“เซ็กซี่ มีสมอง” บวกเนื้อหอมให้ด้วย สำหรับ “โบวี่ อัฐมา ชีวนิชพันธ์” หน้าอกหน้าใจไม่ต้องล้นทะลัก ไม่ต้องเปิดบนเปิดล่าง อล่างฉ่างพร่ำเพรื่อ เพียงแค่นี้ดีกรีความเซ็กซี่ของสาวคนนี้ก็ล้นทะลัก บทบาทงานแสดงของโบวี่ เธอคือนางร้ายที่กำลังไต่เต้า ฝีมือการแสดง พ่วงกับการวางตัว แน่นอนว่าเธอกำลังรุ่งกับงานละครและร้อนแรงกับงานหนังในปีหน้าอีก 3 เรื่องซ้อน
ฮอตทั้งงาน บานสะพรั่งเรื่องหัวใจ และที่มองข้ามไม่ได้คือ “กึ๋น” และ “แก่น (ธรรมะ)” ที่สาวเซ็กซี่บางคนไม่มี แต่เธอเจอ “ทางสายกลาง” บนถนน “สายมายา” ที่แสนลงตัว
1
เซ็กซี่...หัวกะทิ
ผู้ชมอาจคุ้นเคยกับ “นางร้าย” และ “ความเซ็กซี่” ที่มาเป็นของคู่กันในวงการบันเทิง ภาพลักษณ์ หรือบุคลิกภาพภายนอกบางอย่าง บอกไม่ได้ว่าคนคนนั้นมีนิสัยอย่างไร จนกว่าจะได้พูดคุยหรือคบหา
M-Lite มีโอกาสพูดคุยในหลายๆมุมชีวิตกับ “โบวี่ อัฐมา ชีวนิชพันธ์” นางร้ายเซ็กซี่ ปฏิทินลีโอ 2008 แต่อีกแง่มุมหนึ่งของชีวิต เธอคือนักศึกษาเรียนดีได้เกียรตินิยม (อันดับ 2) ของคณะอักษรศาสตร์ เอกการละครที่จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย
“ตอนแรกเลยเรียนเอกภาษาญี่ปุ่น เอ็นท์เข้าที่จุฬาได้ ไปๆ มาๆ ก็ย้าย เพราะไปเรียนวรรณคดีญี่ปุ่น เรียนเยอะมากแล้วไม่ได้ใช้ เราก็ลืม ไม่อยากเรียนเปล่า เลยย้ายมาเอกการละคร โชคดีที่จบมาแล้วได้ทำงานตรงตามสายเลย"
“ไม่มีแววมาทางบันเทิงเลย ไม่ได้คิดมาก่อนว่าจะได้มาทำงานในวงการบันเทิง แต่ว่าคิดว่ามันน่าเรียน ตั้งแต่สมัยเด็กๆ จะพรีเซ็นต์ เราก็ทำเป็นละครตลอดเลย ทำสไตล์เด็กๆทำ ยังไม่รู้เรื่องรู้ราว ทำเรื่องสั้น เขียนบทเอง ทำแล้วสนุกดี ไม่คิดว่าจะได้มีโอกาสทำเป็นจริงเป็นจัง จริงๆแล้วไม่ใช่คนหัวดี แต่เป็นคนขยัน เป็นคนที่เวลาทำอะไรแล้วจะมีความจริงใจ ทำเต็มที่แล้วจะไม่มานั่งเสียใจ ตอนเอ็นท์ที่จุฬา ฯ เราก็สู้ เราต้องยอมรับอย่างหนึ่งว่าที่จุฬาฯการแข่งขันค่อนข้างสูง เด็กหัวดีเยอะ คนเรียนเก่งก็จะเก่งแบบโคตรๆ (หัวเราะ) เวลาจะสอบอ่านหนังสือหลายรอบมากค่ะ”
2
ถ้าไม่ได้เซ็กซี่ คงหนีไปเป็นแอร์ฯ
ต้องบอกว่า โบวี่คือสาวที่เซ็กซี่ไม่เหมือนใครเพราะไซส์ปกติ (ไม่มีอะไรที่ใหญ่มากๆ) “สีหน้า” และ “แววตา” ไปเตะตาต้องใจ นางแบบรุ่นพี่สุดเซ็กซี่อย่าง “ลูกเกด เมทินี” เข้าให้ เราจึงได้พบกับเธอในวงการบันเทิงแทนการเป็นแอร์โฮสเตสอย่างที่เธอใฝ่ฝัน
“ตั้งแต่ ปี 3-ปี 4 ก็เริ่มถ่ายโฆษณา แล้วก็เล่นมิวสิกวิดีโอ พอเรียนจบปุ๊บก็มีโอกาสได้เล่นละคร เรื่องแรกโบเล่นกับเอ็กแซ็กท์ นารีสโมสรกับหัวใจศิลา ถ่ายพร้อมกันสองเรื่องเลย พอมาเล่นร้ายแล้วก็คนมองว่าร้ายต้องมาเซ็กซี่ ละครไทยส่วนใหญ่ถ้านางร้ายจะต้องมาเซ็กซี่ แล้วเรื่องหัวใจศิลาเนี่ย บังเอิญได้เล่น กับพี่ลูกเกด เมทินี แล้วพี่ลูกเกดเขาเป็นโปรดิวเซอร์แฟชั่นแล้วเขาก็ดึงโบไปถ่ายแนวเซ็กซี่ โบก็คิดนะว่าเราจะทำได้เหรอ แต่พี่เขาก็บอกว่าเรามีเซ็กซ์แอพเพียลในตัวเอง อยู่เฉยๆก็ดูว่าเซ็กซี่”
“ตอนนั้นเราไม่ได้คาดหวัง เราเข้ามาทำงานใหม่ๆ ไม่รู้ในวงการนี้มากมาย ไม่คาดหวังอะไรเลย คิดว่ามันคืองานแล้วทำเอาเงิน เพราะเงินเยอะ แค่นั้น (ยิ้ม) ถามโบว่าสวยมั้ย โบว่ามันสวย มันแล้วแต่มุมมองว่ามันคืออะไร อย่างคนที่ชอบงานศิลปะก็จะบอกว่ามันคืองานศิลปะ โบมองแบบนั้น แต่ไม่รู้สึกว่าจะเอาดีด้านนี้ แต่มันคือโอกาสที่ได้ทำ มันก็มาไกลกว่าที่คิดไว้เยอะ ใครจะมาคิดว่าจะได้มาทำงานในวงการบันเทิง ถ้าไม่ได้เป็นดาราคงไปเป็นแอร์โฮสเตสแล้วค่ะ เพราะ รายได้ดี สวัสดิการดี แต่สุดท้ายได้เข้ามาในวงการนี้เสียก่อนก็ถือว่าโชคดี มีอะไรสนุกๆให้ทำเยอะ”
“โบอยากพัฒนาให้มันดีขึ้นอีก โบจริงจังกับการแสดง ทุกครั้งที่ทำ เราก็จะดูแล้วทำอย่างไรให้พัฒนาฝีมือตัวเองให้ดีขึ้น ศึกษางานของตัวเอง โบมีเรียนร้องเพลงเพิ่ม บางทีไปงานโชว์ตัวก็มีงานร้องเพลง อยากทำงานให้เต็มร้อย ร้องเพลงเต้นให้ดี คุ้มกับเงินที่เขาจ้าง”
3
คาสโนวีเนื้อหอม?
โบวี่บอกว่า ตั้งแต่เข้าวงการมาเธอยอมรับว่ามีข่าวกับหนุ่มๆมากหน้าหลายตา เพราะช่วงที่เข้าวงการมาแรกๆเธอกำลังมีเรื่องอกหัก จากนั้นเธอมีข่าวกับเจ วงเจเคไอ,จอนนี่ เหงียน ดาราชาวเวียดนาม,กอล์ฟ ธิตินันท์,ฟลุค เกริกพล , เต้-วิทย์สรัช และแมน การิน ไม่ว่าหนุ่มไหนในตอนนี้เจ้าตัวบอกว่ายังไม่มีใครในฐานะแฟน แถมทิ้งท้ายว่าผู้ชายร้ายๆมีเยอะ ต้องศึกษาให้ดีก่อนคบใคร
“ ผู้หญิงที่ทำงานในวงการบันเทิงส่วนใหญ่ก็มีผู้ชายอยากมาคุยเยอะ ไม่ใช่แค่โบ คนอื่นๆด้วยนะ เพียงแต่ว่าเขาไม่ได้เป็นข่าว โบไม่ได้เยอะกว่าคนอื่น ยืนยันว่าไม่ได้เจ้าชู้ จริงจังกับความรัก แล้วคบใครก็คบทีละคนแน่นอน แต่ว่าก่อนที่จะคบเนี่ย มันต้องสกรีนให้ดีก่อน เพราะว่าผู้ชายเดี๋ยวนี้มันมีหลายรูปแบบ เราไม่รู้หรอกว่าการที่เขามาคุยกับเราเนี่ยเขาจริงจังกับเราแค่ไหน บางคนแค่อยากรู้จักมาคุยด้วย พอถามว่าอยากคบมั้ย บอกยังไม่พร้อม เราจะไม่รีบด่วนลงหลักปักฐาน โบเชื่อว่าเวลาพิสูจน์ได้”
“กับพี่ฟลุคก็บอกไปแล้วว่าไม่มีอะไร แค่รู้จักกันเป็นพี่น้องกัน ส่วนกับพี่แมน การิน ปัจจุบัน ความสัมพันธ์ก็โอเค ยังไม่ได้พัฒนาไปถึงขั้นว่าเป็นแฟน แต่ว่าค่อนข้างสนิทกันพอสมควรประมาณหนึ่งเลยน่ะค่ะ คือถ้าโบคบใครโบก็เปิดเผยนะ แต่ขอแบบคิดว่าคบจริงแล้วคบได้นาน”
4
เท่าทันว่ามันคือ “มายา”
- อารมณ์พาไป ชาคริต เลื้อยจับนม “โบวี่ อัฐมา” ...สยามดารา
- "โบวี่" งง "แมน" ควง "รัน" ยันยังไม่เห็นภาพ ลั่นมีเคลียร์แน่ ...ไทยรัฐ
- “โบวี่” หนี “แมน” ย่องเงียบ เยี่ยม “ไผ่ วันพ้อยท์” ...กอสสิปสตาร์
- “โบวี่” อโหสิ “แพง” ด่าลับหลังหน้าพลาสติก ...ดาราเดลี่
หลากหลายข่าวที่ทำให้คนไม่เคยเจออย่างเธอเคยร้องไห้ แต่เมื่อความชินชา และ ความเข้าใจในสิ่งที่เกิด เมื่อเธอค้นพบ เธอบอกว่า เรื่องจะเล็กหรือใหญ่อยู่ที่เรากำหนด
“แรกๆเข้ามาเนี่ยตอนนั้นยังไม่ชินก็แบบเวลามีข่าวก็เวลาเขียนข่าวเขาต้องขายหนังสือ ช่วงแรกที่เข้ามาก็พาดหัวดูรุนแรง ตกใจก็มีเสียใจร้องไห้บ้าง แต่พออยู่ไปสักพักหนึ่ง เราเข้าใจ รู้จักนักข่าว เรารู้ว่านักข่าวส่วนใหญ่ก็นิสัยดี แต่การเขียนคือการทำงาน มันคือคาแร็กเตอร์ของหนังสือ มันมีความฉูดฉาด การพาดหัวให้คนอ่านรู้สึกมัน คือเข้าใจนะว่ามันคือการทำงาน
“โบเป็นคนเข้าใจกระบวนการของข่าวพอสมควร วงการบันเทิงมันดำเนินไปในรูปแบบนี้ ข่าวกับตัวจริงบางทีมันคนละเรื่องกัน มันมีความเป็นมายา และมีสีสันของมัน มีคาแร็กเตอร์ของมัน คนนี้เจ้าชู้นะ คนนี้รักเด็กนะ ถูกสร้างแบรนด์แล้วเป็นการเอนเตอร์เทนคน ทำให้ประชาชนมีเรื่องเมาท์ มันคือส่วนหนึ่งของอาชีพโบ หน้าที่เราคือนักแสดง เรามีหน้าที่เอนเตอร์เทนคน ถ้าเกิดอะไรขึ้นโบจะไม่ค่อยคิดมากนะคะ”
5
“ภาวนาจิต” ธรรมะของสาวเซ็กซี่น้ำดี
หน้าหวาน หุ่นดี แต่โบวี่บอกว่าอารมณ์โดยเนื้อแท้ไม่ใช่คนใจเย็นแต่แรกเกิด แถมสมาธิหลุดบ่อย จนวันหนึ่งได้มีโอกาสฝึกภาวนาจิต ใช้สติควบคุมตัวเอง จึงทำให้ระงับอารมณ์ฉุนเฉียวได้ดีทีเดียว และครั้งหนึ่งเธอก็เคยใช้ธรรมะระงับอาการอกหักของเธอมาแล้ว
“เท่าที่โบเจอมาเรื่องที่ทำใจยากที่สุดคือเรื่องอกหัก เพราะว่าโบเป็นคนขี้เหงา สมัยที่เรามีแฟน คบกันไป ไปด้วยกันทุกที่ พอเลิกกัน เหมือนว่าคนคนนี้หายไปจากชีวิตเรา จากที่เจอกันบ่อยๆ เขาหายไป มันก็จะกลายเป็นว่าเฮิร์ตมากขึ้น อารมณ์ โกรธหรือ อิจฉามันยังทำใจง่ายกว่าเวลาเหงานะ”
“ส่วนใหญ่โบจะใช้วิธีการตามดูความรู้สึกตัวเอง มันคือการภาวนา โบได้ฟังหลวงพ่อปราโมช หลวงพ่อท่านเทศน์หลายที่ โบได้ซีดีของหลวงพ่อปราโมชมา แล้วได้ฟังคุณแม่เอามาให้ ท่านเทศน์เรื่องการภาวนา การมีสติ การดูจิต ณ ขณะปัจจุบัน เราคิดอะไรอยู่ การที่เรามีสติ ตามดูไปเรื่อยๆ พอผ่านไปพักหนึ่งเราจะรู้สึกว่า ความรู้สึกที่เกิดขึ้นมันยังไม่ใช่ตัวเราน่ะค่ะ เห็นตัวเองเหมือนเราเป็นบุคคลที่สาม เห็นว่าเรากำลังโกรธ ความโกรธมันจะหายไปเองถ้าเราเอาสติมาตามสิ่งที่เป็นอยู่ โบก็ทำไปเรื่อยๆ พยายามตามสติตัวเองให้ได้”
“เคยไปนั่งวิปัสสนา ตอนที่ไปเขาก็จะสอนเรื่องสมาธิ มันคือการที่เราเพ่งจิตไปที่จุดใดจุดหนึ่ง นิ่ง เป็นจุดเดียว เท่าที่ทำมาชอบการภาวนามากกว่า เราไม่ต้องไปบังคับจิตจุดเดียว แต่ตามดูในสิ่งที่มันเป็นในปัจจุบัน บางทีตัวเรามันไม่มีอยู่ ไม่ยึดติด บางทีเราก็เป็นแค่ร่างเปล่าๆ”
เซ็กซี่ + แรง ถูกแบ่งด้วย “การวางตัว”
“โบว่าคำว่าเซ็กซี่เนี่ยมันคือภาพในวงการมากกว่า ทุกครั้งที่เขาพูดถึงโบวี่ สาวสวยสุดเซ็กซี่ มันคือหลักจิตวิทยา ความจริงแล้วโบอาจจะถ่ายแบบ การแต่งตัวออกงาน โบไม่ค่อยได้แต่งฉูดฉาดเท่าไหร่ในชีวิตจริง โดยส่วนตัวโบชอบผู้หญิงเซ็กซี่ ชอบนักแสดง หรือดาราที่เซ็กซี่ ชอบแอง เจลินา โจลี, ซูฉี คือโบมองว่าผู้หญิงเซ็กซี่เนี่ยเวลาเรามองแล้วเราไม่อยากละสายตา มีเสน่ห์ มันดูอยากดูแล้วก็อยากดูอีก เห็นแล้วก็อยากเห็นอีก เวลามีใครมามองว่าเราเซ็กซี่เราก็จะบอกว่าขอบคุณนะคะ คือโบมองมันเป็นแง่บวกมากกว่า”
"ใครก็อยากให้ภาพตัวเองออกมาดูดี โบก็เหมือนกัน แต่สิ่งที่โบทำได้ มันอยู่ที่การวางตัว คนดูเห็นจากข่าวเนี่ยก็น่าจะได้เห็นเราจากหลายๆข่าว เห็นความคิดเรามากขึ้น คนเขาก็จะชั่งน้ำหนักได้เองว่า เออ! คนนี้เป็นแบบนี้นะ สมัยก่อนอาจจะดูแรง เป็นดาวยั่ว ซึ่งสมัยนี้โบว่าคำว่าเซ็กซี่ มันไม่ได้หมายถึงดาวยั่วนะคะ นางเอกทุกคนเซ็กซี่หมดแหละค่ะ โบไม่ได้มองว่ามันคือคำที่ดูไม่ดี หรือแย่ ยังมีคนจะมองว่าคนรุ่นก่อนอาจจะมองอีกแบบ ผู้หญิงเซ็กซี่สำหรับโบคือ มั่นใจ เป็นตัวของตัวเอง ดูแบบปราดเปรียว ใครๆ ก็อยากดูดี มีเสน่ห์ เป็นที่ป็อบปูลาร์ในหมู่หนุ่มๆ เราก็อยากจะเป็นแบบนั้น ทั้งนี้ทั้งนั้น คำว่าเซ็กซี่กับการวางตัว มันคือคนละเรื่องกัน คนเซ็กซี่วางตัวดีก็ได้ แต่บางคนบอกว่าเซ็กซี่แล้วดูแรง ถ้าวางตัวไม่ดี ก็จะถูกมองไปอีกแง่หนึ่ง”
เคล็ดลับการตอบคำถามข่าวฉาวของ “โบวี่”
- ตอบตามความจริงตามที่ควรจะต้องตอบ
- ไม่ควรตอบกระทบกระทั่งคนอื่น หรือพาดพิงถึงบุคคลคนที่สองหรือสาม ตอบกลางๆไว้
- ไม่พาดพิงแต่ก็ไม่ใช่โกหก อาจตอบไม่หมดบ้าง เพราะว่ามันมีหลายอย่างที่ต้องคิด
ภาพโดย...วรงกรณ์ ดินไทย
ผู้ชายที่ชื่อ “พ่อ” ของ “โบวี่”
ในวันที่เธอมีข่าวกับผู้ชายในวงการบันเทิงมากมายหลายคน แต่ผู้ชายที่ชื่อ “พ่อ” ของเธอไม่เคยตำหนิ หรือ เข้ามาบงการชีวิตลูกสาวแม้แต่น้อย โบวี่เล่าว่าวันพ่อของเธอ ไม่ได้พิเศษมากกว่าวันอื่นๆ เนื่องจากพ่อของเธอเป็นคนเงียบๆนิ่งๆ การแสดงออก กับพ่อในบ้านนี้จึงออกแนวเขินอายและไม่มีคำพูดพิเศษกว่าวันธรรมดา นอกจากการ รับประทานอาหารร่วมกัน และพ่อก็คือ ผู้ชายที่เท่ที่สุดในชีวิตเธอเช่นกัน
• พ่อขรึม... “โบไม่ค่อยได้ให้สัมภาษณ์ถึงคุณพ่อ เพราะว่าวีรกรรมส่วนใหญ่โบจะมีหม่าม้าเป็นคนรับฟังมากกว่าป๊า ที่ไม่ค่อยได้พูดถึงคุณพ่อเพราะว่าพ่อเป็นคนเงียบมาก พูดน้อยมาก ไม่ค่อยพูดกับใครเท่าไหร่ ก็เลยเวลาสัมภาษณ์หรืออะไรเนี่ย เรื่องราวของโบกับแม่จะเยอะมาก ด้วยความที่เป็นผู้หญิงเหมือนกัน แต่คุณพ่อก็จะฟีลไม่ยุ่งเรื่องส่วนตัวเลย ไม่ค่อยมีเรื่องราวกัน แต่ก็คือมี 4 คนในครอบครัว พ่อแม่ พี่ชาย”
• พ่อขับรถให้... “ตอนนี้คุณพ่อไม่ได้ทำงานแล้วค่ะ แต่มาช่วยโบขับรถมารับมาส่ง ส่วนใหญ่คุณพ่อมาส่ง แล้วไม่หวงเลย คุณพ่อจะเฉยๆ ไม่ว่าอะไรเลย ปล่อยให้เราคิดเองตัดสินใจเองโดนเลี้ยงมาแบบอิสระ กรอบมีบ้างแต่น้อยมาก พอเราโตขึ้นถึงขั้นทำงานได้ เป็นหัวเรี่ยวหัวแรงของบ้านแล้วเขาก็ไม่มาอะไรกับเราแล้วล่ะค่ะ พ่อก็ไม่ค่อยมายุ่งกับเราสักเท่าไหร่ ปล่อยให้เราใช้ชีวิตของเรา”
• พ่อทันสมัย... ถึงเซ็กซี่แต่ก็ไม่เคยโดนพ่อตำหนิ ... “ไม่มีปัญหากับคุณพ่อเรื่องงานเลยค่ะ ไม่เคยพูดถึง แต่พอภาพออกมาเราก็จะถามว่า ป๊าเห็นมั้ย เขาก็บอก อ้าว! หนังสือออกแล้วเหรอ แค่นั่นแหละค่ะ คือพ่อก็น่าจะทันสมัยนะคะ เขาคงเข้าใจว่ามันคืองาน มันไม่ใช่แค่เรื่องมาโชว์”
• พ่อมีเหตุผล... ยอมรับว่าตอนเด็กพ่อเป็นคนดุคนหนึ่ง แต่เมื่อโตขึ้นมา พ่อลูกใช้เหตุผลคุยกัน
“โบก็ไม่ได้กอดกันบ่อย แต่เกาะแขนเกี่ยวแขนพ่อบ้างเวลา ไปไหนมาไหนก็วันเสาร์อาทิตย์ กินข้าวเที่ยงด้วยกัน แม่ทำข้าวเที่ยงให้กิน โบไม่ค่อยหวานไม่ค่อยได้พูด แต่พุดคุยกันเรื่องทั่วไปมากกว่า ทำให้พ่อโกรธมั้ย ก็มีบ้างแต่น้อย ส่วนใหญ่จะเรื่องของการใช้ชีวิตบางอย่างที่เขาเป็นห่วง สุดท้ายก็มาคุยกัน โตกันแล้วจะไม่ทะเลาะกัน เราโตเขาก็คุยกันด้วยเหตุผล เราคิดอย่างไร อธิบายความคิด หรือมุมมองของเรา พ่อก็บอกของเขา แล้วเอามาแชร์กัน เข้าใจในกันและกันมากกว่าเรามีอิสระในการคิด ไม่ใช่ปัญหาใหญ่ตอนเด็กๆโดนตี โตขึ้นแล้วไม่มีแล้วค่ะตอนเด็กโดนตี พ่อดุมาก โบจะซนไม่ยอมนอน ติดแม่มาก พ่อให้เข้านอน แม่ไม่นอนเราก็ไม่นอน (หัวเราะ)”
• พ่อเท่ที่สุดในโลก... ส่วนของขวัญวันพ่อนั้นเจ้าตัวบอก ให้เป็นเงินทองไว้ เพราะพ่อจะได้ซื้อของที่ชอบ ส่วนว่าที่ลูกเขยนั้น โบวี่เผยว่าพ่อปล่อยอิสระให้ลูกสาวเลือกได้ตามใจชอบ และสิ่งที่โบวี่ประทับใจในตัวพ่อคือความใจเย็น และมองทุกปัญหาเป็นเรื่องตลกไปเสียหมด
“เรื่องหนุ่มๆมีแนะนำบ้าง แต่ไม่เยอะ พ่อเป็นคนใจเย็นมาก เรื่องบางเรื่องพ่อเขาขรึมได้ ใจเย็น ถ้าเราคงวีนไปแล้ว หรือคิดไม่ออก เขาก็จะยิ้ม ขำ หัวเราะ แล้วไม่พูด หาวิธีแก้ โบว่ามันเท่มากเลย นั่นแหละคือจุดที่ชอบในตัวพ่อมาก แต่อย่าให้โกรธนะ (หัวเราะ) แต่ไม่ค่อยเห็นเขาโกรธนะ”
ประวัติ
ชื่อ อัฐมา ชีวนิชพันธ์ (โบวี่)
เกิด 14 มีนาคม 2528
การศึกษา คณะอักษรศาสตร์ เอกการละคร จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย เกียรตินิยมอันดับ 2
ผลงานสร้างชื่อ ปฏิทินลีโอ 2008 ,ละคร ดิน น้ำ ลมไฟ ,เล่นมิวสิควิดีโอ,ถ่ายแบบเซ็กซี่,ภาพยนตร์เรื่อง “แฟนเก่า”
ผลงานปัจจุบัน ละครเหนือเมฆ และ เก็บตะวันไว้ที่ปลายฟ้า (รอออกอากาศ) , ภาพยนตร์อยู่ในช่วงการถ่ายทำอีก 3 เรื่อง,พิธีกรรายการอินเทรนด์ ทาง ททบ. 5 , CJ ที่ Chic Chanel , มิวสิควิดีโอเพลง “เวรกรรม” ของวงพริกไทย