“พ่อรวยสอนลูก” ส่งสัญญาณแรงเทไปที่ซิลเวอร์ มั่นใจการเก็งกำไรเงินลงทุน $100 จะโตเป็น $500 ภายในเวลาไม่ถึงปีครึ่ง พร้อมเตือนอย่าพลาดโอกาสครั้งใหญ่ในตลาดโลหะมีค่า
โรเบิร์ต คิโยซากิ (Robert Kiyosaki) ผู้เขียนหนังสือการเงินชื่อก้องโลก Rich Dad Poor Dad ออกโรงแสดงความเห็นผ่าน X ต่อผู้ติดตามกว่า 2.8 ล้านคน โดยทำนายว่าราคาซิลเวอร์ (เงิน) กำลังจะ “ระเบิด” ขึ้นอย่างรุนแรงในปีหน้า และอาจสร้างผลตอบแทนสูงถึง 400% ภายในเดือนกันยายน 2569
“ถ้ามีเงินเพียง 100 ดอลลาร์ ผมจะลงทุนอะไร? ผมจะซื้อโลหะเงิน (Silver) เพิ่ม เพราะซิลเวอร์ถูกกดราคามานาน และกำลังจะปะทุในกันยายน 2568 ผมทำนายว่าเงินลงทุน 100 ดอลลาร์ในซิลเวอร์จะกลายเป็น 500 ดอลลาร์ภายในหนึ่งปี” คิโยซากิประกาศ พร้อมย้ำว่า “ผมกำลังซื้อเพิ่มพรุ่งนี้ อย่าพลาดการระเบิดของซิลเวอร์”
ซิลเวอร์ยังต่ำกว่าราคาสูงสุดตลอดกาล ขณะที่ทอง - บิทคอยน์แตะจุดพีก
ปัจจุบัน ซิลเวอร์ซื้อขายอยู่ราว 47 ดอลลาร์ต่อออนซ์ ซึ่งแม้จะขยับขึ้นจากเดือนกรกฎาคมที่ผ่านมา แต่ยังคงต่ำกว่าราคาสูงสุดตลอดกาลถึง 60% ขณะที่ทองคำและบิทคอยน์ (BTC) เคลื่อนไหวใกล้ระดับสูงสุดใหม่ตลอดกาลแล้ว ทำให้คิโยซากิมองว่าซิลเวอร์ยังเป็น “ของถูกที่สุดในตลาด” และเป็นโอกาสที่ผู้ลงทุนทั่วไปสามารถเข้าถึงได้ง่ายกว่าสินทรัพย์อื่น ๆ
“ในปี 2568 ซิลเวอร์อาจพุ่งขึ้น 3 เท่า ข่าวดีกว่าคือซิลเวอร์ยังต่ำกว่าจุดพีกมาก ต่างจากทองและบิทคอยน์ที่วิ่งแตะหรือใกล้จุดสูงสุดใหม่แล้ว” คิโยซากิระบุ พร้อมเสริมว่า ราคาประมาณ 35 ดอลลาร์ต่อออนซ์ หมายความว่าเกือบทุกคนบนโลกยังมีโอกาสสร้างความมั่งคั่งได้ ขณะที่อีกหลายล้านคนกำลังจนลง
ความต้องการพุ่งจากเอเชีย - วิกฤตการเมืองดันซิลเวอร์โดดเด่น
เมื่อต้นเดือนที่ผ่านมา คิโยซากิชี้ว่าความต้องการซิลเวอร์และทองคำเพิ่มขึ้นต่อเนื่องจากประเทศมหาอำนาจเอเชียอย่างจีนและญี่ปุ่น ซึ่งเร่งเทขายพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐฯ แล้วโยกเงินเข้าสู่โลหะมีค่าแทน นอกจากนี้ เขายังเตือนถึงวิกฤตการเมืองและเศรษฐกิจที่ปะทุทั่วโลก ซึ่งจะผลักให้นักลงทุนหันมาหาที่หลบภัยในทองคำ ซิลเวอร์ และบิทคอยน์มากขึ้น
ทั้งนี้การคาดการณ์ครั้งนี้ตอกย้ำภาพลักษณ์คิโยซากิในฐานะนักคิดเชิงตรงไปตรงมา และชี้ว่า ซิลเวอร์อาจกลับมาเป็นพระเอกของตลาดโลหะมีค่าในรอบใหม่ ด้วยแรงหนุนจากความขาดแคลนในตลาดโลก ราคาที่ต่ำกว่าประวัติการณ์ และแรงซื้อจากนักลงทุนสถาบันและรายย่อยในภูมิภาคเอเชีย อย่างไรก็ดี ความผันผวนในตลาดโลหะมีค่ามักรุนแรง และการปรับขึ้นอย่างรวดเร็วก็ย่อมตามมาด้วยความเสี่ยงที่ผู้ลงทุนไม่ควรมองข้าม