xs
xsm
sm
md
lg

"แฟนเก่า-ชาคริต" : ขอโทษครับถ้าจะบอกว่าสมน้ำหน้า!/อำนาจ

เผยแพร่:   โดย: อำนาจ เกิดเทพ

ว่าจะไม่เขียนถึงเพราะเกรงจะถูกมองว่าไป(เป็นเหยื่อ)โปรโมตหนัง แต่ผมก็รู้สึกอดไม่ได้จริงๆ ครับกับกรณีที่เห็นคุณ "ชาคริต แย้มนาม" ออกมาร้องไห้แถลงข่าวพร้อมกับผู้เป็นมารดา โดยมีเนื้อหาใจความสำคัญ ว่า รู้สึกกดดันเป็นอย่างมากกับข่าวต่างๆ ที่ออกมาเกี่ยวกับการแสดงภาพยนตร์เรื่อง "แฟนเก่า" จากการกำกับของ "ต้อม ปิยะพันธุ์ ชูเพ็ชร์" ค่ายอาวอง ในเครือ บริษัท อาร์ เอส จำกัด (มหาชน)

ด้วยข่าวส่วนใหญ่นั้นทำให้ตัวเขาออกมาดูไม่ดี เพราะเน้นไปที่เรื่องทางเพศเกือบจะทั้งสิ้น อาทิ ในไทยรัฐ ออนไลน์ ที่มีเนื้อข่าวในลักษณะที่ว่า...ไม่รู้ว่าหน้าอกหน้าใจ โบวี่-อัฐมา ชีวนิชพันธ์ ช้ำคามือ ชาคริต แย้มนาม ไปรึยัง เนื่องจากต้องเข้าฉากเลิฟซีนแบบถึงเนื้อถึงตัว...ฯลฯ

หรือจะเป็นพาดหัวที่ว่า...อารมณ์พาไป "ชาคริต" เลื้อยจับนม "โบวี่"..."โบวี่" โอด หนังแฟนเก่า หิน เลิฟซีน "ชาคริต" แรง...และล่าสุดกับภาพฉากที่พระเอกหนุ่มเปลือยท่อนบนกำลังหยอกล้อกับหนึ่งในสมาชิกของวง "เกิร์ลลี่ เบอร์รี่" ที่อยู่ในชุดทูพีซ ริมทะเล ที่มีสื่อบางแห่งตาดี จนเป็นประเด็นในทำนองที่ว่าพระเอกหนุ่มเป้าตุง!

ไม่แปลกครับ หากจะมีคนจำนวนไม่น้อยที่คิดและเชื่อว่าการออกมาในครั้งนี้ของเขาเป็นการโปรโมตหนังทางหนึ่ง เพราะจะว่าไปแล้วเรื่องแค่นี้ ข่าวทำนองนี้ มันน่าจะเล็กน้อยๆ มากๆ สำหรับผู้ชายที่ชื่อ "ชาคริต แย้มนาม" ซึ่งที่ผ่านมาเจอะเจอข่าวต่างๆ มาค่อนข้างหนักและแรงกว่านี้เยอะ จนไม่น่าจะต้องมานั่งร้องไห้ฟูมฟายอะไรเหมือนเด็กๆ กับข่าวเช่นนี้

ประเด็นที่สองก็คือในเมื่อข่าวเหล่านี้มันออกมาตั้งนานแล้ว ทำไมเจ้าตัวเพิ่งจะออกมาตีโพยตีพายเอาอีตอนหนังกำลังจะเข้าฉายอยู่แล้ว (27 ส.ค.)

ทว่าในอีกมุมหนึ่งก็เป็นไปได้เช่นกันครับว่า ตัวเขาเองอาจจะรู้สึกอึดอัดและทนไม่ไหวจริงๆ เพราะในระยะหลังเป็นที่น่าสังเกตว่าตัวของพระเอกหนุ่มไม่ค่อยจะปรากฏเป็นข่าวในลักษณะที่ว่านี้สักเท่าไหร่ จนราวกับว่าเขาเองต้องการที่จะ "ลบ" ภาพของความเป็นหนุ่มเจ้าชู้ ข่าวที่ไม่ดี ตลอดจนฉายาพระเอกไม้เลื้อยที่สื่อฯ ตั้งให้ แต่พอมีข่าวออกมา มันจึงเหมือนกับว่าสิ่งที่เขาอุตส่าห์พยายามทำมา (จะด้วยเหตุผลก็เพราะเรื่องของหญิงสาวที่คบกันอยู่ หรืออะไรก็ตาม) มันหาได้เกิดประโยชน์ขึ้นมาแต่อย่างใด

อีกประการหนึ่งที่สามารถทำให้คิดเช่นนี้ได้ก็คือ การที่เขากล้าที่จะนำ "ของสูง" อย่างคุณแม่ มาร่วมด้วย(ก็ไม่รู้เหมือนกันว่าเพื่ออะไร) ซึ่ง(ในกรณีที่ผู้เป็นมารดาไม่รู้-เห็นด้วย)หากมันเป็นการจัดฉาก ไม่ว่าจะเพื่อโปรโมตหนัง หรือสร้างภาพเพื่อให้ตนเองดูดี ก็คงจะต้องยกให้เป็นเรื่องของเวรกรรมที่เจ้าตัวเองย่อมรู้อยู่แก่ใจดี

แต่ทั้งหลายทั้งปวงที่ผมคิดว่าน่าสนใจมากกว่าก็คือสิ่งที่หนุ่มชาคริตพูดออกมาในเชิงที่ว่า ทำไมฝ่ายประชาสัมพันธ์ต้องเอาเรื่อง เอาข่าวในลักษณะที่ว่านี้ไปเป็นประเด็นจุดขาย

ก่อนอื่นต้องบอกให้ทราบกันก่อนนะครับว่า ปัจจุบันข่าวบันเทิง "ส่วนใหญ่" ที่ปรากฏทั้งทางสื่อสิ่งพิมพ์ อินเทอร์เน็ตนั้นล้วนมี "ที่มา" จากข่าวประชาสัมพันธ์ ที่ฝ่ายประชาสัมพันธ์ของแต่ละค่ายเขียน และส่งมาให้

ส่วนนักข่าวเองจะนำข่าวชิ้นนั้นไปลงทั้งดุ้น, ไปเสริมเติมแต่งพาดหัว หรือนำประเด็นมาสร้าง-ขยายต่อ หรือไม่แลเลย ฯ ก็สุดแท้แล้วแต่

อย่างในกรณีของภาพยนตร์เรื่องแฟนเก่า เท่าที่ผมทราบ ข่าวที่ฝ่ายประชาสัมพันธ์ส่งไปให้กับนักข่าวนั้นมีการพาดไว้ดังนี้..."ชาคริต" บี้ปาก "กิ๊บซี่" สุดสยิวใน "แฟนเก่า", "กิ๊บซี่" ทุ่มทุนสร้าง สลัดผ้าโชว์หวิวลงอ่าง, "กิ๊บซี่" สลัดเสื้อผ้าทิ้ง ทุ่มสุดตัวใส่ "บิกินี่" โชว์สยิว ฯลฯ

เหล่านี้นี่เองที่ทำให้ผมค่อนข้างจะแปลกใจที่เดียวครับที่ในวันฉายรอบสื่อมวลชนของภาพยนตร์เรื่องแฟนเก่าเมื่อค่ำวันอังคาร(25)ที่ผ่านมา ว่า ทำไมคุณ "คมสันต์ เชษฐ์โชติศักดิ์" รองกรรมการผู้อำนวยการสายงานภาพยนตร์ บ.อาร์เอสฯ รวมถึงคุณ "องอาจ สิงห์ลำพอง" ผู้อำนวยการผลิตและสายงานการตลาด สายงานภาพยนตร์ ถึงกล้าที่จะบอกอย่างเต็มปากเต็มคำว่าบริษัทไม่เคยคิดจะเอาเรื่องทำนองนี้มาเป็นจุดขาย และเรื่องที่เกิดขึ้นนั้นก็เป็นเพราะนักข่าวสร้างกระแสข่าวกันไปเอง

อย่าบอกนะครับว่าไม่รู้ในรายละเอียดที่ฝ่ายประชาสัมพันธ์ส่งไป

ทั้งหลายทั้งปวงก็ใช่ว่าจะมากล่าวโทษค่ายอาร์เอสฯ หรือว่าผู้ที่ทำหน้าที่ประชาสัมพันธ์หนังอะไรทั้งหมดแต่อย่างใดนะครับ เพราะหลายครั้งนักข่าวเองก็ทำเป็น "แกล้งโง่" มุ่งสร้างกระแสจนน่าเกลียด อย่างเช่นล่าสุดในกรณีของ 2 นักร้องวง “K-OTIC” ค่ายอาร์เอสฯ (อีกแล้ว) อย่าง“โทโมะ” และ “จองเบ” ที่มีข่าวว่า มีภาพหลุดภาพเปลือยของทั้งสองกำลังช่วยตัวเองออกมา

ทั้งๆ ที่ภาพดังกล่าวนักข่าว+คนส่วนใหญ่ต่างก็รู้กันดีว่าเป็นภาพจากวีทีอาร์ที่ถูกผลิตขึ้นเพื่อเอาไว้ฉายในการแสดงคอนเสิร์ต

เพียงแต่มันก็มีคำถามย้อนกลับไปยังต้นสังกัดของศิลปินทั้งหลาย(ซึ่งในกรณีที่ยกตัวอย่างมานี้ก็คือค่ายอาร์เอสฯ) อีกนั่นแหละครับว่า แล้วไอ้ที่ผลิตงานรูปแบบนี้ออกมา ตลอดจนเนื้อหา-ภาพ(ข่าว)ที่ประชาสัมพันธ์ส่งไปให้นักข่าวนั้น ก็เพื่อต้องการให้มัน "เป็นข่าว" ในลักษณะที่ว่ามิใช่หรือไม่?

เรียนกันตรงๆ นะครับ โดยส่วนตัวผมเชื่อว่าด้วยศักยภาพ ฝีมือการแสดงของคุณชาคริต แย้มนาม หรือแม้กระทั่งบุคลากรที่มี เครื่องไม้เครื่องมือ ตลอดจนเงินทุนของอาร์เอสฯ ล้วนแล้วแต่มารถที่จะทำ "หนังดี" ที่ "ขายได้" โดยไม่จำเป็นต้องพึ่งพาฉากหวิวๆ หรือว่าข่าวฉาวๆ แต่อย่างใด

ในทางตรงกันข้าม ผมว่าการขายฉากพวกนี้ รวมถึงข่าวทำนองนี้ที่นับวันจะกลายเป็นภาพลักษณ์ของค่ายอาร์เอสฯ ไปแล้วนี่แหละครับที่จะไปทำลาย "ส่วนดี" ของภาพยนตร์อีกต่างหาก

ถ้าไม่เชื่อก็ดูตัวอย่างจากหนังเรื่อง "ปิดเทอมใหญ่หัวใจว้าวุ่น" ของจีทีเอชดูก็ได้ว่า การที่สื่อไปให้ความสำคัญกับนักแสดงอย่าง "โซร่า อาโออิ" ดาราหนังเอวีชื่อดังของญี่ปุ่น ทำให้หนังเรื่องนี้ถูกมองในแง่ลบขึ้นมามากน้อยเพียงใด

ข่าวคราวเกี่ยวกับภาพยนตร์เรื่องแฟนเก่า ทำให้ผมต้องนึกไปถึงสถานการณ์ที่เคยเกิดขึ้นกับภาพยนตร์ไทยเรื่อง "โหมโรง" ของค่ายสหมงคลฟิล์ม จากการกำกับของคุณ "อิทธิสุนทร วิชัยลักษณ์" เมื่อหลายปีก่อน

ด้วยความเป็นหนังที่เกี่ยวกับดนตรีไทย ไม่มีฉากหวือหวา ไม่มีเรื่องเซ็กซ์ ทำให้ฝ่ายประชาสัมพันธ์เองก็ไม่รู้จะหาอะไรมาเป็นจุดขายมากมาย สื่อฯ ที่รอข่าวอยู่ก็เลยไม่ค่อยจะมีอะไรมาเล่น กระทั่งหนังเข้าฉายไปแล้วและด้วยกระแสปากต่อปากนั่นแหละครับที่ทำให้สื่อฯ หันมาให้ความสนใจ

จากนั้นก็เป็นที่รู้ๆ กัน นั่นก็คือการเกิดกระแสโหมโรงฟีเวอร์ขึ้นมา

หรือจะเป็นหนังไทยเรื่อง "มนต์รักทรานซิสเตอร์" ของคุณ "เป็นเอก รัตนเรือง" ที่เจ้าตัวบอกว่าเป็นภาพยนตร์ดราม่าแต่ตลก ทว่ากลับมีนักข่าวบางส่วนกลับไปถามคุณเป็นเอกว่าหนังดราม่าแล้วจะตลกได้อย่างไร? จนเจ้าตัวหงุดหงิด ส่งผลให้ภาพยนตร์เรื่องนี้ไม่ถูกโปรโมตสักเท่าไหร่ในระยะต้นๆ

จริงอยู่ที่ว่าคนเสพข่าวส่วนใหญ่อาจจะให้ความสนใจกับข่าวโชว์หวือ โชว์หวิว เลิฟซีนดุเดือดเลือดพล่านอะไรทำนองนี้ แต่ถามว่าจะมีสักกี่คนกันครับที่ ให้ "ความสำคัญ" ให้ "คุณค่า" กับสิ่งเหล่านี้ซึ่งมักจะเป็นเพียงส่วนน้อยในหนังหลายๆ เรื่องซึ่งจะว่าไปแล้วบางครั้งไม่จำเป็นต้องมีเลยก็ได้ กระทั่งตัดสินใจเข้าไปดูหนัง

ที่สำคัญก็คือ ฉากพวกนี้หากทำดีจริง ทำถึงจริง ผมว่าไม่จำเป็นต้องไปสร้างกระแสโปรโมตให้มากมายวุ่นวายหรอกครับ รอให้คนเข้าไปชมแล้วออกมาพูดถึงมันน่าจะมีคุณค่ามากกว่า ยกตัวอย่างเช่นหนังของพี่ "ต้อม ยุทธเลิศ" ที่กำกับคุณ "แป้ง อรจิรา" ใน สายล่อฟ้า, น้องเจน ชมพูนุช ใน บุปผาราตรี1, รวมถึงคุณ "เมย์ พิชญ์นาฎ" ใน บุปผาราตรี 2 ดูสิครับว่าเขาทำได้อารมณ์ และติดตา-ติดใจคนดูขนาดไหน?
ขณะเดียวกันคนดูหนังเองก็ไม่รู้สึกว่าฉากเหล่านี้มันเป็นส่วนเกินของหนังแต่อย่างใด

สุดท้ายนี้สำหรับหนังเรื่องแฟนเก่า หากรายได้ของหนังออกมาไม่ดีเพราะตัวหนังเองไม่มีอะไรให้น่าพูดถึง ไม่มีอะไรแปลกใหม่ ก็แล้วไปเถอะครับ

แต่ในทางตรงกันข้าม ถ้ารายได้ออกมาไม่ดี ทั้งๆ ที่ตัวหนังเองมีอะไรให้น่าพูดถึงมากมาย (มากกว่าเรื่อง เต้าช้ำ ขยี้ปาก เป้าตุง) แล้วละก็...ขอโทษนะครับที่ผมจะบอกว่า สมน้ำหน้าอาร์เอสฯ ครับ
กำลังโหลดความคิดเห็น