สพท.ขานรับปีแห่งการท่องเที่ยว “ประทับใจไทยแลนด์” เน้นคุณค่าและมูลค่าที่เป็นคุณภาพ เผยทุกภาคส่วนของสำนักงานฯ สร้างโครงการมาตรฐานทั้งบริการ แหล่งท่องเที่ยว มัคคุเทศก์และกองกิจการภาพยนตร์ ย้ำชัดความพร้อมสนับสนุนโครงการเต็มที่
ธนิฏฐา มณีโชติ ผู้อำนวยการสำนักงานพัฒนาการท่องเที่ยว (สพท.) กล่าวว่า ในส่วนของ สพท. ได้ดำเนินการเพื่อให้เป็นไปตามนโยบายของรัฐบาลและของรัฐมนตรีว่าการการะทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา ที่ประกาศให้ปี 2551-2552 เป็นปีแห่งการท่องเที่ยว ภายใต้คำขวัญ “ประทับใจไทยแลนด์” เพื่อส่งเสริมให้ประเทศไทยเป็นแหล่งท่องเที่ยวที่สำคัญของโลก
“จากโดยบายที่ให้เน้นคุณค่าและมูลค่าด้านการท่องเที่ยว ถือเป็นหน้าที่ของสพท. โดยต้องทำให้ประชาชนเกิดความภาคภูมิใจในแหล่งท่องเที่ยว และการบริการการท่องเที่ยวให้เกิดความประทับใจ พร้อมทั้งให้มีการกระตุ้นเศรษฐกิจ สังคม ให้ชุมชนเกิดการเรียนรู้ และปรับเปลี่ยนทัศนคติให้ประชาชนเห็นความสำคัญของการให้บริการ มีความเป็นมิตรที่ดี รวมทั้งมีระบบการบริหารจัดการเครือข่ายให้เกิดการขยายผลไปในกลุ่มสถานศึกษา และชุมชนเป้าหมายเพื่อการท่องเที่ยว”
ธนิฏฐา กล่าวต่อว่า ในส่วนของมูลค่าการท่องเที่ยวต้องพิจารณาถึงคุณภาพและมาตรฐานไม่ใช่ปริมาณหรือเพียงรายได้ โดยเฉพาะการสร้างมูลค่าเพิ่ม การกระจายตัวของกลุ่มเป้าหมาย และโครงการขนาดใหญ่ รวมทั้งการสร้างมาตรฐานให้แหล่งท่องเที่ยวและบริการ ที่สามารถมองเห็นผลสำเร็จได้ โดยทุกโครงการให้คำนึงถึงความสะดวก สะอาด ปลอดภัย และเข้าใจถึงเอกลักษณ์ของความเป็นไทย
ด้านข้อมูล สพท.ได้รับมอบหมายให้ดำเนินการสำรวจพื้นที่แหล่งท่องเที่ยวจังหวัดทุกจังหวัด โดยแยกเป็นแหล่งท่องเที่ยวเชิงอนุรักษ์ เชิงประวัติศาสตร์ เชิงวัฒนธรรม เชิงนิเวศน์ ฯลฯ พร้อมประเมินจุดอ่อน จุดแข็ง ลักษณะความเด่นและความเสื่อมโทรม เพื่อเป็นข้อมูลในการนำเสนอแผนงานโครงการต่อไป
ส่วนด้านการดำเนินงานในส่วนต่างๆของ สพท. สำนักพัฒนาบริการท่องเที่ยว ได้จัดโครงการมาตรฐานด้านบริการเพื่อการท่องเที่ยวหลายโครงการตั้งแต่ปี 2547 รวมทั้งสิ้น 18 มาตรฐาน อาทิ มาตรฐานที่พักเพื่อการท่องเที่ยว มาตรฐานห้องน้ำ มาตรฐานบริการอาหารเพื่อการท่องเที่ยว เป็นต้น
ด้านสำนักพัฒนาแหล่งท่องเที่ยว มีโครงการมาตรฐานแหล่งท่องเที่ยวมากมาย อาทิ มาตรฐานแหล่งท่องเที่ยวเชิงนิเวศน์ แหล่งท่องเที่ยวทางธรรมชาติ แหล่งท่องเที่ยวทางประวัติศาสตร์ เป็นต้น ส่วนกองกิจการภาพยนตร์ ซึ่งดูแลเรื่องการถ่ายทำภาพยนตร์ต่างประเทศในประเทศไทย ซึ่งในปีที่ผ่านมามีจำนวนสูงถึง 523 เรื่องทำรายได้เข้าประเทศถึง 1,072.67 ล้านบาท ซึ่งในขณะนี้ได้เปิดให้บริการศูนย์บริการอนุญาตถ่ายทำภาพยนตร์ต่างประเทศในประเทศไทยแบบเบ็ดเสร็จ หรือ one-stop service มาตั้งแต่ปี 2550 และได้สร้างมาตรฐานแนวทางการกำกับดูแลการถ่ายทำภาพยนตร์ต่างประเทศในประเทศไทยด้วย
สำหรับสำนักทะเบียนธุรกิจนำเที่ยวและมัคคุเทศก์ ที่ได้โอนภารกิจงานทะเบียนธุรกิจนำเที่ยวและมัคคุเทศก์ จากการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย ในการจดทะเบียนและออกใบอนุญาตการประกอบธุรกิจนำเที่ยวและมัคคุเทศก์ และเริ่มให้บริการแล้วเมื่อวานนี้ (8เม.ย. 51) ทางสพท.ให้ความสำคัญในการพัฒนาศักยภาพของผู้ประกอบการนำเที่ยวและมัคคุเทศก์เพื่อตอบสนองความต้องการของผู้ใช้บริการ เช่น การอบรมภาษาต่างประเทศต่างๆ อีกด้วย
ทั้งนี้สพท.เชื่อมั่นว่าจะช่วยเสริมสร้างและยกระดับมาตรฐานสินค้าและบริการด้านการท่องเที่ยวของไทยให้นักท่องเที่ยวประทับใจไทยแลนด์อย่างแน่นอน
