จังหวัดลำปาง ได้ชื่อว่าเป็นเมืองแห่งรถม้าและชามตราไก่ เพราะเป็นจังหวัดเดียวในไทยที่มีรถม้าวิ่งอยู่ในปัจจุบัน นอกจากนี้ลำปางยังขึ้นชื่อลือชาในเรื่องของชาม(เซรามิก)ตราไก่ ซึ่งเราสามารถพบเห็นสัญลักษณ์เซรามิกรูปไก่ตามป้ายชื่อถนน บนสะพาน หรือตามตึกต่างๆ ได้ทั่วไปในเมือง
นอกจากรถม้าและชามตราไก่ที่เป็นสัญลักษณ์ของลำปางแล้ว เมืองนี้ยังน่าฉงนตรงที่เป็นเมืองที่มีเงาพระธาตุให้ชมกันอยู่หลายวัดทีเดียว
เงาพระธาตุ หากมองกันตามหลักวิทยาศาสตร์ถือเป็นปรากฏการณ์หักเหของแสงในหลักการเดียวกลับกล้องรูเข็ม แต่ที่ลำปางนี่แปลกตรงที่มีเงาพระธาตุปรากฏให้ชมกันหลากหลายรูปแบบทั้งเงาพระธาตุหัวกลับ หัวตั้ง เงาพระธาตุซ้อนชั้น ซึ่งเงาพระธาตุที่เด่นๆในเมืองรถม้ามีที่ไหนบ้าง "ผู้จัดการท่องเที่ยว" ขอเชิญขึ้นเหนือไปทัศนากันได้
เงาพระธาตุอันซีน วัดพระธาตุลำปางหลวง
วัดพระธาตุลำปางหลวง(ต.ลำปางหลวง อ.เกาะคา) ถือเป็นวัดเก่าแก่คู่บ้านคู่เมืองของชาวลำปาง ทุกครั้งที่ "ผู้จัดการท่องเที่ยว" ได้มาเยือนนครรถม้าแห่งนี้ก็จะต้องแวะไปสักการบูชาพระธาตุและพระพุทธรูปอื่นๆในวัดทุกคราไป และก็ต้องอดไม่ได้ที่จะแวะเข้าไปส่องดูเงาพระธาตุที่ลอดผ่านรูผนังมาปรากฏบนผืนผ้าภายใน "วิหารพระพุทธ" ที่ปรากฏเป็นเงาพระธาตุหัวตั้งให้ชมกันด้วยสีสันเหมือนจริง
ปัจจุบันภาพแม้เงาพระธาตุจะดูจืดจางลงไม่คมชัดเช่นเดิมเนื่องจากพฤติกรรมของมนุษย์บางจำพวกที่ซุกซนเห็นรูเป็นไม่ได้ชอบเอานิ้วไปแหย่ไปจิ้มทำให้รูที่แสงส่องเข้ามากว้างขึ้นความคมชัดของเงาที่เกิดขึ้นก็น้อยลงตามไปด้วย ดังนั้น "ผู้จัดการท่องเที่ยว" ขอความร่วมมือว่าให้ดูแต่ตามืออย่างต้อง ของจะได้ไม่เสียนะครับพี่น้อง
ไม่เพียงที่วิหารพระพุทธแล้ว "มณฑปพระพุทธบาท" ก็เป็นอีกแห่งหนึ่งในวัดพระธาตุลำปางหลวงที่ปรากฏภาพเงาพระธาตุหรือพระธาตุหัวกลับที่โด่งดังเลื่องชื่อจนได้กลับการยกย่องจากททท.ให้เป็นใน Unseen Thailand เลยทีเดียว
เงาพระธาตุที่นี่ดูแล้วคมชัดสวยงามกว่าที่วิหารหลวง อาจจะเนื่องมาจากปริมาณคนที่เข้ามาดูมีน้อยกว่า เพราะที่มณฑปพระพุทธบาทเข้าห้ามมิให้ผู้หญิงเข้า คนที่สามารถเข้าไปดูได้จึงมีแต่ผู้ชายเท่านั้น
สำหรับ "องค์พระธาตุ" ที่ทำให้เกิดเงานั้น เป็นองค์พระธาตุเจดีย์แบบล้านนาผสมเจดีย์ทรงลังกา ก่ออิฐถือปูน ประกอบด้วยฐานสี่เหลี่ยมย่อมุมด้วยบัวมาลัยสามชั้น เป็นเจดีย์ขนาดใหญ่หุ้มด้วยแผ่นทองเหลือง ฉลุลายหรือที่เรียกว่าทองจังโก ตามตำนานกล่าวว่าเป็นบรรจุพระบรมสารีริกธาตุ
นอกจากเงาพระธาตุแล้ว ที่วัดพระธาตุลำปางหลวงยังมีสิ่งน่าสนใจชวนชมอีกหลายจุด อาทิ "พระแก้ว"จากวัดพระแก้วดอนเต้าสุชาดารามที่ประดิษฐานอยู่ในหอพระแก้ว หรือหากมีเวลามากหน่อยก็สามารถเดินเข้าออกตามวิหารต่างๆ เช่น "วิหารน้ำแต้ม" เป็นวิหารโถงมีภาพจิตรกรรมเก่าแก่ของล้านนา "วิหารหลวง"เป็นที่ประดิษฐานมณฑปพระเจ้าล้านทอง พระพุทธรูปองค์สำคัญของวัด
อีกทั้งมีวิหารต้นแก้ว วิหารละโว้ หอพระไตรปิฎก กุฏิประดิษฐาน อาคารพิพิธภัณฑ์และกุฏิสงฆ์ ให้ได้เที่ยวชมกันอีกด้วย
เงาพระธาตุจอมปิง
วัดพระธาตุจอมปิง(บ้านจอมปิง ต.นาแก้ว อ.เกาะคา)เป็นอีกวัดหนึ่งที่มีชื่อเสียงโด่งดังในเรื่องของการปรากฏเงาพระธาตุ โดยทางทิศตะวันตกของพระธาตุเจดีย์สีเหลืองทองมี "พระอุโบสถ" อันเก่าแก่แบบสถาปัตยกรรมล้านนาที่ภายในเกิดปรากฏการณ์ "เงาพระธาตุ" ที่หน้าต่างพระอุโบสถมีรูเล็กๆที่แสงสามารถลอดผ่านเข้ามาทำให้เกิดเงาพระธาตุพาดลงบนพื้นตลอดเวลาที่มีแสงเล็ดลอดผ่านเข้ามาได้ ต่อมาทางวัดจึงได้นำเอากรอบผ้าขาวมาเป็นฉากรับภาพเพื่อให้สามารถมองเห็นชัดเจนยิ่งขึ้น
เมื่อ "ผู้จัดการท่องเที่ยว" และผองเพื่อนเข้ามาภายในพระอุโบสถ คุณลุงที่เฝ้าพระอุโบสถก็ปิดประตูเพื่อภายในห้องมืดลง จากนั้นก็เป็นช่วงเวลาอันน่าอัศจรรย์ เงาพระธาตุที่วัดจอมปิงมีสีสันเหมือนจริงปรากฏให้พวกเราเห็นกันถ้วนหน้า เช่นเดียวกับที่วัดพระธาตุลำปางหลวงเลยทีเดียว
เมื่อพวกเราชมเงาพระธาตุกันเสร็จแล้วก็ออกมาเดินดูภายในบริเวณวัดและไม่ลืมที่จะแวะไปยัง "พิพิธภัณฑ์วัดพระธาตุจอมปิง" ที่ภายในจัดแสดงโบราณวัตถุต่างๆมากมายที่ขุดเจอในบริเวณวัดและพื้นที่ใกล้เคียง ซึ่งกรมศิลปากรได้ตรวจสอบพบว่าโบราณวัตถุที่พบคล้ายกับแห่งโบราณคดีที่จังหวัดตาก กำแพงเพชร ลำพูน และนครสวรรค์ แสดงให้เห็นถึงความสัมพันธ์กันของแหล่งโบราณคดีเหล่านี้
โบราณวัตถุที่จัดแสดง อาทิ เศษภาชนะดินเผา ตะขอสำริด กำไลหิน กำไลสำริด ใบหอก ลูกปัด ต่างหู เป็นต้น นอกจากนี้จัดมีของสะสมของวัด ได้แก่ พระพุทธรูป กล้องสูบยาดินเผา ที่ใส่ดินปืนทำจากเขาสัตว์ ผ้ายันต์ ตะกรุด เชี่ยนหมาก โดยจัดวางเรียงเป็นกลุ่มพร้อมป้ายคำบรรยายวัตถุภาษาไทยในบางรายการด้วย
อัศจรรย์เงาพระธาตุ 5 เงาที่วัดพระธาตุดอยน้อย
หลายคนอาจจะเกิดอาการงง ไม่คุ้นหู เมื่อ "ผู้จัดการท่องเที่ยว"เอ่ยถึงวัดพระธาตุดอยน้อย(ต.ท่าผา อ.เกาะคา) เพราะวัดนี้ฟังไม่ค่อยคุ้นหูนักท่องเที่ยวเท่าไหร่ แต่เชื่อมั้ยว่าที่วัดแห่งนี้มีเงาพระธาตุให้ชมถึง 5 เงาเลยทีเดียว
โดยเงาพระธาตุทั้ง 5 นั้น จะปรากฏภายใน "วิหารหลังเปียง" ที่หากเดินตรงเข้าไปจากประตูทางเข้า ทางฝั่งขวาของวิหารได้ปรากฏเงาพระธาตุขึ้นในกรอบเดียวกันถึง 5 เงา โดยมีลักษณะเป็นเงาของพระธาตุหัวตั้งซ้อนกันเป็นชั้นๆ 4 เงา และเงาที่ด้านข้างเล็กๆ(ส่วนบน)อีก 1 เงา ส่วนทางฝั่งซ้ายก็ยังมีเงาพระธาตุหัวตั้งปรากฏขึ้นอีก 1 เงาที่มองเห็นได้อย่างชัดเจน ซึ่งองค์พระธาตุองค์จริงที่ปรากฏในเงานั้นตั้งอยู่ทางด้านหลังของวิหาร มีลักษณะเป็นองค์พระธาตุสีดำมีส่วนยอดเป็นสีทองเหลืองอร่าม มีขนาดเล็กเมื่อเทียบกับองค์พระธาตุที่วัดพระธาตุลำปางหลวง ภายในบรรจุอัฐิพระสัมมาสัมพุทธเจ้า
เมื่อ "ผู้จัดการท่องเที่ยว" ชมเงาพระธาตุอย่างจุใจแล้ว ก็เดินตรงเข้าไปยังวิหารอีกหลังหนึ่งที่ตั้งอยู่ด้านหลังคือ "วิหารรอยพระพุทธบาท" ซึ่งเป็นรอยพระพุทธบาทที่ชาวบ้านพบที่ตรงเนินใกล้ทางรถไฟใกล้ๆวัด หากเดินลงบันไดหน้าวิหารหลังเปียงไปยังด้านล่างจะเจอกับ "อนุสาวรีย์ครูบาศรีวิชัย"ที่สร้างเพื่อระลึกถึงคุณของครูบาศรีวิชัยที่ได้สร้างวัดและช่วยเหลือมาโดยตลอด ใกล้ๆกันมี "อุโบสถ" หลังเล็กๆ ภายในมีพระพุทธรูปเก่าแก่มากมาย พระพุทธรูปบางองค์ต้องสร้างกรงครอบไว้เพื่อกันขโมย เนื่องจากเป็นพระพุทธรูปทองสำริดซึ่งด้านในเป็นทองคำ
เงาพระธาตุวัดอักโขชัยคีรี
วัดอักโขชัยคีรี(ตั้งอยู่บริเวณกิโลเมตรที่ 50–51 อ.แจ้ห่ม) วัดนี้แม้จะไม่โด่งดังเท่ากับวัดพระธาตุลำปางหลวง และวัดพระธาตุจอมปิง แต่ก็เป็นวัดที่ปรากฏเงาพระธาตุเช่นกัน วัดอักโขชัยคีรีนี้ตั้งอยู่บนเนินเขาริมถนนสายลำปาง-แจ้ห่ม มีทางขึ้นเป็นบันไดนาคจำนวน 227 ขั้น เท่ากับศีลของพระภิกษุสงฆ์
เมื่อขึ้นไปด้านบนจะเจอกับ "พระธาตุเจดีย์" ลักษณะเป็นศิลปะล้านนาปนเชียงแสนซึ่งแต่เดิมน่าจะเป็นศิลปะหริภุญชัย และได้บูรณะกันมาหลายครั้ง ใกล้กันนั้นมี "พระวิหารพระยืน" ซึ่งเป็นที่ปรากฏเงาพระธาตุ เช่นเดียวกับที่วัดพระธาตุจอมปิง ซึ่ง "เงาพระธาตุ" หรือ "เงาพระเจดีย์" นี้จะปรากฏให้เห็นชัดอยู่ในทิศทางด้านตะวันออกเสมอ ถึงแม้ว่าพระอาทิตย์จะเคลื่อนย้ายไปตามเวลาใดก็ตาม เงาของพระธาตุก็ยังคงปรากฏอยู่ที่ตำแหน่งเดิมไม่มีการเคลื่อนย้ายตามพระอาทิตย์แต่อย่างใด ชาวบ้านอำเภอแจ้ห่มและอำเภอใกล้เคียงจึงถือกันว่าเป็น "เงาพระธาตุศักดิ์สิทธิ์"
วิหารพระยืนแห่งนี้เป็นวิหารทรงสูงภายในประดิษฐาน "พระศากยมุณีคีรีอักโข" เป็นพระพุทธรูปยืนองค์ใหญ่ที่เก่าแก่และเป็นที่เคารพนับถือของชาวแจ้ห่มเป็นอย่างมาก นอกจากพระพุทธรูปยืนแล้ว ยังมีพระพุทธรูปนอนปางไสยาสน์ประดิษฐานอยู่ใน "วิหารพระนอน" บริเวณหน้าอนุสาวรีย์เจ้าพ่อพญาคำลือ และวัดอักโขชัยคีรีแห่งนี้ยังมีพระพุทธรูปในอิริยาบถนั่ง ซึ่งถือว่ามีครบทั้ง 3 พระอิริยาบถทั้งยืน นอนอ นั่ง เลยเชียวหละ และ "ผู้จัดการท่องเที่ยว" ขอแนะนำว่า หากมาเยือนวัดแห่งนี้ก็อย่าลืมมายังจุดชมวิว เพราะสามารถมองเห็นวิวมุมสูงของอำเภอแจ้ห่มได้อย่างกว้างไกลสวยงามเลยทีเดียว
หากใครมีโอกาสแวะเวียนไปยังเมืองรถม้าลือลั่น เครื่องปั้นลือนาม งามพระธาตุลือไกล แห่งนี้ ก็อย่าพลาดที่จะไปยลความอัศจรรย์ของปรากฏการณ์เงาพระธาตุตามวัดต่างๆอย่างเช่นที่ "ผู้จัดการท่องเที่ยว" ได้ไปยลมา รับรองว่าเงาพระธาตุที่นี่ดูอัศจรรย์ใจไม่น้อยเลย
* * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * *
นอกจากเงาพระธาตุจากวัดทั้ง 4 แล้ว ที่ลำปางยังมีผู้คนพบว่ามีเงาพระธาตุปรากฏให้เห็นอีกตามวัดบางวัด อาทิ วัดผาแดงหลวง อ.แจ้ห่ม วัดประตูป่อง อ.เมือง โดยผู้สนใจเที่ยวชมเงาพระธาตุ และเที่ยวชมสิ่งน่าสนใจในจังหวัดลำปาง สามารถสอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ศูนย์การท่องเที่ยวฯ จังหวัดลำปาง โทร.0-5422-6919 , 0-5431-2254
อ่านเรื่องที่เกี่ยวข้อง
มหัศจรรย์!?! เงาพระธาตุ 5 เงา ที่"วัดพระธาตุดอยน้อย"
แอ่ววัดงามเมืองรถม้า
ฟัง"กูรู" เล่าเรื่อง"รูๆ" ที่ วัดพระธาตุลำปางหลวง/ปิ่น บุตรี
พระธาตุหัวกลับ ปรากฏการณ์อันน่าทึ่งของธรรมชาติ
เที่ยวเมืองลำปาง นั่งรถม้า ซื้อชามตราไก่ พร้อมไหว้พระธาตุลำปางหลวง