ตลาดหลักทรัพย์ฯ ปิดช่วงเช้าวันนี้ 1,287.95 จุด เพิ่มขึ้น 3.14 จุด (+0.24%) มูลค่าซื้อขายราว 19,790 ล้านบาท
การซื้อขายช่วงเช้า ดัชนีปรับตัวขึ้น โดยทำระดับสูงสุด 1,292.42 จุด และต่ำสุด 1,282.06 จุด
นายวิจิตร อารยะพิศิษฐ นักกลยุทธ์การลงทุน บล.ลิเบอเรเตอร์ กล่าวว่า ตลาดหุ้นไทยเช้านี้ปรับตัวขึ้นมาเล็กน้อยได้แรงหนุนจากปัจจัยต่างประเทศ หลังจากประเด็นการปิดหน่วยงานภาครัฐของสหรัฐฯคลี่คลาย ต้นสัปดาห์วุฒิสภาสหรัฐได้ผ่านร่างกฎหมายเพื่อยุติการปิดหน่วยงาน ล่าสุดเช้าวันนี้สภาผู้แทนราษฎรสหรัฐฯ มีมติผ่านร่างกฎหมายงบประมาณชั่วคราว โดยล่าสุดนายโดนัลด์ ทรัมป์ประธานาธิบดีสหรัฐฯ ได้ลงนามบังคับใช้ร่างกฎหมายดังกล่าวแล้ว
ทั้งนี้ คาดว่าราว 1-2 สัปดาห์หลังการเปิดหน่วยงานสหรัฐตามปกติจะเป็นปัจจัยหนุนระยะสั้น เพราะจะทำให้ข้อมูลทางเศรษฐกิจค่อย ๆ ทยอยรายงานออกมา โดยเฉพาะตัวเลขการจ้างงานนอกภาคการเกษตร และตัวเลข PCE สหรัฐฯ โดยเป็นข้อมูลสำคัญเพื่อประเมินทิศทางอัตราดอกเบี้ยของธนาคารกลางสหรัฐฯ (เฟด) ในการประชุมเดือน ธ.ค.นี้
ขณะที่ปัจจัยในประเทศเข้าสู่ช่วงโค้งสุดท้ายของการรายงานผลประกอบการบริษัทจดทะเบียน ซึ่งช่วงท้ายโมเมนตัมการเติบโตที่ต่ำกว่าคาด ทำให้มีแรงขายออกมาในหุ้นที่ผลประกอบกาออกมาไม่ดีนักเป็นปัจจัยกดดันดัชนี แม้จะมีปัจจัยบวกจากต่างประเทศ และบริษัทที่ผลประกอบการดีกว่าคาดก็มีแรงซื้อเข้ามาด้วย อาทิ BDMS SPRC
แนวโน้มช่วงบ่ายคาดตลาดยังเคลื่อนไหวในแดนบวกได้ต่อหลังยืนเหนือ 1,280 จุด ให้กรอบแนวรับ 1,280 จุด และแนวต้าน 1,300 จุด
ส่วนหลักทรัพย์ที่มีมูลค่าการซื้อขายสูงสุด 5 หลักทรัพย์
BDMS มูลค่าการซื้อขาย 2,590.48 ล้านบาท ปิดที่ 19.50 บาท เพิ่มขึ้น 0.70 บาท
CPALL มูลค่าการซื้อขาย 657.04 ล้านบาท ปิดที่ 44.00 บาท เพิ่มขึ้น 0.50 บาท
ADVANC มูลค่าการซื้อขาย 605.72 ล้านบาท ปิดที่ 316.00 บาท เพิ่มขึ้น 1.00 บาท
KBANK มูลค่าการซื้อขาย 584.73 ล้านบาท ปิดที่ 182.00 บาท เพิ่มขึ้น 0.50 บาท
PTT มูลค่าการซื้อขาย 580.96 ล้านบาท ปิดที่ 30.50 บาท เพิ่มขึ้น 0.25 บาท



