จันทบุรี - ผู้ว่าราชการจังหวัดจันทบุรีสั่งการให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องเฝ้าระวัง และเร่งประกาศเตือนภัยพิบัติดินโคลนถล่ม หลังพบรอยแยกทั่วเขาสองพี่น้อง ย้ำชัดหากมีฝนตกเกิน 100% ให้เร่งอพยพประชาชนออกจากพื้นที่ หวั่นเกิดโศกนาฏกรรม
ความคืบหน้าพบรอยแยกทั่วเขาสองพี่น้อง หมู่ที่ 2 ตำบลบ่อเวฬุ อำเภอขลุง จังหวัดจันทบุรี ในเรื่องนี้ นายวิชิต ชาตไพสิฐ ผู้ว่าราชการจังหวัดจันทบุรี หลังจากทราบข่าวในเรื่องนี้ได้สั่งการให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้อง โดยเฉพาะสำนักงานทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมจังหวัดจันทบุรี และป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยจังหวัดจันทบุรี ตลอดจนอำเภอ และผู้นำท้องถิ่น ได้มีการเฝ้าติดตามสถานการณ์อย่างใกล้ชิด เพราะพื้นที่ดังกล่าวเป็นการพบว่ามีการแตกแยกมานานแล้ว และพบว่า มีหลายจุดที่อยู่บนเขาสองพี่น้อง และพบว่า เป็นพื้นที่เสี่ยงที่อาจจะเกิดดินโคลนถล่มได้ หากมีปริมาณฝนตกลงมามาก
“จังหวัดไม่ได้นิ่งนอนใจ โดยให้ทางสำนักงานทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม เฝ้าติดตามความคืบหน้าจากสำนกธรณีวิทยาสิ่งแวดล้อมอย่างต่อเนื่อง รวมทั้งให้ป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยและอำเภอตลอดจนผู้นำท้องถิ่นได้มีการประชาสัมพันธ์ให้ชาวบ้านได้รับทราบเป็นระยะๆเพื่อไม่ให้ชาวบ้านเกิดความวิตกกังวล หรือ หวาดกลัว” นายวิชิต กล่าว
นายวิชิต กล่าวต่อไปว่า นอกจากนี้ ได้ให้ป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยจังหวัดจันทบุรี มีการติดตามปริมาณน้ำฝนอย่างใกล้ชิดด้วย หากพบว่า มีปริมาณฝนที่ตกมากเกิน 100 มิลลิเมตร ให้ทางท้องถิ่น เช่น องค์การบริหารส่วนตำบล และเทศบาลในพื้นที่ ได้มีการเร่งอพยพชาวบ้านออกมาอยู่ในพื้นที่ที่ปลอดภัยอย่างเร่งด่วน รวมทั้งให้มีการประกาศให้เป็นพื้นที่เสี่ยงภัยต่อไป
ด้าน นายเลิศสิน รักษาสกุลวงศ์ ผู้อำนวยการสำนักธรณีวิทยาสิ่งแวดล้อมและธรณีพิบัติภัย กรมทรัพยากรธรณี กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม กล่าวเกี่ยวกับความคืบหน้ากรณีเกิดรอยเลื่อน และแผ่นดินยุบตัวหลายจุดบนยอดเขาสองพี่น้อง ม.2 ต.บ่อเวฬุ อ.ขลุง จ.จันทบุรี เบื้องต้นได้ส่งเจ้าหน้าที่ผู้เชี่ยวชาญ ร่วมกับผู้นำชุมชนขึ้นสำรวจและเก็บข้อมูล บริเวณจุดที่พบรอยเลื่อนและแผ่นดินยุบตัว ซึ่งพบว่ามีสาเหตุมาจากการสะสมของปริมาณน้ำ ประกอบกับลักษณะรอบเขาเป็นพื้นที่ลาดชัน จนทำให้เกิดรอยเลื่อนและการยุบตัวของแผ่นดินและมีแนวโน้ม ที่จะเกิดภัยพิบัติดินโคลนถล่มได้
ในส่วนนี้ทางจังหวัด จะต้องเข้าไปดูแลและให้คำแนะนำกับชาวบ้านเป็นแนวทางในการรับมือที่อาจะเกิดเหตุการณ์ไม่คาดฝันได้ เพราะเท่าที่สำรวจพบว่ามีรอยแยกและดินสไลด์หลายจุด และอาจะเกิดดินโคลนถล่มได้หากมีปริมาณฝนตกเกิน 100-150% โดยจะมีพื้นที่ทางการเกษตรและบ้านเรือนประชาชนที่ได้รับผลกระทบ 5 จุดหลักรอบเชิงเขา ตามแนวรอยเลื่อนของแผ่นดิน เบื้องต้นได้มอบชุดตรวจวัดปริมาณน้ำให้กับกำนัน ผู้ใหญ่บ้าน 3 เครื่อง ติดตั้งไว้ที่เทศบาลตำบลบ่อเวฬุ 1 เครื่อง บ้านประชาชนที่ติดกับเชิงเขา 1 เครื่อง และที่บ้านของผู้ใหญ่บ้านอีก 1 เครื่อง
ทั้งนี้ เพื่อให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ตลอดจนผู้นำชุมชน สนใจ และสังเกตปริมาณน้ำ หากพบว่ามีระดับความเสี่ยงที่จะเกิดภัยพิบัติ ดินโคลนถล่ม จะได้มีการประกาศเตือน หรือ ดำเนินการอพยพประชาชนออกจากพื้นที่ ได้อย่างทันท่วงที
นายเลิศสิน กล่าวเพิ่มเติมอีกว่า จากการสำรวจรอยเลื่อนและแผ่นดินยุบตัวในพื้นที่จันทบุรี พบว่า มีอัตราความเสี่ยงสูง ที่จะเกิดดินโคลนถล่มในช่วงฤดูน้ำหลาก จึงกำชับให้ทางจังหวัด ตลอดจนหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเร่งลงพื้นที่ ประชาสัมพันธ์ ชี้แจงให้ประชาชนในพื้นที่ ได้รับทราบข้อมูลข่าวสาร สถานการณ์ความเสี่ยงการเกิดดินโคลนถล่ม และความเสียหายที่จะเกิดขึ้น เพื่อที่จะได้เตรียมการรับมือกับภัยพิบัติในช่วงฤดูน้ำหลาก