ททท.พึ่งตลาดคนไทยฟื้นท่องเที่ยวช่วงไฮซีซั่น ชูกลยุทธ์ เซเรบริตี้ มาร์เก็ตติ้ง หวังผลระยะยาวดึงนักท่องเที่ยวต่างชาติได้ถึงไฮซีซั่นปีหน้า พร้อมเข็นสโลแกน อะเมซิ่งไทยแลนด์ อะเมซิ่งแวลูร์ เปิดตัวในงาน WTM ยันสิ้นปี นักท่องเที่ยวต่างชาติได้ตามเป้าหมาย 15.48 ล้านคน มีรายได้ 6 แสนล้านบาท
นายวันชัย ศารทูลทัต ประธานคณะกรรมการบริหาร การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย(บอร์ท ททท.) เปิดเผยว่า ในเดือนตุลาคมปีนี้ ททท.เตรียมเปิดตัวแคมเปญใหญ่ ภายใต้สโลแกนเที่ยวไทยครึกครื้น เศรษฐกิจไทยคึกคัก โดยหวังจะให้คนไทยออกเดินทางท่องเที่ยวภายในประเทศ ช่วงไฮซีซั่นปีนี้ เพื่อต้องการให้ภาพคนไทยที่ท่องเที่ยว มาตอกย้ำให้ต่างชาติเกิดความเชื่อมั่นในประเทศไทย ว่ายังสามารถเดินทางท่องเที่ยไวด้เป็นปกติ และการท่องเที่ยวของคนไทย จะเข้ามาเสริมตลาดนักท่องเที่ยวต่างชาติ ที่อาจน้อยลงกว่าทุกปีในบางตลาด
"หลังจากที่คนไทยเครียดกับปัญหาทางการเมืองมาโดยตลอด จึงต้องการกระตุ้นให้คนไทยออกมเที่ยวครายเครียด โดย ททท.จะร่วมกับภาคเอกชนด้านท่องเที่ยว จัดเป็นกิจกรรมใหญ่ กระตุ้นคนไทยทั้งประเทศให้ท่องเที่ยว"
***ใช้เวทีWTMชูสโลแกนอะเมซิ่งแวลูร์***
สำหรับตลาดต่างประเทศ เตรียมเปิดตัวสโลแกน อะเมซิ่งไทยแลนด์ อะเมซิ่งแวลูร์ ในงาน เวิลด์ ทราเวลมาร์ท(WTM) ที่กรุงลอนดอนประเทศอังกฤษ นำเสนอว่ามาเที่ยวประเทศไทยจะคุ้มค่ากับเงินที่จ่ายไป ซึ่งคำว่าแวลูร์ ไม่ใช่แปลว่าของถูกเสมอไป แต่แปลว่าคุ้มค่า ซึ่งจะสอดคล้องกับสถานการณ์เศรษฐกิจโลก ในยุคราคาน้ำมันแพง
อย่างไรก็ตาม ในวันที่ 8-15 ต.ค.นี้ ที่ ททท. ร่วมกับพันธมิตร เช่น การบินไทย สมาคมโรงแรมไทย ภาคเอกชนท่องเที่ยวและหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง จัดเมกกะแฟมทริป ครั้งใหญ่สุดเท่าที่ททท.เคยจัดมา โดยล่าสุด มีการตอบรับจากสื่อมวลชน และบริษัทนำเที่ยว มากว่า 965 คน จาก 50 ประเทศ ซึ่งมากกว่าที่ตั้งเป้าไว้ว่าจะมีผู้เดินทางมาร่วมงานราว 800 คน งานนี้ ททท.ใช้งบ 50 ล้านบาท ขณะที่การบินไทยสนับสนุนตั๋วเครื่องบิน และ โรงแรมช่วยเรื่องที่พัก
"เมกกะแฟมทริปนี้ ททท.จัดนำเที่ยวใน 28 เส้นทาง ทั้งภาคเหนือ อีสาน และ ใต้ โดย ระยะสั้น จะช่วยกระตุ้นตลาดระยะใกล้ ที่ตัดสินใจ ได้เร็วให้เดินทางมาช่วงปลายปี เช่น จีน เกาหลี เวียดนาม ฮ่องกง สิงคโปร์ และญี่ปุ่น เป็นต้น นอกจากนั้น ในระยะยาว จะช่วยกระตุ้นตลาดต่อเนื่องไปถึงไฮซีซั่นปีหน้า "
***ใช้เซเรบริตี้ชวนคนไทยเที่ยว***
ทางด้านนางพรศิริ มโนหาญ ผู้ว่าการการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย(ททท.) กล่าวว่า จะใช้หลักเซเรบริตี้มาร์เก็ตติ้ง โดยนำบุคคลที่มีชื่อเสียงเป็นที่รู้จักและชื่นชอบของคนไทย มาเป็นพรีเซ็นเตอร์ เชิญชวนคนไทยให้ท่องเที่ยว โดยจับมือกับสมาคมธุรกิจท่องเที่ยวภายในประเทศ(สทน.)นำเสนอ 25 เส้นทางท่องเที่ยว
สำหรับตลาดต่างประเทศ ยังยืนยันว่าถึงสิ้นปี จะได้จำนวนนักท่องเที่ยวตามเป้าหมายคือ 15-48 ล้านคน สร้างรายได้ เข้าประเทศ 6 แสนล้านบาท ทั้งนี้เพราะ จากการเร่งชี้แจงข้อเท็จจริง ในเวทีต่างๆ ที่ไปโนดโชว์ และเทรดโชว์ ทุกประเทศเริ่มเข้าใจประเทศไทยดีขึ้น ขณะที่ 6 เดือนแรกปีนี้ ตัวเลขนักท่องเที่ยวเพิ่มจากปีก่อนกว่า 14 % ขณะที่ช่วง 15 วัน ที่การเมืองไทยวุ่นวายและ ประกาศ พ.ร.ก.ฉุกเฉิน มีนักท่องเที่ยวลดไปเพียง 7 หมื่นคนเศษ ขณะนี้สถานการณ์สู่ภาวะปกติ จึงไม่น่าเป็นห่วงแล้ว
นายวันชัย ศารทูลทัต ประธานคณะกรรมการบริหาร การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย(บอร์ท ททท.) เปิดเผยว่า ในเดือนตุลาคมปีนี้ ททท.เตรียมเปิดตัวแคมเปญใหญ่ ภายใต้สโลแกนเที่ยวไทยครึกครื้น เศรษฐกิจไทยคึกคัก โดยหวังจะให้คนไทยออกเดินทางท่องเที่ยวภายในประเทศ ช่วงไฮซีซั่นปีนี้ เพื่อต้องการให้ภาพคนไทยที่ท่องเที่ยว มาตอกย้ำให้ต่างชาติเกิดความเชื่อมั่นในประเทศไทย ว่ายังสามารถเดินทางท่องเที่ยไวด้เป็นปกติ และการท่องเที่ยวของคนไทย จะเข้ามาเสริมตลาดนักท่องเที่ยวต่างชาติ ที่อาจน้อยลงกว่าทุกปีในบางตลาด
"หลังจากที่คนไทยเครียดกับปัญหาทางการเมืองมาโดยตลอด จึงต้องการกระตุ้นให้คนไทยออกมเที่ยวครายเครียด โดย ททท.จะร่วมกับภาคเอกชนด้านท่องเที่ยว จัดเป็นกิจกรรมใหญ่ กระตุ้นคนไทยทั้งประเทศให้ท่องเที่ยว"
***ใช้เวทีWTMชูสโลแกนอะเมซิ่งแวลูร์***
สำหรับตลาดต่างประเทศ เตรียมเปิดตัวสโลแกน อะเมซิ่งไทยแลนด์ อะเมซิ่งแวลูร์ ในงาน เวิลด์ ทราเวลมาร์ท(WTM) ที่กรุงลอนดอนประเทศอังกฤษ นำเสนอว่ามาเที่ยวประเทศไทยจะคุ้มค่ากับเงินที่จ่ายไป ซึ่งคำว่าแวลูร์ ไม่ใช่แปลว่าของถูกเสมอไป แต่แปลว่าคุ้มค่า ซึ่งจะสอดคล้องกับสถานการณ์เศรษฐกิจโลก ในยุคราคาน้ำมันแพง
อย่างไรก็ตาม ในวันที่ 8-15 ต.ค.นี้ ที่ ททท. ร่วมกับพันธมิตร เช่น การบินไทย สมาคมโรงแรมไทย ภาคเอกชนท่องเที่ยวและหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง จัดเมกกะแฟมทริป ครั้งใหญ่สุดเท่าที่ททท.เคยจัดมา โดยล่าสุด มีการตอบรับจากสื่อมวลชน และบริษัทนำเที่ยว มากว่า 965 คน จาก 50 ประเทศ ซึ่งมากกว่าที่ตั้งเป้าไว้ว่าจะมีผู้เดินทางมาร่วมงานราว 800 คน งานนี้ ททท.ใช้งบ 50 ล้านบาท ขณะที่การบินไทยสนับสนุนตั๋วเครื่องบิน และ โรงแรมช่วยเรื่องที่พัก
"เมกกะแฟมทริปนี้ ททท.จัดนำเที่ยวใน 28 เส้นทาง ทั้งภาคเหนือ อีสาน และ ใต้ โดย ระยะสั้น จะช่วยกระตุ้นตลาดระยะใกล้ ที่ตัดสินใจ ได้เร็วให้เดินทางมาช่วงปลายปี เช่น จีน เกาหลี เวียดนาม ฮ่องกง สิงคโปร์ และญี่ปุ่น เป็นต้น นอกจากนั้น ในระยะยาว จะช่วยกระตุ้นตลาดต่อเนื่องไปถึงไฮซีซั่นปีหน้า "
***ใช้เซเรบริตี้ชวนคนไทยเที่ยว***
ทางด้านนางพรศิริ มโนหาญ ผู้ว่าการการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย(ททท.) กล่าวว่า จะใช้หลักเซเรบริตี้มาร์เก็ตติ้ง โดยนำบุคคลที่มีชื่อเสียงเป็นที่รู้จักและชื่นชอบของคนไทย มาเป็นพรีเซ็นเตอร์ เชิญชวนคนไทยให้ท่องเที่ยว โดยจับมือกับสมาคมธุรกิจท่องเที่ยวภายในประเทศ(สทน.)นำเสนอ 25 เส้นทางท่องเที่ยว
สำหรับตลาดต่างประเทศ ยังยืนยันว่าถึงสิ้นปี จะได้จำนวนนักท่องเที่ยวตามเป้าหมายคือ 15-48 ล้านคน สร้างรายได้ เข้าประเทศ 6 แสนล้านบาท ทั้งนี้เพราะ จากการเร่งชี้แจงข้อเท็จจริง ในเวทีต่างๆ ที่ไปโนดโชว์ และเทรดโชว์ ทุกประเทศเริ่มเข้าใจประเทศไทยดีขึ้น ขณะที่ 6 เดือนแรกปีนี้ ตัวเลขนักท่องเที่ยวเพิ่มจากปีก่อนกว่า 14 % ขณะที่ช่วง 15 วัน ที่การเมืองไทยวุ่นวายและ ประกาศ พ.ร.ก.ฉุกเฉิน มีนักท่องเที่ยวลดไปเพียง 7 หมื่นคนเศษ ขณะนี้สถานการณ์สู่ภาวะปกติ จึงไม่น่าเป็นห่วงแล้ว