ลมหนาวฤดูเหมันต์เพิ่งจางหาย ลมเย็นสบายของฤดูใบไม้ผลิ ฤดูแห่งการเริ่มต้นเพิ่งพัดมาทักทาย แต่น่าเสียใจและเสียดายยิ่งนักที่ผู้หญิงแกร่ง รวยอารมณ์ขัน ที่ชื่อว่า “เสิ่นเตี้ยนเสีย” หรือที่แฟนๆ ตั้งชื่อเล่นให้ด้วยความเอ็นดูว่า “เฝยเฝย” (แปลว่า อ้วน)....ไม่มีโอกาสได้ลิ้มรสความรื่นรมณ์ในโลกนี้อีกชั่วนิรันดร์...
เมื่อช่วงเช้าของวันอังคารที่ 19 กุมภาพันธ์ที่ผ่านมา เสิ่นเตี้ยนเสีย ดาราและพิธีกรลูกหม้อทีวีบีวัย 62 ปี สิ้นลมหายใจอย่างสงบ ที่โรงพยาบาลควีน แมรี่ในฮ่องกง ท่ามกลางความเศร้าโศกของเพื่อนร่วมวงการ และลูกสาวเพียงคนเดียว “เจิ้งซินอี๋” หลังต่อสู้กับโรคมะเร็งตับมานานหลายปี
สื่อท้องถิ่นรายงานว่า ในขณะที่ลมหายใจสุดท้ายใกล้จะสิ้นลงนั้น เจิ้งซินอี๋ ลูกสาวสุดที่รักของเธอก็อยู่เคียงข้างผู้เป็นแม่ด้วย แต่ที่น่าเสียดายคือผู้ชายเพียงคนเดียวในชีวิตของเธออย่าง “เจิ้งเส้าชิว” กลับไม่ได้อยู่ดูใจเธอครั้งสุดท้าย เพราะต้องเดินทางไปถ่ายละครที่แผ่นดินใหญ่ แต่หลังจากทราบข่าวร้ายนี้ ข่าวว่าเขารีบให้ผู้ช่วยจองตั๋วเครื่องบินกลับฮ่องกงทันที
ประวัติโดยสังเขปของเจ๊อ้วน (肥姐) แห่งวงการบันเทิงฮ่องกง
มิถุนายน ปี 1945 – เสิ่นเตี้ยนเสียลืมตาดูโลกที่เมืองเซี่ยงไฮ้ จีนแผ่นดินใหญ่
ปี 1958 – เดินทางมาหาความก้าวหน้าที่ฮ่องกง
ปี 1960 – เริ่มเข้าสู่วงการบันเทิงครั้งแรกในฐานะนักแสดงเด็กในภาพยนตร์เรื่อง “อีซู่เถาฮวาเชียนตั่วหง” 《一树桃花千朵红》
ปี 1967 – สถานีโทรทัศน์ฮ่องกง ทีวีบี เริ่มเปิดสถานี เสิ่นเตี้ยนเสียกลายเป็นศิลปินรุ่นบุกเบิกคนหนึ่งของสถานีก็ว่าได้ เธอรับหน้าที่เป็นพิธีกรรายการ “ฮวนเล่อจินเซียว” 《欢乐今宵》 ซึ่งแพร่ภาพนานถึง 20 ปี ชื่อเสียงของเธอเริ่มโด่งดังขึ้นเรื่อยๆ จนกระทั่งได้รับการขนานนามว่าเป็น “พิธีกรป้ายทอง” เลยทีเดียว
ช่วงต้นทศวรรษที่ 70 – เสิ่นเตี้ยนเสีย ร่วมกับเฉินจื้อเฉียง เฉินหาว เติ้งกวางหรง ฉินเสียงหลิน และเซี่ยเสียน (พ่อของเซี่ยถิงฟง) ตั้งวงดนตรีชื่อว่า “วงหนูเงิน” ขึ้น และได้รับความนิยมทั้งในฮ่องกงและไต้หวัน ช่วงนี้เองเธอได้แสดงนำในภาพยนตร์เรื่อง “ชีสือเอ้อร์เจียฝางเค่อ” 《七十二家房客》
ปี 1976 – บุพเพอาละวาด เสิ่นเตี้ยนเสียได้รู้จักกับเจิ้งเส้าชิว และคบหากันเป็นแฟนในเวลาต่อมา กลายเป็นคู่รักดาราที่หลายคนอิจฉา ในตอนนั้นเสิ่นเตี้ยนเสียมีชื่อเสียงโด่งดังแล้ว ขณะที่เจิ้งเส้าชิวเป็นแค่ดาราเล็กๆ ที่เพิ่งเข้าวงการ หลังจากทั้งคู่ตัดสินใจคบหาดูใจกัน มีข่าวว่าเสิ่นเตี้ยนเสียอาศัยความที่เธอรู้จักคนมาก ช่วยเหลือให้เจิ้งเส้าชิวได้มีโอกาสรับบทดีๆ ทำให้เขาเริ่มมีชื่อเสียงมากขึ้น
ธันวาคม ปี 1984 – เสิ่นเตี้ยนเสียได้รับเชิญไปจัดการแสดงที่ต่างประเทศ หลังจากกลับมาก็เกิดสงสัยว่าเจิ้งเส้าชิวนอกใจ เพื่อเป็นการพิสูจน์ความซื่อสัตย์ของตัวเอง เจิ้งเส้าชิวจึงขอเธอแต่งงาน โดยทั้งคู่วิวาห์สายฟ้าแลบในวันที่ 5 มกราคมปี 1985 ที่แคนาดา
ปี 1986 – เสิ่นเตี้ยนเสียตั้งครรภ์
มิถุนายนปี 1987 – เธอคลอดลูกสาวคนแรก เจิ้งซินอี๋ แต่น่าเสียดายที่หลังจากซินอี๋อายุได้เพียง 8 เดือน เสิ่นเตี้ยนเสียและเจิ้งเส้าชิวก็ตัดสินใจหย่าขาดจากกัน
ปี 1989 – เจิ้งเส้าชิวแต่งงานใหม่กับกวนจิงหัว
เสิ่นเตี้ยนเสียเคยให้สัมภาษณ์ถึงอดีตสามีว่า เธอยอมรับว่าตอนที่ต้องหย่ากับเจิ้งเส้าชิวนั้นเธอเสียใจมาก “แต่ตอนนี้ดีขึ้นเยอะแล้ว ตอนนี้พอพูดถึงอดีตสามีก็รู้สึกเหมือนพูดถึงเพื่อนธรรมดาๆ คนหนึ่ง แต่ 3 ปีแรกหลังจากหย่ากับเขาฉันรู้สึกแย่มากๆ ฉันกลัวใครจะพูดถึงชื่อเขาให้ฉันได้ยิน กลัวที่จะอ่านเจอข่าวของเขา” ด้วยความเป็นคนที่มีนิสัยเถรตรง เสิ่นเตี้ยนเสียยังเคยสัมภาษณ์เจิ้งเส้าชิวในรายการของเธอ แถมยังถามคำถามแทงใจดำต่อหน้าผู้ชมว่า “ตอนนั้นคุณเคยรักฉันหรือเปล่า” เสิ่นเตี้ยนเสียเล่าถึงสาเหตุที่โพล่งถามเจิ้งเส้าชิวออกไปในวันนั้นว่า “ฉันเชื่อว่าการรักใครสักคนไม่ใช่พูดว่าจะไปก็ไป ฉันรู้สึกสงสัยและอยากจะเคลียร์ ถ้าหากว่าเขาไม่ได้รักฉันเลย งั้นที่อยู่กันมาสิบกว่าปีหรือว่าเขาหลอกใช้ฉัน หรือที่ทำทั้งหมดเป็นแค่ละครตบตา หลังจากถามไปแล้วฉันก็รู้สึกสบายใจขึ้น”
ผู้อ่านหลายคนอ่านถึงตรงนี้แล้วคงแอบลุ้นคำตอบว่าเจิ้งเส้าชิวตอบเธอไปว่าอย่างไร....... หลังได้ยินคำถามนี้แล้ว เจิ้งเส้าชิวอึ้งไปเลย แต่พอตั้งสติได้ก็ยิ้มแล้วตอบกลับไปว่า "รัก" ได้ยินแบบนั้นทำเอาหญิงแกร่งเสิ่นเตี้ยนเสียน้ำตาไหลอาบแก้มเลยทีเดียว
อย่างไรก็ตาม จากวันนั้นผ่านมาหลายปีแล้ว ตอนนี้เสิ่นเตี้ยนเสียทำใจได้มาก และว่าเธอไม่เคยรู้สึกเสียใจที่ได้แต่งงานกับเจิ้งเส้าชิว “ตอนนี้ฉันไม่ได้รักและไม่ได้เกลียดเขา ฉันไม่เหมือนคนอื่นที่พอหย่าขาดกันก็กลายเป็นศัตรู เพราะฉันรู้สึกว่าไม่มีความจำเป็นจะต้องทำแบบนั้น”
ช่วงปลายทศวรรษที่ 90 – เธอรับงานแสดงภาพยนตร์หลายเรื่องอาทิ “เหม่ยหนันจื่อ” 《美男子》, “จุ้ยเจียหนี่ว์ซี่ว์” 《最佳女婿》 , “ซวงเฝยหลินเหมิน” 《双肥临门》, “ฟู่กุ้ยจ้ายปีเหริน” 《富贵再逼人》เป็นต้น
ปี 1991 – เสิ่นเตี้ยนเสียสนับสนุนลูกสาวออกอัลบั้มเพลง “เก่ยชินอ้ายเตอ” 《给亲爱的》และยังขึ้นคอนเสิร์ตร่วมกับลูกสาวด้วย
ปี 2004 - เสิ่นเตี้ยนเสียเดินทางไปสิงคโปร์เพื่อถ่ายทำละครเรื่อง "เฝยเฝยอี้เจียชิน" 《肥肥一家亲》 และได้รู้จักกับจางหย่งเฉวียน พิธีกรรายการ "หัวอี่ว์ฮุ่ยฮั่ว" ของสิงคโปร์ ซึ่งอายุประมาณ 40 กว่า ตอนนั้นมีข่าวว่าจางหย่งเฉวียนตามจีบเธอ แต่จนแล้วจนรอดเสิ่นเตี้ยนเสียก็ยังรักษาความสัมพันธ์ฉันท์เพื่อนกับจางหย่งเฉวียน หลังจากหย่าจากเจิ้งเส้าชิวแล้ว เธอก็ครองตัวเป็นโสดตลอดมา ความรักทั้งหมดที่มีเธอมอบให้แก่ลูกสาวเพียงคนเดียวจนหมดสิ้น
ปี 2005 - เสิ่นเตี้ยนเสียเข้ารับการรักษาในโรงพยาบาลควีน แมรี่ และตรวจพบเชื้อมะเร็งในตับอ่อน หลังจากนั้นเธอเข้ารับการผ่าตัดเนื้อร้ายที่ตับออก แต่ใช่ว่าโรคร้ายจะหายขาด เธอยังคงต้องเวียนเข้าเวียนออกโรงพยาบาลเป็นว่าเล่น งานในวงการบันเทิงก็ต้องหยุดพักชั่วคราว อาการป่วยของเธอเป็นที่สนใจของคนทั่วไปเป็นอย่างมาก
วันที่ 17 พฤศจิกายน ปี 2007 - เพื่อเป็นการขอบคุณคุณูปการที่เสิ่นเตี้ยนเสียมอบให้แก่วงการบันเทิงจีนมาตลอดจนกระทั่งได้รับการขนานนามว่าเป็น “Happy Fruit” ของฮ่องกง และเพื่อเป็นกำลังใจให้เธอต่อสู้กับโรคร้าย สถานีโทรทัศน์ทีวีบีได้มอบรางวัลอันทรงเกียรติ “รางวัลศิลปินผู้ประสบความสำเร็จสูงสุด” ในวันฉลองครบรอบ 40 ปีทีวีบีที่ผ่านมา
เสิ่นเตี้ยนเสีย ที่ร่างกายอ่อนแอและผ่ายผอมจากโรคร้ายที่รุมเร้า หอบสังขาร นั่งรถเข็นขึ้นรับรางวัลด้วยตัวเอง ทุกคนในงานลุกขึ้นปรบมือต้อนรับเธอ เจิ้งอี้ว์หลิงที่รับหน้าที่เป็นพิธีกรในงานประกาศรางวัลคืนนั้น ถึงขนาดแอบน้ำตาร่วง
“ฉันรู้สึกเป็นเกียรติมากที่ได้รับรางวัลนี้ หวังว่าต่อจากนี้ร่างกายจะแข็งแรงขึ้น ฉันจะไม่ทิ้งอาชีพที่ฉันรักไปง่ายๆ” เสิ่นเตี้ยนเสียกล่าวหลังรับรางวัล พร้อมกับเสียงปรบมือดังสนั่นลั่นงาน เพื่อนซี้อย่างตี๋ปอล่า (แม่ของเซี่ยถิงฟง) และดาราทีวีบีอย่าง เสอซื่อมั่น หูซิ่งเอ๋อ หยางซือฉี โอวหยังเจิ้นหัว แอบเช็ดน้ำตากันเป็นแถว
วันที่ 19 กุมภาพันธ์ ปี 2008 – ปิดตำนาน “เจ๊อ้วน” เสิ่นเตี้ยนเสีย ดาราพิธีกรรวยอารมณ์ขันตลอดกาล
......เสิ่นเตี้ยนเสียทำงานอยู่ในวงการบันเทิงมากว่า 40 ปี และด้วยอุปนิสัยที่ร่าเริง ช่างพูด และให้ความสำคัญกับมิตรภาพเป็นอย่างมาก ไม่น่าแปลกใจเลยว่าทำไมเธอถึงมีเพื่อนที่รักและคอยเป็นห่วงเธอมากมาย
ดังจะเห็นได้จากในจดหมายลาตายที่เลสลี่ จาง เขียนขึ้นก่อนตัดสินใจกระโดดตึกโหม่งโลกเมื่อหลายปีก่อน ก็ได้เขียนถึงความเป็นห่วงเป็นใยของซือเจ๊ร่างท้วมที่มีต่อเขา หรือแม้กระทั่งตอนที่หลอเหวิน นักร้องเพลงละครดังทีวีบีหลายๆ เรื่อง อาทิ มังกรหยก (เวอร์ชั่นองเหม่ยหลิง-หวงเย่อหัว) ป่วยเป็นโรคมะเร็งตับ เมื่อตอนที่พักรักษาตัวอยู่ในโรงพยาบาลนั้น คนแรกที่เขาอยากจะพบก็คือเจ๊อ้วนคนนี้
เธอเคยเล่าว่า ถึงแม้หลอเหวินจะป่วยเป็นมะเร็งระยะสุดท้าย แต่เขาก็เป็นคนที่เข้มแข็งมากๆ และก็ไม่เคยคร่ำครวญหรือแสดงความอ่อนแอต่อหน้าเธอเลย ยังบอกกับเธอว่าหากหายดีแล้ว จะให้เธอไปกินอาหารที่เซี่ยงไฮ้เป็นเพื่อน
.......การจากไปอย่างไม่มีวันกลับของเสิ่นเตี้ยนเสียนับเป็นความสูญเสียของวงการบันเทิงเอเชียอีกครั้งหนึ่ง "บันเทิงจีน" ขอไว้อาลัยต่อการจากไปของศิลปินคุณภาพ ผู้ให้ความสุขและความบันเทิงแก่ผู้ชมมาตลอด.....ลาก่อนเฝยเจี่ย ขอจงไปสู่สุขติ