บริษัท เอเชี่ยนฮอนด้า มอเตอร์ จำกัด เผยถึงยอดส่งออกสามผลิตภัณฑ์หลักของฮอนด้าประเทศไทย ซึ่งประกอบด้วยรถยนต์ รถจักรยานยนต์ และเครื่องยนต์อเนกประสงค์ ในช่วง 9 เดือนแรกของปี 2551 ว่ามีมูลค่ารวมทั้งสิ้น 80,989 ล้านบาท เพิ่มขึ้นถึง 11% โดยยอดส่งออกของไตรมาสที่ 3 มีมูลค่ารวมทั้งสิ้น 25,623 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 4% เมื่อเทียบกับไตรมาสเดียวกันของปีที่แล้ว
นายอดิศักด์ โรหิตะศุน รองประธานกรรมการบริหารอาวุโส บรัษัท เอเชี่ยนฮอนด้า มอเตอร์ จำกัด กล่าวว่า “การที่ยอดส่งออกของฮอนด้าในช่วง 9 เดือนของปี 2551 ยังคงขยายตัว 11% นั้น เป็นผลมาจากการแนะนำผลิตภัณฑ์ใหม่ๆออกสู่ตลาดอย่างต่อเนื่อง แต่เมื่อเทียบกับไตรมาสที่สองซึ่งมีอัตราการเติบโตสูงถึง 18% พบว่าการส่งออกมีแนวโน้มชะลอตัวลง เนื่องมาจากภาวะเศรษฐกิจโลกที่ยังประสบกับปัญหาต่างๆมากมาย ไม่ว่าจะเป็นวิกฤติทางการเงินในสหรัฐอเมริกาที่ส่งผลกระทบอย่างรุนแรงไปทั่วโลก การถดถอยของยอดจำหน่ายรถยนต์ขนาดใหญ่ในหลายประเทศซึ่งเป็นตลาดหลัก อีกทั้งความผันผวนของราคาน้ำมันและเงินเฟ้อ อย่างไรก็ตาม เรายังคาดการณ์ว่ามูลค่าส่งออกรวมของผลิตภัณฑ์ฮอนด้าในปี 2551 จะยังคงสูงกว่าปีที่แล้ว”
ในส่วนของรถยนต์สำเร็จรูปและชิ้นส่วนยังคงมีความต้องการอยู่อย่างต่อเนื่อง ส่งผลให้มูลค่าส่งออกรถยนต์สำเร็จรูปและชิ้นส่วนเพื่อการประกอบรถยนต์ของฮอนด้า ในช่วง 9 เดือนแรกของปี 2551 เพิ่มขึ้น 9% หรือมีมูลค่ารวมทั้งสิ้น 52,071 ล้านบาท โดยมีมูลค่าการส่งออกรถยนต์สำเร็จรูปทั้งสิ้น 31,776 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 5% อันเป็นผลมาจากการส่งออกรถยนต์ 5 รุ่น ได้แก่ ซิตี้ แจ๊ซ ซีวิค แอคคอร์ด และซีอาร์-วี ไปยังประเทศต่างๆกว่า 34 ประเทศทั่วโลก และมีมูลค่าการส่งออกชิ้นส่วนเพื่อการประกอบรถยนต์ทั้งสิ้น 20,295 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 17% โดยมีตลาดส่งออกที่สำคัญ ได้แก่ กลุ่มประเทศอาเซียน อินเดีย ปากีสถาน ไต้หวัน จีน ตุรกี และบราซิล
“นับแต่ปลายเดือนกันยายนที่ผ่านมา ฮอนด้าได้เริ่มส่งออกรถยนต์ฮอนด้าซิตี้รุ่นใหม่ไปยังประเทศสิงคโปร์ และเรายังมีแผนจะส่งออกไปยังตลาดใหม่ๆ เช่น ออสเตรเลีย เป็นต้น ทั้งนี้ บริษัทเชื่อมั่นว่า รถยนต์ฮอนด้าซิตี้ใหม่นี้จะได้รับการตอบรับที่ดีจากลูกค้าทั่วโลก เนื่องจากดีไซน์อันโดดเด่น เปี่ยมด้วยคุณภาพ ผนวกกับกระแสความต้องการรถยนต์ขนาดเล็กในขณะนี้” นายอดิศักดิ์ กล่าวสรุป
ส่วนรถจักรยานยนต์สำเร็จรูปและชิ้นส่วนเพื่อการประกอบรถจักรยานยนต์ในช่วงไตรมาสที่ 3 ของปี 2551 มีมูลค่าการส่งออกรวมทั้งสิ้น 5,492 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 12% จากช่วงเวลาเดียวกันของปีที่แล้ว โดยมีมูลค่าการส่งออกชิ้นส่วนเพื่อการประกอบรถจักรยานยนต์ 5,225 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 15% ซึ่งเป็นผลมาจากการขยายการผลิตในตลาดอาเซียน ทั้งนี้ เมื่อผนวกกับสองไตรมาสที่ผ่านมา มูลค่าส่งออกรถจักรยานยนต์สำเร็จรูปและชิ้นส่วนเพื่อการประกอบรถจักรยานยนต์ของฮอนด้าในช่วง 9 เดือนแรกของปี 2551 มีมูลค่ารวมทั้งสิ้น 17,184 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 10% จากช่วงเวลาเดียวกันปีที่แล้ว
สำหรับไตรมาสที่สามของปี 2551 ยอดส่งออกเครื่องยนต์อเนกประสงค์และชิ้นส่วนของฮอนด้ามีจำนวนทั้งสิ้น 398,594 เครื่อง ลดลง 1% คิดเป็นมูลค่าทั้งสิ้น 2,301 ล้านบาท ลดลง 4% ซึ่งเป็นผลมาจากการชะลอตัวของตลาดสหรัฐอเมริกา อย่างไรก็ตาม เมื่อผนวกกับสองไตรมาสที่ผ่านมา ยอดส่งออกเครื่องยนต์อเนกประสงค์และชิ้นส่วนในช่วง 9 เดือนแรกของปี 2551 มีจำนวนทั้งสิ้น 1,370,043 เครื่อง เพิ่มขึ้น 6% และมีมูลค่าทั้งสิ้น 7,887 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 2% จากช่วงเวลาเดียวกันปีที่แล้ว
นอกเหนือจากผลิตภัณฑ์ 3 กลุ่มหลักดังกล่าวข้างต้น ฮอนด้ายังได้ส่งออกชิ้นส่วนอะไหล่ อุปกรณ์ตกแต่ง และแม่พิมพ์จากประเทศไทยไปยังประเทศต่างๆทั่วโลก สำหรับไตรมาสที่ 3 การส่งออกชิ้นส่วนเหล่านี้มีอัตราการขยายตัวสูงถึง 85% หรือคิดเป็นมูลค่ารวมทั้งสิ้น 1,594 ล้านบาท โดยแม่พิมพ์มีอัตราการเติบโตสูงที่สุดมากกว่า 400% เมื่อผนวกกับสองไตรมาสที่ผ่านมา มูลค่าการส่งออกผลิตภัณฑ์ชิ้นส่วนอะไหล่ อุปกรณ์ตกแต่ง และแม่พิมพ์ ในช่วง 9 เดือนแรกของปี 2551 เพิ่มขึ้นถึง 71% หรือคิดเป็นมูลค่ารวมทั้งสิ้น 3,847 ล้านบาท ความสำเร็จดังกล่าวตอกย้ำถึงบทบาทที่สำคัญของประเทศไทยในฐานะศูนย์กลางการผลิตและส่งออกของฮอนด้าระดับภูมิภาคเอเชียและโอเชียเนีย
ฮอนด้าเริ่มส่งออกผลิตภัณฑ์จากประเทศไทยในปี 2530 และเมื่อสิ้นไตรมาสที่ 3 ของปี 2551 ฮอนด้าประเทศไทยได้ส่งออกผลิตภัณฑ์รถยนต์ รถจักรยานยนต์และเครื่องยนต์อเนกประสงค์ ไปจำหน่ายยังประเทศต่างๆ กว่า 80 ประเทศทั่วโลก รวมแล้วมีมูลค่าสะสมสูงถึง 531,418 ล้านบาท