โดย : ปิ่น บุตรี
เกิดมาเป็นสัตว์เลือดอุ่น บ้านอยู่ทางโน้น จีนแผ่นดินใหญ่
เติบโตเพราะกินไผ่ตง เขาจับมาส่ง ไม่ได้ผลักไส
มาอยู่เชียงใหม่กับผัว อยู่กัน 2 ตัว มีลูกไม่ทันใช้
ก็มันไม่มีอารมณ์ เสพสมบ่มิสม จับนมจับไข่
ให้กร๊วบกันโชว์คนอื่น เห็นว่าเราหื่น กันนักใช่ไหม
บอกแล้วไม่มีอารมณ์ ผู้คนชื่นชม สมเป็น นิสัย
เห็นทีต้องผสมเทียม ถ่ายผ่านเพนเที่ยม โพสต์โชว์เว๊บไซด์
ได้ลูกออกมา 1 ตัว ทั้งที่ไม่มีผัว หนูกลัวเป็นไข้
ความสาวยังบริสุทธิ์ จะเอาหน้ามุดไปไว้ที่ไหน
1 อาทิตย์ ลูกโตหูดำ มันไม่มีหะหรำ และไม่มีไข่
เป็นตัวเมีย ไม่มีชื่อ หน้าตาซื่อๆ น่ารักกว่าไก่
อยากมีบ้าน 60 ล้าน คนไทยประทานให้หนูได้ไหม
สื่อช่วยประโคมกันหน่อย ออกข่าวบ่อยๆ เด็กๆดูได้
แต่หนูสงสารพี่ช้าง ที่เขาอ้างว้าง ไม่ค่อยมีใคร
หนูเกิดมาจากเมืองจีน อยากกลับคืนถิ่น ส่งหนูได้ไหม
พี่ช้างมากมายหลายเชือก ต้องนอนเข้าเฝือก รอคนเยี่ยมไข้
บ้านหนู ไม่ต้องสร้างหรอก หนูมันหมีนอก ไม่ใช่หมีไทย
หนูมีบ้านจริงของหนู พวกคุณมองดู ว่าจริงใช่ไหม
ใครๆก็รักบ้านเกิด ส่งหนูกลับเถิด นะจ๊ะคนไทย
อยากให้นำเงินทั้งหมด เงินแห้งเงินสดให้พังกำไล
พี่เขาต้องการกว่าหนู อยากให้คิดดู ถ้าคิดกันได้
พี่เขาช่วยคนไทยมานาน ปกป้องเรือนบ้าน ให้อยู่อาศัย
ยามรบพี่เขาไม่หวั่น ยามสงบ พี่เขานั้น ช่วยแบกต้นไม้
เขาอยู่กับคุณตลอด มาแต่อ้อนแต่ออก จริงไหมคนไทย
สำนึกรักบ้านเกิดบ้าง อย่าให้อายช้างอายหมีที่ไหน
หวังว่าคงจะยินดี หลินฮุ่ยวอนพี่ช่วยเหลือช้างไทย
วอนน้องลุงป้าอาน้า ขอเหอะพี่ขา แพนด้าพ่องจายยยยยยยย
แพนด้า แพนด้า พ่องจายยยยยยยยย
แพนด้า แพนด้า พ่องจายยยยยยยยย
ไม่รู้ใครเป็นคนแต่งกลอน “แพนด้าพ่องจาย” แต่ผมขอคารวะสุราท่านผู้แต่ง 3 จอก(กับอีก 1 กลมไม่ผสมโซดา)
กลอนบทนี้ว่อนไปทั่วเน็ต โดนใจใครหลายๆคน(อย่างแรง) ผมเองได้รับฟอร์เวิร์ดเมล์มาจากเพื่อน 3-4 คน และได้รับการโพสต์คอมเม้นท์ไว้ในบทความเรื่อง“แพนด้าฮิต ช้างร่ำไห้”ในผู้จัดการออนไลน์
เดิมทีผมว่าจะไม่เขียนอะไรถึงแพนด้าอีกแล้วเพราะสื่อหลักๆเขานำเสนอกันไปหมดแล้ว แต่ประทานโทษ มันอดไม่ได้เมื่อเห็น รมต.คนหนึ่งซึ่งที่ผ่านมาไม่มีผลงานอะไรเป็นชิ้นเป็นอัน ผิดกับบทบาทการประกวดและโหวตชื่อแพนด้าที่พี่แก(พยายาม)เล่นบทดารานำอย่างชัดเจน เล่นเอาผมอดหัวร่อมิได้ร่ำไห้มิออกในความสามารถของรมต.(บางคน)ในการบริหารประเทศไทย
...บ้าเกินพอดี
นับแต่หลินปิงลืมตามาดูโลก บ้านเราได้เกิดปรากฏการณ์ใหม่ขึ้นมานั่นก็คือ“แพนด้าฟีเวอร์” ที่ไม่น่าเชื่อว่ามันจะ บ้า แรง สุดสุด ได้ถึงขนาดนี้
แต่ทั้งนี้ทั้งนั้นปัจจัยสำคัญมันเกิดจาก ความสนใจที่มากเป็นพิเศษของสังคมกระแสหลัก ผสมกับการนำเสนอของสื่อกระแสหลักอย่างต่อเนื่องใกล้ชิดและเกินพอดี ชนิดที่ไม่ว่าแพนด้าทำอะไร จะตกเป็นข่าวหมด ไม่ว่าจะเป็น มีสีดำครบ 5 จุด ลืมตา ให้นมลูก ดูดนมแม่ ตกจากอกแม่ ฟันล่างขึ้น นอนพลิกซ้าย พลิกขวา ตะแคงหน้า ตะแคงหลัง ฯลฯ นี่ถ้าอนาคตเกิดหมดมุกขึ้นมา บางทีเราอาจจะได้เห็นสื่อบางช่อง บางฉบับ นำเสนอเรื่องหลินปิงผายลมกันมั่งล่ะ
อย่างไรก็ตามหลายคนแสดงทัศนะว่า เรื่องแพนด้าถือเป็น"ดัชนีชี้วัดความสุข"ของสังคมไทย ทุกวันนี้บ้านเรามันเครียดจากปัญหาความแตกแยกของคนในชาติ การเมือง สังคม เศรษฐกิจ จึงต้องหาเรื่องอะไรเบาๆน่ารักๆอย่างหมีแพนด้ามาเสพ
เรื่องนี้ผมเห็นด้วยครึ่งนึง ส่วนอีกครึ่งผมเห็นว่ากรณีแพนด้าฟีเวอร์ มันสะท้อนให้เห็นถึงความเกินพอดี(จนล้น)ในบางเรื่องของสังคมไทย
ส่งผลให้กระแสแพนด้าฟีเวอร์กลายเป็น“ดัชชีชี้วัดความไม่พอดี” ของสังคมไทยไปโดยปริยาย
...โรคข้างเคียง
กระแสแพนด้าฟีเวอร์นานวันเข้ามันระบาดเกิดเป็นโรคข้างเคียงขึ้นมา
ว่ากันตามธรรมชาติก่อน
ที่กาฬสินธุ์มี “วัวแพนด้า”ขนสีดำสลับขาวคล้ายแพนด้านำโชคให้เจ้าของถูกหวยบ่อย ที่เชียงรายมี“หมาแพนดี้” หมาสีขาวดำเหมือนหมีแพนด้า แถมยังชอบอยู่ที่เย็นๆเหมือนหมีแพนด้าอีกด้วย เจ้าของจึงตั้งชื่อมันว่า “เจ้าแพนด้า” สำหรับ 2 เรื่องราวนั้นหากเป็นช่วงปกติคงไม่เป็นข่าว แต่นี่อยู่ในช่วงแพนด้าฟีเวอร์เลยทำให้ดังขึ้นมาอย่างช่วยไม่ได้
หันมาดูโรคแพนด้าที่เกิดจากการกระทำของคนหนอคนกันบ้าง
จู่ๆที่บึงฉวาก บรรหารบุรี เอ้ย!!! สุพรรณบุรี จับจระเข้ไปทางสีขาว-ดำ เป็น“จระเข้แพนด้า” เลียนแบบหมีแพนด้าเฉยเลย โอ้ว...พระเจ้าไม่รู้คิดได้ไง ส่วนที่กาฬสินธุ์ มีการนำควายเผือกมาทาสีชาว-ดำ ให้มีลักษณะเหมือนหมีแพนด้าเป็น“ควายแพนด้า” ไปซะง้าน
เรื่องนี้จะว่าไปคงต้องกล่าวถึงต้นตำรับอย่าง “ช้างแพนด้า” ที่ปางช้างอยุธยาเกิดไอเดียแสบๆคันๆจับช้างไปทาสีขาว-ดำให้ดูคล้ายหมีแพนด้ามีงวงขึ้น เพื่อต้องการประชดเสียดสีสังคม(กระแสหลัก)ที่สนใจแต่แพนด้าจนลืมความสำคัญของช้างไทยไป
ผลสุดท้ายคือเจ้าของไอ้เดียช้างแพนด้าได้รับไปทั้งดอกไม้และก้อนอิฐ
...แพนด้า-ช้างไม่สน มาจากคนต่างหาก
ดูเหมือนว่ากระแสแพนด้าฟีเวอร์หลังจากแพนด้าน้อยได้ชื่อหลินปิงยังแรงไม่หยุด ถึงขนาดมีคนจะเปิด hi5 เฟสบุ๊ค ทวิตเตอร์ ให้กับหลินปิงทีเดียว เออแล้วนี้เจ้าแพนด้าน้อยมันจะรู้เรื่องมั้ย เพราะขนาดแค่เจอพ่อช่วงช่วง มันยังขู่จนพ่อตกใจทั้งๆที่เทียบแล้วคนละไซต์กันเลย
ถึงกระนั้นหากมองตามหลักพุทธ อะไรเมื่อมันสุดโต่งเกินไป มักจะเกิดการสวิงกลับเสมอ กรณีหมีแพนด้าก็เช่นกัน เมื่อหมีแพนดังเกินไป บ้ามากไป หลายๆคนจึงเกิดอาการหมั่นไส้แพนด้าไปซะยังงั้น จนกลายเป็นอารมณ์เกลียดแพนด้ารักช้างไปเสียฉิบ
เช่นเดียวกันฟากฝั่งคนรักแพนด้า เห็นว่ากระแสรักช้างชักจะโจมตีแพนด้ามากไป ท้ายที่สุดก็เกิดเป็นอารมณ์เกลียดช้างรักแพนด้าขึ้นมาแบบ ทีเอ็งข้าไม่ว่า ทีข้าเอ็งอย่าโวย
สุดท้ายแล้วเกิดเป็นวิวาทะของคน(ไทย)ในเรื่องแพนด้ากับช้างขึ้นมาโดยที่ แพนด้าและช้างต่างมันไม่รู้เรื่องและไม่เกี่ยวข้องด้วยซักกะหน่อย
555 และก็ตามสไตล์แบบไทยๆ งานนี้มีคนโหนกระแสเป็นกลางเพื่อความสมานฉันท์ ให้จับช้างไทยผสมพันธุ์กับแพนด้ามันซะให้รู้แล้วรู้รอดไป(โชคร้ายจะตกแก่หลินฮุ่ยนะสิ) เมื่อมีลูกออกมาให้ประกวด-โหวตตั้งชื่อ อาทิ พังแพน พลายด้า คำฉี เป็นต้น
เออหนอ อะไรมันจะบ้าขนาดนั้น
…ช้าง-แพนด้า รักใครมากกว่า
เรื่องช้างกับแพนด้ายังไม่จบ แถมยังดังไกลไปถึงเมืองนอกเมืองนา ซึ่งล่าผมเพิ่งไปลาวมา(จำปาสัก) เพื่อนชาวลาว(แต่แก่กว่าผมหลายปี) ถามว่า
“ทำไมคนไทยถึงสนใจแต่แพนด้า ไม่หันมาสนใจช้างบ้างทั้งๆที่ช้างเป็นสัตว์ประจำชาติทั้งของไทยและลาว”(ในลาวคืออาณาจักรล้านช้าง)
“นี่ถือเป็นปรากฏการพิเศษเฉพาะตัวของเมืองไทย ประเทศใดยากที่จะเลียนแบบ” ผมตอบเขาไปยังงั้น
“แล้วคุณชอบอะไรมากกว่ากันระหว่างช้างกับแพนด้า”เขาถามต่อ
“ผมชอบทั้งคู่แหละ แต่ถ้าให้เลือกอย่างใดอย่างหนึ่ง ช้างกับแพนด้า...”ผมทิ้งช่วง
“ผมเลือกแพนเค้กน่ะ”
เกิดมาเป็นสัตว์เลือดอุ่น บ้านอยู่ทางโน้น จีนแผ่นดินใหญ่
เติบโตเพราะกินไผ่ตง เขาจับมาส่ง ไม่ได้ผลักไส
มาอยู่เชียงใหม่กับผัว อยู่กัน 2 ตัว มีลูกไม่ทันใช้
ก็มันไม่มีอารมณ์ เสพสมบ่มิสม จับนมจับไข่
ให้กร๊วบกันโชว์คนอื่น เห็นว่าเราหื่น กันนักใช่ไหม
บอกแล้วไม่มีอารมณ์ ผู้คนชื่นชม สมเป็น นิสัย
เห็นทีต้องผสมเทียม ถ่ายผ่านเพนเที่ยม โพสต์โชว์เว๊บไซด์
ได้ลูกออกมา 1 ตัว ทั้งที่ไม่มีผัว หนูกลัวเป็นไข้
ความสาวยังบริสุทธิ์ จะเอาหน้ามุดไปไว้ที่ไหน
1 อาทิตย์ ลูกโตหูดำ มันไม่มีหะหรำ และไม่มีไข่
เป็นตัวเมีย ไม่มีชื่อ หน้าตาซื่อๆ น่ารักกว่าไก่
อยากมีบ้าน 60 ล้าน คนไทยประทานให้หนูได้ไหม
สื่อช่วยประโคมกันหน่อย ออกข่าวบ่อยๆ เด็กๆดูได้
แต่หนูสงสารพี่ช้าง ที่เขาอ้างว้าง ไม่ค่อยมีใคร
หนูเกิดมาจากเมืองจีน อยากกลับคืนถิ่น ส่งหนูได้ไหม
พี่ช้างมากมายหลายเชือก ต้องนอนเข้าเฝือก รอคนเยี่ยมไข้
บ้านหนู ไม่ต้องสร้างหรอก หนูมันหมีนอก ไม่ใช่หมีไทย
หนูมีบ้านจริงของหนู พวกคุณมองดู ว่าจริงใช่ไหม
ใครๆก็รักบ้านเกิด ส่งหนูกลับเถิด นะจ๊ะคนไทย
อยากให้นำเงินทั้งหมด เงินแห้งเงินสดให้พังกำไล
พี่เขาต้องการกว่าหนู อยากให้คิดดู ถ้าคิดกันได้
พี่เขาช่วยคนไทยมานาน ปกป้องเรือนบ้าน ให้อยู่อาศัย
ยามรบพี่เขาไม่หวั่น ยามสงบ พี่เขานั้น ช่วยแบกต้นไม้
เขาอยู่กับคุณตลอด มาแต่อ้อนแต่ออก จริงไหมคนไทย
สำนึกรักบ้านเกิดบ้าง อย่าให้อายช้างอายหมีที่ไหน
หวังว่าคงจะยินดี หลินฮุ่ยวอนพี่ช่วยเหลือช้างไทย
วอนน้องลุงป้าอาน้า ขอเหอะพี่ขา แพนด้าพ่องจายยยยยยยย
แพนด้า แพนด้า พ่องจายยยยยยยยย
แพนด้า แพนด้า พ่องจายยยยยยยยย
ไม่รู้ใครเป็นคนแต่งกลอน “แพนด้าพ่องจาย” แต่ผมขอคารวะสุราท่านผู้แต่ง 3 จอก(กับอีก 1 กลมไม่ผสมโซดา)
กลอนบทนี้ว่อนไปทั่วเน็ต โดนใจใครหลายๆคน(อย่างแรง) ผมเองได้รับฟอร์เวิร์ดเมล์มาจากเพื่อน 3-4 คน และได้รับการโพสต์คอมเม้นท์ไว้ในบทความเรื่อง“แพนด้าฮิต ช้างร่ำไห้”ในผู้จัดการออนไลน์
เดิมทีผมว่าจะไม่เขียนอะไรถึงแพนด้าอีกแล้วเพราะสื่อหลักๆเขานำเสนอกันไปหมดแล้ว แต่ประทานโทษ มันอดไม่ได้เมื่อเห็น รมต.คนหนึ่งซึ่งที่ผ่านมาไม่มีผลงานอะไรเป็นชิ้นเป็นอัน ผิดกับบทบาทการประกวดและโหวตชื่อแพนด้าที่พี่แก(พยายาม)เล่นบทดารานำอย่างชัดเจน เล่นเอาผมอดหัวร่อมิได้ร่ำไห้มิออกในความสามารถของรมต.(บางคน)ในการบริหารประเทศไทย
...บ้าเกินพอดี
นับแต่หลินปิงลืมตามาดูโลก บ้านเราได้เกิดปรากฏการณ์ใหม่ขึ้นมานั่นก็คือ“แพนด้าฟีเวอร์” ที่ไม่น่าเชื่อว่ามันจะ บ้า แรง สุดสุด ได้ถึงขนาดนี้
แต่ทั้งนี้ทั้งนั้นปัจจัยสำคัญมันเกิดจาก ความสนใจที่มากเป็นพิเศษของสังคมกระแสหลัก ผสมกับการนำเสนอของสื่อกระแสหลักอย่างต่อเนื่องใกล้ชิดและเกินพอดี ชนิดที่ไม่ว่าแพนด้าทำอะไร จะตกเป็นข่าวหมด ไม่ว่าจะเป็น มีสีดำครบ 5 จุด ลืมตา ให้นมลูก ดูดนมแม่ ตกจากอกแม่ ฟันล่างขึ้น นอนพลิกซ้าย พลิกขวา ตะแคงหน้า ตะแคงหลัง ฯลฯ นี่ถ้าอนาคตเกิดหมดมุกขึ้นมา บางทีเราอาจจะได้เห็นสื่อบางช่อง บางฉบับ นำเสนอเรื่องหลินปิงผายลมกันมั่งล่ะ
อย่างไรก็ตามหลายคนแสดงทัศนะว่า เรื่องแพนด้าถือเป็น"ดัชนีชี้วัดความสุข"ของสังคมไทย ทุกวันนี้บ้านเรามันเครียดจากปัญหาความแตกแยกของคนในชาติ การเมือง สังคม เศรษฐกิจ จึงต้องหาเรื่องอะไรเบาๆน่ารักๆอย่างหมีแพนด้ามาเสพ
เรื่องนี้ผมเห็นด้วยครึ่งนึง ส่วนอีกครึ่งผมเห็นว่ากรณีแพนด้าฟีเวอร์ มันสะท้อนให้เห็นถึงความเกินพอดี(จนล้น)ในบางเรื่องของสังคมไทย
ส่งผลให้กระแสแพนด้าฟีเวอร์กลายเป็น“ดัชชีชี้วัดความไม่พอดี” ของสังคมไทยไปโดยปริยาย
...โรคข้างเคียง
กระแสแพนด้าฟีเวอร์นานวันเข้ามันระบาดเกิดเป็นโรคข้างเคียงขึ้นมา
ว่ากันตามธรรมชาติก่อน
ที่กาฬสินธุ์มี “วัวแพนด้า”ขนสีดำสลับขาวคล้ายแพนด้านำโชคให้เจ้าของถูกหวยบ่อย ที่เชียงรายมี“หมาแพนดี้” หมาสีขาวดำเหมือนหมีแพนด้า แถมยังชอบอยู่ที่เย็นๆเหมือนหมีแพนด้าอีกด้วย เจ้าของจึงตั้งชื่อมันว่า “เจ้าแพนด้า” สำหรับ 2 เรื่องราวนั้นหากเป็นช่วงปกติคงไม่เป็นข่าว แต่นี่อยู่ในช่วงแพนด้าฟีเวอร์เลยทำให้ดังขึ้นมาอย่างช่วยไม่ได้
หันมาดูโรคแพนด้าที่เกิดจากการกระทำของคนหนอคนกันบ้าง
จู่ๆที่บึงฉวาก บรรหารบุรี เอ้ย!!! สุพรรณบุรี จับจระเข้ไปทางสีขาว-ดำ เป็น“จระเข้แพนด้า” เลียนแบบหมีแพนด้าเฉยเลย โอ้ว...พระเจ้าไม่รู้คิดได้ไง ส่วนที่กาฬสินธุ์ มีการนำควายเผือกมาทาสีชาว-ดำ ให้มีลักษณะเหมือนหมีแพนด้าเป็น“ควายแพนด้า” ไปซะง้าน
เรื่องนี้จะว่าไปคงต้องกล่าวถึงต้นตำรับอย่าง “ช้างแพนด้า” ที่ปางช้างอยุธยาเกิดไอเดียแสบๆคันๆจับช้างไปทาสีขาว-ดำให้ดูคล้ายหมีแพนด้ามีงวงขึ้น เพื่อต้องการประชดเสียดสีสังคม(กระแสหลัก)ที่สนใจแต่แพนด้าจนลืมความสำคัญของช้างไทยไป
ผลสุดท้ายคือเจ้าของไอ้เดียช้างแพนด้าได้รับไปทั้งดอกไม้และก้อนอิฐ
...แพนด้า-ช้างไม่สน มาจากคนต่างหาก
ดูเหมือนว่ากระแสแพนด้าฟีเวอร์หลังจากแพนด้าน้อยได้ชื่อหลินปิงยังแรงไม่หยุด ถึงขนาดมีคนจะเปิด hi5 เฟสบุ๊ค ทวิตเตอร์ ให้กับหลินปิงทีเดียว เออแล้วนี้เจ้าแพนด้าน้อยมันจะรู้เรื่องมั้ย เพราะขนาดแค่เจอพ่อช่วงช่วง มันยังขู่จนพ่อตกใจทั้งๆที่เทียบแล้วคนละไซต์กันเลย
ถึงกระนั้นหากมองตามหลักพุทธ อะไรเมื่อมันสุดโต่งเกินไป มักจะเกิดการสวิงกลับเสมอ กรณีหมีแพนด้าก็เช่นกัน เมื่อหมีแพนดังเกินไป บ้ามากไป หลายๆคนจึงเกิดอาการหมั่นไส้แพนด้าไปซะยังงั้น จนกลายเป็นอารมณ์เกลียดแพนด้ารักช้างไปเสียฉิบ
เช่นเดียวกันฟากฝั่งคนรักแพนด้า เห็นว่ากระแสรักช้างชักจะโจมตีแพนด้ามากไป ท้ายที่สุดก็เกิดเป็นอารมณ์เกลียดช้างรักแพนด้าขึ้นมาแบบ ทีเอ็งข้าไม่ว่า ทีข้าเอ็งอย่าโวย
สุดท้ายแล้วเกิดเป็นวิวาทะของคน(ไทย)ในเรื่องแพนด้ากับช้างขึ้นมาโดยที่ แพนด้าและช้างต่างมันไม่รู้เรื่องและไม่เกี่ยวข้องด้วยซักกะหน่อย
555 และก็ตามสไตล์แบบไทยๆ งานนี้มีคนโหนกระแสเป็นกลางเพื่อความสมานฉันท์ ให้จับช้างไทยผสมพันธุ์กับแพนด้ามันซะให้รู้แล้วรู้รอดไป(โชคร้ายจะตกแก่หลินฮุ่ยนะสิ) เมื่อมีลูกออกมาให้ประกวด-โหวตตั้งชื่อ อาทิ พังแพน พลายด้า คำฉี เป็นต้น
เออหนอ อะไรมันจะบ้าขนาดนั้น
…ช้าง-แพนด้า รักใครมากกว่า
เรื่องช้างกับแพนด้ายังไม่จบ แถมยังดังไกลไปถึงเมืองนอกเมืองนา ซึ่งล่าผมเพิ่งไปลาวมา(จำปาสัก) เพื่อนชาวลาว(แต่แก่กว่าผมหลายปี) ถามว่า
“ทำไมคนไทยถึงสนใจแต่แพนด้า ไม่หันมาสนใจช้างบ้างทั้งๆที่ช้างเป็นสัตว์ประจำชาติทั้งของไทยและลาว”(ในลาวคืออาณาจักรล้านช้าง)
“นี่ถือเป็นปรากฏการพิเศษเฉพาะตัวของเมืองไทย ประเทศใดยากที่จะเลียนแบบ” ผมตอบเขาไปยังงั้น
“แล้วคุณชอบอะไรมากกว่ากันระหว่างช้างกับแพนด้า”เขาถามต่อ
“ผมชอบทั้งคู่แหละ แต่ถ้าให้เลือกอย่างใดอย่างหนึ่ง ช้างกับแพนด้า...”ผมทิ้งช่วง
“ผมเลือกแพนเค้กน่ะ”