ศูนย์ข่าวศรีราชา -ททท.พัทยา มั่นใจไฮซีซันจะไม่เงียบเหงา บริษัททัวร์ใหญ่ในรัสเซีย ส่งสัญญาณคืนนักท่องเที่ยวให้พัทยา หลังกำไรหดจากการส่งนักท่องเที่ยวรัสเซียไปภูเก็ต เพราะค่าใช้จ่ายสูงกว่า ขณะที่หากเลิกพ.ร.ก.ฉุกเฉิน กลุ่มยุโรปและเอเชียกลับมาเหมือนเดิม แต่กลุ่มสัมมนาคนไทยหด ต้องเร่งปรับแผนส่งเสริมใหม่ ด้วยการรุกเปิดตลาดทั่วไทยและลดการเปิดบูทในต่างประเทศ เพื่อประหยัดงบประมาณ
นายนิติ คงกรุต ผู้อำนวยการ สำนักงานการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย ภาคกลางเขต 3(พัทยา) เผยถึงสถานการณ์การท่องเที่ยวของเมืองพัทยาในช่วงไฮซีซัน ที่จะเริ่มตั้งแต่เดือนตุลาคมปีนี้จนถึงเดือนมีนาคมปีหน้าว่า การกลับมาของตลาดรัสเซียเริ่มเห็นภาพชัดเจนขึ้น ผู้ประกอบการท่องเที่ยวรายใหญ่ได้ส่งสัญญาณ ที่จะทำตลาดท่องเที่ยวในเมืองพัทยามากขึ้น หลังปีที่ผ่านมาได้โหมทำตลาดท่องเที่ยวในจังหวัดภูเก็ต แต่ก็พบว่าต้นทุนการเข้าพักและการเดินทางท่องเที่ยวสูงกว่าเมืองพัทยาเกือบเท่าตัว จนทำให้ผลกำไรทางธุรกิจลดน้อยลง
ที่สำคัญเมื่อดูจากพฤติกรรมนักท่องเที่ยวกลุ่มรัสเซีย ยังพบว่าในปีนี้นักท่องเที่ยวมีความต้องการที่จะเดินทางท่องเที่ยวในเมืองพัทยา – เกาะช้าง-ลาว-เขมร โดยจะใช้เมืองพัทยา เป็นศูนย์กลางการเดินทางทั้งขาไปและกลับ
“เท่าที่ได้พูดคุยกับบริษัททัวร์รายใหญ่ในรัสเซีย ทำให้มั่นใจว่า เขาจะรุกตลาดภูเก็ตน้อยลง โดยจะส่งเฉพาะนักท่องเที่ยวกระเป๋าหนักเข้าไป แต่นักท่องเที่ยวส่วนใหญ่จะส่งมาที่พัทยา เพราะค่าใช้จ่าย ถูกกว่า ซึ่งกลุ่มนี้ เราจะถูกเกาะช้างแชร์ไปบ้างแต่ก็คงไม่มากนัก ไฮซีซันปีนี้เราไม่ค่อยห่วงตลาดยุโรป เพราะเมื่อเลิกพ.ร.ก.ฉุกเฉินแล้วเขาจะกลับมา ซึ่งในสัปดาห์หน้าจะรอดูว่ายอดจองที่ชะงักไปจะกลับมาเท่าไร แต่ที่ห่วงมาก คือ ตลาดคนไทยโดยเฉพาะกลุ่มสัมมนา ที่ถือเป็นเส้นเลือดใหญ่หายไปเลยตั้งแต่มีการประกาศ พ.ร.ก.ฉุกเฉิน เพราะกลัวว่าหากออกมาสัมมนาในต่างจังหวัดแล้วจะกลับเข้ากรุงเทพฯไม่ได้”
ขณะที่ตลาดเอเชีย โดยเฉพาะ จีน ไต้หวัน ฮ่องกง และสิงคโปร์ พบว่าได้ยกเลิกการจองตั้งแต่รัฐบาลประกาศ พ.ร.ก.ฉุกเฉิน แต่จากการตรวจสอบพฤติกรรมการท่องเที่ยวของนักท่องเที่ยวกลุ่มนี้พบว่า อีกไม่นานจะกลับมาและแม้ตลาดเอเชียจะอ่อนไหวต่อสถานการณ์ต่างๆ แต่เมื่อแล้วเห็นว่าไม่มีอะไรก็จะกลับมาทันทีเช่นกัน
นายนิติ ยังเผยถึงการเตรียมปรับแผนตลาดครั้งใหญ่ในช่วงปลายปีจนถึงปีหน้าของ ททท.พัทยา เพื่อปรับเป้าตัวเลขนักท่องเที่ยวไทยให้เพิ่มมากขึ้นว่า ในเร็วๆ นี้จะมีการประชุมร่วมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ทั้ง สมาคมนักธุรกิจและการท่องเที่ยวเมืองพัทยา สมาคมโรงแรมไทยภาคตะวันออก และองค์การบริหารส่วนจังหวัดชลบุรี เพื่อเร่งเปิดตลาดนักท่องเที่ยวในประเทศให้ทั่วถึง และลดการเดินทางไปเปิดบูทในประเทศแถบยุโรป เพื่อประหยัดงบประมาณ ส่วนตลาดเอเชีย จะใช้วิธีประชาสัมพันธ์ด้วยรูปแบบโฆษณาแทนการเดินทางไปเปิดบูท โดยคาดว่าน่าจะได้ผลตอบรับที่ดีไม่แพ้กัน
“ถ้าถามว่าตลาดนักท่องเที่ยวของพัทยาตกหรือไม่ ก็ต้องบอกว่าตกมาตั้งแต่มีสถานการณ์ทางการเมือง เพราะภาพที่เผยแพร่ออกไปในสื่อต่างชาติ มันไม่ใช่ภาพที่นักท่องเที่ยวต่างชาติมาชอปปิ้ง ที่บริเวณการชุมนุมของกลุ่มพันธมิตรฯ แต่กลายเป็นภาพการถือมีดถือปืนเข้าหากัน ซึ่งตลาดเอเชียที่มีประมาณ 50% หายไปเลย แต่ก็ยังโชคดีที่แนวโน้มการท่องเที่ยวในช่วงไฮซีซันจะกลับมาโดยเฉพาะตลาดยุโรปและรัสเซีย ” นายนิติ กล่าว
