xs
xsm
sm
md
lg

MPJ เล็งขยายลานตู้คอนเทนเนอร์–บุกตลาดโลก–เสริมบริการครบวงจร

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์




"เอ็ม พี เจ โลจิสติกส์ " จ่อรอเสิร์ฟข่าวดีปิดท้ายปี โค้งสุดท้ายเดินเกมรุกขยายลานตู้คอนเทนเนอร์ในทำเลยุทธศาสตร์ พร้อมบุกตลาดตะวันออกกลาง–เอเชีย เสริมบริการ Freight Forwarder และคลังสินค้า รองรับดีมานด์พุ่ง



นายจีระศักดิ์ มานะตระกูล ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท เอ็ม พี เจ โลจิสติกส์ จำกัด (มหาชน) หรือ MPJ ผู้นำโลจิสติกส์แบบครบวงจรและผู้นำด้านบริหารลานตู้คอนเทนเนอร์ เปิดเผยว่า ทิศทางอุตสาหกรรมโลจิสติกส์ไทยในช่วงโค้งสุดท้ายเริ่มกลับมาคึกคักมากขึ้น และมีแนวโน้มจะเติบโตอย่างก้าวกระโดด หลังจากรัฐบาลชุดใหม่เข้ามาบริหารประเทศ โดยมีแรงหนุนมาจากนโยบายกระตุ้นเศรษฐกิจภายในประเทศ เช่น ส่งเสริมการลงทุนใน EEC และการเร่งพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานด้านขนส่ง

ขณะเดียวกัน หากภาครัฐเร่งกระตุ้นการลงทุนด้าน Digital Infrastructure, Cross-Border Logistics, และการให้สิทธิประโยชน์ด้านภาษี, พลังงาน โดยเฉพาะ EV Logistics จะช่วยเร่งยกระดับ ผู้ประกอบการไทยให้มีศักยภาพและมีขีดความสามารถแข่งขันในระดับภูมิภาคมากขึ้น ซึ่งจะช่วยผลักดันให้ประเทศไทยก้าวขึ้นเป็นศูนย์กลางด้านโลจิสติกส์ของเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ได้ในอนาคต

นอกจากนี้ โครงการแลนด์บริดจ์ ถือเป็นตัวแปรสำคัญ สำหรับอุตสาหกรรมโลจิสติกส์ไทย เนื่องจากสามารถเปลี่ยนภาพประเทศไทยจากจุดผ่านทางให้กลายเป็นศูนย์กลางการขนส่งระดับภูมิภาค เชื่อมโยงทั้งอ่าวไทยและอันดามันด้วยท่าเรือน้ำลึก รถไฟรางคู่ มอเตอร์เวย์ และท่อขนส่ง

ดังนั้นหากภาครัฐบาลเร่งขับเคลื่อนนโยบายด้านโลจิสติกส์อย่างเร่งด่วน ก็จะส่งผลให้บริษัทฯ ได้อานิสงส์เชิงบวกที่สร้างโอกาสสู่การเชื่อมไปยังการให้บริการลานตู้คอนเทนเนอร์ โซนลาดกระบัง และแหลมฉบัง รวมถึงด้าน Cross-Border และ Freight Forwarding ที่จะรองรับสินค้าจากภูมิภาคอื่น ได้โดยตรง และจะช่วยเพิ่มปริมาณตู้สินค้าและสร้างรายได้ให้กับบริษัทฯ ได้ในระยะยาว เนื่องจากโซน โลจิสติกส์ดังกล่าวถือเป็นจุดยุทธศาสตร์ ที่เชื่อมสู่ระบบโลจิสติกส์ขนาดใหญ่

จากประเด็นดังกล่าว ส่งผลให้ MPJ ประกาศเกมรุกช่วงโค้งสุดท้ายของปี 2568 นี้ โดยมุ่งสร้างอัตราการเติบโต 20% ให้ได้ตามเป้าหมายที่วางไว้ จาก 4 กลุ่มธุรกิจของบริษัทฯ ทั้งธุรกิจบริหารการจัดเก็บตู้คอนเทนเนอร์, ธุรกิจการให้บริการขนส่งทางบกต่อเนื่องกับท่าเรือ, ธุรกิจให้บริการจัดการขนส่งสินค้าระหว่างประเทศ และธุรกิจการให้บริการให้เช่าคลังสินค้า

ล่าสุด บริษัทฯ เล็งเห็นโอกาสการต่อยอดธุรกิจจากฐานลูกค้าเดิมสู่บริการที่มีมูลค่าสูงขึ้นควบคู่การดำเนินธุรกิจบนพื้นฐาน โดยเดินหน้าขยายพื้นที่ลานตู้คอนเทนเนอร์ทั้งลาดกระบัง และแหลมฉบัง โดยทั้ง 2 โครงการดังกล่าวแล้วเสร็จตามกำหนด โดยลานลาดกระบังแล้วเสร็จและสามารถทยอยเปิดดำเนินการได้ทันที ขณะที่ลานขยายแหลมฉบัง 19 ไร่ คาดว่าจะเปิดให้บริการภายในเดือน พ.ย.นี้

โดยทั้งสองลาน ได้กระแสตอบรับการจองลานเพื่อดำเนินงานอย่างต่อเนื่อง จากทั้งลูกค้าเดิมและลูกค้าใหม่ เนื่องจากตั้งอยู่บนทำเลใกล้โครงข่ายท่าเรือหลัก และมีระบบขนส่งเชื่อมต่อครบวงจร ซึ่งตอบโจทย์ความต้องการของกลุ่มลูกค้า ดังนั้น บริษัทฯ เชื่อว่าภายหลังจากการเปิดให้บริการเต็มรูปแบบ ปริมาณตู้สินค้าจะเพิ่มขึ้นอย่างมีนัยสำคัญ และจะขับเคลื่อนรายได้ของกลุ่ม Container Yard ให้เติบโต แบบก้าวกระโดดในปี 2569

นอกจากนี้ บริษัทฯ มีแผนเดินหน้าเปลี่ยนผ่านสู่พลังงานสะอาด ตามแผนการเช่ารถหัวลากไฟฟ้า (EV) เพื่อเข้ามาเสริมบริการขนส่งภายในประเทศ โดยขณะนี้อยู่ระหว่างการเจรจากับผู้ให้บริการ และ คาดว่าจะสามารถทดลองนำรถล็อตแรกเข้ามาใช้งานได้ภายในปลายปี 2568 – ต้นปี 2569 นี้ โดยรถ EV จะช่วยลดต้นทุนเชื้อเพลิง เพิ่มประสิทธิภาพด้านต้นทุนคาร์บอน และเป็นจุดขายสำคัญที่ตอบโจทย์ลูกค้าในกลุ่มพลังงานสะอาด และ ESG ซึ่งจะเป็นอีกหนึ่งความได้เปรียบในการแข่งขันของ MPJ ในตลาดโลจิสติกส์ยุคใหม่

“ส่วนแผนขยาย Freight Forwarder นายจีระศักดิ์ CEO “MPJ” กล่าวว่า Freight Forwarder บริษัทฯ วางแผนขยายการให้บริการไปยังตลาดในภูมิภาคใหม่ๆ โดยเฉพาะตลาดตะวันออกกลาง เนื่องจากมีความต้องการนำเข้าสินค้าอุปโภคบริโภคและสินค้าทางอุตสาหกรรมเพิ่มขึ้นต่อเนื่อง ทำให้ในปัจจุบันบริษัทฯ มองการขยายเส้นทางและเพิ่มพันธมิตรท้องถิ่นเพื่อให้บริการที่รวดเร็วขึ้น รวมถึงอยู่ระหว่างการศึกษาการให้บริการ Airfreight เพิ่มในอนาคต”


กำลังโหลดความคิดเห็น