เสนาฯจับมือแม็คนิก้า นำร่องทดลองใช้ “เซลล์แสงอาทิตย์ชนิดเพอรอฟสไกต์” ในอาคารคลับเฮ้าส์ เสนา พาร์ควิลล์ 2 รามอินทรา – วงแหวน หวังศึกษาประสิทธิภาพเซลล์แสงอาทิตย์รุ่นใหม่ในประเทศไทย ต่อยอดพัฒนา PSC ทนต่อสภาพแวดล้อมจริง ปูทางใช้งานในโครงการบ้าน อาคารสำนักงาน และยานยนต์ไฟฟ้า เชื่อช่วยลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจก และขับเคลื่อนสังคมสู่พลังงานสะอาดอย่างยั่งยืน
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า บริษัท เสนา กรีน เอนเนอร์ยี่ จำกัด ภายใต้บริษัท เสนาดีเวลลอปเม้นท์ จำกัด (มหาชน) ร่วมกับ บริษัท แม็คนิก้า ประเทศญี่ปุ่น แถลงความร่วมมือใน “โครงการสาธิตการใช้งานเซลล์แสงอาทิตย์ชนิดเพอรอฟสไกต์ในสภาพอากาศเขตกึ่งร้อน” ซึ่งได้รับทุนสนับสนุนจากรัฐบาลญี่ปุ่น ผ่านกลไกเครดิตร่วม ซึ่งนับเป็นครั้งแรกของโลกที่เทคโนโลยีเพอรอฟสไกต์ที่ผลิตในญี่ปุ่น ถูกนำมาใช้ทดสอบจริงภายใต้สภาพอากาศของประเทศไทย
สำหรับ เทคโนโลยีเซลล์แสงอาทิตย์ชนิดเพอรอฟสไกต์ ถูกคิดค้นโดย ศาสตราจารย์ ซึโตะมุ มิยะซะกะ จากมหาวิทยาลัยโตอิน โยโกฮาม่า และได้รับการยอมรับว่าเป็นเทคโนโลยีโซลาร์เซลล์แห่งอนาคต มีคุณสมบัติ บาง เบา ยืดหยุ่น สามารถผลิตไฟฟ้าได้แม้ในสภาพแสงน้อย จากไฟ LED และติดตั้งได้ในพื้นที่ที่โซลาร์เซลล์ทั่วไปมีข้อจำกัด พื้นที่โค้งหรืออาคารดีไซน์พิเศษ โครงการนี้บริหารจัดการภายใต้ International Consortium ระหว่าง บริษัท แม็คนิก้า อิงค์ ประเทศญี่ปุ่น ในฐานะผู้แทนโครงการ และ บริษัท เสนา กรีน เอนเนอร์ยี่ จำกัด ในฐานะพันธมิตร ซึ่งมีบทบาทสำคัญในการจัดเตรียมสถานที่ทดลอง สนับสนุนการสาธิต และติดตามประสิทธิภาพการทำงานของระบบจริงในประเทศไทย
ดร.เกษรา ธัญลักษณ์ภาคย์ กรรมการผู้จัดการ บริษัท เสนาดีเวลลอปเม้นท์ จํากัด(มหาชน) และประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท เสนา กรีน เอนเนอร์ยี่ จำกัด กล่าวว่า เสนาเป็นอสังหาฯรายแรกที่ติดตั้งโซลาร์เซลล์ให้กับลูกบ้านทุกหลัง ก่อนต่อยอดสู่แนวคิด บ้านพลังงานเป็นศูนย์ การพัฒนาคอนโดโลว์คาร์บอน โดยล่าสุดกับบ้านโซลาร์พร้อมแบตเตอรี่ ด้วยแนวคิดการพัฒนาที่อยู่อาศัยแบบ ‘SENA Green Affordable Living’ มุ่งเน้นบ้านรักษ์โลกที่ทุกคนเข้าถึงได้
“วันนี้เสนาฯได้ก้าวอีกขั้นสู่อนาคตแห่งพลังงานสะอาด ด้วยการร่วมมือกับบริษัทแม็คนิก้าพร้อมการสนับสนุนจากรัฐบาลญี่ปุ่น
ในการทดสอบเทคโนโลยีเซลล์แสงอาทิตย์ชนิดเพอรอฟสไกต์ ที่อาคารคลับเฮ้าส์ โครงการเสนา พาร์ควิลล์ 2 รามอินทรา – วงแหวนเพื่อศึกษาประสิทธิภาพของเซลล์แสงอาทิตย์รุ่นใหม่ในสภาพอากาศกึ่งร้อนของประเทศไทย ซึ่งมีสภาพอากาศร้อนและชื้น รังสีUV สูง รวมถึงมีฝุ่นPM 2.5 โดยมีเป้าหมายเพื่อพัฒนาPSC ให้ทนต่อสภาพแวดล้อมจริงในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้และต่อยอดการใช้งานในอนาคต ทั้งในบ้าน อาคารสำนักงาน และยานยนต์ไฟฟ้า (EV) เพื่อช่วยลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจกและขับเคลื่อนสังคมสู่พลังงานสะอาดอย่างยั่งยืน”
นายอะสึชิ ซาโต้ กรรมการบริหารกลุ่มธุรกิจนวัตกรรมเชิงยุทธศาสตร์บริษัท แม็คนิก้า ประเทศญี่ปุ่น กล่าวว่า“แม็คนิก้าเป็นบริษัทด้านบริการและโซลูชัน ที่ดูแลเทคโนโลยีล้ำสมัยอย่างครอบคลุม โดยมีเซมิคอนดักเตอร์และความปลอดภัยทางไซเบอร์เป็นแกนหลัก เราดำเนินธุรกิจใน91 แห่ง ครอบคลุม28 ประเทศ/ภูมิภาคทั่วโลก ซึ่งมุ่งมั่นที่จะช่วยให้เกิดสังคมยั่งยืนในอนาคตด้วยการนำเสนอโซลูชันที่ช่วยลูกค้าแก้ไขปัญหาด้านสิ่งแวดล้อม ซึ่งมีส่วนช่วยลดการปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ (CO₂) และสร้างสังคมคาร์บอนต่ำในระยะยาว ทั้งนี้ โครงการความร่วมมือในครั้งนี้ ถือเป็นการทดลองใช้Perovskite Solar Cell ที่คิดค้นโดยนักวิจัยชาวญี่ปุ่นในต่างประเทศเป็นครั้งแรก
โดยจัดขึ้นในประเทศไทยร่วมกับบริษัท เสนา กรีน เอนเนอร์ยี่ จำกัด ซึ่งเป็นบริษัทในเครือเสนาดีเวลลอปเม้นท์ เทคโนโลยีนี้กำลังได้รับความสนใจอย่างมากในประเทศญี่ปุ่นเช่นกัน ทำการทดลองภายใต้สภาพอากาศกึ่งร้อนชื้นของไทยครั้งนี้ มีเป้าหมายเพื่อผลักดันให้เกิดการใช้งานเทคโนโลยี Perovskite Solar Cell อย่างกว้างขวางในภูมิภาคเอเชีย และในระดับโลก
โดยเริ่มต้นจากประเทศไทย โครงการนี้จึงถือเป็นก้าวแรกที่สำคัญยิ่งต่อการบรรลุเป้าหมายนั้น และในอนาคต เราหวังว่าจะสามารถส่งเสริมการผลิตและใช้ไฟฟ้าภายในพื้นที่ (on-site) ด้วยPerovskite Solar Cell อย่างแพร่หลาย


