ก.ล.ต. เปิดข้อมูลวิเคราะห์เชิงลึก หลังกรณีตรวจสอบ “จุดแลกเหรียญ Worldcoin” ชี้ผู้ให้บริการที่รับแลกหรือซื้อขายเหรียญโดยไม่มีใบอนุญาต เข้าข่ายประกอบธุรกิจสินทรัพย์ดิจิทัลโดยผิดกฎหมาย พร้อมย้ำบทลงโทษสูงสุดจำคุก 5 ปี ปรับ 5 แสนบาท และปรับรายวันจนกว่าจะหยุดฝ่าฝืน
ประเทศไทยกำลังยืนอยู่บนจุดเปลี่ยนสำคัญของโลกสินทรัพย์ดิจิทัลที่กำลังเติบโตอย่างรวดเร็ว ท่ามกลางผู้ให้บริการที่หลากหลาย ทั้งศูนย์ซื้อขาย (Exchange) นายหน้า (Broker) และผู้ค้า (Dealer) ซึ่งทั้งหมดต้องอยู่ภายใต้การกำกับดูแลของ สำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ (ก.ล.ต.) และต้องได้รับใบอนุญาตจาก รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง ก่อนดำเนินธุรกิจ
แต่กระแส “รับแลกเหรียญ-สแกนม่านตา” ของโครงการ Worldcoin (WLD) ที่แพร่กระจายทั่วประเทศ กลับกลายเป็นจุดปะทุสำคัญให้สังคมหันมาจับตา เมื่อวันที่ 24 ตุลาคม 2568 ที่ผ่านมา ก.ล.ต. ได้ร่วมมือกับ กองบัญชาการตำรวจสืบสวนสอบสวนอาชญากรรมทางเทคโนโลยี (บช.สอท.) เข้าตรวจสอบจุดบริการแลกเหรียญ WLD พร้อมจับกุมผู้ต้องสงสัย เนื่องจากพบลักษณะเข้าข่ายประกอบธุรกิจสินทรัพย์ดิจิทัลโดยไม่ได้รับอนุญาต
“ผู้ค้าสินทรัพย์ดิจิทัล” คือใคร และทำไมต้องขออนุญาต
การแลกเปลี่ยนหรือซื้อขายสินทรัพย์ดิจิทัล ไม่ว่าจะเป็นเหรียญหรือโทเคน ต้องได้รับใบอนุญาตในประเภท “ผู้ค้าสินทรัพย์ดิจิทัล (Digital Asset Dealer)” ซึ่งหมายถึงผู้ที่ดำเนินการซื้อขายสินทรัพย์ในนามของตนเอง “เป็นทางค้าปกติ” นอกศูนย์ซื้อขายหลักทรัพย์ดิจิทัล
กิจกรรมที่อาจเข้าข่ายนี้ เช่น การตั้งโต๊ะรับแลกเหรียญ เปิดบูธในพื้นที่สาธารณะ โพสต์เชิญชวนให้มาซื้อขาย หรือมีรายได้จากการให้บริการแลกเปลี่ยนโดยตรง ทั้งหมดนี้ถือเป็นสัญญาณว่าผู้ให้บริการดังกล่าวกำลัง “ประกอบธุรกิจสินทรัพย์ดิจิทัล” ซึ่งต้องได้รับใบอนุญาตอย่างเป็นทางการจากรัฐ
ทำไม ก.ล.ต. ต้องเข้ามาควบคุม
คำตอบชัดเจนในมุม “คุ้มครองผู้ใช้บริการ” เนื่องจากการให้บริการแลกเหรียญถือเป็นการทำธุรกรรมกับประชาชนโดยตรง จึงจำเป็นต้องมีระบบตรวจสอบฐานะการเงินและมาตรฐานการดำเนินงานที่รัดกุม หากปล่อยให้ผู้ให้บริการที่ไม่มีใบอนุญาตเข้ามาทำตลาด อาจเปิดช่องให้เกิดการหลอกลวง (Scam) หรือ การฟอกเงิน ซึ่งเป็นภัยสำคัญต่อระบบเศรษฐกิจ
ก.ล.ต. จึงมีหน้าที่บังคับใช้กฎหมายและตรวจสอบการดำเนินงาน เพื่อป้องกันไม่ให้ประชาชนตกเป็นเหยื่อ พร้อมเดินหน้าปราบปรามผู้ประกอบธุรกิจที่ไม่ได้รับอนุญาตอย่างจริงจัง
ที่ผ่านมา ก.ล.ต. ยังได้เผยแพร่คำเตือนและประกาศให้สาธารณชนทราบเป็นระยะ เกี่ยวกับกิจกรรมที่เข้าข่ายเสี่ยงหรือผิดกฎหมาย รวมถึงให้ความรู้ด้านความปลอดภัยทางการลงทุน เพื่อสร้างภูมิคุ้มกันต่อภัยกลโกงในโลกสินทรัพย์ดิจิทัล
ตรวจสอบก่อนเชื่อ ป้องกันก่อนเสีย
ประชาชนสามารถตรวจสอบรายชื่อผู้ได้รับใบอนุญาตได้ที่ เว็บไซต์ ก.ล.ต. หรือแอปพลิเคชัน SEC Check First เพื่อหลีกเลี่ยงการถูกหลอกลงทุนในโครงการที่อ้างว่าเป็น “สินทรัพย์ดิจิทัล”
ผู้ฝ่าฝืนประกอบธุรกิจโดยไม่ได้รับอนุญาต จะถูกดำเนินคดีตามกฎหมาย มีโทษจำคุก 2-5 ปี ปรับ 200,000-500,000 บาท และปรับเพิ่มเติมวันละ 10,000 บาท ตลอดระยะเวลาที่ยังไม่หยุดการกระทำผิด
หากพบเบาะแสหรือพฤติกรรมต้องสงสัย สามารถแจ้งได้ที่ศูนย์รับเรื่องร้องเรียนและแจ้งเบาะแส ก.ล.ต. โทร. 1207 หรือช่องทางออนไลน์ เฟซบุ๊กเพจ “สำนักงาน กลต.” และ SEC Live Chat เพื่อให้เจ้าหน้าที่ตรวจสอบเชิงลึกและดำเนินคดีตามกระบวนการต่อไป
จุดเปลี่ยนของการกำกับสินทรัพย์ดิจิทัลไทย
เหตุการณ์ Worldcoin เป็น “สัญญาณเตือนแรง” ว่าการขยายตัวของเศรษฐกิจดิจิทัลไม่อาจปล่อยให้ไร้กรอบควบคุม เพราะเบื้องหลังการแลกเหรียญเพียงไม่กี่บาท อาจเป็นกลไกหมุนเงินระดับโลกที่ซับซ้อนและเสี่ยงต่อการฟอกเงิน
ก.ล.ต. จึงต้องเร่งยกระดับการกำกับดูแลให้ทันกับพัฒนาการของเทคโนโลยี พร้อมสร้างกลไกตรวจสอบเชิงลึกเพื่อรักษาสมดุลระหว่าง “นวัตกรรมทางการเงิน” และ “ความปลอดภัยของประชาชน” ซึ่งจะเป็นหัวใจของการกำหนดทิศทางสินทรัพย์ดิจิทัลไทยในอนาคต.


