บ้านเรามีแหล่งท่องเที่ยวน่าสนใจมากมายทั้ง ธรรมชาติ ป่า เขา ท้องทะเล วัดวาอาราม ศิลปวัฒนธรรม ประเพณี วิถีชีวิต แหล่งท่องเที่ยวหลายแห่งมีความน่าสนใจในระดับสูงมาก หลายแห่งมีความโดดเด่นจัดอยู่ในขั้นมหัศจรรย์เมืองไทยที่ไม่ไปไม่รู้ ชนิดที่ขาเที่ยว(ไทย)ทั้งหลายต้องหาโอกาสไปให้ได้สักครั้ง(หรือหลายๆครั้ง)ในชีวิต แต่มีข้อแม้ว่าต้องไปให้ถูกที่ ถูกทาง ถูกจังหวะ ถูกเวลา ก็จะได้รับความประทับใจอิ่มเอมปรีดากลับไป
ด้วยเหตุนี้ การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย(ททท.) จึงคัดเลือกแหล่งท่องเที่ยวอันโดดเด่นเหล่านั้นมานำเสนอนักท่องเที่ยวภายใต้แคมเปญ(ใหม่) “12 เดือน 7 ดาว 9 ตะวัน” เพื่อเชิญชวนให้คนไทยเที่ยวไทยมากขึ้น และเป็นการช่วยกระตุ้นเศรษฐกิจของประเทศไปในตัว
“12 เดือน 7 ดาว 9 ตะวัน” มหัศจรรย์เมืองไทย
สำหรับแคมเปญนี้ นายวีระศักดิ์ โควสุรัตน์ ประธานกรรมการการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) เปิดเผยว่า ผลกระทบจากภาวะเศรษฐกิจโลกในปัจจุบันได้สร้างความเสียหายต่ออุตสาหกรรมการท่องเที่ยวของประเทศไทย โดยเฉพาะนักท่องเที่ยวชาวต่างชาติได้ชะลอการเดินทางเข้ามาในประเทศไทย ส่วนนักท่องเที่ยวชาวไทยก็มีการวางแผนการเดินทางที่ประหยัดมากขึ้น เช่น ลดการท่องเที่ยว เลือกเดินทางท่องเที่ยวแบบไม่พักค้างคืน ท่องเที่ยวในระยะใกล้ ฯลฯ จึงส่งผลกระทบต่อผู้ประกอบธุรกิจท่องเที่ยวและภาคบริการที่เกี่ยวข้องมาอย่างต่อเนื่อง
“ดังนั้นเพื่อเป็นการส่งเสริมการท่องเที่ยวภายในประเทศให้กลับฟื้นคืนสภาวะปกติ ททท. จึงได้ดำเนินโครงการ “12 เดือน 7 ดาว 9 ตะวัน” โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อกระตุ้นและสร้างกระแสให้คนไทยเล็งเห็นถึงความสำคัญของการท่องเที่ยว ที่สามารถเดินทางท่องเที่ยวไปเยือนแหล่งท่องเที่ยวที่ปรากฏในโครงการฯ ได้ต่อเนื่องตลอดทั้งปี และเป็นการกระจายรายได้จากการท่องเที่ยวสู่ทุกภูมิภาคทั่วประเทศ” นายวีระศักดิ์กล่าว
ด้าน นางจุฑาพร เริงรณอาษา รองผู้ว่าการด้านสื่อสารการตลาด ททท. กล่าวว่า ททท. ได้จัดทำหนังสือเพื่อเป็นคู่มือสำหรับนักท่องเที่ยวที่จะใช้ในการเดินทางพร้อมรายละเอียดของเส้นทางเพื่ออำนวยความสะดวกให้กับนักท่องเที่ยว และเป็นคู่มือแนะนำในการเลือกเดินทางท่องเที่ยว เนื่องจากมีแหล่งท่องเที่ยวบางแห่งที่นักท่องเที่ยวคุ้นเคย และได้ยินชื่อเสียงของความงดงามอยู่แล้ว แต่ยังไม่ทราบว่าในแหล่งท่องเที่ยวดังกล่าว จุดไหนเป็นจุดที่ดีที่สุด และช่วงเวลาไหนที่เป็นช่วงเวลาที่สวยที่สุดของแหล่งท่องเที่ยวนั้นๆ อาทิ
ในเดือนมิถุนายนนี้นักท่องเที่ยวที่ชื่นชอบความงามของทุ่งหญ้าและธรรมชาติต้องไม่พลาดที่จะไปเที่ยวทุ่งแสลงหลวง จังหวัดพิษณุโลก ทุ่งหญ้าที่คนไทยทุกคนรู้ว่าเป็นทุ่งหญ้าสะวันนาสีทองที่สวยที่สุดในโลก แต่ยังไม่มีใครทราบว่าในเดือนนี้ ทุ่งหญ้าสีทองแห่งนี้จะกลายมาเป็นทุ่งหญ้าสีเขียวขจีประดุจผืนพรมธรรมชาติ ที่แซมไปด้วยดอกกระเจียวขาวแทงชูช่อออกมาเป็นระยะๆ และทุ่งหญ้าแห่งนี้ยังเป็นเส้นทางขี่จักรยานที่แวดล้อมไปด้วยธรรมชาติที่ดีที่สุดแห่งหนึ่งของเมืองไทย โดยช่วงเวลาที่ดีที่สุดและสวยที่สุดของสถานที่แห่งนี้ คือ ช่วงเช้าตรู่ (ประมาณ 07.00 น.)
ตามรอย “12 เดือน 7 ดาว 9 ตะวัน”
อนึ่งนิยามของคำว่า “12 เดือน 7 ดาว 9 ตะวัน”นั้น แบ่งเป็น 3 ส่วน ประกอบด้วย
“12 เดือน” คือ ปรากฏการณ์ธรรมชาติสุดยอดมุมมองของการท่องเที่ยว ที่ถูกคัดสรรว่าสวยที่สุด น่าดูที่สุด ที่ครั้งหนึ่งในชีวิตต้องไปสัมผัส โดยมีแนวคิดมาจากการได้ไปชื่นชมแหล่งท่องเที่ยวในตำแหน่งและในช่วงเวลาที่สวยงามที่สุด โดย ททท.ได้คัดเลือกแหล่งท่องเที่ยวซึ่งจะปรากฏความงามออกมาให้ดูได้เฉพาะในแต่ละเดือนตามปีปฏิทินเดือนละ 2 แห่ง ให้นักท่องเที่ยวสามารถเลือกเดินทางได้ตลอดปีทั้ง 12 เดือน
“7 ดาว” หมายถึง ความมหัศจรรย์แห่งความสวยงามที่เกิดขึ้นยามค่ำคืนที่น่าสนใจที่สุด
“9 ตะวัน” คือ สุดยอดแห่งปรากฏการณ์ภาคกลางวัน ที่ความงดงามได้ปรากฏให้ได้เห็น หากพลาดในปีนี้ ก็คงต้อง ณ เวลานี้ในปีถัดไป จึงนับได้ว่าเป็นการสร้างกระแสการท่องเที่ยวรูปแบบใหม่ เพื่อให้คนไทยตื่นตัวที่จะออกมาท่องเที่ยวกันมากขึ้น
สำหรับ แหล่งท่องเที่ยวและเทศกาลงานประเพณี ในแคมเปญ “12 เดือน 7 ดาว 9 ตะวัน” มีดังนี้
...12 เดือน
มกราคม : ชมซากุระเมืองไทยหรือดอกนางพญาเสือโคร่งที่ จ.เชียงใหม่ อาทิ บ้านขุนช่างเคี่ยน หรือ ดอยขุนแม่ยะ ดูนกที่บึงบอระเพ็ด จ.นครสวรรค์
กุมภาพันธ์ : ชมดอกชมพูภูคาแห่งเดียวในโลกบานที่ ดอยภูคา จ.น่าน ชมดอกทองกวาวบานนับพันต้นที่ อ.ดอกคำใต้ จ.พะเยา
มีนาคม : ชมแหล่งปะการังน้ำตื้นสวยที่สุดในเมืองไทย สัมผัสปลาการ์ตูนอย่างใกล้ชิด และสีสันโลกแห่งท้องทะเลอันงดงามที่ หมู่เกาะสุรินทร์ จ.พังงา สัมผัสความมหัศจรรย์ของป่าเกาะและสระน้ำในทะเลที่เกาะห้อง ทะเลกระบี่ จ.กระบี่
เมษายน : ชมแก่งสามพันโบก มหัศจรรย์ภูผาใต้มหานทีแห่งลำน้ำโขง จ.อุบลราชธานี ตระการตากับผีเสื้อจำนวนมากในผืนป่าแก่งกระจาน ป่าใหญ่ใกล้กรุง จ.เพชรบุรี
พฤษภาคม : สัมผัสเสน่ห์ป่าภูเขียว จ.ชัยภูมิ ชมฝูงกระทิงกลางป่ารอยต่อ 5 จังหวัด ณ คลองปลากั้ง เขาใหญ่
มิถุนายน : ชมผืนพรมแห่งทะเลหญ้าเขียวขจีที่ทุ่งแสลงหลวง จ.พิษณุโลก ชมเปราะภูในสายหมอกที่แปกดำ ภูหลวง จ.เลย
กรกฎาคม : สัมผัสความงามทุ่งดอกกระเจียวบานในม่านฝนที่ จ.ชัยภูมิ เที่ยวภูหินร่องกล้า มหัศจรรย์ลานหินแตก น้ำตกหมันแดง จ.พิษณุโลก
สิงหาคม : ปีนภูสอยดาวดูทะเลดอกไม้ในป่าสน จ.อุตรดิตถ์ ชมทุ่งหญ้าข้าวก่ำ ผาเดียวดาย มรดกโลกใกล้กรุงที่ป่าเขาใหญ่ จ.นครราชสีมา
กันยายน : ท่องป่าดึกดำบรรพ์บนดอยอินทนนท์ จ.เชียงใหม่ เฝ้าชมฝูงเหยี่ยวอพยพหนึ่งเดียวในเมืองไทยที่ จ.ชุมพร
ตุลาคม : ท่องทุ่งดอกไม้ป่าบานบนพลาญหิน ที่อุทยานฯผาแต้ม จ.อุบลราชธานี ล่องแก่งผจญภัยในลำน้ำว้า ที่สุดแห่งการล่องแก่งเมืองไทย
พฤศจิกายน : ละลานตาไปกับทุ่งดอกบัวตองบนดอยแม่อูคอ จ.แม่ฮ่องสอน ล่องสายน้ำชมทุ่งพลับพลึงธารหนึ่งเดียวในไทย จ.ระนอง
ธันวาคม : สัมผัสเสน่ห์ภูกระดึง จ.เลย ล่องแก่งถ้ำเจ็ดคต เที่ยวเกาะตะรุเตาอันงดงาม จ.สตูล
...7 ดาว
- งานจองพารา เทศกาลปอยเหลิน 11 วันออกพรรษา จ.แม่ฮ่องสอน
- นอนนับดาวที่มอหินขาว สโตเฮนจ์เมืองไทย จ.ชัยภูมิ
- เที่ยวพิพิธภัณฑ์มังกร จ.สุพรรณบุรี
- ชมพระจันทร์ขึ้นกลางอ่าว จ.ประจวบคีรีขันธ์
- เที่ยวเทศกาลไหลเรือไฟ จ.นครพนม
- เที่ยวเทศกาลแห่ดาว คริสมาสต์ จ.สกลนคร
- ท่องราตรีกรุงเก่า จ.พระนครศรีอยุธยา
...9 ตะวัน
- เวียนเทียนกลางน้ำกว๊านพะเยา จ.พะเยา
- มหัศจรรย์รุ้งกินน้ำที่น้ำตกมีลอจ่อ ทีลอซู และทีลอเร จ.ตาก
- ตระการตาปราสาทหินพนมรุ้ง จ.บุรีรัมย์
- รับตะวันก่อนใครในสยามริมแม่น้ำโขงและแม่น้ำสี จ.อุบลราชธานี
- เพลิดเพลินไปกับความมหัศจรรย์ของถ้ำมรกต จ.ตรัง
- เที่ยวแหลมพรหมเทพ หนึ่งในจุดชมพระอาทิตย์ตกที่ได้ชื่อว่าสวยที่สุดในเมืองไทย
- ชมพระอาทิตย์ตกจากในถ้ำหนึ่งเดียวในไทยที่ถ้ำพระนาง จ.กระบี่
- ชมทะเลหมอกและพระอาทิตย์ขึ้นที่กิ่วลม ดอยแม่ระเมิง จ.ตาก
- ชมแสงส่องลอดช่องกระทบพลับพลา ที่ถ้ำพระยานคร จ.ประจวบคีรีขันธ์
และนั่นก็เป็น แหล่งท่องเที่ยว เทศกาลงานประเพณี ต่างๆใน “12 เดือน 7 ดาว 9 ตะวัน” ที่ใครอยากไปสัมผัสก็หาวันเวลาที่เหมาะสมเดินทางไปเที่ยวชมกันได้ แล้วก็จะพบว่าเสน่ห์เมืองไทยนั้น ต้องไปถึงจะรู้
****************************************
แคมเปญ “12 เดือน 7 ดาว 9 ตะวัน” ได้จัดพิมพ์หนังสือคู่มือออกมาจำนวน 180,000 เล่ม ซึ่งผู้สนใจสามารถติดต่อขอรับฟรีได้ที่สำนักงาน ททท. ทั่วประเทศ ตั้งแต่วันที่ 15 มิ.ย. 52 เป็นต้นไป โดยสามารถสอบถามข้อมูลได้ที่ Call Center 1672