“อาร์เอส” แจงไม่ใช่ต้นตอทำ “ชาคริต” ถูกด่าวิตถาร เผยภาพทำข่าวประชาสัมพันธ์ไม่โอเว่อร์เกินในหนัง โบ้ยสื่อสร้างประเด็นเล่นข่าวกันเอง ปัดส่งภาพหวือหวาสร้างกระแสโปรโมต บ่ายเบี่ยงขอโทษพระเอกหนุ่ม แต่ได้ส่งผู้กำกับไปเคลียร์เข้าใจกันดีแล้ว เชื่อยังร่วมงานกันได้อีก
เกี่ยวกับกรณีที่พระเอกไม้เลื้อย “ชาคริต แย้มนาม” ได้ออกมาหลั่งน้ำตาลูกผู้ชายต่อหน้าสื่อมวลชน หลังถูกโจมตีเรื่องภาพขยำนมดาราสาว “โบวี่ อัฐมา ชีวนิชพันธ์” ในฉากเลิฟซีนของภาพยนตร์เรื่อง “แฟนเก่า” ทำให้เขาถูกมองเป็นพวกวิตถาร วิปริต ลามก ซึ่งนั่นทำให้พระเอกหนุ่มเหลืออด ต้องควงแม่มานั่งแถลงข่าว พร้อมประกาศเป็นความผิดของค่ายหนังอย่างอาร์เอส ที่ปล่อยภาพดังกล่าวออกมา โดยไม่มีการบอกกล่าวแผนประชาสัมพันธ์ล่วงหน้า และหลังเกิดเรื่องไม่มีใครมาขอโทษตนเลย
ต่อมา “ต้อม ปิยะพันธ์ ชูเพ็ชร์” ซึ่งเป็นผู้กำกับหนังเรื่องดังกล่าว ได้ออกโรงขอโทษพระเอกหนุ่ม พร้อมประกาศจะตรวจสอบตามล่าหาต้นตอคนปล่อยข่าวให้ได้ ความคืบหน้าล่าสุดในงานฉายภาพยนตร์เรื่อง “แฟนเก่า” รอบสื่อมวลชนที่ชั้น 5 สยามพารากอน เมื่อช่วงค่ำที่ผ่านมา (25 ส.ค) “นายคมสันต์ เชษฐ์โชติศักดิ์” รองกรรมการผู้อำนวยการสายงานภาพยนตร์ บ.อาร์เอส จำกัด มหาชน ได้แถลงข่าวต่อสื่อว่า ได้มีการตรวจสอบไปยังฝ่ายประชาสัมพันธ์ของบริษัทแล้ว ยืนยันไม่ใช่ต้นตอสร้างกระแสข่าว ทำให้ “ชาคริต” เสื่อมเสียชื่อเสียง โบ้ยเป็นความผิดของสื่อที่เล่นประเด็นกันไปเอง
“สืบเนื่องจากเมื่อวานที่มีการแถลงข่าวไปแล้ว เรื่องของประเด็นข่าว เราก็ได้มีการประชุมกันว่า เราไม่ได้มีเจตนา หรือนโยบายที่จะทำเช่นนั้น ในเรื่องของประชาสัมพันธ์ประเด็นข่าว เราก็ได้ลองไปถาม สลับกับลองตรวจสอบฝ่ายพีอาร์ของเรา ก็ไปดูในเรื่องของต้นฉบับที่ส่งข่าว เราตรวจทุกข่าวแล้วเห็นว่า มันไม่ใช่ข่าวที่เราเอาไปพีอาร์เหมือนอย่างที่คุณชาคริตกังวล มันคงเป็นเรื่องของข่าวที่เล่นเพื่อให้เกิดกระแสมากกว่า”
“ต้องบอกว่าหนังเรื่องนี้ เป็นเรื่องเกี่ยวกับความรักของผู้ชายคนหนึ่ง ก็แน่นอนที่จะทำให้เกิดกระแสดังกล่าวขึ้นมาได้ ทางเรามองว่าเราต้องการนักแสดงที่มีความสามารถมาแสดง ซึ่งเราก็เชื่อมั่นว่าคุณชาคริตมีความสามารถ เป็นมืออาชีพ ซึ่งข่าวดังกล่าวที่เกิดขึ้น ผมมองว่าถ้าเราได้ไปชมภาพยนตร์ มันคงแก้ในสิ่งที่ข่าวพูดออกมาได้ มันไม่ได้เป็นอย่างที่ข่าวออกมาเลย”
“การส่งภาพเพื่อประชาสัมพันธ์หนังของเรา มันจะมีขั้นตอนในการนำเสนอ ช่วงแรกเราจะปูเรื่องก่อนว่า ทำไมถึงเกิดเหตุการณ์แบบนี้ขึ้นในหนัง เราเล่นประเด็นเป็นเรื่องความรักของผู้ชายคนหนึ่ง ซึ่งไม่เพียงพอในความรักของตัวเอง จากนั้นขั้นตอนต่อไปที่เราจะเล่น จะเป็นเรื่องของความสยองขวัญของหนัง แต่บังเอิญขั้นตอนแรกมันไปโดนสะดุดซะก่อน เลยทำให้ขั้นตอนต่อไปอาจจะยากนิดหนึ่ง เพราะมาเจอแบบนี้ซะก่อน”
“ภาพที่เราส่งให้สื่อก็เป็นภาพจากในหนัง ซึ่งในเรื่องของการเขียนของสื่อ อันนี้ผมไม่แน่ใจ มันอาจเป็นการเขียนเพื่อเล่นประเด็น การทำให้ข่าวมีกระแสขึ้นมาให้ดูน่าสนใจ ที่ผมพูดตรงนี้ไม่ได้มาบอกว่าใครเป็นคนผิดหรือถูก ผมอยากพูดในลักษณะที่ว่า นี่เป็นข้อเท็จจริงที่เราจะมาแถลง”
บ่ายเบี่ยงขอโทษชาคริต บอกส่งผู้กำกับ “แฟนเก่า” ไปเคลียร์และเข้าใจกันดีแล้ว เชื่อต่อไปสามารถร่วมงานกันได้ไม่มีปัญหา
“เราได้มีการคุยกับคุณชาคริต โดยส่งผู้กำกับของเราไปคุย และชี้แจงในเรื่องของข่าวว่า จากต้นสังกัดของเรา ข่าวที่ออกมามันไม่ได้เป็นอย่างที่เขาเห็น ที่เราส่งไปเราไม่มีนโยบายที่จะทำให้ออกมาในลักษณะนั้น ซึ่งคุณชาคริตก็บอกว่าไม่ได้ติดใจอะไร ทางอาร์เอส หรืออาวองก็คิดว่าคงไม่มีอะไรมาก”
“เรื่องการขอโทษเขามันไม่จำเป็น มันเป็นการมองเจตนาที่ผิดพลาด ประเด็นนี้ผมมองว่า นโยบายที่เราลงไปดูในเรื่องของตัวข่าวที่ส่งออกไป มันไม่ใช่ข่าวที่อยู่ในสื่อ ดังนั้นการที่คุณชาคริตไม่มาร่วมงานรอบสื่อในวันนี้ ผมคิดว่าเป็นเพราะคุณชาคริตยังไม่สบายใจที่จะมา เพราะข่าวนี้ค่อนข้างแรงเหมือนกัน ซึ่งเราก็รู้สึกไม่ค่อยสบายใจเหมือนกัน”
“แต่หลังจากที่เราได้คุยกันแล้ว ผมคิดว่าไม่น่ามีปัญหาอะไร เพราะเขาก็ไม่ได้โกรธ เราไม่มีการทะเลาะกัน ผมคิดว่ามันคงเป็นเรื่องของการสะสมมา หลังจากนี้ถ้าเป็นไปได้ ถ้าเกิดหนังมีบทที่เหมาะกับคาแรคเตอร์ของชาคริต เราก็สามารถร่วมงานกันได้ไม่น่ามีปัญหา”
ยันภาพส่งข่าวพีอาร์ไม่แรงเกินจริง เป็นภาพจากฉากในหนังจริงๆ บอกเสียใจที่ประเด็นข่าวทำให้นักแสดงได้รับผลกระทบ
“จริงๆ ภาพที่มาจากหนัง เราก็ไม่ได้ไปตัดแต่งอะไรให้มันดูโอเว่อร์เกินไป เพราะสิ่งที่เราต้องการนำเสนอ เราต้องการนำเสนอจุดขายของหนัง ให้คนได้รับรู้ว่าจุดขายของหนังเรื่องนี้คืออะไร สมมติถ้าเราไม่ดึงภาพออกมา มันก็เหมือนเราไม่ได้โปรโมตหนัง เพียงแต่ว่าจุดขายของหนังที่ออกมามันเป็นประเด็น เราก็ต้องดูเรื่องต่อไปที่จะเล่น นั่นก็คือความสยองขวัญ ซึ่งก็บอกตรงๆ ว่า คนข้างนอกยังงงว่า มันเป็นหนังเกี่ยวกับความรักไม่ใช่เหรอ บอกเลยว่ามันไม่ใช่ มันเป็นหนังผี ซึ่งเป็นขั้นตอนต่อไปที่เราจะนำเสนอ”
“การพีอาร์หนังต่อไปจะเป็นยังไงมันตอบยาก มันอยู่ที่ว่าทุกคนดูแล้วจะรู้สึกยังไง การส่งภาพโปรโมตหนัง มันเป็นสิ่งที่เราระวังอยู่แล้ว แต่ไม่คิดว่ามันจะเกิดเป็นประเด็นขึ้นมา พอมันเกิดขึ้นเราก็รู้สึกเสียใจ มันอาจทำให้คนอื่นมองตัวนักแสดงไม่ดี และมีผลกระทบกับเขา ซึ่งเราก็ต้องแคร์ความรู้สึกของนักแสดงที่มาแสดงกับเรา เขามาร่วมงานกับเรา เขาให้เกียรติเรา เพราะฉะนั้นเราก็ต้องให้เกียรติเขา ด้วยการปกป้องเรื่องสิทธิ์ของเขาเช่นกัน”
วอนสื่ออย่าเล่นประเด็นข่าว จนทำให้ส่งผลกระทบต่อนักแสดง
“ผมอยากฝากถึงกระแสที่พยายามจะเล่นให้เป็นประเด็นข่าว คือถ้ามันส่งผลกระทบต่อนักแสดง หรือทำให้เกิดปัญหาขึ้นในชีวิตของตัวนักแสดง ก็อยากให้ดูกันนิดหนึ่งว่า กระแสดังกล่าวมันทำให้ประสบปัญหาในชีวิตของเขาหรือเปล่า ควรต้องดูกันนิดหนึ่งครับ”
ด้านนายองอาจ สิงห์ลำพอง ผู้อำนวยการผลิตและสายงานการตลาด สายงานภาพยนตร์ ที่ร่วมนั่งแถลงข่าวด้วยกล่าวยอมรับว่า ในภาพยนตร์เรื่อง “แฟนเก่า” มีฉากหวือหวาจริง แต่ไม่เข้าขั้นลามก ปัดจงใจส่งภาพหวิวสร้างกระแสโปรโมตหนัง
“เรื่องฉากหวือหวาในหนังมันต้องมีบ้าง แต่ไม่ได้ออกมาในลักษณะลามก ถ้าดูจากการจัดเรตของกองเซ็นเซอร์ หนัง แฟนเก่า จะได้เรต 15 บวก เพราะฉะนั้นมันต้องมีการรอบคอบ ในเรื่องของเวลาเข้าฉายพอสมควร”
“ผมขอบอกเลยว่า ไม่มีการสร้างกระแสโปรโมตหนังแน่นอน เพราะกระแสของหนัง แฟนเก่า ก็ดีอยู่แล้วตอนที่ไม่มีเรื่องเกิดขึ้น เราไม่ได้มาพูดเพื่อให้เราดูดีขึ้น มันเป็นเรื่องของภาพลักษณ์ที่ไม่ดีของบริษัทเรามากกว่า ตอนนี้มันมีการเปลี่ยนแปลงในเรื่องของประเด็น ทิศทางในการโปรโมตหนังเราได้วางไว้แต่แรก แต่เรื่องนี้มันไม่ใช่เรื่องที่เราอยากจะโปรโมตเลย ถ้าเราจะโปรโมตก็ต้องโปรโมตให้มันออกมาดูดี”
