สายการบินโอมานแอร์ เปิดเส้นทางใหม่บินตรงมัสกัตสู่กรุงเทพฯ

สายการบินโอมาน แอร์ เลือกประเทศไทยเป็นศูนย์กลางในการพัฒนาสู่ภูมิภาคเอเชียอาคเนย์ โดยเปิดเส้นทางใหม่บินตรงมัสกัตสู่กรุงเทพฯ เพื่อเพิ่มความสัมพันธ์ทางด้านธุรกิจและการท่องเที่ยวของทั้งสองประเทศ

มร.ไซเอ็ด บิน คาร์ริม ออล ฮารีมิ ประธานกรรมการบริหารสายการบินโอมาน แอร์ กล่าวว่า สายการบินโอมาน แอร์ สายการบินประจำชาติแห่งรัฐสุลต่านโอมาน ได้เปิดตัวเส้นทางบินใหม่มุ่งตรงสู่กรุงเทพฯ ประเทศไทยนั้น ถือเป็นการตอบสนองความต้องการของตลาดสำหรับการเดินทางที่ปลอดภัยในภูมิภาคเอเชีย เป็นทางที่มุ่งตรงจากเมืองมัสกัต เมืองหลวงของโอมาน สู่ภูมิภาคเอเชียแปซิฟิก โดยจะช่วยสงเสริมความสัมพันธ์ทางธุรกิจระหว่าง 2 ประเทศ ให้แน่นแฟ้นยิ่งขึ้น ซึ่งจะส่งผลถึงโอกาสการลงทุนทางธุรกิจที่มหาศาล รวมถึงโอกาสที่คนในภูมิภาคเอเชียจะได้เข้าถึงแหล่งท่องเที่ยวที่น่าสนใจอีกมากมายในประเทศโอมาน

มร.ไซเอ็ด บิน คาร์ริม ออล ฮารีมิ กล่าวเพิ่มเติมว่า “ทางเราได้เลือกประเทศไทยเป็นรากฐานในการขยายตัวสู่ภูมิภาคเอเชีย เพราะเส้นทางการบิน กรุงเทพมหานคร เป็นเส้นทางหนึ่งที่มีประสิทธิภาพสูง จากตัวเลขสถิติที่แสดงถึงนักท่องเที่ยวชาวโอมานที่เดินทางมาเยือนประเทศไทยในปีที่ผ่านมามีมากถึง 38,000 คน และสิ่งสำคัญที่เราเลือกประเทศไทยเป็นศูนย์กลางในการพัฒนาสู่ภูมิภาคเอเชียอาคเนย์คือ ศักยภาพของสนามบินนานาชาติสุวรรณภูมิ ที่สามารถรับนักท่องเที่ยวได้อีกมาก เราคาดการณ์ว่าจากการเปิดตัวในครั้งแรกนี้ จะได้รับการตอบรับเป็นอย่างดีและเพิ่มมากขึ้นอย่างต่อเนื่องจากนักท่องเที่ยว”

ปัจจุบันโอมานแอร์ บินตรงสู่ 25 เส้นทาง ให้บริการด้วยฝูงบินทั้งสิ้น 15 ลำ ด้วยเครื่องบินพื้นฐานโบอิ้ง 737-800 ซึ่งในเส้นทางบินใหม่ มุ่งตรงจากเมืองมัสกัต เมืองหลวงของโอมาน สู่กรุงเทพมหานคร เมืองหลวงของประเทศไทยนี้ โดยอาจจะใช้เครื่องบินที่มีความจุที่สูงขึ้น ซึ่งทางทีมงานวิศวรรมของสายการบินกำลังพิจารณาอยู่ เนื่องด้วยกำลังเพิ่มจำนวนเครื่องบินโดยในปี 2009 จะมีเครื่องบินโบอิ้ง 737-800 ทั้งสิ้น 12 ลำ เครื่องบินแอร์บัส A330 จำนวน 7 ลำ และเครื่องบินโบอิ้ง 787 ของดรีมไลเนอร์ จำนวน 6 ลำ

มร.ไซเอ็ด บิน คาร์ริม ออล ฮารีมิ กล่าวอีกว่า “เราเชื่อมั่นว่าตลาดทางด้านตะวันออกนี้เป็นตลาดที่ค่อนข้างใหญ่ การพัฒนาความสัมพันธ์ทางเศรษฐกิจระหว่างประเทศไทยและโอมาน ถือเป็นเหตุผลสำคัญในการขยายตัวของธุรกิจและการท่องเที่ยว และลูกค้าส่วนใหญ่ก็ต้องการทางเลือกที่มากขึ้นเพื่อให้การเดินทางสะดวกสบายมากขึ้น และส่งผลถึงการกระตุ้นธุรกิจการท่องเที่ยวของทั้งสองประเทศ”