วันที่ 5 ธันวาคมนี้ถือเป็นวันเฉลิมพระชนมพรรษาของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ซึ่งชาวไทยยึดถือเป็น “วันพ่อแห่งชาติ” วันสำคัญที่เราจะได้แสดงความจงรักภักดีต่อพระมหากษัตริย์ที่ถือเป็นพ่อของปวงชนชาวไทยทุกคน ในวันพ่อปีนี้ “ตะลอนเที่ยว” จึงขอชวนทุกคนมาชม “สวนหลวง ร.9” สวนสาธารณะและสวนพฤกษศาสตร์ที่สร้างขึ้นเพื่อเฉลิมพระเกียรติแด่พ่อของชาวไทย
การริเริ่มก่อสร้างสวนหลวง ร.9 นั้น มีที่มาจากเมื่อครั้งที่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวมีพระชนมายุครบ 60 พรรษา ในปี พ.ศ.2530 ประชาชนชาวไทยที่ต่างก็มีความสำนึกในพระมหากรุณาธิคุณของพระองค์ท่าน ได้มีแนวความคิดที่จะสร้างสาธารณะแห่งใหม่ที่เป็นสวนสาธารณะระดับนคร เพื่อน้อมเกล้าฯ ถวายในวโรกาสอันเป็นมหามงคลนี้ โดยผู้ที่มีส่วนผลักดันโครงการสร้างสวนหลวง ร.9 ขึ้นมาก็คือท่านผู้หญิงมณีรัตน์ บุนนาค น.ต.กำธน สินธวานนท์ และผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานครในขณะนั้นคือพลเรือเอกเทียม มกรานนท์ ต่อมา ดร.อาษา เมฆสววรค์ และพลตรีจำลอง ศรีเมือง ผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานครคนต่อไปก็ได้มารับช่วงต่อ
ในการก่อสร้างสวนแห่งนี้ มีการประชาสัมพันธ์ข่าวสารให้ประชาชนได้รับทราบ และได้มีการกระจายพื้นที่ 500 ไร่ ที่จะจัดทำสวนสาธารณะนั้นออกเป็น 800,000 ตารางเมตร และได้เชิญชวนประชาชนให้มาร่วมกันสร้างสวนแห่งนี้โดยการซื้อที่ดินในราคาตารางเมตรละ 500 บาท อีกทั้งคณะผู้จัดสร้างก็มีแนวความคิดว่า การสร้างสวนสาธารณะนี้ ผู้ที่จะได้รับประโยชน์ต่อไปในภายหน้าก็คือประชาชนทั้งหลาย และประโยชน์เหล่านั้นก็จะเป็นเหมือนสายสัมพันธ์ที่ผูกพันระหว่างพระเจ้าแผ่นดินและประชาชนของพระองค์สืบต่อไป
นอกจากจะเป็นสวนสาธารณะที่ใหญ่ที่สุดของกรุงเทพฯ แล้ว สวนหลวง ร.9 ก็ยังเป็นสวนพฤกษศาสตร์ที่ใหญ่ที่สุดในกรุงเทพฯ อีกเช่นกัน หลายๆ คนคงจะรู้จักชื่อของสวนหลวง ร.9 ผ่านงาน “พรรณไม้งามอร่ามสวนหลวง ร.9” ซึ่งเป็นกิจกรรมที่จัดขึ้นทุกปีติดต่อกันมาเป็นครั้งที่ 22 แล้ว ในปีนี้กำหนดจัดงานระหว่างวันที่ 1-13 ธันวาคม 2552
ในช่วงเดือนธันวาฯนี้อากาศกำลังสบายๆ แต่แสงแดดก็ยังคงสาดแสงแรงไม่เปลี่ยนแปลง เพราะฉะนั้น “ตะลอนเที่ยว” ขอแนะนำให้เตรียมหมวก ร่ม เสื้อแขนยาว และแว่นตากันแดดมาให้พร้อม และที่สำคัญคือต้องพกกล้องถ่ายรูปไว้เก็บภาพดอกไม้สวยๆ กัน พร้อมแล้วก็เดินเที่ยวสวนหลวง ร.9 กันเลยดีกว่า
สัญลักษณ์ของสวนหลวง ร.9 ที่หลายคนเห็นแล้วจำได้ก็คือ “หอรัชมงคล” ลักษณะอาคารเป็นรูปเก้าเหลี่ยม หลังคาปลายยอดสูงยาวเรียวปูด้วยกระเบื้องเคลือบสีเหลืองทองอันเป็นสีวันพระราชสมภพ รอบอาคารทำเป็นห้องกระจก 9 ห้อง จัดแสดงเรื่องราวเกี่ยวกับพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ทั้งเรื่องโครงการในพระราชดำริ พระราชกรณียกิจ และของใช้ส่วนพระองค์ที่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวโปรดเกล้าฯ พระราชทานมาจัดแสดง เช่น เรือใบซูเปอร์มด แซกโซโฟน แผนที่เก่า เป็นต้น ส่วนภายในห้องจัดเป็นหอประชุมจุคนได้ประมาณ 500 คน
และในช่วงการจัดงานพรรณไม้งามฯนี้ ก็จะมีกิจกรรมพิเศษในหอรัชมงคล คือการแสดงนิทรรศการเฉลิมพระเกียรติพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวในหัวข้อ “กษัตริย์นักพัฒนา” โดยการจำลองตัวอย่างแบบโครงการอันเนื่องมาจากพระราชดำริ ทั้งในด้านการพัฒนาแหล่งน้ำ การพัฒนาการเกษตรและส่งเสริมอาชีพ การพัฒนาทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม และการพัฒนาคุณภาพชีวิต ในแบบนิทรรศการเสมือนจริง
อีกทั้งยังได้จำลองตัวอย่างวิถีชีวิตของ “ลุงจันทร์ที ประทุมภา” ปราชญ์เกษตรแห่งลำปลายมาศ เกษตรกรตัวอย่างผู้ได้รับรางวัลชนะเลิศการประกวดผลงานตามปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียง ที่ประสบความสำเร็จด้วยการเดินตามรอยเบื้องพระยุคลบาลของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ใครที่อยากเห็นแนวคิดปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียงที่เป็นรูปธรรม ก็สามารถมาชมกันได้
หอรัชมงคลนี้ก็ยังเป็นจุดถ่ายภาพยอดฮิตของนักท่องเที่ยวอีกด้วย โดยอาคารหลังนี้ตั้งอยู่ริมสระน้ำที่ชื่อว่า “ตระพังแก้ว” สระขนาดใหญ่ที่มีเนื้อที่ถึง 40 ไร่ ที่นี่นอกจากจะเป็นสถานที่นั่งรับลมชมวิวของนักท่องเที่ยว เป็นที่บริการจักรยานน้ำและเรือพายชมสระน้ำ และช่วยส่งเสริมทัศนียภาพของหอรัชมงคลให้โดดเด่นขึ้นแล้ว ที่นี่ก็ยังเป็นที่พักเก็บน้ำเพื่อแก้ปัญหาน้ำท่วมขังบริเวณกรุงเทพฯชั้นในได้อีกด้วย เรียกว่าเป็นสระสารพัดประโยชน์จริงๆ
อย่างที่กล่าวมาแล้วว่าสวนหลวง ร.9นี้นอกจากเป็นสวนสาธารณะแล้ว ก็ยังเป็นสวนพฤกษศาสตร์ที่มีพรรณไม้ต่างๆ จัดไว้เพื่อการศึกษาด้วย โดยส่วนที่จัดเป็นสวนพฤกษศาสตร์นี้มีเนื้อรวมกว่า 150 ไร่ เป็นที่รวบรวมไม้พันธุ์ต่างๆ ของไทย ทั้งต้นไม้ที่หายากและสมุนไพรต่างๆ เราเข้าไปภายในโรงเรือนซึ่งเป็น “อาคารพันธุ์ไม้ในร่ม” ที่ภายในมีพันธุ์ไม้ประเภทเฟิร์นและกล้วยไม้ “อาคารพันธุ์ไม้ทะเลทราย” ที่รวมเอาพันธุ์ไม้ทะเลทรายพวกกระบองเพชรชนิดต่างๆ และ และไม้อวบน้ำต่างทั้งในประเทศและต่างประเทศมาจัดแสดงให้ชม
ส่วนดอกไม้สวยๆ ที่จะได้ชมตลอดเส้นทางแล้ว ที่น่าสนใจควรไปชมก็ต้องที่ “สวนนานาชาติ” ซึ่งเป็นการจัดสวนตามความนิยมของประเทศต่างๆ เช่น สวนอังกฤษ ฝรั่งเศส สเปน อิตาลี ญี่ปุ่น และจีน เมื่อเข้าไปเดินก็จะได้บรรยากาศเหมือนอยู่ในประเทศนั้นๆ และบริเวณนี้ยังมีมุมถ่ายภาพสวยๆ เป็นที่ชื่นชอบของนักท่องเที่ยวอีกด้วย
และในช่วงวันจัดงานพรรณไม้งามอร่ามสวนหลวง ร.9 นี้ นอกจากจะได้ชมดอกไม้สวยๆแล้ว ก็ยังมีกิจกรรมต่างๆ อย่าง “กิจกรรมหมู่บ้านวัฒนธรรม 4 ภาค” ที่แบ่งเป็น 4 กิจกรรมคือ กิจกรรมตลาดน้ำ ที่มีอาหารอร่อยๆ ลอยเรือมาให้เลือกซื้อกันในรูปแบบของตลาดน้ำ กิจกรรมการสาธิตหัตถกรรมพื้นบ้านและอาหารไทย 4 ภาค เช่นการแกะสลักไม้ ตัดตุงโคมกระดาษ สาธิตการทำร่มบ่อสร้าง สานเสื่อกก สาธิตการทำกะละแม กระยาสารท เป็นต้น ชมการแสดงทางวัฒนธรรม 4 ภาค เช่น การเล่นเพลงเรือ เพลงอีแซว ลำตัด และการละเล่นพื้นบ้านแบบไทยที่หาชมได้ยาก เช่น มวยทะเล ปิดตาตีหม้อ พายเรือหัวใบ้-ท้ายบอด
นอกจากนั้น ในวันที่ 5 ธันวาคม หรือวันเสาร์ที่จะถึงนี้ ก็ยังมีการแสดงเพื่อเฉลิมพระเกียรติพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว เนื่องในวโรกาสมหามงคลเฉลิมพระชนมพรรษาครบ 82 พรรษา นำเสนอในรูปแบบการแสดงถึงพระราชกรณียกิจ และโครงการตามแนวพระราชดำริของพระองค์ในทุกทั่วภูมิภาค โดยจะมีการแสดงโขนเรื่องรามเกียรติ์ตอน “ท้าวมาลีวราชว่าความ” และการแสดงขบวนแห่ 4 ภาค ชุด “ปวงประชาราษฎร์พร้อมน้อมกตัญชลี เทิดพระเกียรติมหาจักรีภูมิพล” โดยจะเริ่มแสดงในเวลา 16.30-18.30 น. บริเวณหน้าหอรัชมงคล
เพื่อเป็นการแสดงความจงรักภักดีและถวายพระพรแด่พระองค์เพื่อให้ทรงหายจากอาการพระประชวรโดยไว “ตะลอนเที่ยว” ก็ขอเชิญทุกคนมาร่วมจุดเทียนชัยถวายพระพรพร้อมกันทั่วประเทศในวันที่ 5 ธันวาคม เวลา 19.29 น. บริเวณหน้าหอรัชมงคล และชมการจุดดอกไม้ไฟประกอบดนตรีอันยิ่งใหญ่ตระการตา ณ บริเวณตระพังแก้ว
* * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * *
"สวนหลวง ร.9" ตั้งอยู่ที่ ถนนสุขุมวิท 103 (อุดมสุข) แขวงหนองบอน เขตประเวศ กทม.“งานพรรณไม้งามอร่ามสวนหลวง ร.9” ครั้งที่ 22 จัดขึ้นระหว่างวันที่ 1-13 ธ.ค. 2552 ระหว่างเวลา 08.00-19.00 น. บัตรเข้าชมงานคนละ 10 บาท ใครที่ขับรถส่วนตัวไป เสียค่าจอดรถ 50 บาท หรือ หากไปทางรถโดยสารรถประจำทาง ก็มีสาย 40, 133, 145, 206, ปอ.145, ปอ.206 และปอ.พ.15 ทั้งนี้สามารถสอบถามรายละเอียดงานพรรณไม้งามฯได้ที่ 0-2328-1395 หรือ 0-2328-1972