ททท.-เอกชนท่องเที่ยว เสียงแตก มองผลกระทบวิกฤตแฮมเบอร์เกอร์ต่างกัน “เจริญ” ฉะ ททท. อย่ามองแต่แง่บวก เตรียมรับมือ ระบุสัญญาณผลกระทบ ส่อแววยอดจองล่วงหน้าทั้งตั๋วเครื่องบินและห้องพักไม่กระเตื้อง
ศูนย์ปฎิบัติการวางแผนการท่องเที่ยวและศูนย์ปฎิบัติการในภาวะวิกฤต(ศวก.) ได้จัดประชุมระหว่างการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย(ททท.)กับภาคเอกชนด้านท่องเที่ยวเพื่อรวบรวมข้อมูลและประเมินผลกระทบจากวิกฤตทางการเงินที่เกิดขึ้นในประเทศสหรัฐอเมริกา ในวันที่ 6 ต.ค.51 โดยนางพรศิริ มโนหาญ ผู้ว่าการททท. กล่าวว่า ในระยะใกล้ยังไม่กระทบต่อการท่องเที่ยวของประเทศไทย
โดยหลายตลาดเที่ยวบินเช่าเหมาลำ(ชาร์เตอร์ไฟล์ท)เพิ่มขึ้น เช่น รัสเซีย มีเที่ยวบินเช่าเหมาลำ(ชาร์เตอร์ไฟล์ท) ที่จะเดินทางเข้าประเทศไทยช่วงไฮซีซั่นปีนี้ ยาวไปถึงเดือนเมษายนปีหน้า รวมแล้วมากกว่าปีก่อนเกือบ 100% โดยมีจำนวนที่นั่งรวมแล้วประมาณ 1.9 แสนที่นั่งใน 812 เที่ยวบิน จากปีก่อนประมาณ 1.3 แสนที่นั่ง หรือ 446 เที่ยวบิน ส่วนตลาดสแกนดิเนเวีย ชาร์เตอร์ไฟล์ทลดลงกว่าปีก่อนเล็กน้อยประมาณ 5-6% ปีก่อน 652 ไฟล์ท ปีนี้ 640 ไฟล์ท สวิสเซอร์แลนด์ 62 ไฟล์ท ปีก่อน 24 ไฟล์ท และ กลุ่มบอลติก ปีนี้ 25 ไฟล์ท ปีก่อน 15 ไฟล์ท จึงมั่นใจปีนี้ ททท.จะทำได้ตามเป้าหมายคือนักท่องเที่ยวต่างชาติ 15.48 ล้านคน รายได้ 6 แสนล้านบาท
ขณะที่ผลกระทบระยะยาวหรือปีหน้า เมื่อประเมินจากสถานการณ์ของวิกฤตสหรัฐในขณะนี้ก็ยังไม่น่ากังวลมาก เพราะแผนงานที่ ททท.ได้ปฎิบัติมาตั้งแต่ปีก่อน เช่น การขยายฐานนักท่องเที่ยวไปยังกลุ่มไฮเอนด์และการเปิดตลาดใหม่จะช่วยให้ผลกระทบที่จะเกิดขึ้นกับประเทศไทยเบาลง
ททท.จะติดตามสถานการณ์อย่างใกล้ชิด เพื่อใช้เป็นข้อมูลในการปรับกลยุทธ์ทางการตลาด แต่เบื้องต้น ททท.รุกตลาดที่ได้รับผลกระทบน้อยจากวิกฤตแฮมเบอร์เกอร์ของสหรัฐ เช่น ตลาดอาเซียน จีน อินเดีย สแกนดิเนเวีย และ ตะวันออกกลาง
“ททท.ยังมั่นใจ เพราะตัวเลขนักท่องเที่ยว 7 เดือนแรกปีนี้ นักท่องเที่ยวรวมจากทุกด่าน ยังเป็นบวก 12.65 หรือมีจำนวน 9,147,695 คน โดยตลาดที่มีปัญหาอย่างภูมิภาคอเมริกา 7 เดือนแรก มีจำนวนรวม 580,629 คน เพิ่มจากปีก่อน 10.16% ตลาดยุโรป 2,496,177 เพิ่มขึ้น 8.93%”
เอกชนจี้ททท.รับความจริง
นายเจริญ วังอนานนท์ โฆษกสหพันธ์สมาคมท่องเที่ยวไทย(เฟาต้า) กล่าวว่า ภาคเอกชนมองต่างจาก ททท. ทั้งนี้เพราะมั่นใจว่า ผลกระทบจากวิกฤตเศรษฐกิจสหรัฐ จะกระทบกับภาคท่องเที่ยวของประเทศไทยแน่นอน เช่น ยอดจองล่วงหน้าชะลอตัวลงอย่างเห็นได้ชัด จากทุกปีช่วงนี้ จะมียอดจองราว 60-70% ของจำนวนห้องพัก ล่าสุดจากการสอบถาม สมาคมท่องเที่ยว จ.กระบี่ พบว่า สถานการณ์ค่อนข้างย่ำแย่ ยอดจองมีเพียงเล็กน้อย
“วิกฤตครั้งนี้จะกระทบประเทศไทยแน่นอนตั้งแต่ปลายปีนี้ เพราะ ตัวเลขยอดจองตั๋วเครื่องบินล่วงหน้าของการบินไทย ช่วงปลายปีนี้ที่ติดลบจากปีก่อนถึง 15% ส่วนการเช็คยอดการจองล่วงหน้าในระบบการจอง ก็ลดลงจากปีก่อนถึง 18% การเดินทางของคนไทยไปต่างประเทศก็ลดลงเกือบ 50%”
ดังนั้นจึงต้องการให้หน่วยงานรัฐ และ ททท. มองข้อเท็จจริงที่เกิดขึ้น เพื่อเตรียมปรับกลยุทธ์แก้ไข ก่อนที่ผลกระทบจะเกิดขึ้น ขณะนี้ มองว่ารัฐกับเอกชนยังมองกันคนละมุม เราควรมาวิเคราะห์ว่า มีปัญหาอะไรบ้าง และ ควรจะแก้ไขอย่างไร
นายเจริญ กล่าวว่า เฟสต้าจะนำปัญหาที่เกิดขึ้นหารือกับสมาชิกในวันศุกร์นี้ ก่อนยื่นหนังสือขอหารือนอกรอบกับ ททท. และ กระทรวงการท่องเที่ยวฯ เพื่อระดมความคิด หาก ททท.คิดเพียงว่า ขยายฐานนักท่องเที่ยวสู่กลุ่มไฮเอนด์แล้ว ก็ต้องคิดว่าปัจจุบันฐานนักท่องเที่ยวส่วนใหญ่ยังเป็นตลาดระดับกลาง ส่วนระดับไฮเอนด์มีไม่ถึง 10% ขณะที่ประเทศที่ได้รับผลวิกฤตแฮมเบอร์เกอร์ครั้งนี้คือ สหรัฐและยุโรป ซึ่งมีสัดส่วนกับรายได้ของอุตสาหกรรมท่องเที่ยวของประเทศไทยเกือบ 50% ดังนั้นมั่นใจ สิ้นปีนักท่อเที่ยวติดลบหรืออย่างดีก็เท่ากับปีก่อนคือ 14.8 ล้านคนก็ถือว่า ททท.ทำได้เก่งมากแล้ว