xs
xsm
sm
md
lg

บางกอกแอร์เวย์ส เผยแผนอนาคต 3 ปี เป็นฮับการท่องเที่ยวอินโดจีน

เผยแพร่:   โดย: MGR Online


ปราเสริฐ ปราสาททองโอสถ ผู้อำนวยการสายการบินบางกอกแอร์เวย์ส และคณะผู้บริหารของสายการบิน ร่วมแถลงนโยบายที่จะนำบางกอกแอร์เวย์สก้าวขึ้นสู่การเป็นผู้นำในอาณาเขตน่านฟ้าลุ่มแม่น้ำโขงภายใน 3 ปีข้างหน้า เนื่องในโอกาสที่สายการบินบางกอกแอร์เวย์ส ฉลองครบรอบ 40 ปี

ผอ.สายการบินบางกอกแอร์เวย์ส ได้ตอกย้ำกลยุทธ์ของสายการบินที่จะมุ่งหวังที่จะเป็นหนึ่งในการบินครอบคลุมประเทศลุ่มแม่น้ำโขง 5 ประเทศ ได้แก่ ไทย พม่า ลาว กัมพูชา และเวียดนาม โดยบางกอกแอร์เวย์สจะร่วมกับ เสียมเรียบแอร์เวย์ส อินเตอร์เนชั่นแนล เปิดเส้นทางบินครอบคลุมพื้นที่ตอนเหนือ กลางและใต้ของ 5 ประเทศดังนี้

ประเทศไทย ได้แก่ เชียงใหม่-กรุงเทพฯ-ภูเก็ตและสมุย ประเทศพม่า ได้แก่ พุกาม-ย่างกุ้ง-ทวาย ประเทศลาว ได้แก่ หลวงพระบาง-เวียงจันทร์-ปากเซ ประเทศกัมพูชา ได้แก่ เสียมราฐ-พนมเปญ-สีหะนุวิลล์ และประเทศเวียดนาม ได้แก่ ฮานอย-ดานัง-โฮจิมินห์ซิตี้ ซึ่งหากประสบความสำเร็จ จะทำให้บางกอกแอร์เวย์สเป็นสายการบินที่มีเส้นทางบินในแถบลุ่มแม่น้ำโขงมากที่สุด

นอกจากนี้ยังต้องการเพิ่มศักยภาพสนามบินสมุยเพื่อให้เป็นศูนย์กลางการบินแห่งใหม่ของภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ โดยจะเพิ่มเที่ยวบินตรงจากสมุยสู่แหล่งท่องเที่ยวในเอเชียที่สำคัญ เช่น บาหลีและเซี่ยงไฮ้

สำหรับโครงการอนาคตระยะยาวนั้น ปราเสริฐกล่าวว่า ทางสายการบินเล็งเห็นถึงศักยภาพตลาดนักท่องเที่ยวในประเทศแถบยุโรปและออสเตรเลีย จึงมีความเป็นไปได้ว่า ช่วงตารางบินฤดูหนาวปี 2554 จะเปิดเที่ยวบินสู่ยุโรปและออสเตรเลีย เชื่อมตรงกรุงเทพและเกาะสมุย รวมไปถึงแหล่งท่องเที่ยวอื่นๆในประเทศด้วย และยังคงมองหาเส้นทางบินใหม่ในประเทศจีน ญี่ปุ่นและอินเดีย เพิ่มเติมจากเส้นทางบินที่มีอยู่แล้ว โดยในช่วงเวลาเดียวกัน ฝูงบินของบางกอกแอร์เวย์สจะมีจำนวนเครื่องบินทั้งหมด 30 ลำ ประกอบไปด้วย เครื่องบินแบบ เอทีอาร์ จำนวน 10 ลำ เครื่องบินแอร์บัส 319 จำนวน 8 ลำ เครื่องบินแอร์บัส 320 จำนวน 6 ลำ เครื่องบินแอร์บัส 350 จำนวน 6 ลำ

ด้านกัปตันพุฒิพงศ์ ปราสาททองโอสถ กรรมการรองผู้อำนวยการใหญ่อาวุโส แถลงนโยบายองค์รวมของฝ่ายปฏิบัติการบิน ที่จะพยายามจำกัดปริมาณเชื้อเพลิงที่เผาผลาญในแต่ละเที่ยวบิน ให้ลดลงเหลือ 800 ตันต่อปี เพื่อลดการสร้างสภาวะโลกร้อน ทั้งยังสามารถเพิ่มผลประกอบการของสายการบินให้เพิ่มขึ้นอีกด้วย ล่าสุดทางสายการบินได้จับมือกับ Jackson Group Consultants จัดตั้งสถาบันการบินชื่อว่า บางกอกไฟล์ทอะคาเดมี่ (Bangkok Flight Academy) ดำเนินการสอนภายใต้หลักสูตรที่ได้รับการรองรับโดย Commercial Airline Pilot Training (CAPT) โดยตั้งเป้าหมายผลิตบุคลากรเพื่อรองรับความต้องการนักบินที่เพิ่มสูงขึ้นทั้งในตลาดภายในและต่างประเทศ พร้อมเปิดดำเนินการวันที่ 1 พฤศจิกายน นี้

ในส่วนของการเงิน ธวัชวงศ์ ธะนะสุมิต กรรมการรองผู้อำนวยการใหญ่ ฝ่ายการเงินกล่าวว่า เมื่อปี พ.ศ. 2550สายการบินบางกอกแอร์เวย์สสามารถสร้างผลประกอบการเพิ่มขึ้น 5 เปอร์เซ็นต์ จำนวนเงินกว่า 10,620 ล้านบาท แม้ว่าผู้โดยสารจะลดลงเล็กน้อย คิดเป็น 0.1 เปอร์เซ็นต์ เมื่อเปรียบเทียบกับปี 2549

ธวัชวงศ์กล่าวเพิ่มเติมว่า การก่อสร้างอาคารผู้โดยสารใหม่ของสนามบินสมุย ซึ่งปัจจุบันได้สร้างเสร็จเรียบร้อย พร้อมรองรับผู้โดยสารแล้ว กว่า 16,000 คนต่อวัน รวมไปถึงแนะนำ สมุย ปาร์ค อะเวนิว แหล่งช็อปปิ้งแห่งใหม่ในเขตสนามบินสมุยที่สมบูรณ์แบบ ตั้งแต่ร้านขายเสื้อผ้าแบรนด์เนม ร้านอาหาร ร้านกาแฟ ตลอดจนร้านนวดสปา โดยจะทำพิธีเปิดอย่างเป็นทางการในเดือนกรกฎาคม 2551

ด้านระบบสารสนเทศ ปิง ณ ถลาง รองผู้อำนวยการใหญ่ ฝ่ายสารสนเทศกล่าวว่า ปัจจุบันสายการบินฯ สามารถใช้งานระบบไอทีที่มีคุณภาพสูงสุดด้วยต้นทุนที่น้อย “ตอนนี้เรานำเทคโนโลยีสารสนเทศมาใช้กับงาน 3 กลุ่มใหญ่ของบริษัท ได้แก่ งานสำนักงาน นำมาใช้จาการลดการใช้กระดาษให้น้อยลงมาเป็นการทำงานแบบไร้กระดาษในที่สุด เพื่อบริหารต้นทุนให้ต่ำลง ในขณะเดียวกันก็หวังผลเลิศในการปฏิบัติงาน

ในส่วนของเครื่องบินที่ทันสมัย การปฏิบัติการต่างๆ ทั้งภาคพื้นดินและอากาศจะมีการนำระบบดิจิตอลเข้ามาใช้ให้มากที่สุด และในส่วนของการพาณิชย์ วิวัฒนาการของพฤตอกรรมของผู้บริโภคจะเปลี่ยนไปโดยการใช้งานจากโทรศัพท์มือถือที่มากขึ้น ก็จะทำให้เราพัฒนาเทคโนโลยีเพื่อรองรับการให้บริการทำธุรกรรมผ่านทางโทรศัพท์ ” ปิงกล่าว

ม.ล.นันทิกา แถลงประเด็นการตลาดแจ้งว่า ขณะนี้ทางสายการบินฯ กำลังจะมี E-Ticker ในทุกเส้นทางการบินในเดือนพฤษภาคมนี้ ซึ่งปัจจุบัน E-Ticker นับเป็นปริมาณถึงร้อยละ 97 ของตั๋วเครื่องบินทั้งหมด การบรรลุการใช้งานของ E-Ticker นี้ เป็นไปตามเจตนารมณ์ของสมาคมขนส่งทางอากาศระหว่างประเทศหรือ ไออาต้า

นอกจากนี้ทางสายการบินฯ จะเปิดเส้นทางการบินใหม่จากกรุงเทพสู่มาเก๊า บินครงทุกวันเริ่มตั้งแต่วันที่ 4 กรกฎาคมนี้ ออกจากรุงเทพเวลา 16.00น. ถึงมาเก๊าเวลา 19.40น. และมาจากมาเก๊าเครื่องบินออกเดินทางเวลา 20.25น. ถึงกรุงเทพเวลา 22.05น.

และในโอกาสที่ทางสายการบินฯ ฉลองครบรอบ 40 ปี ได้เปิดตัวโครงการ “รักโลก ดูแลโลก” เพื่อรณรงค์ให้ชาวโลกตระหนักถึงสภาวะโลกร้อน

“ดิฉันเห็นว่าทั่งโลกกำลังให้ความสำคัญกับปัญหานี้อย่างจริงจัง เราเองก็สามารถเห็นความเปลี่ยนแปลงของสภาพอากาศโลกอย่างชัดเจน ไม่ว่าจะเป็นการเปลี่ยนแปลงของฤดูกาล หรือภัยพิบัติทางธรรมชาติที่รุนแรงขึ้นทุกวัน ดิฉันจึงอยากให้ทุกท่านช่วยกันลดการใช้พลังงานและทรัพยากรธรรมชาติเพื่อความยั่งยืนของมวลมนุษย์ชาติต่อไป” ม.ล.นันทิกา กล่าว

ทั้งนี้สายการบินบางกอกแอร์เวย์สเป็นสายการบินเอกชนที่ใหญ่ที่สุดในประเทศไทยซึ่งให้การบริการบินกว่า 26 เส้นทางทั่วเอเชีย ก่อตั้งเมื่อปี 2511 และได้เปลี่ยนสโลแกนเป็นที่รู้จักกันดีภายใต้ชื่อ “ความประทับใจแห่งเอเชีย” (ASIA´S BOUTIQUE AIRLINE) ปัจจุบัน สายการบินฯ มีเครื่องบินรวมทั้งสิ้น 17 ลำ โดยมีเครื่องแบบเอทีอาร์จำนวน 8 ลำ แบบโบอิ้ง 717 จำนวน 2 ลำ แบบแอร์บัส 320 จำนวน 3 ลำ และแบบแอร์บัส 319 จำนวน 4 ลำ
กำลังโหลดความคิดเห็น