจัดทำแนวทาง และขั้นตอนการปฏิบัติในการเฝ้าระวังแจ้งเตือนภัย การประสานงานระหว่างหน่วยงานที่เกี่ยวข้องภายใต้สังกัดกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม ในการป้องกันเตือนภัยและการให้ความช่วยเหลือประชาชน ในพื้นที่เสี่ยงภัยดินถล่ม
อีกทั้งเป็นการสร้างเครือข่ายความร่วมมือของราษฎรในพื้นที่เสี่ยงธรณีพิบัติภัย เพื่อทำการเฝ้าระวังแจ้งเตือนภัยล่วงหน้า อันจะเป็นการบรรเทาความสูญเสียต่อชีวิตและทรัพย์สินของประชาชน โดยการมีส่วนร่วมของประชาชน ซึ่งมีราษฎรที่อาศัยอยู่ในพื้นที่เสี่ยงภัยต่อการเกิดธรณีพิบัติภัยดินถล่มและน้ำป่าไหลหลาก
ทั้งนี้ มีผู้ใหญ่บ้าน กำนัน องค์การบริหารส้นท้องถิ่น เจ้าหน้าที่ป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย อาสาสมัครและเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้องจากทุกภาคส่วนในพื้นที่จังหวัดระนอง เข้าร่วมฝึกซ้อมจำนวน 400 คน โดยจำลองสถานการณ์ตรวจพบกลุ่มเมฆและฝนตกหนักต่อเนื่องประมาณ 3 ชั่วโมง วัดปริมาณน้ำฝนได้มากกว่า 200 มิลลิเมตร พบสิ่งบอกเหตุว่าเกิดดินถล่มและน้ำป่าไหลหลาก กรมทรัพยากรธรณี จึงแจ้งเฝ้าระวังภัยดินถล่มผ่านทางโทรศัพท์ และข้อความสั้นหรือ เอสเอ็มเอส ไปยังผู้ที่เกี่ยวข้องในการแจ้งเตือนภัยไปยังประชาชนพร้อมอพยพไปอยู่ในที่ปลอดภัย
รักษาราชการแทนอธิบดีกรมทรัพยากรธรณี กล่าวว่า สถานการณ์ธรณีพิบัติภัยปัจจุบัน ได้ทวีความรุนแรงและเกิดขึ้นบ่อยครั้ง สร้างความเสียหายต่อชีวิตและทรัพย์สินของประชาชน รวมทั้งเศรษฐกิจโดยรวมของประเทศ
กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม ได้ตระหนักถึงปัญหาดังกล่าว จึงได้มอบหมายให้กรมทรัพยากรธรณีเป็นหน่วยงานหลักในการประสานกับกรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่าและพันธุ์พืช กรมป่าไม้ กรมทรัพยากรน้ำ และกรมทรัพยากรน้ำบาดาล เพื่อซักซ้อมและเตรียมความพร้อมกรณีเกิดพิบัติภัย โดยซักซ้อมร่วมกับประชาชนและเจ้าหน้าที่ในพื้นที่ กรมทรัพยากรธรณี จึงได้กำหนดแผนงานในการซักซ้อมเตรียมความพร้อมรับมือกับภัยพิบัติภัยดินถล่มและน้ำป่าไหลหลากในพื้นที่ 8 จังหวัด คือ จ.ระนอง สงขลา เพชรบุรี แม่ฮ่องสอน ลำปาง พิษณุโลก ตาก และกำแพงเพชร โดยเน้นการปฏิบัติทั้งก่อนเกิดเหตุ ขณะเกิดเหตุและหลังเกิดเหตุ
นายนพพล ศรีสุข รองอธิบดีรักษาราชการแทนอธิบดีกรมทรัพยากรธรณี เปิดเผยว่า กรมทรัพยากรธรณี กำหนดฝึกซ้อมแผนการเฝ้าระวัง การแจ้งเตือนภัย การอพยพประชาชนและการช่วยเหลือผู้ประสบภัยดินถล่มจังหวัดระนอง ในวันที่ 24 พฤศจิกายน 2554 ณ โรงเรียนบ้านนา ต.บ้านนา อ.กะเปอร์ จ.ระนอง
ทั้งนี้ มีวัตถุประสงค์เพื่อจัดทำแนวทาง และขั้นตอนการปฏิบัติในการเฝ้าระวังแจ้งเตือนภัย การประสานงานระหว่างหน่วยงานที่เกี่ยวข้องภายใต้สังกัดกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม ในการป้องกันเตือนภัยและการให้ความช่วยเหลือประชาชน ในพื้นที่เสี่ยงภัยดินถล่ม
อีกทั้งเป็นการสร้างเครือข่ายความร่วมมือของราษฎรในพื้นที่เสี่ยงธรณีพิบัติภัย เพื่อทำการเฝ้าระวังแจ้งเตือนภัยล่วงหน้า อันจะเป็นการบรรเทาความสูญเสียต่อชีวิตและทรัพย์สินของประชาชน โดยการมีส่วนร่วมของประชาชน ซึ่งมีราษฎรที่อาศัยอยู่ในพื้นที่เสี่ยงภัยต่อการเกิดธรณีพิบัติภัยดินถล่มและน้ำป่าไหลหลาก
ทั้งนี้ มีผู้ใหญ่บ้าน กำนัน องค์การบริหารส้นท้องถิ่น เจ้าหน้าที่ป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย อาสาสมัครและเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้องจากทุกภาคส่วนในพื้นที่จังหวัดระนอง เข้าร่วมฝึกซ้อมจำนวน 400 คน โดยจำลองสถานการณ์ตรวจพบกลุ่มเมฆและฝนตกหนักต่อเนื่องประมาณ 3 ชั่วโมง วัดปริมาณน้ำฝนได้มากกว่า 200 มิลลิเมตร พบสิ่งบอกเหตุว่าเกิดดินถล่มและน้ำป่าไหลหลาก กรมทรัพยากรธรณี จึงแจ้งเฝ้าระวังภัยดินถล่มผ่านทางโทรศัพท์ และข้อความสั้นหรือ เอสเอ็มเอส ไปยังผู้ที่เกี่ยวข้องในการแจ้งเตือนภัยไปยังประชาชนพร้อมอพยพไปอยู่ในที่ปลอดภัย
รักษาราชการแทนอธิบดีกรมทรัพยากรธรณี กล่าวว่า สถานการณ์ธรณีพิบัติภัยปัจจุบัน ได้ทวีความรุนแรงและเกิดขึ้นบ่อยครั้ง สร้างความเสียหายต่อชีวิตและทรัพย์สินของประชาชน รวมทั้งเศรษฐกิจโดยรวมของประเทศ
กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม ได้ตระหนักถึงปัญหาดังกล่าว จึงได้มอบหมายให้กรมทรัพยากรธรณีเป็นหน่วยงานหลักในการประสานกับกรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่าและพันธุ์พืช กรมป่าไม้ กรมทรัพยากรน้ำ และกรมทรัพยากรน้ำบาดาล เพื่อซักซ้อมและเตรียมความพร้อมกรณีเกิดพิบัติภัย โดยซักซ้อมร่วมกับประชาชนและเจ้าหน้าที่ในพื้นที่ กรมทรัพยากรธรณี จึงได้กำหนดแผนงานในการซักซ้อมเตรียมความพร้อมรับมือกับภัยพิบัติภัยดินถล่มและน้ำป่าไหลหลากในพื้นที่ 8 จังหวัด คือ จ.ระนอง สงขลา เพชรบุรี แม่ฮ่องสอน ลำปาง พิษณุโลก ตาก และกำแพงเพชร โดยเน้นการปฏิบัติทั้งก่อนเกิดเหตุ ขณะเกิดเหตุและหลังเกิดเหตุ
